My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 792 บีบคั้นผู้อาวุโส
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 792 บีบคั้นผู้อาวุโส
“ฉันรู้จักชายหนุ่มคนนี้ชื่อของเขาคือหลี่ฉิงเฟิงและเขาเคยเข้าไปในสุสานแกรนด์มาสเตอร์พร้อมกับคุณหนู”
“เจ้าหนุ่มหลี่ฉิงเฟิงจบสิ้นแน่เขาไปยั่วยุอาวุโสลั่วที่แข็งแกร่งของตระกูลเรา”
“ข้าได้ยินมาว่าหลานชายของผู้อาวุโสลั่วถูกหลี่ฉิงเฟิงฆ่าพอเขารู้ว่ามันมาที่นี่จึงรีบมาเพื่อแก้แค้น”
เหล่าลูกศิษย์ของตระกูลลั่วหันมาซุบซิบคุยกันในขณะที่จ้องมองไปที่ฉิงเฟิงอย่างเยาะเย้ย
เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างเขากับคุณหนูตระกูลลั่ว,ลั่วหนี่ชิง เหล่าลูกศิษย์จึงมองเขาด้วยความไม่พอใจและความอิจฉาริษยา
ฉิงเฟิงที่กำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นย่อมได้ยินเสียงซุบซิบของพวกเขาอยู่แล้วแต่เขาก็ยังคงนิ่งเฉยและดื่มชาต่อไป
การถกเถียงระหว่างผู้อาวุโสลั่วเตียวและหัวหน้าตระกูลลั่วอี้ซานฉิงเฟิงไม่ได้แยแสแม้แต่น้อย
สำหรับเขาแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือการเข้าร่วมงานชุมนุมชาวยุทธ์และได้เตาปรุงยาเรื่องอื่นๆเขาไม่ได้ใส่ใจ
“ลั่วอี้ซาน,ข้าจะฆ่าหลี่ฉิงเฟิง เจ้าห้ามข้าทำไม ”
“ลั่วเตียว,หลี่ฉิงเฟิงเป็นแขกของข้า ท่านเสียมารยาทต่อเขาไม่ได้”
“เฮอะข้าจะแก้แค้นให้เทียนเฮาหลานชายข้า “
“อาวุโสลั่วเตียวงั้นเราก็พูดกันตรงๆเลยดีไหม ท่านไม่รู้หรือไงว่าหลานชายตัวดีของท่านทำอะไรในสุสานแกรนด์มาสเตอร์ ? มันสมควรตายอยู่แล้ว”
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ลั่วอี้ซานก็มีสีหน้าดุร้ายเขายังคงโกรธเคืองการกระทำของลั่วเทียนเฮาไม่หาย
ตัวบัดซบลั่วเทียนเฮานั่นพยายามจะข่มขืนลั่วหนี่ชิงเมื่อนึกได้ถึงสิ่งลูกสาวบอกต่อเขา ลั่วอี้ซานก็ขบฟันด้วยความโกรธ
ถึงแม้ว่าหลี่ฉิงเฟิงจะไม่ฆ่าลั่วเทียนเฮาแต่ลั่วอี้ซานก็จะฆ่าเขาแน่ๆ
“ลั่วอี้ซานเทียนเฮาก็ตายไปแล้ว คนตายพูดไม่ได้ ใครจะไปรู้ว่าลูกสาวเจ้าพูดความจริงหรือเปล่า” ลั่วเตียวแค่นเสียงเย็นชา
“วันนี้ข้าจะฆ่าหลี่ฉิงเฟิงให้ได้”ลั่วเตียวเปล่งพลังออกมาและใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบลงบนพื้นจนเกิดหลุมขึ้นในทันที
“ถ้าท่านกล้าก็ลองดู”ลั่วอี้ซานเผยด้วยรอยยิ้มที่เยือกเย็น เขาปลดปล่อยกลิ่นอายที่แข็งแกร่งเดินก้าวไปข้างหน้ายืนบังฉิงเฟิง
ผู้อาวุโสกับผู้นำตระกูลลั่วขัดแย้งกันเพื่อหลี่ฉิงเฟิงและแม้แต่ถึงขั้นจะลงไม้ลงมือ
บ้าชัดๆ
! นี่มันเกิดอะไรขึ้น
ผู้อาวุโสและหัวหน้าตระกูลจะสู้กันเพื่อหลี่ฉิงเฟิง
เหล่าลูกศิษย์ที่ยืนออกันอยู่ที่ประตูทุกคนต่างก็มึนงงด้วยความสับสนวุ่นวาย
มันก็ใช่ที่หลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งและมีสัมพันธ์ที่ดีต่อคุณหนูแต่แม้กระทั่งหัวหน้าตระกูลผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังออกหน้าปกป้องเขา หัวหน้าตระกูลจะสู้กับอาวุโสลั่วเตียวเพื่อปกป้องคนนอกจริงๆหรือ
ไม่มีใครตอบคำถามของเหล่าลูกศิษย์ที่กำลังสงสัยเพราะทั้งสองได้เริ่มการต่อสู้ไปแล้ว
ตูม!!
ฝ่ามือขวาของลั่วเตียวฟาดพลังออกไปทันทีมันทำลายอากาศโดยรอบและพุ่งเข้าใส่ฉิงเฟิงอย่างดุร้าย
พลังอันรุนแรงจากฝ่ามือนี้กระทบกับอากาศด้วยเสียงแหลมคมคลื่นพลังงานที่มันก่อตัวขึ้นทำให้เหล่าลูกศิษย์ต้องแตกฮือและก้าวถอยหลังอย่างต่อเนื่อง สีหน้าของพวกเขาแปรเปลี่ยนไป
ลั่วอี้ซานเหวี่ยงหมัดขวาไปที่ลั่วเตียวหมัดของเขาทำให้เกิดวังวนขึ้นในอากาศซึ่งพลิกคว่ำเก้าอี้ทั้งหมดที่อยู่ใกล้ๆ
ในเมื่ออาวุโสลั่วเตียวเริ่มลงมือก่อนลั่วอี้ซานในฐานะผู้นำตระกูลย่อมต้องตอบโต้
ตูม!
ฝ่ามือและหมัดปะทะกันด้วยเสียงดังตูม ! ทำให้เกิดเสียงอึกทึกขึ้นในพื้นที่รอบๆ นี่คือพลังของขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ที่เขย่าโลกและน่าสะพรึงกลัว
ครืดครืด !!
ลั่วอี้ซานถอยหลังออกไปสองก้าวและหายใจถี่ในขณะที่ลั่วเตียวยังคงยืนอยู่กับที่
ในการโจมตีครั้งนี้หัวหน้าตระกูลลั่วพ่ายแพ้เพราะเขามีพลังอยู่ในระดับแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสูงในขณะที่อาวุโสลั่วเตียวเป็นแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสูงสุด มันมีความต่างของขอบเขตย่อยระหว่างพวกเขา
หลังจากบังคับให้ลั่วอี้ซานต้องถอยหลังเท้าขวาของลั่วเตียวก็เตะหินก้อนใหญ่ประมาณหนึ่งเมตรที่อยู่บนพื้นให้ลอยเข้าหาฉิงเฟิง
อดพูดไม่ได้ว่าลั่วเตียวต่ำทรามมากเพราะเขาลอบโจมตีฉิงเฟิงในขณะที่กำลังอยู่ในการต่อสู้กับลั่วอี้ซาน
ฉิงเฟิงยิ้มอย่างเยือกเย็นเขาเขวี้ยงถ้วยชาในมือด้วยพลังอันแข็งแกร่งและกระแทกกับหินก้อนใหญ่ตามมาด้วยเสียงดัง ทั้งถ้วยชาและหินใหญ่หลวง ทั้งสองถ้วยชาและก้อนหินระเบิดออกเป็นชิ้นๆนับไม่ถ้วนและหายไปในอากาศ
“ขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์แกเข้าถึงขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์แล้ว ” การแสดงออกของลั่วเตียวเปลี่ยนไป ความประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาลั่วเตียวได้รับรายงานว่าฉิงเฟิงยังเป็นเพียงครึ่งแกรนด์มาสเตอร์ดังนั้นเขาจึงส่งลั่วเฟิงไปฆ่าเขา แต่มาบัดนี้เขาคาดไม่ถึงเลยว่าชายหนุ่มคนนี้จะเหยียบย่างเข้าสู่ขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์อย่างรวดเร็วเช่นนี้และสามารถสกัดกั้นการโจมตีของเขาได้
“
ไอ้เด็กคนนี้มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะมากเกินไปปล่อยให้เติบโตกว่านี้ไม่ได้เด็ดขาด”
ลั่วเตียวคิดในใจเขาขมวดคิ้วแน่นและรังสีฆ่าฟันของเขาทวีความรุนแรงมากขึ้น
“อาวุโสลั่วถ้าหากผมร่วมมือกับท่านหัวหน้าตระกูลลั่ว ท่านคิดว่าจะเอาชนะพวกเราทั้งสองได้งั้นหรือ ” ฉิงเฟิงยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้และถามลั่วเตียว
เมื่อได้ยินคำพูดของเขาความรู้สึกของลั่วเตียวก็มืดมนลง เขาสามารถเอาชนะลั่วอี้ซานได้ในการต่อสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่ง แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอนถ้าหากมีฉิงเฟิงเข้าไปร่วมสู้ด้วยอีกคน
“ฮึ่ม! ลั่วอี้ซาน หลี่ฉิงเฟิง ฝากไว้ก่อนเถอะ” ลั่วเตียวแค่นเสียงเย็นชาและสะบัดแขนเสื้อยาวเดินออกไป
ลั่วเตียวรู้ว่าเขาไม่ได้ถือไพ่ที่เหนือกว่าเขาเสียเปรียบหากต้องสู้ 1ต่อ 2 เขาจึงต้องถอยชั่วคราวเพื่อวางแผนหาผู้ช่วยที่แข็งแกร่งแล้วค่อยกลับมาแก้แค้นภายหลัง
เมื่อเห็นลั่วเตียวเดินออกมาเหล่าลูกศิษย์ที่อยู่รอบๆต่างก็สีหน้าเปลี่ยนไปและเดินถอยหลังหลีกทางให้เขาอย่างเร่งรีบ เพราะพวกเขาหวาดกลัวลั่วเตียวอย่างมาก
“ท่านหัวหน้าตระกูลลั่วผมต้องขอบคุณมาก” ฉิงเฟิงกล่าวชมเชย
ฉิงเฟิงไม่ใช่คนโง่เขาเห็นชัดเจนว่าลั่วอี้ซานยอมขัดแย้งกับลั่วเตียวเพื่อปกป้องเขา
“วูฟคิงเจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้าหรอก เจ้าเป็นแขกของข้า มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ข้าจะต้องรับผิดชอบต่อแขกเหรื่อในฐานะเจ้าบ้าน นอกจากนี้ลั่วเตียวก็ยังจ้องจะฮุบตำแหน่งหัวหน้าตระกูลของข้าอีกด้วย ดังนั้นการโจมตีของเขาไม่ได้มุ่งเป้าไปที่เจ้าเพียงคนเดียว แต่ยังมีข้าอีกด้วย” ลั่วอี้ซานกล่าว
ในฐานะอาวุโสใหญ่ของตระกูลลั่วลั่วเตียวควรจะร่วมมือกับหัวหน้าตระกูลและให้ความเคารพ แต่ตรงกันข้าม เขากลับไม่รับผิดชอบในหน้าที่และตำแหน่ง เขาไม่พอใจกับการเป็นแค่ผู้อาวุโสทั้งที่มีพลังเหนือกว่าหัวหน้าตระกูล เขาจ้องจะขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูลแทนลั่วอี้ซาน