My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 833 ล้อมกรอบหลี่ฉิงเฟิง
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 833 ล้อมกรอบหลี่ฉิงเฟิง
“หลี่ฉิงเฟิงผู้นี้ทรงพลังนัก! เขาสามารถรับมือได้สามคนในเวลาเดียวกันแถมยังสะกดข่มแกรนด์มาสเตอร์ไว้ได้ถึง 2 คน !”
“ท่านกล่าวถูกต้องแล้วหลี่ฉิงเฟิงเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง เขาบรรลุพลังแห่งเขตแดนได้ถึงสองอย่าง”
“เท่าที่ข้าจำได้มีเพียงผู้เดียวในยุทธภพที่สามารถบรรลุสองเขตแดนเขาคือจักรพรรดิราตรีเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน”
“นี่มันหมายความว่าหลี่ฉิงเฟิงจะสามารถกลายเป็นจักรพรรดิราตรีคนใหม่และพิชิตยุทธภพได้ใช่หรือไม่”
ในขณะที่ผู้คนโดยรอบกำลังพูดคุยกันพวกเขาต่างก็มองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความประหลาดใจ เมื่อไม่นานมานี้พวกเขาเพิ่งเดิมพันว่าหลี่ฉิงเฟิงจะต้องถูกสับเป็นเนื้อบดเพราะคิดว่าลำพังพลังของคนเพียงคนเดียวย่อมไม่อาจรับมือกับแกรนด์มาสเตอร์ทั้งสามคนได้ แต่ในพริบตาสถานการณ์ก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ทุกคนต่างตกตะลึงกับฉากที่ปรากฏต่อหน้าต่อตาพวกเขาหากพวกเขาไม่ได้เห็นการต่อสู้ด้วยตาของตัวเองก็คงไม่มีใครเชื่อว่าหลี่ฉิงเฟิงจะสามารถต่อกรกับทั้งสามได้
ต้องรู้ก่อนว่ากู่เจิ้นเทียน,ซวนเทียนจือและถังเจียงเฮอต่างก็เป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงติดอันดับ
และตอนนี้พวกเขาทั้งสามร่วมมือกันเพื่อโจมตีหลี่ฉิงเฟิงพร้อมๆกันแต่ทว่าหลี่ฉิงเฟิงก็ไม่ได้เสียเปรียบแม้แต่น้อย สิ่งนี้ทำให้พวกเราสามารถจินตนาการได้ถึงพลังที่ชายหนุ่มผู้นี้มีในครอบครอง
ในช่วงเวลาที่พลังจากจิตวิญญาณของเขาระเบิดขึ้นมาอย่างฉับพลันหลี่ฉิงเฟิงก็ปลดปล่อยพลังจากทั้งเขตแดนเพลิงพินาศและเขตแดนแรงโน้มถ่วง พลังของมันยิ่งใหญ่มาก มันดูดเขตแดนพายุลงไปที่พื้นและแผดเผาน้ำในเขตแดนวารีกระจ่างจนละเหยเป็นไอ อั่ก! อั่ก !
ทั้งซวนเทียนจือและถังเจียงเฮอต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขากระอักเลือดออกมาจากปากและได้รับบาดเจ็บทั้งทางร่างกายและจิตใจ
“
เคล็ดวิชากระบี่ตระกูลกู่
,
กระบี่แยกภูผา
!!
“
เมื่อเห็นพันธมิตรของเขาได้รับบาดเจ็บกู่เจิ้นเทียนก็ฟาดกระบี่ของเขาออกมาทันที มันเกิดลำแสงกระบี่ยาวสามเมตร ฉีกผ่านอากาศ ตัดเปิดพื้นดินและทิ้งรอยแตกขนาดใหญ่ตลอดเส้นทาง
ในฐานะที่เป็นเคล็ดวิชาที่ทรงพลังที่สุดของตระกูลกู่,วิชากระบี่ระดับแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสุดยอดนี้มีสามกระบวนท่า กระบี่แยกภูผา, กระบี่แยกทะเลและกระบี่แยกเพลิง
ในตำนานกล่าวไว้ว่าด้วยวิชากระบี่ของตระกูลกู่ผู้ใช้จะสามารถฟันภูเขา ผ่าทะเลและแยกเปลวเพลิงได้ด้วยหนึ่งการโจมตี
แน่นอนว่ามันอาจเป็นการกล่าวเกินจริงถึงพลังของวิชากระบี่แต่อย่างน้อยด้วยวิชานี้ก็สามารถผ่าภูเขาลูกเล็กๆได้ถ้าไม่ใช่ภูเขาขนาดมหึมาหรือทะเลที่กว้างใหญ่
ในฐานะที่เป็นผู้ฝึกวิชากระบี่ฉิงเฟิงย่อมรู้ซึ้งถึงพลังของวิชากระบี่ของคู่ต่อสู้ได้เพียงมองแวบเดียว
เช้ง!
ฉิงเฟิงชักกระบี่เพลิงคะนองออกมาและกุมไว้ที่หน้าอกของเขา
“
ศรเพลิงคะนอง
!
“ ฉิงเฟิงตะโกนออกมาด้วยเสียงต่ำเขาใช้ออกด้วยกระบวนท่าที่สองของวิชากระบี่เพลิงคะนองและพุ่งเข้าใส่กู่เจิ้นเทียน
แสงสีแดงเปล่งประกายจากกระบี่ยาวกลายเป็นลูกศรไฟสีแดงนับไม่ถ้วนที่เปี่ยมไปด้วยพลังพวกมันปะทะเข้ากับกระบี่ยาวของกู่เจิ้นเทียน ส่งผลให้เกิดเสียงระเบิดดังกระหึ่ม
อดพูดไม่ได้ว่าในฐานะแกรนด์มาสเตอร์ขั้นปลายกู่เจิ้นเทียนได้ย่างกรายมาถึงขอบเขตสมบูรณ์แบบในเชิงกระบี่ของเขา พลังกระบี่ของเขาเต็มไปด้วยพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่
มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเข้าขอบเขตสมบูรณ์แบบในการปรับแต่งเคล็ดวิชาสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่ากู่เจิ้นเทียนเป็นยอดฝีมือที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์เพราะเขาฝึกฝนจนถึงขอบเขตสมบูรณ์แบบในเชิงกระบี่
อย่างไรก็ตามฉิงเฟิงก็มีความแข็งแกร่งในระดับเดียวกัน เพราะเขาก็ฝึกฝนจนถึงขอบเขตสมบูรณ์แบบของเคล็ดวิชากระบี่เพลิงคะนอง
“เคล็ดวิชาที่สองกระบี่ผ่าทะเล !”
เมื่อกู่เจิ้นเทียนเห็นว่ากระบวนท่าแรกไร้ผลต่อฉิงเฟิงเขาจึงใช้ออกด้วยกระบวนท่าที่สองทันที
กระบี่ผ่าทะเลมีประจุพลังเป็นสองเท่าของกระบวนท่าแรกเมื่อใช้ออกทุกคนโดยรอบก็ได้ยินเสียงของคลื่นทะเลที่ผ่าออก และบรรยากาศรอบๆก็ระเบิดเป็นรอยแตกขนาดใหญ่และน่ากลัวยิ่ง
ฉิงเฟิงหรี่ตาลงเขาพบว่าเขากับกู่เจิ้นเทียนนั้นสูสีกันทั้งขอบเขตของพลังที่ขั้นปลายแกรนด์มาสเตอร์และมีเคล็ดวิชากระบี่ที่ทรงพลัง
ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะฝึกฝนจนถึงขั้นสมบูรณ์แบบของวิชากระบี่เพลิงคะนองแต่เขาก็ขาดประสบการณ์ในการต่อสู้เนื่องจากขาดแคลนยอดยุทธ์ที่อยู่ในระดับเดียวกัน เขาจึงตัดสินใจที่จะฉวยประโยชน์จากการต่อสู้ครั้งนี้เพื่อฝึกฝนตัวเองไปในตัว
เพียงบรรลุขีดขั้นสมบูรณ์แบบในเคล็ดวิชานั้นยังไม่เพียงพอเคล็ดวิชาและพลังในการโจมตีนั้นจะเพิ่มขึ้นและเติบโตได้จากการต่อสู้นับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้น
“
กระบวนท่าที่สามคลื่นเพลิงโหมกระหน่ำ
!!”
ด้วยใบหน้าที่น่าสะพรึงกลัวฉิงเฟิงใช้กระบวนท่าที่สามออกมาทันที
เห็นได้ชัดว่ากระบวนท่าที่สาม,คลื่นเพลิงโหมกระหน่ำนั้นทรงพลังกว่ากระบวนท่าก่อนหน้านี้ เนื่องจากกระบวนท่าหลังๆย่อมมีพลังอำนาจเหนือกว่ากระบวนท่าในขั้นแรกๆเสมอ ด้วยประกายแสงกระบี่สีแดง ปราณกระบี่แปรเปลี่ยนเป็นน้ำตกเพลิงขนาดมหึมาที่กำลังแผดเผาบรรยากาศโดยรอบจนเป็นสีแดงเข้ม
ตูม
!!!! กระบี่ผ่าทะเลและคลื่นเพลิงโหมกระหน่ำชนกันจนเกิดเสียงดังลั่นราวกับว่ามีอุกกาบาตตกลงไปในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่จนเกิดกำแพงคลื่นสูงพุ่งขึ้นเสียดฟ้า เสียงนั้นดังราวกับโลกกำลังสั่น
แกร๊ก
!!!
รอยร้าวจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นในพื้นหินแข็งและกระจายออกไปด้านนอกราวกับใยแมงมุมขนาดยักษ์
“ทรงพลังเกินไปแล้ว! ทั้งกู่เจิ้นเทียนและหลี่ฉิงเฟิงต่างก็ทรงพลังยิ่งนัก หากเป็นข้าคงไม่อาจทานรับได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว”
“ข้าก็คิดเช่นนั้นไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเขาเป็นสุดยอดฝีมือในรายชื่อแกรนด์มาสเตอร์”
“พลังของกู่เจิ้นเทียนเป็นผลมาจากการฝึกปรือมาเป็นเวลาหลายปีขณะที่หลี่ฉิงเฟิงเพิ่งจะฝึกฝนมาได้ไม่ถึงปี เขามันปีศาจชัดๆ !”
“ข้าสงสัยว่าอีกไม่นานด้วยความแข็งแกร่งที่รวดเร็วอย่างก้าวกระโดดของหลี่ฉิงเฟิงเขาจะกลายเป็นจักรพรรดิราตรีคนต่อไป”
ผู้คนโดยรอบต่างก็พึมพำออกมาด้วยความตกใจและคาดหวัง
พวกเขาเข้าใจเป็นอย่างดีถึงพลังของกู่เจิ้นเทียนเพราะเขาคือหัวหน้าตระกูลกู่ หนึ่งในสี่ตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเทียนจิง แต่พวกเขาต้องตกใจและหวาดกลัวด้วยพลังที่แข็งแกร่งและพัฒนาการอันรวดเร็วของหลี่ฉิงเฟิง
ในขณะที่ฉิงเฟิงและกู่เจิ้นเทียนกำลังประมือกันซวนเทียนจือและถังเจียงเฮอที่อยู่ด้านข้างก็กำลังคิดที่จะเข้าร่วมอีกครั้ง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บเมื่อตอนที่ฉิงเฟิงทำลายเขตแดนของพวกเขาแต่พวกเขาก็ยังมีพลังเหลืออยู่
“ท่านจ้าวนิกายซวนพวกเราไม่สามารถใช้พลังเขตแดนได้เนื่องจากเขตแดนของหลี่ฉิงเฟิงนั้นทรงพลังเกินไป ต้องใช้เคล็ดวิชาเท่านั้น” ถังเจียงเฮอกล่าวด้วยใบหน้าที่มืดมน เขาได้รับบาดเจ็บภายในเมื่อตอนที่เขตแดนวารีกระจ่างของเขาถูกเขตแดนเพลิงพินาศของฉิงเฟิงทำลาย
ซวนเทียนจือพยักหน้าเป็นอันเข้าใจกันเขารู้แล้วว่าชายหนุ่มผู้นี้คืออัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะที่แท้จริง เขาสามารถครอบครองพลังเขตแดนได้ถึงสองสาย ในเมื่อเขตแดนของพวกเขาใช้กับฉิงเฟิงไม่ได้ผล พวกเขาต้องใช้เคล็ดวิชาเข้าสู้เท่านั้น
“
วิชากระบี่นภาล้ำลึก
!
“
ซวนเทียนจือกล่าวด้วยเสียงต่ำเขาชักกระบี่ยาวสีน้ำเงินออกมา มันฉีกผ่านอากาศและแทงเข้าหาฉิงเฟิงจากทางด้านซ้าย “
วิชาดาบตระกูลถัง
!”
ถังเจียงเฮอก็ดึงดาบยาวสีดำออกมาเช่นกันและฟาดเข้าใส่ฉิงเฟิงจากทางด้านขวาอย่างดุดัน
พวกเขาโจมตีฉิงเฟิงจากทั้งสองด้านเมื่อผนวกกับกู่เจิ้นเทียนที่กำลังปะทะกับฉิงเฟิงอยู่ข้างหน้า กลายเป็นแกรนด์มาสเตอร์ทั้งสามคนกำลังกรุ้มรุมโจมตีชายหนุ่มเพียงคนเดียวด้วยเคล็ดวิชาที่รุนแรง
�