My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 779 เย่จวินผู้ต่ำทราม
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 779 เย่จวินผู้ต่ำทราม
“ชายหนุ่มคนนี้รักษาคนได้จริงๆ”ชายวัยกลางคนร่ำร้องออกมาด้วยความไม่อยากเชื่อ
ชายคนนี้มาที่นี่เพื่อกลั่นแกล้งฉิงเฟิงตามคำขอของจางหม่านหลีแต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าฉิงเฟิงจะรักษาอาการของเขาได้จริงๆและยังฟื้นฟูตันเถียนได้อีก จากที่เขาสัมผัสได้ เส้นชีพจรที่บอบช้ำของเขาดูเหมือนจะได้รับการฟื้นฟูเกือบทั้งหมด
ชายวัยกลางคนเกิดความรู้สึกที่ซับซ้อนต่อฉิงเฟิงชายหนุ่มผู้นี้เป็นศัตรูของเจ้านายของเขาแต่ก็ถือเป็นผู้มีพระคุณอีกด้วย
สิบนาทีต่อมาฉิงเฟิงก็หยุดมือและถอนเข็มออก เขากล่าวว่า “เส้นชีพจรที่จุดตันเถียนของคุณที่ได้รับความเสียหาย ผมรักษาให้แล้ว พยายามรวบรวมลมปราณของคุณดู”
ชายวัยกลางคนลองทำตามและพบว่าลมปราณของเขาไหลผ่านเส้นชีพจรและตันเถียนได้อย่างราบรื่นเส้นชีพจรที่เสียหายดูเหมือนจะเชื่อมต่อกันใหม่อีกครั้ง
นอกจากนี้ใบหน้าของชายวัยกลางคนก็ยังดูมีเลือดฝาดขึ้นแทนใบหน้าที่ซีดขาวก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกับท่าทางของเขาที่ดูแข็งแกร่งและมีพละกำลังมากขึ้น
ทุกคนต่างมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความตกตะลึงและรู้สึกประทับใจในฝีมือการรักษาของเขาเขาสามารถเปลี่ยนชายชราที่ดูอ่อนล้าให้กลับมาแข็งแรงและมีชีวิตชีวาขึ้น
จางหม่านหลีที่อยู่บนโต๊ะกรรมการส่งสัญญาณด้วยการกระพริบตาไปให้ชายวัยกลางคนเธอต้องการให้เขาพูดว่ายังไม่หายเพื่อที่จะทำให้การรักษาของฉิงเฟิงล้มเหลวไปโดยอัตโนมัติ
“มิสจางคะตาของคุณเป็นอะไร ทำไมคุณถึงกระพริบตาถี่ขนาดนี้ ?” หลิวหรูหยานถามจางหม่านหลีขณะที่เธอสังเกตเห็นจางหม่านหลีมีท่าทางแปลกๆ
“อ่อไม่มีอะไรค่ะ แค่แมลงเข้าตาชั้นทำให้ชั้นมองไม่ค่อยชัด” จางหม่านหลีตอบด้วยรอยยิ้ม
แมลงเข้าตาจนมองไม่ชัด
หลิวหรูหยานกลอกตาที่งดงามของเธอเธอคิดในใจว่า
“
นังบ้านี่พูดอะไร
สถานที่สะอาดขนาดนี้ชั้นไม่เห็นแมลงสักตัว
”
“
เดี๋ยวนะยัยป้าคนนี้ส่งซิกไปให้ชายคนนั้น พวกเขาต้องรู้กันแน่นอน
!”
หลิวหรูหยานฉลาดพอที่จะตระหนักได้ถึงพฤติกรรมแปลกๆของสองคนนี้
ถึงแม้ว่าหลิวหรูหยานจะต้องการเตือนฉิงเฟิงเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากส่งสัญญาณไปให้ฉิงเฟิงด้วยสายตาและเป็นกังวลแทนเขาเพราะเธอต้องอยู่กับที่ในฐานะกรรมการผู้ตัดสิน
ในขณะนี้ชายวัยกลางคนก็กำลังต่อสู้กันอยู่ภายในใจเขาทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้แก่จางหม่านหลีและถูกสั่งให้กลั่นแกล้งฉิงเฟิง
แต่ฉิงเฟิงก็กลายเป็นผู้มีพระคุณของเขาเนื่องจากสามารถรักษาอาการบาดเจ็บให้เขาได้เขาคิดไม่ตกจริงๆในตอนนี้
ฉิงเฟิงกระซิบกับเขาว่า“พวกเรา ในฐานะผู้ฝึกยุทธ์โบราณเช่นเดียวกัน พวกเราแตกต่างจากปุถุชนคนธรรมดาทั่วไป พวกเรามีเกียรติและศักดิ์ศรีที่เหนือกว่าและรู้ว่าควรจะตอบแทนกันอย่างไร ผมคิดว่าคุณน่าจะรู้คำตอบแล้วว่าควรจะต้องทำอย่างไร”
เมื่อฉิงเฟิงกล่าวจบฉิงเฟิงก็ลุกขึ้นยืนและทิ้งรอยเท้าลึกลงบนพื้นหินอ่อน
เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์โบราณจริงๆด้วย
!
ชายวัยกลางคนเริ่มตื่นตระหนกเมื่อได้รู้ว่าฉิงเฟิงก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์โดยดูจากรอยเท้าบนพื้น
มีกฎในหมู่ผู้ฝึกยุทธ์พวกเขาอาจจะเป็นศัตรูกันแต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎในบางสถานการณ์ด้วยความซื่อสัตย์ แต่แน่นอนว่านิกายนอกรีตบางกลุ่มก็ไม่เคยทำตามกฎ เช่นนิกายแวมไพร์
“ผมหายขาดก็เพราะคุณหลี่ฉิงเฟิงผมขอบคุณมาก” ชายวัยกลางคนประกาศออกมาเสียงดังอย่างซื่อตรง เขาเลือกที่จะไม่เชื่อฟังจางหม่านหลี
เขารู้ว่าการกระทำของเขาจะทำให้จางหม่านหลีไม่พอใจแต่ครั้งนี้เขาต้องยืนหยัดอยู่ข้างหลี่ฉิงเฟิง เพื่อขอบคุณต่อการรักษาของเขา
จางหม่านหลีโกรธมากหลังจากได้ยินสิ่งที่ชายวัยกลางคนพูดเธอไม่ได้คาดคิดว่าบอดี้การ์ดของเธอจะทรยศและยืนอยู่ข้างศัตรู
ในขณะเดียวกันเย่จวินก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเพราะฉิงเฟิงได้รักษาผู้ป่วยจนหายดีไปสองรายแล้ว หากเขารักษาได้อีกคนเขาจะชนะไปโดยอัตโนมัติเนื่องจากกฎชนะ 3 ใน 5
เห็นได้ชัดว่าเย่จวินไม่อาจแพ้มิฉะนั้นเขาไม่เพียงแค่จะสูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจจากจางหม่านหลี แต่ยังต้องคุกเข่าขอขมาศาสตราจารย์จางหยุนเหออีกด้วย เย่จวินไม่สามารถยอมรับความอัปยศเช่นนี้ไปได้
“การแข่งขันในรอบที่สองหลี่ฉิงเฟิงเป็นผู้ชนะ !”
จางเหมียวชุนตะโกนประกาศผลออกมาด้วยความตื่นเต้น
เขาตื่นเต้นดีใจต่อชัยชนะของฉิงเฟิงราวกับว่าเขาเป็นผู้ชนะเสียเอง
แน่นอนว่าหลิวหรูหยานก็เป็นอีกคนที่ตื่นเต้นดีใจสำหรับชัยชนะของฉิงเฟิง
ใครจะไม่รู้สึกมีความสุขเมื่อคนที่ตัวเองชอบเอาชนะคู่ต่อสู้ได้
บรรดาผู้สื่อข่าวจากเมืองตงไห่ต่างก็เริ่มขวัญผวาต่อสิ่งที่พวกเขาเห็นพวกเขาเพิ่งจะรายงานข่าวว่าหลี่ฉิงเฟิงห่วยแตกและลวงโลกเกี่ยวกับทักษะทางการแพทย์ แต่ดูสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้สิ หลี่ฉิงเฟิงประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยสองรายอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยย่อมไม่มีทางโกหกต่อความสามารถของหลี่ฉิงเฟิงอย่างแน่นอนเพราะพวกเขาหายป่วยจริงๆ
ความเชี่ยวชาญของฉิงเฟิงเป็นสิ่งที่ทำให้นักข่าวผู้จองหองต้องรู้สึกอัปยศอดสู
“เยส! ฉันรู้ว่าพี่ใหญ่หลี่ต้องทำได้ !”
หวังเสี่ยวลี่กล่าวด้วยความตื่นเต้นขณะกำหมัดของเธอแน่น
หวังเสี่ยวลี่ได้คิดเกี่ยวกับพาดหัวข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ไว้เรียบร้อยแล้วว่า
‘หมอผู้เชี่ยวชาญ,หลี่ฉิงเฟิง’
ไม่มีคำพูดใดจะดีไปกว่านี้แล้วหวังเสี่ยวลี่มั่นใจอย่างมากเกี่ยวกับความเป็นมืออาชีพของฉิงเฟิงเพราะเขาเคยรักษาทั้งเธอและน้องสาว ส่วนจางหม่านหลีและเย่จวินต่างก็รู้ดีว่าการแข่งขันจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของพวกเขาถ้าหากหลี่ฉิงเฟิงชนะอีกรอบในขณะที่พวกเขายังไม่เคยชนะแม้แต่ครั้งเดียว
จางหม่านหลีหยิบโทรศัพท์ออกมาและเริ่มส่งข้อความให้คนในฝูงชนเพื่อให้ออกมาขอรับการรักษาจากเย่จวินเพียงผู้เดียวซึ่งถ้าใช้แผนนี้ฉิงเฟิงก็จะไม่มีโอกาสได้รักษาใครเลยและจะพ่ายแพ้ไปในที่สุด
ผู้ป่วยรายที่สามเป็นชายชราวัย70 ปีที่เป็นโรคหอบหืดอย่างรุนแรง เขาปฏิเสธฉิงเฟิงทันทีที่เดินเข้ามา แต่ไปหาเย่จวินทันที
เย่จวินรักษาด้วยการจ่ายยาให้แก่เขาเมื่อชายชราได้ทานยาเข้าไป เขาก็ไม่หายใจลำบากอีกต่อไป และผิวของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงดูสุขภาพดีขึ้น เขากล่าวยกย่องเย่จวินเป็นอย่างมากที่รักษาเขาจนหาย
เย่จวินชนะในรอบที่สามโดยการโกง!
ผู้ป่วยรายที่สี่เป็นหญิงอายุ50 ปีที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง
มีหลายสาเหตุที่ค่อนข้างซับซ้อนสำหรับโรคความดันโลหิตสูงได้แก่ พันธุกรรม, ปัญหาสุขภาพ, พฤติกรรมชีวิตที่ผิดปกติ, ทานอาหารที่มีโซเดียมมากเกินไป, นอนดึก เป็นต้น
ฉิงเฟิงต้องการรักษาผู้หญิงคนนี้แต่เธอปฏิเสธเขาทันทีและยืนยันที่จะไปขอรับการรักษาจากเย่จวิน
ซึ่งเย่จวินก็ทำแค่เพียงจ่ายยาให้ผู้หญิงที่เป็นความดันเมื่อเธอกินยาเสร็จเธอก็ตะโกนออกมาทันทีว่า “ดร. เย่ ! คุณเก่งมากเลยค่ะ ชั้นไม่รู้สึกหนักหัวอีกแล้ว แถมความดันโลหิตของชั้นก็ลดลงอีกด้วย”
ห่าอะไรวะไอ้การแอ็คติ้งเส็งเคร็งนี่
มันต้องใช้เวลาเพื่อให้ความดันโลหิตลดลงถ้าเพียงกินยาแล้วความดันโลหิตลดลงทันทีเช่นนี้ นั่นมันยาบ้าห่าเหวประเทศไหน
ฉิงเฟิงด่าทอในใจอย่างหมดคำพูด จนถึงขณะนี้ฉิงเฟิงได้รู้แล้วว่าผู้ป่วยรายที่ 3 และ 4 นั้นเป็นคนของเย่จวิน พวกเขาเตี๊ยมกันมาและเจตนาตรงไปหารับการรักษาจากเย่จวินและแกล้งพูดว่าหายดีแล้วจากการรักษาของเขา
บัดซบเป็นแผนสกปรกที่บัดซบสิ้นดี !