My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 882 การต่อสู้เพื่อดอกไม้จิตวิญญาณสายฟ้า
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 882 การต่อสู้เพื่อดอกไม้จิตวิญญาณสายฟ้า
ในเมื่อดอกไม้จิตวิญญาณสายฟ้าเป็นสิ่งล้ำค่า,ผู้คนจำนวนมากจึงต่อสู้กันเพื่อมัน
ทีมนักสู้ที่เข้าแข่งขันเหล่านี้ไม่เพียงแค่ต่อสู้เพื่อแย่งโทเค็นของอีกฝ่ายแต่ยังรวมไปถึงดอกไม้นี้อีกด้วย
เนื่องจากมีผู้คนมากมายมารวมตัวกันที่นี่ฮวาเซียนจือจึงตัดสินใจส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังฉิงเฟิงเพราะเธอรู้ว่าฉิงเฟิงแข็งแกร่งเพียงใด
ทันใดนั้นเองก็มีอีกสองทีมที่ได้รับความสนใจจากฮวาเซียนจือ ซึ่งก็คือตระกูลบูชิโดและตระกูลคาราเต้จากเกาะแปซิฟิก
การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ของเหล่ายอดฝีมือในทวีปมังกรจัดขึ้นในเกาะแปซิฟิกและทีมส่วนใหญ่ก็เป็นทีมจากประเทศนี้และพวกเขามีถึงสี่ทีมอีกทั้งยังมาจากตระกูลระดับสูงสุดยกเว้นตระกูลนินจาที่อยู่ในอันดับห้าที่ไม่ได้เข้าร่วม
นอกเหนือจากทีมของเกาะแปซิฟิกแต่ละประเทศต่างก็มีตัวแทนเพียงแค่ทีมเดียว ซึ่งทีมเหล่านี้ต่างก็หวั่นเกรงต่อทั้งสี่ทีมจากเกาะแปซิฟิก
ในตอนนี้สุดยอดทีมของเกาะแปซิฟิกมารวมตัวกันที่นี่ถึงสามทีมด้วยถึงแม้ว่าตระกูลดาบปีศาจจะไม่ได้ปรากฏตัวแต่เพียงแค่ที่อยู่ตรงนี้ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทีมของเกาะแปซิฟิกนั้นแข็งแกร่งที่สุด
แม้ว่าฮวาเซียนจือจะมีพลังเหนือกว่าระดับแกรนด์มาสเตอร์และแข็งแกร่งพอที่จะกำจัดทุกคนในที่นี้ได้แต่ในฐานะหัวหน้าทีม เธอก็ไม่ยินดีที่จะเห็นเพื่อนร่วมทีมต้องบาดเจ็บล้มตายเป็นธรรมดา
พายุสายฟ้าจะผ่าต่อเนื่องถึงสามชั่วโมงภายในหุบเขาอัสนีและหยุดเพียงแค่สามนาทีเท่านั้น ในช่วงเวลานี้นับเป็นโอกาสที่เหมาะเจาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการดอกไม้จิตวิญญาณสายฟ้า อย่างไรก็ตามทุกคนจะต้องเริ่มต่อสู้แก่งแย่งกันภายในสามนาทีนี้และใครก็ตามที่ไม่สามารถออกไปได้ทันเวลาก็จะถูกสายฟ้าอันบ้าคลั่งโจมตี
“ดอกไม้นี้เป็นของตระกูลเคนโด้ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะไม่แก่งแย่งกับข้ายามที่สายฟ้าสงบลง” ซาบุโร่กล่าวกับทุกคนด้วยรอยยิ้มอันเย็นชา
ซาบุโร่เป็นหนึ่งในแกรนด์มาสเตอร์ที่ทรงพลังมากและเขายังเป็นที่รู้จักกันในนามราชาดาบที่สามแห่งเกาะแปซิฟิกเหล่าผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นๆที่อ่อนแอต่างก็เต็มไปด้วยความกลัวหลังจากได้ยินที่ซาบุโร่พูด
แม้ว่าพวกเขาต้องการดอกไม้นี้แต่พวกเขาก็ตัดสินใจเลิกล้มความตั้งใจเพราะตระกูลเคนโด้แข็งแกร่งเกินไป
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่ยอมถอนตัวทีมที่แข็งแกร่งบางทีมเช่นตระกูลชาแมน สมาคมมือสังหารรัสเซียและทีมหัวเซี่ยต่างก็ไม่ยอมล่าถอย เช่นเดียวกับตระกูลบูชิโดและตระกูลคาราเต้พวกเขาไม่ได้ล่าถอยเช่นกันในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลผู้มีอำนาจทั้งห้าของเกาะแปซิฟิก พวกเขาแข็งแกร่งเท่าเทียมกับตระกูลเคนโด้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กลัวคำขู่ของกันและกัน
ฉิงเฟิงมาถึงหุบเขาอัสนีและได้เห็นผู้คนกว่าสิบทีมที่จ้องมองเขาอย่างเงียบงัน
“เจ้าหนูดอกไม้นั่นสามารถชำระกายาของเจ้าและเพิ่มประสิทธิภาพของการบ่มเพาะกายาแดนชำระได้ด้วย ของดีนะนั่น” เสียงของจักรพรรดิราตรีปรากฎในใจของฉิงเฟิง
เมื่อได้ยินว่าดอกไม้นั่นสามารถเพิ่มพลังให้เขาได้ฉิงเฟิงก็เต็มไปด้วยความสุข
“
ดอกไม้จิตวิญญาณสายฟ้าต้องเป็นของฉัน
!
“ ฉิงเฟิงลอบสาบานในใจ
“ฉิงเฟิงข้าดีใจที่เจ้ากลับมา พวกเราต้องระวังการลอบโจมตีหลังจากได้ดอกไม้ !”
ฮวาเซียนจือกล่าวกับฉิงเฟิงด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนและงดงาม
ฉิงเฟิงพยักหน้าและกล่าวว่า“คนจากเกาะแปซิฟิกมารวมกันอยู่ที่นี่มากมายและพวกเขาก็เป็นกลุ่มที่ทรงพลังที่สุด ฉันเกรงว่าต่อให้พวกเราได้ดอกไม้ไป พวกเขาก็จะตามล่าเรา”
“หลี่ฉิงเฟิงเจ้ามั่นใจมากนักหรือไงว่าจะเป็นผู้ที่ได้ดอกไม้จิตวิญญาณสายฟ้าไป ”
ทันใดนั้นเองเสียงเย็นชาก็ดังขึ้น
เสียงนี้เป็นของหัวหน้าทีมชาแมน,ยอดฝีมือระดับแกรนด์มาสเตอร์ที่ทรงพลัง
ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและตอบโต้กลับด้วยความหยิ่งทะนงว่า“ดอกไม้นี้ต้องเป็นของฉัน ถ้าแกกล้ามาแย่งกับฉัน ระวังจะถูกฟ้าผ่าเอานะ” ทุกคนที่ได้ยินคำพูดอวดดีเช่นนี้ต่างก็หัวเราะเยาะฉิงเฟิง
“เฮอะเจ้าคิดว่าตัวเองเป็นเทพสายฟ้าหรือไง ”
“ฮ่าๆๆใช่เลย สายฟ้าฟาดใส่งั้นหรือ ไหน ลองดูซี่ข้ายืนอยู่ตรงนี้แล้วไง ผ่าใส่ข้าเลยถ้าแกทำได้ !”
“เอาซี่! ถ้าข้าโดนสายฟ้าฟาดใส่ ข้าจะยอมถอนตัวจากการแข่งขันเลย !”
ทุกคนรอบๆต่างก็ระเบิดเสียงหัวเราะและเยาะเย้ยถากถางฉิงเฟิง
ในบรรดาทุกคนที่เยาะเย้ยล้อเลียนฉิงเฟิงชาแมนคือผู้ที่พร่ำออกมามากที่สุด เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่ไม่พอใจฉิงเฟิงในที่นี้ เพราะเขารู้ว่าฉิงเฟิงได้ฆ่าชาแมนที่เป็นลูกศิษย์ของเขาบนเกาะทมิฬ เขาต้องการล้างแค้นฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงเหลือบมองชาแมนและพึมพำอาคมอัสนีในใจของเขาปรากฏสายฟ้าบนท้องฟ้าลากเส้นสายที่ทรงอำนาจขึ้นมาทันที ตูม
!!!
สายฟ้าสีแดงจากท้องฟ้าผ่าลงใส่ร่างของชาแมนหนุ่มคนหนึ่งในทีมชาแมนร่างของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำและถูกเผาไหม้ในขณะที่เขาล้มลงอย่างหนักบนพื้นและเริ่มชักกระตุก ทันใดนั้นเขาก็สิ้นลมหายใจและตกตายไป
“บอกแล้วไงว่าอย่าปากมอมดูซิโดนอะไรเข้าไปจนได้ สายฟ้าฟาดไง !”
ฉิงเฟิงแสร้งทำเป็นแสดงความสงสารและกล่าวเย้ยหยันชาแมน
หลังจากได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นผู้คนเริ่มแสดงอาการหวาดกลัวฉิงเฟิงพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
ชาแมนหัวหน้าทีมมองไปที่ศพของชาแมนหนุ่มและเริ่มมีสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธเนื่องจากว่าชาแมนหนุ่มที่ตายเพราะสายฟ้าฟาดคนนี้เป็นรุ่นเยาว์ของนิกายที่เต็มไปด้วยศักยภาพมหาศาลพอที่จะเป็นสุดยอดชาแมนในอนาคต อย่างไรก็ตาม เขาตกตายไปเสียแล้ว
ฉิงเฟิงกลายเป็นผู้ถูกคาดโทษเนื่องจากความตายของชาแมนหนุ่มเขาถูกจ้องมองด้วยความเกลียดชัง
ภายนอกหุบเขาอัสนีส่งครามจะเริ่มขึ้นได้ทุกวินาที บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด !
ฮวาเซียนจือและฉินเซียนจื่อเดินตามหลังฉิงเฟิงและจ้องมองไปที่ชาแมนหากการต่อสู้เปิดฉากขึ้นเมื่อใด ผู้หญิงสองคนนี้ก็จะลงมืออย่างแน่นอน
“ตายซะหลี่ฉิงเฟิง !!!” ชาแมนวัยกลางเริ่มสูญเสียการควบคุม เขาเป็นคนแรกที่เริ่มลงมือ
ชาแมนวัยกลางคนโบกมือที่เป็นสีดำทมิฬราวกับหมึกดำมันเต็มไปด้วยพลังแห่งความน่าสยดสยองที่ซัดผ่านอากาศและเล็งไปที่ฉิงเฟิงอย่างเหี้ยมเกรียม ฉิงเฟิงยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงแต่ฉินเซียนจื่อเริ่มขยับตัวแล้ว เธอเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็วและสัมผัสตัวชาแมนวัยกลางคนอย่างแผ่วเบาด้วยนิ้วมือเรียวงามของเธอ เป็นที่น่าแปลกใจ จู่ๆนิ้วมือของเธอก็เต็มไปด้วยพลังอันน่าตื่นตระหนก หลุมเลือดปรากฏขึ้นบนร่างของชาแมนวัยกลางและจบชีวิตเขาทันที
“นะ…นี่มันดัชนีจักรพรรดิเพลิง เด็กสาวอย่างเจ้ารู้เคล็ดวิชาดัชนีจักรพรรดิเพลิงด้วยงั้นหรือ ” หัวหน้าของทีมชาแมนมองออกถึงเคล็ดวิชาที่ฉินเซียนจื่อใช้ออก ใบหน้าของเขากลายเป็นหวาดหวั่น
ดัชนีจักรพรรดิเพลิงเป็นวิชาระดับสุดยอดของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้มีข่าวลือว่าวิชานี้เหนือล้ำกว่าเคล็ดวิชาทั้งหมดในบรรดาสรรพวิชาของผู้ฝึกยุทธ์โบราณ อย่างไรก็ตาม มีผู้ฝึกยุทธ์บางคนกล่าวว่าวิชานี้ไม่ควรนับเป็นวิชาระดับผู้ฝึกยุทธ์แล้ว แต่มันเป็นเคล็ดวิชาระดับผู้ฝึกตน ! แม้ว่าวิชานี้จะเป็นที่ถกเถียงกันถึงระดับของมันแต่มันก็เป็นวิชาที่ฝึกฝนยากที่สุดของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ จนถึงตอนนี้มีเพียงจ้าวตำหนักเท่านั้นที่รู้วิธีและใช้มันได้ แต่เด็กสาวเยาว์วัยอย่างฉินเซียนจื่อกลับใช้มันได้อย่างไม่คาดฝัน
“เจ้าหนูแม่นางคนสวยผู้นั้นกับวิชาดัชนีจักรพรรดิเพลิงของเธอไม่ธรรมดา”
น้ำเสียงชื่นชมของจักรพรรดิราตรีดังขึ้นในใจของฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและพูดโต้ตอบกับจักรพรรดิราตรีในใจว่า“ผู้อาวุโส ในร่างเธอมีพลังบางอย่างซุกซ่อนงั้นหรือ ”
“สมควรเป็นเช่นนั้นดูเหมือนว่าจะมีผู้ฝึกตนท่านหนึ่งทิ้งพลังบางอย่างไว้ในร่างกายของเธอ ยามที่เธอปลดผนึกที่ว่านั้นออก เธอจะกลายเป็นหนึ่งในตัวตนไร้เทียมทานเชียวละ” จักรพรรดิราตรีกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมจริงจัง