My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 849 เกาะทมิฬอันน่าสะพรึงกลัว
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 849 เกาะทมิฬอันน่าสะพรึงกลัว
เรือโจรสลัดหันหัวกลับและยอมแพ้ในการโจมตีเรือโดยสารหลังจากปลาหมึกยักษ์แห่งท้องทะเลถูกสังหารโดยกู่เซียว
ฮวาเซียนจือยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า“โจรสลัดกลุ่มนี้แข็งแกร่งเพราะพวกมันสามารถควบคุมสัตว์ประหลาดยักษ์ใต้มหาสมุทรได้”
ควบคุมสัตว์ทะเล
แน่นอนว่าฉิงเฟิงย่อมเคยได้ยินเกี่ยวกับตำนานของโจรสลัดมาบ้างพวกเขาบางคนเป็นโจรสลัดโบราณที่ฝึกวิชา พวกเขามีวิธีการพิเศษในการบังคับปีศาจทะเลให้โจมตีมนุษย์
ฉิงเฟิงรู้ว่าสาเหตุที่โจรสลัดเหล่านั้นจากไปก็เพราะพวกมันรู้ว่าบนเรือโดยสารลำนี้เต็มไปด้วยยอดฝีมือซึ่งยากจะเอาชนะ
พายุในมหาสมุทรยังคงโหมกระหน่ำตามมาด้วยลมที่รุนแรงและเม็ดฝนถึงแม้ว่าเรือโจรสลัดจะล่าถอยไปแล้ว
ด้วยการที่ฝนตกหนักมากมันจึงชะล้างคราบเลือดบนดาดฟ้าในเวลาไม่นานและไม่มีใครสามารถบอกได้เลยว่าเคยมีคนตายที่นี่ถ้าหาไม่ได้เห็นกับตา
กู่เซียวหันไปมองที่ฉิงเฟิงอย่างเย็นชาและเดินกลับเข้าห้องของเขาไป
ส่วนคนอื่นๆก็เดินตามกู่เซียวออกไปเช่นกันด้วยท่าทางแปลกๆยามที่พวกเขาเดินผ่านฉิงเฟิงพวกเขามั่นใจว่าฉิงเฟิงจะต้องประสบปัญหาใหญ่แน่ที่ทำให้กู่เซียวผู้ทรงอำนาจไม่พอใจ
“ท่านต้องระวังกู่เซียวให้ดี,หลี่ฉิงเฟิง” ฮวาเซียนจือตักเตือนฉิงเฟิงด้วยรอยยิ้ม
ฉิงเฟิงหัวเราะอย่างไม่แยแสพร้อมทั้งกล่าวว่า“ไม่มีอะไรต้องกังวล”
ฮวาเซียนจือไม่ได้พูดอะไรอีกหลังจากที่เห็นฉิงเฟิงเต็มไปด้วยความมั่นใจเพราะเธอก็ไม่ได้รู้จักเขาดีพอเช่นกันหลังจากจ้องมองไปที่มหาสมุทรแล้วเธอก็ออกจากดาดฟ้าเช่นกัน
เหลือเพียงฉิงเฟิงที่ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังหลังจากที่ทุกคนจากไป
“ไอ้เด็กผีข้ารู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆบางอย่างอยู่ใต้มหาสมุทร แต่ตอนนี้มันถอยไปแล้ว”
“ผู้อาวุโสแม้แต่พลังวิญญาณของท่านก็ไม่อาจสัมผัสอะไรได้เลยงั้นหรือ ”
“ก่อนหน้านี้มันก็ทำได้อยู่หรอกแต่ตอนนี้ข้าอ่อนแอมากเหลือเพียงพลังวิญญาณไม่มาก ดังนั้นข้าจึงสามารถรู้สึกได้ถึงปีศาจใต้ทะเลที่แข็งแกร่งกว่าปลาหมึกยักษ์ตัวเมื่อกี้เท่านั้น”
“ดูเหมือนว่าในมหาสมุทรจะเต็มไปด้วยอันตราย”ฉิงเฟิงพยักหน้าและถอนหายใจ
เขารู้ว่าปลาหมึกยักษ์ที่ตายไปแล้วนับได้ว่าเป็นแค่เพียงแค่หน่วยทหารในมหาสมุทรยังมีสัตว์ทะเลที่แข็งแกร่งกว่านี้อีกมากมายที่อยู่ลึกลงไปใต้ทะเล
ขณะนี้ไม่มีเหตุจำเป็นอันใดที่ฉิงเฟิงจะต้องยืนตากฝนแล้วเพราะปีศาจทะเลลึกต่างล่าถอยไปหมดดังนั้นเขาจึงหันหลังกลับและเดินไปที่ห้องของเขา
………..
ในห้องพักของพวกฉิงเฟิง
“บอสกลับมาแล้วหรือครับ คุณหนูฉินมาหาบอสเมื่อสักพัก แต่เธอเห็นบอสไม่อยู่เธอเลยกลับไปแล้ว” ลู่ซวนจี๋กล่าว
ฉิงเฟิงพยักหน้าเขาคิดว่าเธอคงมาหาเขาเพื่อคุยสัปเพเรหะ แต่ตอนนี้เขาไม่ค่อยมีเวลา
“ซวนจี๋พวกนายต้องฝึกวิชาให้เต็มที่และแข็งแกร่งให้มากกว่านี้ สักวันฉันจะพาพวกนายท่องไปทั่วหล้าและขยายมุมมองเกี่ยวกับมรรคายุทธ์และการสังหารหมู่ในโลกของผู้ฝึกยุทธ์ให้มากกว่านี้”
ทีมเขี้ยวหมาป่าเคยผ่านการต่อสู้สังหารหมู่มาก่อนแต่นั่นเป็นในโลกฆราวาสของพวกมาเฟีย ไม่ใช่โลกแห่งวิทยายุทธโบราณซึ่งทรงพลังมากกว่า
พวกเขาพยักหน้าและเริ่มก้มหน้าก้มตาฝึกฝนต่อไปเพราะพวกเขารู้ว่าความแข็งแกร่งของตัวเองนั้นสำคัญแค่ไหนยิ่งมีพลังมากเท่าไรก็ยิ่งสามารถปกป้องตัวเองได้ดีมากเท่านั้น
ฉิงเฟิงรู้สึกยินดีมากที่เห็นพวกเขาเริ่มฝึกวิชาอย่างตั้งใจและเขาก็เข้าร่วมฝึกฝนกับสมาชิกด้วยเช่นกัน
เขานั่งไขว้ขาอยู่บนพื้นยกมือขึ้นและท่องบทสวดบางอย่าง หน้าอกของเขาขึ้นลงขณะหายใจเข้าออกจากจมูก มีอากาศสีขาวออกมาจากปากของเขาทุกครั้งที่สูดลมหายใจ
แม้จะยังไม่สมบูรณ์แต่มันก็เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผิวหนังกล้ามเนื้อและกระดูกของฉิงเฟิงทุกครั้งที่เขาฝึกฝน
เขาฝึกฝนตลอดทั้งคืน
พายุสงบลงเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นในวันถัดมาแสงแดดส่องและทุกอย่างก็กลับคืนสู่ความสงบของมหาสมุทร
มหาสมุทรนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร้ซึ่งเหตุผลและความปราณีในพริบตามันอาจจะเต็มไปด้วยพายุลมแรงแต่ก็อาจจะมีแสงแดดอบอุ่นเหมือนฤดูใบไม้ผลิได้
“เกาะทมิฬอยู่เบื้องหน้าพวกเราแล้ว!” เสียงที่ดูตื่นเต้นดังขึ้นมาจากดาดฟ้าทันที
ฉิงเฟิงก็มีความรู้สึกที่ตื่นเต้นเช่นกันเกี่ยวกับการช่วยเหลือราชาอสูรสิงโต
“พวกเราออกไปกันเถอะ”ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและเดินออกไปที่ดาดฟ้าพร้อมกับทีมเขี้ยวหมาป่า
ดาดฟ้าเต็มไปด้วยผู้คนเพราะเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ต่างก็เดินออกมาจากห้องพวกเขาทุกคนต่างก็ต้องการเข้าสู่เกาะทมิฬเพื่อช่วงชิงอุปกรณ์วิญญาณที่นั่น
ฉิงเฟิงมองจากระยะไกลและเห็นเกาะสีดำขนาดใหญ่ที่มีก้อนหินเป็นสีดำต้นไม้สีดำดอกไม้สีดำและทุกอย่างที่เป็นสีดำ !
ฉิงเฟิงมีสีหน้าซีเรียสจริงจังในขณะที่คนอื่นๆมีสีหน้ายินดีปรีดาเขาสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่ออกมาจากเกาะทมิฬด้วยประสาทสัมผัสอันเฉียบคมของเขา
ไม่ต้องสงสัยเลยไม่เพียงแค่ฉิงเฟิงที่สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ คนอื่นๆเช่นฮวาเซียนจือ กู่เซียว ฉินเซียนจื่อและหัวหน้าของเหล่าคนจากนิกายแวมไพร์ก็รู้สึกได้เช่นเดียวกัน
เรือโดยสารมุ่งหน้าไปยังเกาะทมิฬพื้นผิวของมหาสมุทรตลอดทางนั้นช่างน่ากลัวอย่างยิ่งเพราะเต็มไปด้วยซากเรือที่แตก ดูเหมือนว่ามีเรืออย่างน้อยหลายร้อยลำถูกทำลายลงที่นี่
เหล่ากองกำลังทหารนับไม่ถ้วนต่างเป็นศพลอยอยู่บนเรือแตกมีบางส่วนกลายเป็นโครงกระดูกที่น่าหวาดกลัวลอยอยู่บนทะเลรอบเกาะ
ใบหน้าที่ดูตื่นเต้นดีใจของผู้คนถูกแทนที่ไปด้วยใบหน้าที่หวาดผวาเพราะซากศพของคนนับพันที่ลอยอยู่รอบเกาะทำให้พวกเขาต้องประหลาดใจ
ยิ่งพูดถึงศพที่ไม่ได้ลอยรอบเกาะแต่จมอยู่ในทะเลก็ทำให้ไม่มีผู้ใดรู้เลยว่ามีกี่คนที่เสียชีวิตลงที่นี่
มันอยู่ห่างจากเกาะทมิฬไปมากกว่าสิบไมล์ดังนั้นคนเหล่านั้นก็ไปไม่ถึงเกาะจนกระทั่งทิ้งชีวิตไว้ที่จุดนี้ ยิ่งเข้าใกล้เกาะมากเท่าไหร่ก็จะมีซากเรือและศพมากขึ้นเท่านั้น บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยกลิ่นเลือด
ฉิงเฟิงทอดสายตามองไปที่ศพในทะเลเหล่านี้ด้วยความเงียบสงบไม่น่าแปลกใจที่เกาะแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสิบเกาะที่อันตรายที่สุดในมหาสมุทรแปซิฟิก
กริ๊งงงงง
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในทันทีทำลายความเงียบฉิงเฟิงหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาดูและพบว่ามันมาจากราชาอสูรสิงโต “ราชาอสูรสิงโตคุณอยู่ที่ไหนฉันกำลังจะไปถึงแล้ว” ฉิงเฟิงกดปุ่มรับสายและถามขึ้นทันที
“นายน้อยที่นี่มีศพเดินได้ที่น่ากลัวยิ่ง ท่านไม่ควรมา !” ราชาอสูรสิงโตกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว
ในช่วงสองสามวันแรกที่ราชาอสูรทั้งสองคนติดอยู่บนเกาะแห่งนี้นั้นถือว่ายังปกติสุขแต่หลังจากนั้นพวกเขาก็พบกับสิ่งที่น่ากลัวและความแปลกประหลาดมากขึ้นทุกที แมงมุมที่มีใบหน้าเป็นหน้ามนุษย์อย่างน่าเหลือเชื่อและศพเดินได้ สิ่งเหล่านี้อยู่นอกเหนือจินตนาการของพวกเขา