My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 790 บอดี้การ์ดคนใหม่
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 790 บอดี้การ์ดคนใหม่
ฉิงเฟิงรู้สึกตกใจมากที่ได้ยินว่าหลินเสวี่ยรู้ว่าเขากับหลิวหรูหยานเดินควงแขนกันออกมาด้วยกันหลังจากจบการแข่งขันหลินเสวี่ยโกรธเคืองหลิวหรูหยานและเธอจะไม่ยอมยกโทษให้เขาแน่นอน
“เวรแล้วไงงานเข้าอีกแล้ว” ฉิงเฟิงถอนหายใจและรู้สึกอึดอัด
เขาใช้ความพยายามอย่างมากในการช่วยหลินเสวี่ยและปลุกเธอขึ้นมาความสัมพันธ์ของเขากับเธอได้ดีขึ้นเล็กน้อย ถ้าเธอรู้สึกเจ็บปวดเพราะหลิวหรูหยานอีกครั้ง มันคงเป็นเรื่องร้ายแรง
“ก็ได้ครับแม่ยายผมจะไม่เข้าไปในห้อง นี่คือซาโต้ โยชิโกะ บอดี้การ์ดคนใหม่ของหลินเสวี่ย ผมจะให้เธออยู่ที่นี่”
เมื่อก่อนฉิงเฟิงเคยให้เหมียวซิยี้เป็นบอดี้การ์ดให้หลินเสวี่ยแต่ทว่าเหมียวซิยี้เป็นเพียงนักสู้ปุถุชนในระดับ SS เท่านั้น เธอไม่อาจต่อกรเหล่าศัตรูที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์โบราณได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีบอดี้การ์ดเพิ่มอีกคนหนึ่ง
โยชิโกะเป็นยอดฝีมือระดับแกรนด์มาสเตอร์และไร้เทียมทานในเหล่านักสู้ธรรมดาเธอเป็นบอดี้การ์ดที่เพอร์เฟ็คที่สุดในตอนนี้แล้วสำหรับหลินเสวี่ย
เมื่อได้ยินคำพูดของฉิงเฟิงมู่เสี่ยวหยุนก็หันไปมองที่โยชิโกะและก็ได้เห็นสาวงามหยดย้อยคนหนึ่งที่มีใบหน้าทรงเสน่ห์ ผิวขาวเนียน ริมฝีปากแดงและรูปร่างที่เซ็กซี่
มู่เสี่ยวหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อยและสงสัยว่าสาวงามคนนี้มีความสัมพันธ์พิเศษกับฉิงเฟิง
นับตั้งแต่ที่ฉิงเฟิงทำผิดมู่เสี่ยวหยุนก็ระแวงเขาอยู่เสมอ เธอรู้ว่าผู้ชายมีแรงขับทางเพศที่ไม่หมดไม่สิ้น และเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้หากพวกเขาจะทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก
ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของมู่เสี่ยวหยุนฉิงเฟิงรู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังสงสัยเขา เขาจึงต้องใช้เวลาอยู่นานในการอธิบายสถานการณ์ก่อนหน้านี้ให้เธอฟัง เธอจึงยอมตกลงให้โยชิโกะอยู่ปกป้องหลินเสวี่ย
ฉิงเฟิงออกจากโรงพยาบาลหลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเขาเลือกที่จะอยู่ห่างๆเธอสักพักเพราะเขารู้ว่าหลินเสวี่ยอารมณ์ไม่ดี
เขาขับรถไปที่ภูเขาLone ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของสมาพันธ์ฉิงเฟิงและบ้านพักชั่วคราวของเขา
“ท่านปู่หลี่ทำไมวันนี้คุณถึงได้มีเวลาแวะที่นี่ละครับ ” คิงคองถามด้วยความประหลาดใจเพราะน้อยครั้งมากที่เขาจะมาที่นี่
“คิงคองช่วงนี้มีใครมาท้าทายฉันไหม ” ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและถาม
“ไม่มีครับตั้งแต่ที่คุณฆ่าสามคนนั้นไป ดูเหมือนว่าในวงการก็จะสงบลง”
“พายุมักจะก่อตัวขึ้นเสมอภายใต้ผิวน้ำที่เงียบสงบ…พายุกำลังจะมาถึงในไม่ช้า..”
ฉิงเฟิงแหงนหน้ามองท้องฟ้าและพึมพัมออกมาด้วยความคิดมากมาย เขาเพิ่งจะฆ่าเหล่าอาวุโสจาก3 กองกำลังใหญ่ เขามั่นใจว่าเรื่องมันคงไม่สงบเช่นนี้แน่ กองกำลังเหล่านี้จะต้องมาตามล่าเขาในไม่ช้าเพื่อล้างแค้น
คราวนี้ฉิงเฟิงจึงมาที่ภูเขาLone เพื่อทำภารกิจสำคัญบางอย่าง นั่นก็คือการสกัดกลั่นโอสถ
ฉิงเฟิงมีความคิดที่จะปรุงยาตั้งแต่ที่เขาได้รับตำราปรุงยาของราชายาทิพย์เซียวหยุนและตอนนี้เขาก็มีเวลาศึกษามันแล้ว
นักปรุงยามีสถานะสูงส่งมากในโลกของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์โบราณเพราะนักปรุงยาสามารถผลิตยาได้ตามที่เหล่ายอดยุทธ์ต้องการเช่น โอสถลมปราณที่เพิ่มระดับการบ่มเพาะ โอสถหิมะเงินสำหรับรักษา โอสถล้างพิษสำหรับการแก้พิษเป็นต้น
ศาสตร์แห่งการปรุงยาของราชายาทิพย์มีแม้กระทั่งโอสถสำหรับความงามซึ่งทำให้ผู้หญิงสามารถคงความสวยความงามไว้ได้ แต่โอสถประเภทนี้ต้องใช้สมุนไพรในระดับหายาก ซึ่งเป็นการยากที่จะได้มันมา
จุดประสงค์ในการปรุงยาของเขาไม่ใช่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาเองแต่เขาต้องการใช้มันเพื่อสร้างกองกำลังผู้ฝึกยุทธ์และทำงานให้เขา
เขาเริ่มต้นด้วยโอสถง่ายๆเพราะเขายังเป็นมือใหม่ในการปรุงยาแต่หลังจากสะสมประสบการณ์จนเชี่ยวชาญขึ้น เขาก็จะสามารถปรุงยาระดับสูงขึ้นได้
เขาปิดตัวเองอยู่ภายในวิลล่าบนภูเขาLone หลังจากสั่งคิงคองว่าห้ามไม่ให้ใครเข้ามารบกวน
เขาหยิบตำราการปรุงยาออกมาและเริ่มศึกษาทฤษฎี
โอสถนั้นเป็นวัสดุสิ้นเปลืองที่สะสมพลังงานซึ่งขั้นตอนแรกในการปรุงยาก็คือต้องศึกษาทฤษฎีให้พื้นฐานแน่นเสียก่อน ถ้าหากไม่รู้จักอุปกรณ์ที่ใช้และสมุนไพรต่างๆก็ ไม่อาจพูดได้ว่าเป็นนักปรุงยา หลังจากการศึกษาเกี่ยวกับทฤษฎีการปรุงยาขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือการปฏิบัติ ทั้งสองขั้นตอนนี้ต่างก็มีความสำคัญทั้งคู่ คุณจะไม่อาจสำเร็จได้เลยถ้าหากไม่เข้าใจทั้งสองขั้นตอนนี้
ฉิงเฟิงใช้เวลาหนึ่งคืนในการอ่านและจดจำตำราทั้งเล่มเขามั่นใจว่าความรู้ทั้งหมดที่ได้รับมาจะต้องมีประโยชน์ในสักวันหนึ่ง
เช้าวันที่2 ดวงอาทิตย์ก็ทอแสงขึ้นทางทิศตะวันออก มันเป็นสัญญาณที่ดีในเช้าวันใหม่
ฉิงเฟิงเดินออกจากวิลล่าและโทรศัพท์ไปหาลั่วหนี่ชิงเกี่ยวกับเตาปรุงยาเธอบอกกับเขาว่าเตาปรุงยานั้นมีน้อยมากสำหรับผู้ที่ไม่ใช่นักปรุงยา
อย่างไรก็ตามเธอบอกกับฉิงเฟิงว่ากำลังจะมีงานชุมนุมผู้ฝึกยุทธ์โบราณ ซึ่งในงานนี้เหล่าผู้ฝึกยุทธ์จะนำของล้ำค่ามาแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน ว่ากันว่ามีแกรนด์มาสเตอร์ผู้หนึ่งมีเตาปรุงยาและต้องการจะขายมันในงานนี้ เมื่อได้ยินข้อมูลนี้ฉิงเฟิงก็รีบขับรถไปที่เมืองเทียนจิงทันที
เขาเคยเห็นเตาปรุงยาในสุสานของราชายาทิพย์เซียวหยุนแต่มันมีน้ำหนักมากเกินไปที่จะหยิบฉวยมันออกมา นอกจากนี้สุสานก็ถูกปิดไปแล้ว เขาจึงไม่มีโอกาสได้มัน
ในขณะที่ฉิงเฟิงกำลังขับรถไปที่เมืองเทียนจิงสุดยอดกองกำลังต่างๆในแวดวงผู้ฝึกยุทธ์โบราณก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวแล้ว
หัวหน้าตระกูลกาโตร์จากทวีปเสือได้มาถึงเมืองตงไห่และได้พบกับเอฟีย่าพวกเขากำลังชั่งน้ำหนักตัวเลือกเกี่ยวกับการพาตัวอลิซกลับไปโดยใช้กำลัง
อีกด้านหนึ่งที่เกาะแปซิฟิก หลังจากได้รับรายงานว่านายหญิงน้อยของตระกูลนินจาได้ขาดการติดต่อไป ตระกูลนินจาก็ได้ส่งยอดฝีมือมาที่หัวเซี่ยเช่นกัน พวกเขาไม่รู้เลยว่าซาโต้ โยชิโกะ นายหญิงน้อยของพวกเขานั้นตกอยู่ในการควบคุมของฉิงเฟิงไปแล้ว
ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งจำนวนมากถูกส่งมาจากเกาะแปซิฟิกนอกจากตระกูลนินจาแล้วก็ยังมีราชาดาบที่ 6 จากตระกูลเค็นโด้ก็มาที่หัวเซี่ยด้วยเช่นกัน
นอกเหนือไปจากยอดฝีมือชาวต่างชาติสุดยอดกองกำลังในหัวเซี่ยก็เฝ้าจับตาดูหลี่ฉิงเฟิงอย่างใกล้ชิดเช่นกัน ด้วยรายงานว่าเขามุ่งหน้าไปที่เมืองเทียนจิง ตระกูลลั่วและตระกู่รวมไปถึงนิกายหมัดเหล็กก็เริ่มวางแผนต่อเขาทันที
ไม่เพียงแค่กองกำลังดั้งเดิมแต่กองกำลังนอกรีตเช่นนิกายโลหิตสีชาดและนิกายแวมไพร์ก็เริ่มวางแผนร้ายต่อหลี่ฉิงเฟิงแล้ว
ในระยะเวลาสั้นๆหลี่ฉิงเฟิงคืออันตรายเหมือนระเบิดเวลา ไม่ว่าเขาจะไปที่ใดต่างก็ต้องมียอดฝีมือซุ่มซ่อนอยู่เบื้องหลังเขาเสมอ พวกเขาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นกองกำลังในประเทศหรือต่างประเทศ ฝ่ายธรรมะหรือฝ่ายอธรรมก็ตาม อยากให้เขาตาย
ศัตรูของเขาบางคนได้แพร่ข่าวไปทั่วโลกว่าหลี่ฉิงเฟิงครอบครองตำราการปรุงยาของราชายาทิพย์เซียวหยุนและครอบครองโลหิตมังกรเขาตกเป็นเป้าหมายของทุกคนที่ต้องการสมบัติของเขา