My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 777 หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 777 หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
ทันทีที่จางหม่านหลีกล่าวจบก็มีผู้หญิงวัยกลางคนที่มีอายุราวๆห้าสิบปีเดินออกมา
เธอดูสะอาดและมีพุงเล็กน้อยเธอแต่งตัวดีจนสามารถบอกได้ว่าเธอมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย
“คุณผู้หญิงคุณป่วยด้วยโรคอะไรหรือครับ ” เย่จวินลุกขึ้นและถามเป็นคนแรก
การแข่งขันมีทั้งหมดห้ารอบซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะได้พบผู้ป่วย5 คน ใครก็ตามที่รักษาผู้ป่วยเหล่านี้ได้ดีกว่าก็จะชนะไป นี่เป็นเหตุผลที่เย่จวินให้ความสำคัญกับผู้ป่วยรายแรกมาก
“ชั้นมักจะเจ็บเอวบ่อยๆและขาก็รู้สึกชาด้วยความเจ็บอีกด้วยชั้นรู้สึกอึดอัดไปทั้งตัวเลย” หญิงวัยกลางคนกล่าวพร้อมกับเอามือจับเอว เธอเดินกะเผลกตอนที่เดินออกมาจากฝูงชน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปัญหาที่กระดูกสันหลังในส่วนเอวของเธอ
เย่จวินยิ้มและกล่าวด้วยความมั่นใจว่า“ถ้าผมเดาไม่ผิด คุณต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท ร่างกายจะมีอาการปวดเมื่อมีแรงกระตุ้นกดทับเส้นประสาทบนกระดูกสันหลังส่วนเอวของคุณ”
“อ่า…คุณหมอเย่ คุณยอดเยี่ยมมากเลย คุณสามารถระบุปัญหาได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์ใดๆ ชั้นต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทและรักษาไม่หายเสียที ชั้นไปหาหมอมาตั้งหลายคนแล้วก็ได้แต่เพียงจ่ายยามาตั้งมากมาย” ผู้หญิงวัยกลางคนมีสภาพที่ดูน่าสงสารเมื่อพูดถึงอาการป่วยเรื้อรังของเธอ
โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทรู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่าผีดิบที่ไม่มีวันตายเพราะเมื่อคุณเป็นโรคนี้แล้วร่างกายของคุณจะไม่สามารถทำงานหนักได้และยากที่จะงอตัวหรือเดินไกลๆ “คุณผู้หญิงครับในการรักษาโรคนี้คุณต้องเข้ารับการผ่าตัดนะครับ”
“ไม่เอานะคุณหมอเย่ชั้นไม่ชอบผ่าตัด ชั้นกลัวการผ่าตัดแบบตะวันตก”
“งั้นผมขอถามคุณผู้หญิงหน่อยนะครับว่าการรักษาแบบแพทย์แผนจีนเช่นการนวดการครอบแก้ว หรือการฝังเข็มนั้นสามารถรักษาให้หายขาดได้หรือเปล่าละครับ ”
เย่จวินถามด้วยรอยยิ้ม
ผู้หญิงวัยกลางคนรู้สึกงงงวยและส่ายหัวเธอเป็นโรคนี้มานานกว่า 10 ปีแล้วและได้พยายามรักษาด้วยการแพทย์แผนจีนมาหลายวิธีแต่ก็ยังไม่หาย
เธอได้รู้เรื่องเกี่ยวกับการแข่งขันระหว่างเย่จวินและชายอีกคนหนึ่งทางทีวีและรู้ว่าเขาจะรักษาให้ฟรีในการแข่งขันครั้งนี้ ดังนั้นเธอจึงรีบมาที่นี่แต่เช้า
“ผมอยากจะบอกคุณว่าตอนนี้การผ่าตัดของแพทย์ตะวันตกนั้นมีการพัฒนาไปมากแล้วครับคุณเพียงแค่เข้ารับการผ่าตัดเล็กก็พอ เราจะเจาะรูเล็กๆบนกระดูกช่วงเอวของคุณและตัดเดือยที่ยื่นออกมา เพียงเท่านี้คุณก็หายจากความเจ็บปวดหลังจบการผ่าตัด”
“ทั้งในเรื่องของยาชาทุกวันนี้ก็พัฒนาไปมากแล้ว คุณจะไม่รู้สึกเจ็บปวดใดเลยในระหว่างการผ่าตัด ดังนั้นไม่ต้องกังวลไปนะครับ”
“นอกจากนี้วันนี้ก็ยังรักษาฟรีอีกด้วย ถ้าคุณต้องการ ผมสามารถเตรียมการผ่าตัดให้คุณได้ทันทีและใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง”
เย่จวินมีความมั่นใจมากและมันทำให้ผู้หญิงวัยกลางคนรู้สึกตื่นเต้นเธอคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีมากถ้าเธอทำตามในสิ่งที่เย่จวินและยอมเข้ารับการผ่าตัด จากนั้นเธอจะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดอีกต่อไป
ทุกคนมองไปที่เย่จวินด้วยความชื่นชมเมื่อเห็นว่าเขาสามารถระบุโรคของผู้หญิงได้ทันทีแถมยังบอกว่าสามารถรักษาให้หายขาดได้ภายในครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ฉิงเฟิงหัวเราะลั่น
เขาหัวเราะดังมากจนทุกคนรวมทั้งเย่จวินต่างก็ได้ยินเสียงหัวเราะของเขา
“คุณหัวเราะอะไร” ใบหน้าของเย่จวินดูขุ่นเคืองและบ่นออกมา เขากำลังวินิจฉัยอาการของผู้ป่วยหญิงอยู่ แต่หลี่ฉิงเฟิงกลับหัวเราะออกมา เขากำลังเยาะเย้ยหรือไง ?
“ไม่มีอะไรฉันแค่หัวเราะต่อความโง่เขลาของคุณ คุณกำลังจะให้ผู้ป่วยโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเข้ารับการผ่าตัด แต่วิธีการนั้นจะสร้างความเสียหายให้กับผู้ป่วยเนื่องจากการผ่าตัดสามารถสร้างความเสียหายให้กับพลังงานชีพจร”
(นิยายนะครับนิยายโปรดใช้วิจารณญาณ)
เย่จวินไม่พอใจเกี่ยวกับความเห็นของฉิงเฟิง
หมอนี่พยายามจะพูดอะไร
วิธีการทางการแพทย์ของฉันมีปัญหาหรือว่าวิธีการรักษาของฉันมีปัญหา
“เฮอะหลี่ฉิงเฟิง ถ้าคุณสามารถรักษาให้เธอได้ ผมจะถือว่าคุณเป็นผู้ชนะไปเลย ไม่งั้นก็หุบปากไปซะ” เย่จวินกลอกตาและกล่าวเหน็บแนม
ฉิงเฟิงกล่าวด้วยความมั่นใจว่า“ฉันไม่ต้องใช้เวลาถึงครึ่งชั่วโมงหรอก ฉันสามารถรักษาเธอได้ภายในสิบนาที”
อะไรนะ
สิบนาที
เย่จวินหัวเราะกับคำพูดของฉิงเฟิงและเหลือบมองเขาด้วยความดูถูกเขาคิดว่าฉิงเฟิงเล่นตลก
ไม่มีใครเชื่อฉิงเฟิงแม้แต่น้อยโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเป็นโรคที่เกิดขึ้นบ่อยในปัจจุบันและหลายมีผู้คนหลายคนกำลังทุกข์ทรมานจากโรคนี้
คนส่วนใหญ่คาดหวังการรักษาด้วยวิธีการภายนอกโดยไม่ต้องผ่าตัดซึ่งรวมไปถึงการฝังเข็ม, การครอบแก้ว แต่มันทำได้เพียงแค่ลดอาการปวด ไม่ได้ทำให้หายขาด
ดังนั้นการที่ฉิงเฟิงพูดออกมาว่าเขาสามารถรักษาโรคได้ภายในเวลา10 นาทีทำให้ไม่มีใครเชื่อเรื่องไร้สาระนี้
ผู้ป่วยหญิงวัยกลางคนมองฉิงเฟิงด้วยความไม่มั่นใจเช่นกันเพราะเธอคิดว่าเขากำลังพูดโกหกเธอได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคนี้มาเป็นเวลาหลายปีและแพทย์แผนจีนมากมายต่างก็ล้มเหลวในการรักษาเธอ แล้วชายหนุ่มอายุ 20 กว่าปีผู้จะรักษาเธอได้อย่างไร
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเชื่อฉิงเฟิงจึงกล่าวว่า “มันง่ายที่จะพิสูจน์ว่าฉันพูดจริงหรือเปล่า ให้ฉันรักษาเธอ 10 นาที ถ้าเธอหาย ฉันก็ชนะ”
เย่จวินส่ายหัวอย่างไม่เห็นด้วยเขายืนยันที่จะรักษาเธอด้วยตัวเองเพราะเธอเป็นผู้ป่วยรายแรกของเขา
ฉิงเฟิงและเย่จวินต่างก็ต้องการรักษาผู้ป่วยหญิงคนนี้ซึ่งทำให้กรรมการทั้งสามคนต่างก็ปวดหัวไปตามๆกัน
จางหม่านหลีอยู่ข้างเย่จวินดังนั้นเธอย่อมเห็นด้วยกับเขา ส่วนจางเหมียวชุนอยู่ข้างฉิงเฟิง เขาก็สนับสนุนฉิงเฟิงเช่นกัน
ดังนั้นเย่จวินจึงหันหน้าไปหาหลิวหรูหยานด้วยความคาดหวังว่าเธอจะออกหน้าช่วยพูดให้เขาแต่คำพูดของเธอในเวลาต่อมากลับต้องทำให้เขาผิดหวัง
“ชั้นคิดว่าพวกเราควรปล่อยให้หลี่ฉิงเฟิงรักษาเธอก่อนจากนั้นค่อยให้ประธานเย่จวินรักษาทีหลังถ้าหากหลี่ฉิงเฟิงรักษาเธอไม่หายในสิบนาที”
หลิวหรูหยานกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างมีเสน่ห์และตัดสินใจให้ฉิงเฟิงรักษาก่อนเป็นคนแรก
จางหม่านหลีและเย่จวินต่างก็ผิดในหัวของพวกเขาเต็มไปด้วยคำถาม เนื่องจากพวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมหลิวหรูหยานถึงเข้าข้างหลี่ฉิงเฟิง พวกเขาไม่ได้รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลิวหรูหยานกับฉิงเฟิงแม้แต่น้อย จางหม่านหลีขมวดคิ้วและถามว่า“มิสหลิวคะ คุณได้มาเป็นผู้ตัดสินเพราะเส้นสายของตระกูล คุณไปออกหน้าช่วยหลี่ฉิงเฟิงทำไมกัน ”
“ชั้นอยากทำแล้วมันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของคุณนี่คะ”
หลิวหรูหยานกลอกตาและกล่าวอย่างไม่ไว้หน้าจางหม่านหลีทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดมาก
“
นังผู้หญิงบ้าหล่อนกล้าดียังไงถึงไม่สนใจชั้นแต่ไปสนับสนุนไอ้หนุ่มหลี่ฉิงเฟิงคนนั้น
แหมเธอหลงมนต์เสน่ห์กับใบหน้าหล่อเหลาของมันล่ะสิ
!”
จางหม่านหลีคิดในใจด้วยความโกรธ
สองในสามของผู้ตัดสินอยู่ข้างฉิงเฟิงดังนั้นเขาจึงได้รักษาผู้ป่วยหญิงก่อนเป็นคนแรก
ฉิงเฟิงเดินไปหาผู้หญิงวัยกลางคนและขอให้เธอยกเสื้อที่หลังขึ้นเพื่อให้เห็นจุดฝังเข็ม
ฟุ่บฟุ่บ ฟุ่บ
เขาหยิบเข็มเงินเก้าเล่มออกมาและฝังที่จุดฝังเข็มที่เป็นจุดสำคัญของกระดูกสันหลังส่วนเอวนอกจากนี้เขายังช่วยผู้ป่วยหญิงล้างจุดที่อุดตันเพื่อให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกขึ้นและชะล้างจุดที่มีห้อเลือด
หลังจากการฝังเข็มฉิงเฟิงก็เริ่มนวดกระดูกสันหลังและชีพจรที่จุดกระดูกสันหลังส่วนเอว มันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นผ่านกระดูกสันหลังช่วงเอวของเธออีกทั้งยังให้ความรู้สึกที่สบายอีกด้วย