My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 799 เขตแดนเพลิงพินาศ !
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 799 เขตแดนเพลิงพินาศ !
“หลี่ฉิงเฟิงคนนั้นแข็งแกร่งเหลือเกินเขาดูไม่เสียเปรียบแม้แต่น้อยในขณะที่รับมือสองแกรนด์มาสเตอร์ที่ทรงพลัง”
“ใช่เขตแดนแรงโน้มถ่วงของเตี๋ยจงเทียนเอาชัยเหนือคู่ต่อสู้มาแล้วนับไม่ถ้วน ตอนนี้เขากลับไม่อาจทำอะไรหลี่ฉิงเฟิงได้เลย”
“ลืมเรื่องเตี๋ยจงเทียนได้เลยแม้แต่เคล็ดวิชาดาบพันเล่มของเจียงเชียนเต๋าก็ทำอะไรหลี่ฉิงเฟิงไม่ได้อีกด้วย !”
ฝูงชนต่างกรีดร้องด้วยความแตกตื่นอยู่ข้างหลังด้วยความช็อค
แม้ว่าผู้คนโดยจะไม่รู้จักหลี่ฉิงเฟิงแต่เตี๋ยจงเทียนและเจียงเชียนเต๋าต่างก็เป็นแกรนด์มาสเตอร์ที่ทรงพลังซึ่งเป็นถึง 1 ใน 81 ชื่อเสียงของพวกเขานั้นได้มาด้วยพลังของพวกเขาเองทั้งสิ้น เตี๋ยจงเทียนและเจียงเชียนเต๋าเอาชนะยอดฝีมือมามากมายนับไม่ถ้วนตั้งแต่สมัยพวกเขายังหนุ่มจนในที่สุดพวกเขาก็ได้กลายมาเป็นแกรนด์มาสเตอร์ที่โด่งดังไปทั่ว
ในโลกของเหล่าวิทยายุทธโบราณโครงสร้างอำนาจของกองกำลังต่างๆแบ่งออกเป็น หางแถว ระดับกลาง ระดับสูงและระดับสูงสุด นิกายหมัดเหล็กเป็นกองกำลังระดับสูง สี่ตระกูลใหญ่แห่งเมืองเทียนจิงก็เป็นกองกำลังระดับสูงเช่นเดียวกัน ส่วนตำหนักโห่วเย่อหวงตี้นั้นเป็นกองกำลังระดับสูงสุด
การตัดสินระดับของกองกำลังขึ้นอยู่กับจำนวนของยอดฝีมือในแต่ละสำนักนิกายจ้าวตำหนักโห่วเย่อหวงตี้คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นเขาจึงเป็นอันดับหนึ่งในลิสต์ระดับแกรนด์มาสเตอร์และเป็นผู้ฝึกวิทยายุทธโบราณที่แข็งแกร่งที่สุดในหัวเซี่ยอีกด้วย จากที่กล่าวมาทั้งหมด การที่ตำหนักโห่วเย่อจะเป็นกองกำลังระดับสูงสุดก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
อย่างไรก็ตามจ้าวตำหนักกำลังทุกข์ทรมานจากลมปราณแตกซ่านอยู่ ณ ตอนนี้ นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เตี๋ยจงเทียนและคนอื่นๆกล้าที่จะใช้กำลัง
“เจียงเชียนเต๋าวิชาดาบพันเล่มของคุณช่างอ่อนแอนัก” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยและสั่นหัว
เมื่อได้เห็นท่าทางเช่นนี้ใบหน้าของเจียงเชียนเต๋าก็ซีดเซียว ในฐานะหัวหน้าตระกูลเจียงที่ถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีครั้งแล้วครั้งเล่า เขาจะต้องฆ่าฉิงเฟิงให้จงได้ ชายหนุ่มผู้นี้หยามหน้าเขาเกินไป
“
เขตแดนดาบพันเล่ม
!!
“
เจียงเชียนเต๋าคำรามออกมาด้วยความโกรธเขาปลดปล่อยเขตแดนออกมาอีกครั้ง
เขตแดนดาบพันเล่มของเจียงเชียนเต๋าสามารถสร้างข่ายดาบในระยะสิบฟุตคมดาบนับไม่ถ้วนก่อตัวขึ้นไปทั่วทุกหนแห่งภายในเขตแดนนี้ มันจะโจมตีเข้าใส่ผู้ที่อยู่ในระยะเขตแดนอย่างต่อเนื่อง
“
เขตแดนเพลิงพินาศ
!!
“
ฉิงเฟิงปลดปล่อยเขตแดนของเขาเข้ารับมือทันที
แกรนด์มาสเตอร์แต่ละคนต่างก็มีแดนเขตอันทรงพลังเป็นของตัวเองมันเป็นพลังที่ทรงอำนาจที่สร้างขึ้นด้วยยพลังลมปราณ ภายในระยะสิบฟุต แกรนด์มาสเตอร์ผู้ปล่อยเขตแดนจะสามารถควบคุมพลังเขตแดนให้โจมตีคู่ต่อสู้ได้อย่างอิสระ
ฉิงเฟิงไม่เคยหวั่นเรงพลังของคู่ต่อสู้หรือแม้แต่เคล็ดวิชาดของพวกเขาแต่เขาค่อนข้างระมัดระวังมากเกี่ยวกับพลังเขตแดน โชคดีที่เขารู้แจ้งในเขตแดนและสามารถใช้มันในการรับมืออีกฝ่ายได้
เขตแดนของฉิงเฟิงมีขนาดราวๆสิบฟุตเช่นกันมันเต็มไปด้วยเพลิงนรกอย่างแท้จริง ด้วยอากาศที่ร้อนระอุและมีเปลวเพลิงปะทุอยู่ภายในนั้น
ผลกระทบจากเพลิงและคมดาบไฟไหม้ทำให้เกิดเสียงดังครืนราวกับแผ่นดินไหวและอากาศถูกแบ่งออกเป็นสองซีก
คลื่นพลังงานขนาดใหญ่แผ่กระจายไปทั่วทุกทิศทุกทางต้นไม้โดยรอบป่นปี้และหักโค่นลงบนพื้น ฝุ่นและก้อนหินแตกละเอียดกระเซ็นไปทั่ว
ฝูงชนที่ตื่นตระหนกเริ่มถอยหนีออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกันระหว่างเขตแดนอันทรงพลังทั้งสอง
ตูม
!!!
ทั้งฉิงเฟิงและเจียงเชียนเต๋าไม่สามารถทนต่อแรงกระแทกของพลังได้พวกเขาทั้งคู่ต่างก็ถอยหลังไปก้าวใหญ่ๆหลังจากผลกระทบของเขตแดนหายไป
ไม่มีใครสามารถทำอันตรายให้แก่อีกฝ่ายได้เนื่องจากเขตแดนทั้งสองต่างก็มีพลังทำลายในระดับเดียวกัน
ที่จริงแล้วฉิงเฟิงมีความเข้าใจเพียงน้อยนิดเกี่ยวกับเขตแดนของเขา เขาเข้าใจเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นเท่านั้น ถ้าหากเขาเสริมการโจมตีเข้าไป เขาจะเอาชนะเจียงเชียนเต๋าได้อย่างง่ายดาย
เขตแดนนั้นเป็นพลังที่ยากจะเข้าใจให้ถ่องแท้อีกทั้งฉิงเฟิงยังใหม่ต่อเรื่องนี้ เขาสามารถปลดปล่อยเขตแดนออกมาได้ก็จริง แต่เขาไม่สามารถเสริมพลังให้แก่เขตแดนของตนได้เนื่องจากไม่มีวิธีการฝึกฝน
วู้มมมม!
หลังจากที่ฉิงเฟิงปลดปล่อยเขตแดนมันได้สูบพลังลมปราณของเขาไปเป็นจำนวนมาก เป็นผลทำให้ร่างกายของเขาอ่อนแรงลง ทันใดนั้นเอง เตี๋ยจงเทียนก็ปล่อยเขตแดนแรงโน้มถ่วงออกมาอีกครั้งและปกคลุมฉิงเฟิงในทันที
ฉิงเฟิงไม่สามารถขยับเขยื้อนได้แม้แต่นิ้วเดียวร่างกายของเขารู้สึกหนักอึ้งราวกับถูกภูเขาหรืออุกกาบาตยักษ์ทับใส่
โลกมีแรงดึงดูดเป็นของตัวเองและนั่นคือเหตุผลว่าทำไมมนุษย์ถึงยืนอยู่บนพื้นดินได้อย่างมั่นคงแทนที่จะลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าหรือหลุดออกไปนอกอวกาศ
เขตแดนแรงโน้มถ่วงนั้นมีพลังมากกว่าแรงดึงดูดของโลกนับสิบเท่าด้วยพลังนี้จึงไม่มีใครสามารถขยับตัวได้ภายในเขตแดน
“บัดซบเอ้ย! ลอบกัดอีกแล้วนะไอ้แก่” ฉิงเฟิงเหลียวหลังไปมองเตี๋ยจงเทียนด้วยหางตาอย่างขุ่นแค้น ดวงตาของเขาเป็นประกายเย็นเฉียบ
เตี๋ยจงเทียนทำตัวต่ำช้ามากเขารอจังหวะเพื่อคุมขังฉิงเฟิงไว้ในเขตแดนของเขา เพราะเขารู้ว่าหลังจากฉิงเฟิงและเจียงเชียนเต๋าใช้เขตแดนไปแล้ว เขาจะอ่อนล้าลงชั่วขณะหนึ่ง และตอนนี้ก็คือโอกาส
“ฮ่าๆๆๆหลี่ฉิงเฟิง แกติดอยู่ในเขตแดนของข้าแล้ว ถึงเวลาตาย !”
เตี๋ยจงเทียนกล่าวด้วยรอยยิ้มอันเลือดเย็นความกระหายเลือดพาดผ่านดวงตาของเขา
จากนั้นเตี๋ยจงเทียนก็กางมือและดึงต้นไม้ใหญ่บนพื้นที่อยู่ในเขตแดนของเขาขึ้นมาและเหวี่ยงมันเข้าหาฉิงเฟิงอย่างรุนแรงด้วยเจตนาฆ่า
เมื่อติดอยู่ในเขตแดนแรงโน้มถ่วงฉิงเฟิงไม่สามารถขยับตัวได้จึงทำได้เพียงมองต้นไม้ใหญ่ที่พุ่งเข้าใส่เขา
ตูม
!!!
เรื่องประหลาดเกิดขึ้นต้นไม้ใหญ่ที่ทุบเข้าหาฉิงเฟิงกลับแตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ฉิงเฟิงไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนแต่เศษไม้ที่แตกกระจายสลายเป็นฝุ่นผงและหายไปในอากาศที่เบาบาง
ร่างกายของฉิงเฟิงราวกับทำมาจากเหล็กกล้าแล้วต้นไม้ใหญ่เพียงแค่นี้จะทำร้ายเขาได้อย่างไร แม้แต่ลูกธนูหรือคมดาบก็ยังไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนบนผิวเขาได้แม้แต่น้อย
“พระเจ้าช่วย! ร่างกายของหลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งเกินไปแล้ว”
“นี่ต้องเป็นกายาอมตะแน่นอน! ดูสิ แม้แต่ต้นไม้ใหญ่ยังแหลกเป็นเสี่ยงๆเมื่อกระทบร่างของเขา”
“หลี่ฉิงเฟิงต้องฝึกฝนวิชาที่ทรงพลังอะไรบางอย่างมาแน่ไม่งั้นจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร ”
ฝูงชนมองฉิงเฟิงด้วยความตกใจแต่ก็ยังมีทั้งอิจฉาและริษยา
เตี๋ยจงเทียนไม่อาจเก็บซ่อนความอับอายบนใบหน้าของเขาไว้ได้มันน่าอับอายและน่าเหลือเชื่อเกินไปที่การโจมตีของเขาไม่มีผลต่อฉิงเฟิงแม้แต่น้อย
ด้วยเสียงคำรามแห่งความโกรธแค้นของเตี๋ยจงเทียนเขาปล่อยเขตแรงโน้มถ่วงของเขาอีกครั้งและยกหินแกรนิตขนาดใหญ่หลายแผ่นขึ้นไปในอากาศ
ด้วยพลังทั้งหมดที่เขามีเขาเหวี่ยงหินยักษ์หลายสิบก้อนเข้าหาฉิงเฟิง มันฉีกอากาศโดยรอบและพุ่งลงมาจากฟ้าอย่างรุนแรงราวกับอุกกาบาตตก
ตูมตูม ตูม
!!!
หินใหญ่หลายสิบก้อนกระแทกอย่างรุนแรงใส่ร่างของฉิงเฟิงแต่มันกลับเป็นเหมือนไข่กระทบกำแพงเหล็ก หินยักษ์แหลกเป็นเสี่ยงๆแต่ฉิงเฟิงกลับไม่เป็นอะไรเลย
ถึงแม้ว่าก้อนหินยักษ์จะดูหนักมากแต่มันก็ไม่สร้างอาการคันให้ฉิงเฟิงได้ด้วยซ้ำ