My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 819 ริมฝีปากที่หอมหวาน
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 819 ริมฝีปากที่หอมหวาน
“ไม่ต้องกังวลไปหรอก”ฉิงเฟิงมองออกถึงความกังวลของหลินเสวี่ยและปลอบโยนเธอด้วยรอยยิ้ม
เขาไม่ต้องการให้หลินเสวี่ยเป็นกังวลถึงแม้ว่าสัญชาตญาณของเขากำลังแจ้งเตือนถึงอันตรายแต่อันตรายที่อาจเกิดขึ้นนั้นหมายถึงเขา
ใบหน้าที่งดงามของหลินเสวี่ยเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักขณะที่เธอคล้องแขนของฉิงเฟิงซึ่งฉากนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมากสำหรับเธอ เธอมักจะสวมใบหน้าที่เย็นชาตลอดเวลา มันเย็นชาจนถึงจุดที่ว่าคำว่ารักไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอ
“ที่รักคุณสวยเหลือเกิน”
“มือของคุณอย่าซนได้มั้ย”
“ไม่เป็นไรหรอก การสัมผัสร่างกายนั้นดีต่อสุขภาพ” ฉิงเฟิงแสยะยิ้มและวางมือของเขาลงบนหน้าอกของหลินเสวี่ยทันที เขาบีบคลึงมันสองสามครั้งและพึมพัมกับตัวเองว่าหน้าอกคู่นี้ช่างวิเศษขนาดไหน
ฉิงเฟิงอดใจไม่อยู่เมื่อเห็นริมฝีปากสีแดงคู่งามของเธอเผยอออกเขาจูบเธอทันที
“อื้อออ!! พวกเราอยู่บนเครื่องบินนะ” หลินเสวี่ยกล่าวประท้วง
ฉิงเฟิงมอบจูบแบบฝรั่งเศสให้แก่เธอโดยไม่สนใจการประท้วงของเธอ
ริมฝีปากของเธอนุ่มและหวานราวกับน้ำผึ้งมันให้ความรู้สึกที่ดีเวลาได้จูบเธอ ฉิงเฟิงถ่ายทอดความพิศวาสปรารถนาทั้งหมดของเขาลงบนริมฝีปากของเธอเพื่อ “ลงโทษ” หลินเสวี่ยด้วยการจูบที่เข้มข้น
หลินเสวี่ยผู้น่าสงสารเธอถูกจูบและสัมผัสเคล้าคลึงไปทั่วเรือนร่างด้วยมือที่กำยำของฉิงเฟิง ร่างกายของเธอเริ่มร้อนขึ้นในขณะที่ดวงตาของเธอเริ่มพร่าเลือน
แอร์สาวดูอารมณ์ไม่ดีนักเมื่อเห็นพวกเขากำลังจูบกันบนเครื่องบินเครื่องบินเป็นสถานที่สาธารณะไม่ใช่ที่สำหรับการกระทำเรื่องเหล่านี้
“คุณคะเราไม่อนุญาตให้มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมบนเครื่องบินนะคะ” แอร์โฮสเตสเดินมาพูดกับฉิงเฟิง
เมื่อได้ยินคำพูดนี้หลินเสวี่ยก็ผละออกจากร่างของฉิงเฟิงทันทีเธอรู้สึกอายที่จูบกับฉิงเฟิงในที่สาธารณะและตกเป็นเป้าสายตาของผู้อื่น แต่ในขณะเดียวกัน ความตื่นเต้นนี้ก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น
ฉิงเฟิงรู้สึกเสียดายที่หลินเสวี่ยหนีจากอ้อมแขนของเขาเขาจึงมองไปที่แอร์สาวอย่างไม่ค่อยพอใจ
“ช่วงนี้คุณกำลังทรมานจากโรคนอนไม่หลับและมีความผิดปกติของต่อมไร้ท่อเช่นกันคุณมักจะฝันถึงผู้ชายและมีช่วงเวลาที่หวานซึ้งต่อกัน” ฉิงเฟิงมองไปที่แอร์สาวและกล่าว
ฉิงเฟิงไม่พอใจแอร์สาวและไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆเพราะเธอมาจังหวะช่วงเวลาที่มีความสุขของเขาดังนั้นฉิงเฟิงจึงเปิดเผยอาการป่วยของเธอขึ้นมา
แอร์สาวประหลาดใจมากเธอคิดว่าฉิงเฟิงเป็นภูตผี ไม่งั้นชายหนุ่มคนนี้จะรู้อาการป่วยของเธอได้อย่างไร
ใช่เธอทรมานจากความผิดปกติของต่อมไร้ท่อในช่วงนี้ เธอมักจะฝันถึงผู้ชายในเวลากลางคืน แต่การถูกเปิดเผยความลับของตนเองดังๆบนเครื่องบินเช่นนี้ทำให้เธออับอายมาก
เธอกลอกตาและรีบเดินออกไปใครจะไปรู้ว่าผู้ชายคนนี้จะเปิดเผยอะไรอีกถ้าเธอยังยืนอยู่ต่อหน้าเขา
“ที่รักมันไม่ดีเลยนะที่คุณไปเปิดเผยเรื่องส่วนตัวของเธอในที่สาธารณะ”
ฉิงเฟิงขบริมฝีปากล่างของเขาและกล่าวว่า“มันเป็นการลงโทษที่เธอมาขัดขวางการจูบของเรา”
ได้ยินคำพูดนี้หลินเสวี่ยก็รู้สึกอายขึ้นมาอีกครั้งเมื่อคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น
ผู้โดยสารบนเที่ยวบินต่างจ้องมองฉิงเฟิงอย่างไร้คำพูดเขาช่างเป็นคนกล้าหาญมากที่กล้าจูบผู้หญิงบนเครื่องบินและพูดเรื่องส่วนตัวของแอร์โฮสเตสสาวเป็นการแก้แค้นที่ถูกตักเตือน
หลินเสวี่ยรู้สึกอายหลังจากที่ถูกแอร์สาวกล่าวตักเตือนเธอจึงไม่ยอมให้ฉิงเฟิงจูบเธออีกครั้งซึ่งทำให้เขาหงุดหงิดเล็กน้อย
……………….
สี่ชั่วโมงต่อมา
ฉิงเฟิงและหลินเสวี่ยก็ลงจากเครื่องบินที่สนามบินเมืองตงไห่พวกเขาเรียกแท็กซี่และแจ้งให้คนขับพาไปส่งที่ Noble Palace
ฉิงเฟิงพาเธอไปหาพ่อตายแม่ยายและรอกินข้าวเที่ยงด้วยกัน
พวกเขาไม่รู้ว่าหลินเสวี่ยไปที่จังหวัดเจียงหนานมาอีกทั้งฉิงเฟิงก็ไม่ได้บอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะมันไม่จำเป็น มีแต่จะทำให้พวกเขากังวลไปเสียเปล่าๆ
ฉิงเฟิงเป็นคนทำอาหารเขาจึงไปซื้อเนื้อสัตว์และผักจากซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้เคียงแล้วก็เริ่มทำอาหาร
“เอ่อ…เสวี่ยน้อย ลูกให้อภัยฉิงเฟิงแล้วหรือ แม่เห็นลูกยอมคุยกับเขา” มู่เสี่ยวหยุนถามลูกสาวของเธอด้วยความสับสน
มู่เสี่ยวหยุนรู้นิสัยลูกของเธอดีหลินเสวี่ยมีนิสัยเหมือนตนเอง ทั้งๆที่เธอโกรธเรื่องความสัมพันธ์ของฉิงเฟิงกับหลิวหรูหยาน เธอตัดสินใจจะไม่พูดจากับเขาอีก แต่ทำไมจู่ๆพวกเขาถึงกลับมาพูดคุยกันอีกครั้ง
หลินเสวี่ยเผยอริมฝีปากและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า“คุณแม่ แค่รู้ว่าฉิงเฟิงรักหนูด้วยใจจริง เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว หนูจะเอาชนะนังจิ้งจอกหลิวหรูหยานได้อย่างแน่นอน”
หลินเสวี่ยให้อภัยเขาตั้งแต่วินาทีที่เขายอมกระโดดลงสระปีศาจโลหิตการที่ผู้ชายยอมสละชีวิตเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง ต่อให้อีกฝ่ายทำผิดร้ายแรงขนาดไหนใครจะใจแข็งได้อีก ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ของฉิงเฟิงกับหลิวหรูหยานหลินเสวี่ยปักใจเชื่อว่าทั้งหมดเป็นความผิดของเธอ นังจิ้งจอกคนนี้ต้องไปยั่วยวนสามีของเธอแน่นอน ความโกรธเคืองของหลินเสวี่ยทั้งหมดจึงไปลงกับหลิวหรูหยานแทนไปโดยปริยาย
ถ้าหากหลิวหรูหยานรู้เกี่ยวกับความคิดของหลินเสวี่ยในตอนนี้เธอคงจะต้องโมโหจนร้องไห้ออกมาด้วยความไม่เป็นธรรมแน่ เธอมาโทษชั้นทำไม ในเมื่อฉิงเฟิงต่างหากที่เป็นคนฉวยโอกาสต่อเรือนร่างของชั้นไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
มู่เสี่ยวหยุนและหลินซื่อรู้สึกดีใจมากที่เห็นลูกสาวและลูกเขยของพวกเขาปรองดองกันได้ในที่สุด
“เสวี่ยน้อยลูกต้องรีบจัดงานแต่งงานและเข้าห้องหอมีลูกกับฉิงเฟิงซะ เขาจะได้ไม่ไปตามติดผู้หญิงอื่นเหมือนครั้งนี้อีก”
“เสวี่ยน้อยลูกรู้หรือเปล่าว่าฉิงเฟิงน่ะเป็นชายในฝันและเป็นที่ชื่นชอบของผู้หญิงแค่ไหน ผู้หญิงเหล่านั้นที่ชื่นชอบเขาจะต้องยั่วยวนจนได้ครอบครองเขาแน่นอนต่อให้พวกเธอรู้ว่าเขาแต่งงานกับลูกแล้วก็ตาม ลูกต้องคอยระวังให้ดี”
“พ่อคงต้องขอพูดหน่อยแล้วกันถึงแม้ว่าลูกจะเป็นลูกพ่อทำไมลูกกับฉิงเฟิงอยู่ด้วยกันมาตั้งนานถึงไม่ยอมโอนอ่อนผ่อนตามเขา ลูกก็โตแล้วน่าจะเข้าใจว่าผู้ชายต่างก็มีความต้องการ ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งพ่อคิดว่าลูกก็ผิดนะ ถ้าลูกยอมเป็นของเขาแต่เนิ่นๆพ่อเชื่อว่าเขาคงไม่แรดไปทั่วกับผู้หญิงคนอื่นเช่นนี้”
มู่เสี่ยวหยุนและหลินซื่อต่างก็ดุด่าว่ากล่าวหลินเสวี่ยในห้องนั่งเล่นแรกๆก็แค่พูดแนะนำแต่สุดท้ายก็เลยเถิดกลายเป็นวิจารณ์เธอ
แต่แน่นอนว่าการวิจารณ์หลินเสวี่ยของมู่เสี่ยวหยุนนั้นก็เพราะหวังดีต่อเธอ
เธอรู้ว่าลูกสาวของเธอยังคงบริสุทธิ์อยู่แม้ว่าจะแต่งงานกับฉิงเฟิงมานานแล้วก็ตามกล่าวอีกนัยหนึ่ง พวกเขายังไม่เคยมีสัมพันธ์รักกันและนี่ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง
ลองคิดถึงเรื่องนี้ดูใครกันจะมีความสุขในเมื่อแต่งงานแล้วแต่มีอะไรกันไม่ได้
มู่เสี่ยวหยุนเข้าใจในตัวฉิงเฟิงและเข้าใจนิสัยของเขาการที่เธอว่ากล่าวตักเตือนลูกสาวก็เพราะอยากให้เธอเข้าใจความรับผิดชอบและภาระหน้าที่ของลูกผู้หญิง
หลินเสวี่ยมีสีหน้าอึดอัดเล็กน้อยเธอรู้ว่าคำพูดของพ่อแม่เธอนั้นมีประโยชน์และหวังดีต่อตัวเธอเองอีกทั้งยังมีเหตุผลมากจนเธอเถียงไม่ออก
เธอตัดสินใจจัดพิธีแต่งงานทันทีที่เธอหายดีจากนั้นเธอก็จะมีเซ็กส์กับเขาและมีลูกด้วยกัน โดยวิธีการเช่นนี้เธอจึงจะสามารถรักษาตำแหน่ง “ภรรยาคนแรก” ของเธอเอาไว้ได้
ฉิงเฟิงได้ยินทุกอย่างแม้ว่าเขากำลังทำอาหารอยู่ในครัวเขาแอบยิ้มอย่างดีใจที่พบว่าแม่ยายของเขากำลังช่วยพูดให้เขาและโน้มน้าวหลินเสวี่ย