My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 837 วิกฤติของตระกูลลั่ว
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 837 วิกฤติของตระกูลลั่ว
หลี่ฉิงเฟิงทำให้ถังเจียงเฮอกลายเป็นข้ารับใช้นี่ทำให้ทุกคนตกใจเพราะถังเจียงเฮอเป็นหนึ่งในหัวหน้าตระกูลใหญ่
จากนั้นฉิงเฟิงก็เดินไปที่ศพของกู่เจิ้นเทียนและซวนเทียนจือเพื่อค้นร่างกายของพวกเขา เขาพบตำราเคล็ดวิชากระบี่ตระกูลกู่และเคล็ดวิชาเขตแดนพายุจากร่างกายของซวนเทียนจือ
มันเป็นเรื่องน่าเสียดายที่กระบี่ล้ำค่าของกู่เจิ้นเทียนถูกทำลายเป็นสองส่วนไปแล้วไม่เช่นนั้นเขาจะมอบมันเป็นของขวัญให้แก่ทีมเขี้ยวหมาป่า
ฉิงเฟิงหยิบฉวยของทั้งหมดไปและเดินไปหาเย่หยุนซันและกล่าวอย่างเย้ยหยันว่า
“ถ้าหากคุณยังเห็นคุณค่าของชีวิตก็จงไปคุกเข่าขอขมาต่อหน้าศาสตราจารย์จางหยุนเหอซะจากนั้นก็ลาออกจากสมาคมแพทย์แห่งประเทศและยกตำแหน่งประธานให้เขา” เมื่อจับจิตสังหารที่รุนแรงของฉิงเฟิงได้เย่หยุนซันหันไปมองที่ร่างไร้หัวของกู่เจิ้นเทียนและซวนเทียนจือ ใบหน้าของเขาซีดเผือดจนไม่อาจซีดได้อีก ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ชายหนุ่มผู้นี้ช่างน่ากลัวเหลือเกินเย่หยุนซันคิดในใจ เขารู้ว่าถ้าปฏิเสธแม้เพียงครึ่งคำ ศีรษะของเขาต้องหลุดจากบ่าแน่นอน
“ได้ครับๆ! ผมจะคุกเข่า ผมจะคุกเข่า” เย่หยุนซันรีบกล่าวออกมาทันที
ปึง
!
เย่หยุนซันวิ่งปรี่ไปหาจางหยุนเหอและคุกเข่าลงเขาพูดด้วยความหวาดกลัวว่า “อาจารย์ผมผิดไปแล้ว ผมขอขมาต่อท่าน วันนี้ผมจะลาออกจากสมาคมแพทย์ของประเทศและตำแหน่งประธาน”
จางหยุนเหอก้มหน้ามองอดีตลูกศิษย์ที่กำลังคุกเข่าขอขมาด้วยสายตาเย็นชาและยังคงนิ่งเงียบเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ยอมให้อภัยง่ายๆ
เย่หยุนซันเคยเห็นลูกศิษย์คนโปรดของจางหยุนเหอผู้ที่เขาทุ่มเทกายใจอบรมสอนสั่งจนมีวันนี้อย่างไรก็ตาม เย่หยุนซันได้ทำร้ายและทรยศเขาอย่างเจ็บช้ำสุดขั้ว
มันเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดที่สุดสำหรับจางหยุนเหอที่ศิษย์คนโปรดทรยศและแม้แต่วางยาพิษต่อเขาถ้ามันไม่ได้เป็นเพราะฉิงเฟิง เขาคงจะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่บนรถเข็นตลอดไป
เมื่อเห็นถึงความเฉยชาของจางหยุนเหอเย่หยุนซันก็รู้ทันทีว่าอาจารย์ของเขาไม่ยอมให้อภัย
ปึงโป๊ก ๆๆๆ !
เย่หยุนซันจึงเอาศีรษะโขกกับพื้นต่อหน้าจางหยุนเหอไม่หยุดจนกระทั่งเริ่มมีเลือดไหลออกมา
ประจักษ์พยานที่อยู่รอบๆต่างอ้าปากค้างเพียงคำพูดหนึ่งคำจากหลี่ฉิงเฟิงก็ทำให้เย่หยุนซันประธานสมาคมแพทย์แห่งประเทศต้องคุกเข่าต่อหน้าจางหยุนเหอ และพยายามอย่างมากให้เขายอมให้อภัย
ต้องยอมรับว่าตอนนี้หลี่ฉิงเฟิงมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่และผู้คนต้องทำตามที่เขาพูดทุกอย่าง
เย่หยุนซันโขกศีรษะนับพันๆครั้งจนกระทั่งเขาสลบลงที่พื้นอย่างไม่รู้ตัวเลือดจากศีรษะของเขาไหลนองไปทั่วพื้น
เมื่อเห็นว่าเย่หยุนซันหมดสติไปแล้วจางหยุนเหอก็ผละจากเขาโดยสีหน้าไร้ความรู้สึก
“ฉิงเฟิงขอขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำเพื่อฉัน สหายน้อย”
จางหยุนเหอเดินไปที่ฉิงเฟิงและกล่าวขอบคุณออกมา
ฉิงเฟิงโบกมือและยิ้มเล็กน้อยเขากล่าวว่า “ศาสตราจารย์จาง คุณช่วยผมทำให้หลินเสวี่ยฟื้นขึ้นมา นี่เป็นเรื่องสมควรที่ผมควรจะทำเพื่อคุณอยู่แล้ว” ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกันหลินเสวี่ยก็วิ่งเข้ามาหาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลและเป็นห่วง
“ที่รักคุณโอเคไหม”
“ผมไม่เป็นแค่แกรนด์มาสเตอร์ไม่กี่คนไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผมหรอก”
“ชั้นรู้ว่าคุณเก่งที่สุด”หลินเสวี่ยเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจกับการที่มีสามีที่ทรงอำนาจเช่นนี้
ลั่วหนี่ชิงที่อยู่ข้างๆกลอกตาของเธอในขณะที่มองไปที่หลินเสวี่ยเห็นได้ชัดว่าหลินเสวี่ยไม่ได้รู้เลยว่าแกรนด์มาสเตอร์ทรงพลังเพียงใด บนโลกนี้มีแกรนด์มาสเตอร์เพียงแค่ 81 คน ภายในวันเดียวหลี่ฉิงเฟิงสังหารพวกเขาไปถึงสองคนและทำให้อีกคนเป็นทาสรับใช้ สำหรับเธอแล้วสิ่งนี้ไม่ใช่ทรงพลัง มันคือความน่าสะพรึงกลัว
ลั่วหนี่ชิงรู้สึกว่าเธอโชคดีมากที่ตัดสินใจสนิทชิดเชื้อกับเขามิฉะนั้นตระกูลลั่วอาจจะจบสิ้นถ้าเป็นศัตรูกับเขา เช่นเดียวกับลั่วหนี่ชิงฉินเซียนจื่อก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีเช่นกัน ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา
ในฐานะคุณหนูแห่งตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ฉินเซียนจื่อเก่งมากด้านมองคน เป็นที่ชัดเจนว่าจะต้องมีสักวันหนึ่งที่หลี่ฉิงเฟิงพิชิตยุทธภพและกลายเป็นจักรพรรดิราตรีคนที่สอง
“นายหญิงน้อยเกิดเรื่องแล้วครับ !” ในขณะเดียวกัน ชายวัยกลางคนที่เต็มไปด้วยเลือดปกคลุมไปทั่วก็วิ่งเข้าหาลั่วหนี่ชิงด้วยใบหน้าที่แตกตื่น
“ท่านลุงชวงเกิดอะไรขึ้น ทำใจดีๆไว้” การแสดงออกของลั่วหนี่ชิงเปลี่ยนไปและถามขึ้นด้วยความสงสัย
ชายวัยกลางคนผู้นี้ก็คือลั่วชวงเขาเป็นในสมาชิกของตระกูลลั่วซึ่งอยู่กับพ่อเธอมาเป็นเวลาหลายปี
เมื่อได้เห็นลั่วชวงเต็มไปด้วยเลือดและได้รับบาดเจ็บอย่างเห็นได้ชัดลั่วหนี่ชิงก็เป็นกังวลอย่างมาก นายหญิงท่านหัวหน้าตระกูลพ่ายแพ้แก่ผู้อาวุโสหนึ่งและถูกมัดไว้ด้วยโซ่เหล็ก อาวุโสหนึ่งพยายามบีบบังคับให้เขาลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าตระกูล และข่มขู่ว่าจะฆ่าเขาถ้าปฏิเสธ
เมื่อได้ยินข่าวนี้ลั่วหนี่ชิงก็โกรธมาก“อาวุโสที่ชั่วช้าสามานย์ เพื่อให้ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูล เขาทรยศพ่อชั้นแม้แต่จะขู่ฆ่าอีก !”
ลั่วหนี่ชิงกระตือรือร้นที่จะไปช่วยพ่อของเธอทันที
แต่เธอเดินไปได้เพียงสองก้าวเธอก็ถูกฉิงเฟิงขวางไว้
“วูฟคิงคุณทำอะไร ชั้นต้องรีบกลับตระกูลไปช่วยท่านพ่อนะ” ลั่วหนี่ชิงตำหนิฉิงเฟิง
เธอไม่พอใจที่เห็นฉิงเฟิงขวางเธอไว้เธอสนิทกับพ่อมากที่สุด เธอต้องรีบกลับไปช่วยเขาก่อนที่เขาจะถูกอาวุโสหนึ่งฆ่า “มิสลั่วใจเย็นๆก่อน คุณไม่ใช่คู่มือของเขา ไปก็ตายซะเปล่าๆ” ฉิงเฟิงจับแขนเธอและกล่าวเตือน
“ชั้นจะช่วยท่านพ่อถึงตายก็ไม่เสียดายชีวิต” แน่นอนว่าลั่วหนี่ชิงไม่ได้ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของตัวเองแม้แต่นิดเดียว
เมื่อเห็นความรักอันลึกซึ้งของลั่วหนี่ชิงกับพ่อของเธอฉิงเฟิงก็ถอนหายใจเงียบๆ เขาคิดถึงพ่อของเขาที่ยังคงติดอยู่ในดินแดนต้องห้ามของภูเขาคุนหลุน สักวันหนึ่งเขาจะต้องเข้าไปในนั้นและช่วยพ่อออกมาให้ได้
“วูฟคิงปล่อยชั้นไปเถอะ” ลั่วหนี่ชิงเริ่มไม่พอใจที่ฉิงเฟิงยังคงยื้อตัวเธอไว้ ถ้าเป็นคนอื่นเธอคงโกรธจนทุบตีไปแล้ว
“คุณเอาชนะอาวุโสหนึ่งไม่ได้หรอกผมจะช่วยคุณเอง ผมจะไปตระกูลลั่วกับคุณ”
ฉิงเฟิงกล่าว
อะไรนะ
คุณจะไปกับชั้นเหรอ ลั่วหนี่ชิงเต็มไปด้วยความประหลาดใจและมีความสุข
“รีบไปกันเถอะไม่งั้นพ่อของคุณคงไม่รอดแน่กว่าเราจะไปถึงที่นั่น” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆ เขาจับมือเธอและพาเธอไปที่ตระกูลลั่ว (ต่อหน้าเมียเนี่ยนะ – -)
เขาพาหลินเสวี่ยและถังเจียงเฮอไปที่ตระกูลลั่วพร้อมกับเขาเช่นกันส่วนจางหยุนเหอนั้นแก่เกินกว่าจะมายุ่งเรื่องพวกนี้ ฉิงเฟิงจึงบอกให้เขากลับไปรอที่โรงแรม