My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 831 อันตรายที่รุมล้อม
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 831 อันตรายที่รุมล้อม
ชายชราซึ่งเป็นผู้ป่วยคนที่สามถูกควบคุมด้วยพลังของเนตรแห่งราชันหมาป่าของฉิงเฟิงเขาจึงกล่าวออกมาทันทีว่าขอรับการรักษาจากฉิงเฟิง
ชายชราคนนี้ป่วยด้วยโรคหัวใจอย่างรุนแรงเขามีอาการขาดเม็ดเลือดแดงและต้องสวมหน้ากากอ๊อกซิเจนแม้กระทั่งในบ้าน เขามักจะนำยาโรคหัวใจฉุกเฉินติดตัวไปด้วยทุกที่เผื่อเวลาฉุกเฉิน
ฉิงเฟิงหยิบเข็มเงินของเขาออกมาและฝังเข็มที่จุดใกล้กับหัวใจของเขาจากนั้นเขาก็ถ่ายลมปราณบางส่วนเข้าสู่ร่างของชายชราเพื่อช่วยทำการรักษา
จากนั้นไม่นานลมหายใจของชายชราก็มั่นคงเป็นปกติร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยพลังงาน
“โอ้! ขอบคุณมาก โรคหัวใจของผมหายเป็นปกติแล้ว” ชายชรากล่าวอย่างซาบซึ้ง ภายใต้สายตาที่จ้องมองของสาธารณชนเหล่าผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกนอกจากต้องประกาศว่าฉิงเฟิงเป็นผู้ชนะในรอบที่สาม
หลังจากนั้นฉิงเฟิงก็ใช้เนตรแห่งราชันหมาป่าต่อไปเพื่อทำให้ผู้ป่วยเรียกร้องขอรับการรักษาจากเขาในรอบที่4 และ 5
ห้องโถงกลายเป็นเงียบสนิทหลังจากฉิงเฟิงรักษาคนที่4 และ 5 เสร็จ
จากนั้นไม่นานเสียงที่ดูตื่นเต้นก็ระเบิดออกมาทุกคนพูดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวาเกี่ยวกับการแข่งขัน
“ขะ..เขาชนะแล้ว ! หลี่ฉิงเฟิงสามารถชนะทั้งสามรอบ”
“ใช่แล้วทักษะทางการแพทย์ของหลี่ฉิงเฟิงนั้นสุดยอดมาก เขารักษาจนหายทุกคนติดต่อกันจนสามารถเอาชนะเย่หยุนซันได้!”
“พวกคุณคิดว่าเย่หยุนซันจะคุกเข่าลงหรือไม่ เขาเป็นถึงประธานสมาคมแพทย์ของประเทศเชียวนะ… “
ผู้คนรอบข้างต่างพูดคุยกันอย่างเอิกเกริกขณะที่พวกเขาหันไปมองเย่หยุนซันเป็นจุดเดียว
ทุกคนต่างรู้ดีถึงการเดิมพันระหว่างเย่หยุนซันกับหลี่ฉิงเฟิงพวกเขาต่างให้ความสนใจว่าเย่หยุนซันจะทำอย่างไรในเมื่อแพ้แล้ว
โดยไม่มีผู้ใดคาดคิดเย่หยุนซันตะโกนออกมาเสียงดังหมดมาดสุภาพชนว่า “เพ้ย ! ผู้ป่วยสามคนสุดท้ายไม่ได้ขอให้ฉันรักษาพวกเขา ดังนั้นการแข่งครั้งนี้ไม่นับโว้ย !”
อะไรเนี่ย
ไร้ยางอาย
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วของเขาในขณะที่ความเย็นชาปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาเขาไม่คาดคิดว่าเย่หยุนซันจะปฏิเสธผลของการแข่งขัน เขาคิดในใจว่า
“ไอ้ทุเรศเอ้ยแกเป็นคนเริ่มท้าฉันก่อนแท้ๆ แกบอกว่าแกจะล้างแค้นให้ลูกชาย แต่ตอนนี้แพ้แล้วกลับไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ หน้าด้านชิบ
!
“
ฉิงเฟิงเดินออกไปข้างหน้าและกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เย่หยุนซัน แกมันสารเลว ไม่เพียงแค่ทรยศหักหลังอาจารย์ผู้สอนสั่ง แต่ยังไร้ยางอายอีกด้วย แพ้แล้วกลับไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ นี่เหรอประธานสมาคมแพทย์ของประเทศ ”
“เฮอะ! แล้วยังไงละ ถ้าฉันไม่คุกเข่าขอขมาซะอย่าง แกจะทำอะไรกับฉันได้ไอ้เด็กน้อย ?” เย่หยุนซันกล่าวอย่างเย็นชา
ฉิงเฟิงแววตาเย็นเฉียบเขาอดไม่ไหวต่อความหน้าด้านของเย่หยุนซัน เขาต้องการสั่งสอนผู้ชายหน้าด้านไร้ยางอายคนนี้
“หลี่ฉิงเฟิงที่นี่คือมหาวิทยาลัยแพทย์ของเมืองเทียนจิง เจ้าคิดจะทำอะไร ” ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเย็นชาดังขึ้น กู่เจิ้นเทียนเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับหัวหน้าตระกูลถัง,ถังเจียงเฮอ และจ้าวนิกายเจ็ดล้ำลึกซวนเทียนจือ พวกเขาทั้งสามต่างล้อมกรอบฉิงเฟิงเอาไว้ ปิดทางหนีหมดสิ้น
ดวงตาของฉิงเฟิงสาดประกายเย็นยะเยือกเขารับรู้ได้ทันทีว่าการแข่งขันวันนี้เป็นแค่ฉากหน้า คนเหล่านี้ต้องการล่อเขามาที่นี่นั่นเอง
“ทำไม คนแพ้ก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้สิ ในเมื่อเย่หยุนซันแพ้ เขาก็ต้องคุกเข่าขอขมาศาสตราจารย์จางหยุนเฮอ เรื่องนี้ไม่มีใครมาหยุดได้แม้แต่พวกคุณ”
“หลี่ฉิงเฟิงแล้วถ้าพวกเราทุกคนไม่ยอมให้เย่หยุนซันคุกเข่าขอขมาละ ”
“งั้นพวกแกก็เข้ามาได้เลย”ฉิงเฟิงแสยะยิ้มและกล่าวด้วยความสะกดข่ม
เขารู้อยู่แล้วว่าทุกคนเบื้องหน้าเขาในตอนนี้ต่างก็เป็นศัตรูคู่แค้นในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่พวกมันตายก็เขาตาย กู่เจิ้นเทียนและคนอื่นๆหันไปแลกเปลี่ยนสายตากันพวกเขาชักอาวุธออกมาและเตรียมจะลงมือ
กู่เจิ้นเทียนรู้ซึ้งถึงพลังของฉิงเฟิงเป็นอย่างดีดังนั้นเขาจึงร่วมมือกับถังเจียงเฮอและซวนเทียนจือเมื่อลงมือต่อฉิงเฟิง
ใบหน้าที่งดงามของฉินเซียนจื่อและลั่วหนี่ชิงแปรเปลี่ยนไปเมื่อพวกเธอได้เห็นเหล่าสุดยอดแกรนด์มาสเตอร์ถึง3 คนกำลังร่วมมือกันรุมฉิงเฟิง พวกเธอหยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมาอย่างรวดเร็วและส่งสัญญาณเพื่อขอความช่วยเหลือจากเหล่านักสู้ภายใต้อิทธิพลของพวกเธอ
“มิสลั่วทำไมคนเหล่านั้นถึงชั่วร้ายนัก พวกเขาสามคนรุมสามีชั้นคนเดียว”
หลินเสวี่ยกล่าวด้วยความโกรธเคือง
ถึงแม้ว่าหลินเสวี่ยจะยังเป็นคนธรรมดาแต่เธอก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังของยอดฝีมือทั้งสามคนนี้ได้ คนเหล่านี้ชั่วร้ายนัก ! พวกเขารุมรังแกสามีของเธอได้อย่างไร ในตอนนี้หลินเสวี่ยหวังว่าเธอจะเป็นนักสู้ถ้าเธอเป็นนักสู้เธอก็สามารถช่วยสามีของเธอเอาชนะคนไร้ยางอายเหล่านี้ได้
“มิสหลินคุณไม่ต้องกังวลไป ชั้นติดต่อท่านพ่อแล้ว เขากำลังจะมาถึงในไม่ช้า”
ลั่วหนี่ชิงสำนึกตัวดีว่าเธอแข็งแกร่งไม่เพียงพอที่จะสอดมือหรือช่วยเหลือฉิงเฟิงได้เธอไม่สามารถแทรกแซงการต่อสู้ของแกรนด์มาสเตอร์ได้ เธอทำได้เพียงต้องดูอยู่ห่างๆ
………….
ในเวลาเดียวกันที่ตระกูลลั่ว
ลั่วอี้ซานพุ่งปราดออกจากห้องและเตรียมมุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยแพทย์ทันทีหลังจากได้รับโทรศัพท์จากลูกสาว,ลั่วหนี่ชิง
แต่ในขณะที่เขาเดินออกจากคฤหาสน์เขาก็ถูกผู้อาวุโสของตระกูลลั่ว, ลั่วเตียวขวางทางไว้
“ลั่วอี้ซานข้าฉันได้ยินมาว่าเจ้าแกร่งขึ้นไม่น้อย ข้าต้องการซ้อมมือกับเจ้า” ลั่วเตียวกล่าวด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน
“อาวุโสหนึ่งข้าต้องรีบไปเมืองเทียนจิงเดี๋ยวนี้ พวกเราค่อยซ้อมมือกันทีหลังเถิด”
“ไม่ได้ข้าต้องการซ้อมมือตอนนี้”
“อย่าให้มันมากนักลั่วเตียว ข้าจะรีบไปช่วยหลี่ฉิงเฟิง ท่านมาขวางทางข้าเช่นนี้หรือว่าท่านมีมีความสัมพันธ์กับกู่เจิ้นเทียน ”
“ลั่วอี้ซานไม่ต้องพร่ำไร้สาระ วันนี้เจ้าอย่าคิดหมายจะออกจากตระกูลลั่วไปได้เลย !”
ลั่วเตียวกล่าวด้วยสีหน้ามืดครึ้ม
หลานชายของเขาถูกหลี่ฉิงเฟิงสังหารที่สุสานเซียวหยุนเขาอยากฆ่าฉิงเฟิงมานานแล้ว แต่กลับถูกลั่วอี้ซานขวางทางไว้เมื่อครั้งที่แล้ว เขาทำได้เพียงเก็บความไม่พอใจเอาไว้ในใจอยู่ตลอดเวลา
ลั่วเตียวได้ตั้งพันธมิตรลับๆกับกู่เจิ้นเทียนเอาไว้เขาได้รับหน้าที่ให้หยุดลั่วอี้ซานไว้ที่ตระกูลลั่ว และระหว่างนั้นพวกเขาจะรุมโจมตีหลี่ฉิงเฟิงที่มหาวิทยาลัยแพทย์
ลั่วอี้ซานโกรธเกรี้ยวมากเขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าอาวุโสใหญ่ของตระกูลลั่วจะสมคบคิดกับคนนอกตระกูล เขาเหวี่ยงหมัดและพุ่งเข้าหาลั่วเตียวทันที
ลั่วอี้ซานได้ดูดซับยาระดับแกรนด์มาสเตอร์จากฉิงเฟิงดังนั้นพลังของเขาจึงอยู่ในระดับแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสูงสุด พลังของเขาสามารถรับมือกับลั่วเตียวได้ แต่จะให้เห็นผลในเวลาอันสั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ ลั่วอี้ซานจึงต้องติดพันกับลั่วเตียวอยู่ที่ตระกูลลั่ว
……………….
ที่สาขาหนึ่งของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ในเมืองเทียนจิง
ฉินเซียนจื่อได้ติดต่ออาวุโสฉินเรียบร้อยแล้วแต่ทันทีที่เขาสาวเท้าออกมา เขาก็ถูกเฮลคิงจากตำหนักโกสคิงหยุดไว้เช่นกัน
เฮลคิงได้หายหน้าไปพักหนึ่งแล้วเขาได้รับอาวุธนอกรีตชิ้นหนึ่งมาภายในถ้ำลึกลับแห่งหนึ่ง มันเป็นอาวุธของผู้ฝึกตน ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถควบคุมพลังของมันได้อย่างเต็มที่ แต่ด้วยอาวุธชิ้นนี้การจะรับมืออาวุโสฉินไว้ย่อมไม่มีปัญหา
อดพูดไม่ได้ว่าถึงแม้ฉิงเฟิงจะมีพวกพ้องมิตรสหายแต่เขากลับมีศัตรูมากกว่า สมาชิกของตระกูลลั่วและตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ต่างก็ถูกขวางไม่ให้มาช่วยเขา ดังนั้นตอนนี้เขาทำได้เพียงต้องพึ่งพาตนเองเท่านั้น
ฟุ่บ!
กู่เจิ้นเทียนกวัดแกว่งกระบี่ยาวของเขากุมเอาไว้เหนือหน้าอกจากนั้นเขาก็สะบัดมันอย่างเกรี้ยวกราดเข้าหาฉิงเฟิง เขามีความเกลียดชังต่อฉิงเฟิงอย่างลึกล้ำ เขาต้องการสับสังหารฉิงเฟิงให้ตาย
กระบี่ถูกล้อมรอบไปด้วยประกายแสงสีเขียวและเจาะผ่านอากาศออกไปมันสะสมพลังอันน่าสะพรึงกลัวเอาไว้และกระจายไปสู่รอบข้าง
ผู้คนรอบข้างกรีดร้องออกมาในขณะที่พวกเขาก้าวถอยหลังบางคนถูกกดลงสู่พื้นด้วยแรงกดดันอันทรงพลัง ผู้ที่อ่อนแอบางคนถึงกับหมดสติไปจากพลังอันน่ากลัวนี้
ทุกคนมองดูการต่อสู้ด้วยความหวาดกลัวพวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าการแข่งขันทางการแพทย์จะกลายมาเป็นการต่อสู้เต็มรูปแบบ
เช้ง!
ฉิงเฟิงก็กวัดแกว่งกระบี่เพลิงคะนองของเขาเช่นกันมันกำลังเปล่งแสงสว่างสีแดงเพลิงออกมา