My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 884 หมัดทลายนรกานต์ !
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 884 หมัดทลายนรกานต์ !
วูบ!
ฉิงเฟิงเหยียดมือขวาออกในทันทีและคว้าจับดาบของซาบุโร่ไว้ด้วยฝ่ามือของเขา
อะไรกัน
มันจับดาบข้าได้ด้วยมือเปล่า
!
ใบหน้าของซาบุโร่ซีดเซียวและดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ดาบนี้เป็นอาวุธระดับแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสูงของซาบุโร่เขารู้ลึกซึ้งถึงพลังของมันเป็นอย่างดี มันสามารถตัดผ่านแผ่นเหล็กไทเทเนียมได้อย่างง่ายดายราวกับตัดเต้าหู้ จะเป็นไปได้อย่างไรที่หลี่ฉิงเฟิงจะสามารถคว้าจับมันได้ด้วยมือเปล่า
“พระเจ้าเขาจับดาบด้วยมือเปล่า หลี่ฉิงเฟิงผู้นี้เหลือเชื่อเกินไปแล้ว นี่มันอาวุธระดับแกรนด์มาสเตอร์เชียวนะ !” “ใช่เลยชายคนนี้ทรงพลังเกินไปแล้ว เขารับดาบของซาบุโร่ด้วยฝ่ามือ !”
“ข้าเคยคิดว่าซาบุโร่ไร้เทียมทานในฐานะราชาดาบที่สามไม่คิดว่าเขาจะกระจอกเช่นนี้”
ทุกคนที่อยู่โดยรอบต่างก็พูดคุยกันขณะชี้ไปที่ซาบุโร่
ผู้คนเหล่านี้ต่างก็มาจากกองกำลังใหญ่ๆของหลายๆประเทศภายในทวีปมังกรเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่กลัวอิทธิพลของตระกูลเคนโด้และเริ่มเยาะเย้ยเขา
ใบหน้าของซาบุโร่เริ่มมืดมนเขามองฉิงเฟิงด้วยความโกรธ เขาหวังจะฆ่าชายผู้นี้ที่ทำให้เขากลายเป็นตัวตลกให้จงได้ !
ซาบุโร่ใช้กำลังทั้งหมดกดดาบลงไปใส่ฉิงเฟิงแต่ฉิงเฟิงกลับไม่ขยับแม้แต่นิ้วเดียว
ฉิงเฟิงใช้เพียงฝ่ามือขวาของเขาในการรับดาบเท่านั้นแต่มันเหมือนกับว่ามีภูเขากำลังถ่วงน้ำหนักไว้อยู่ มือขวาของฉิงเฟิงจับดาบแน่นขึ้นและบิดดาบเป็นเกลียว
รูม่านตาของซาบุโร่หดเล็กลงหลังจากเห็นการกระทำนี้เขารู้ตัวแล้วว่าเขาประเมินพลังฉิงเฟิงต่ำเกินไป รูปแบบของร่างกายเขาล้วนทรงพลังจนเกินจินตนาการไปไกลโข
ฉิงเฟิงออกแรงบิดเล็กน้อยและเปลี่ยนดาบระดับแกรนด์มาสเตอร์ของซาบุโร่จนกลายเป็นเศษเหล็กจากนั้นก็โยนมันลงบนพื้น
“หลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งเกินไปทุกคนร่วมมือกันฆ่ามันซะ !” ใบหน้าของเปลี่ยนไปและหันไปบอกกับคนของตระกูลเคนโด้ที่อยู่ด้านหลัง
“ขอรับหัวหน้า!” สมาชิกทั้งเก้าคนจากตระกูลเคนโด้ต่างกระชับดาบไว้ในมือ
ไม่เพียงแค่ตระกูลเคนโด้เท่านั้นที่เตรียมจะลงมือแต่ยังรวมไปถึงทีมชาแมนอีกด้วย พวกเขาตื่นตระหนกมากเมื่อได้เห็นว่าฉิงเฟิงทรงพลังเพียงใด ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการอาศัยโอกาสนี้ฆ่าฉิงเฟิงพร้อมกับตระกูลเคนโด้ คนเป็นโหลร่วมมือกันโจมตีฉิงเฟิงพร้อมกันพวกเขาทั้งหมดมีเป้าหมายเดียวกันคือฆ่าเขาให้ได้ !
เมื่อเห็นว่าฉิงเฟิงกำลังตกอยู่ในอันตรายฮวาเซียนจือและฉินเซียนจื่อก็นำทีมหัวเซี่ยเคลื่อนไหวเตรียมจะช่วยเหลือเขาทันที
อย่างไรก็ตามทันทีที่ฮวาเซียนจือและทีมหัวเซี่ยเคลื่อนไหว ตระกูลบูชิโดและคาราเต้ของเกาะแปซิฟิกก็เคลื่อนที่มาขวางทางพวกเธอไว้ไม่ให้ไปช่วยฉิงเฟิง
ถึงแม้ว่าตระกูลบูชิโดและคาราเต้จะเป็นคู่แข่งกับตระกูลเคนโด้ก็ตามแต่พวกเขาล้วนเป็นชาวเกาะแปซิฟิกเหมือนกันและได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะจงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิ พวกเขาทั้งหมดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นว่าซาบุโร่กำลังจะลงมือเผด็จศึกต่อฉิงเฟิง พวกเขาก็ต้องช่วยเป็นธรรมดา
ใบหน้าของฉิงเฟิงมืดครึ้มลงดวงตาของเขาเป็นประกายเย็นยะเยือก เบื้องหน้าเขาคือยอดฝีมือเก้าคนของตระกูลเคนโด้ ส่วนด้านหลังเป็นคนของนิกายชาแมน พวกมันต้องการให้เขาตาย
“เฮ้เจ้าหนู ไม่ต้องกังวลนักหรอก จากประสบการณ์ของข้า กายาแดนชำระในชั้นแรกของเจ้าควรจะไร้เทียมทานต่อยอดฝีมือระดับแกรนด์มาสเตอร์แล้ว ตราบใดที่พวกมันไม่ใช่ผู้ฝึกตนหรือครอบครองอุปกรณ์วิญญาณ ไม่มีใครในที่นี้สร้างรอยขีดข่วนให้เจ้าได้” เสียงของจักรพรรดิราตรีดังขึ้นในใจของฉิงเฟิง
เมื่อได้ยินเสียงของจักรพรรดิราตรีฉิงเฟิงก็รู้สึกโล่งใจ เขารู้อยู่แล้วว่ากายาแดนชำระของเขานั้นแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขาไม่คิดว่ามันจะเหนือล้ำขนาดนี้ แม้กระทั่งแกรนด์มาสเตอร์ก็ไม่อาจทำอันตรายได้ ไม่น่าแปลกใจที่มันจะสามารถพัฒนาไปสู่ขั้นกายาอมตะได้
“พวกขยะเอ้ยเข้ามาเลย ฉันจะยืนอยู่เฉยๆให้พวกแกกลุ้มรุมให้หนำใจ ฉันกล้าพนันเลยว่าพวกแกทำอะไรฉันไม่ได้แน่” ฉิงเฟิงมองไปที่ศัตรูรอบๆตัวเขาและพูดอย่างหยิ่งผยอง
ฉิงเฟิงสังเกตว่าอาวุธที่คนเหล่านี้ใช้ล้วนเป็นอาวุธระดับแกรนด์มาสเตอร์แทบทั้งสิ้นพวกเขาไม่มีใครสักคนที่ใช้อาวุธวิญญาณ ดังนั้นไม่มีใครทำอันตรายเขาได้แน่ นี่จึงเป็นสาเหตุที่เขาพูดยั่วยุ
มันเป็นเรื่องจริงอุปกรณ์วิญญาณเป็นสมบัติล้ำค่าที่หาได้ยากมาก มันสมเหตุสมผลแล้วที่คนเหล่านี้จะไม่มีอุปกรณ์วิญญาณในครอบครอง
“หลี่ฉิงเฟิงแกกล้าดียังไงมาว่าพวกเราว่าขยะ แกเป็นคนตายแล้ว !” ทุกคนต่างโกรธเกรี้ยวอย่างมาก ไม่เพียงแค่ผู้คนจากตระกูลเคนโด้เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงนิกายชาแมนอีกด้วย
พวกเขาทุกคนล้วนแต่เป็นแกรนด์มาสเตอร์ผู้สูงส่งของแต่ละพื้นที่ผู้คนนับหมื่นแสนล้วนเคารพต่อพวกเขา แล้วฉิงเฟิงกล้าเปรียบเทียบพวกเขาเป็นขยะได้อย่างไร เปรี้ยงเปรี้ยง ปัง ปัง ปึง ปัง
!!!!
…
อาวุธมากกว่าสิบชิ้นโจมตีใส่ร่างของฉิงเฟิงมันมีทั้งดาบ กระบี่ ไม้เท้า กระบอง แต่ทว่า อาวุธทุกชิ้นที่กระทบร่างเขากลับหักเป็นเสี่ยงๆไม่ก็แตกสลายและร่วงลงกับพื้นทันที
ทุกคนที่โจมตีฉิงเฟิงต่างตาค้างและรู้สึกราวกับว่าพวกเขากลายเป็นหิน
ชายคนนี้เป็นมนุษย์หรือผีกันแน่ ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขนาดไหนกันถึงทำให้อาวุธระดับแกรนด์มาสเตอร์นับสิบชิ้นแหลกเป็นเสี่ยงๆได้ ?
หลังจากเชี่ยวชาญการบ่มเพาะกายาของผู้ฝึกตนขั้นแรกแล้วร่างกายของฉิงเฟิงก็ไร้เทียมทานต่อการโจมตีของผู้ฝึกยุทธ์ในขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อีกแล้วนอกจากผู้ฝึกตน
“พวกนายไปตายได้แล้ว”ฉิงเฟิงมองไปที่คนนับสิบคนรอบๆตัวเขาและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
“
หมัดทลายนรกานต์
!!
“
(นรกานต์ = นรก)
ฉิงเฟิงคำรามและง้างหมัดขวาชกออกไปต่อผู้คนที่อยู่เบื้องหน้าอย่างเฉียบพลัน
หมัดทลายนรกานต์เป็นเพลงหมัดจำเพาะที่เป็นผลพวงมาจากการฝึกกายาแดนชำระด้วยรูปแบบของกายาที่วัฒนาการขึ้นจากเคล็ดวิชาของผู้ฝึกตน เพียงแค่หมัดแรกก็เกิดเป็นแรงระเบิดที่รุนแรง
พลังจากหมัดนี้ต่างจากหมัดของฉิงเฟิงก่อนหน้านี้ทั้งสิ้นตอนนี้เขาอยู่ขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ขั้นปลายแล้ว โดยปกติความแข็งแกร่งของหมัดนั้นจะอยู่ที่ 13,000 กิโลกรัม แต่เนื่องจากฉิงเฟิงได้กลั่นและชำระกายาจากเคล็ดวิชาของผู้ฝึกตนไปเรียบร้อยแล้ว หมัดนี้ของเขาจึงมีพลังเป็นสองเท่าของแกรนด์มาสเตอร์ซึ่งก็คือ 26,000 กิโลกรัม !
ลองคิดดูว่ามันจะให้ความรู้สึกอย่างไรเมื่อถูกชกด้วยหมัดที่หนักถึง26,000 กิโลกรัม มันจะระเบิดร่างกายของมนุษย์ได้อย่างแน่นอน !
เปรี้ยง
!!
ร่างกายของชายคนแรกที่สัมผัสถูกหมัดทลายนรกานต์ของฉิงเฟิงระเบิดเป็นชิ้นๆในพริบตาโลหิตสาดกระเซ็นและย้อมสีพื้นที่แถบนั้นให้เป็นสีแดง
ความเงียบ
หุบเขาอัสนีตกอยู่ในความเงียบทุกคนต่างตกตะลึง พวกเขาต่างก็เคยเห็นคนที่โหดเหี้ยมดุดันมาก่อน แต่ก็ไม่มีใครเท่าหลี่ฉิงเฟิง เขาเป็นดั่งมัจจุราชจากขุมนรก
“ปะ..ปีศาจ !!! ทุกคนหนีเร็ว !” ผู้คนรอบข้างต่างหวาดกลัว ใบหน้าซีดเผือดในขณะที่พวกเขากรีดร้องอย่างน่าสังเวชและเริ่มหลบหนีไป
พวกเขาจะไม่กลัวได้อย่างไร ชายคนนี้เป็นดั่งปีศาจร้าย อาวุธไม่สามารถผ่านผิวหนังของเขาไปได้ แถมหมัดของเขาก็ระเบิดร่างของยอดฝีมือระดับแกรนด์มาสเตอร์ได้ในพริบตา !
ปังปัง ปัง …
ฉิงเฟิงไม่ยอมปล่อยให้ใครรอดไปได้อย่างแน่นอนพวกมันทั้งหมดคือศัตรูของเขาและเจตนาจะฆ่าเขาก่อน ซึ่งต่อให้พวกเขาแยกย้ายกันหนี แต่ความเร็วของฉิงเฟิงก็รวดเร็วพอที่จะไล่ทันพวกมันทุกคน เขาระเบิดร่างของผู้คนตระกูลเคนโด้และนิกายชาแมนทีละคนๆ
ถึงแม้ว่าคนของตระกูลเคนโด้และนิกายชาแมนจะแข็งแกร่งในถิ่นของพวกเขาและถูกยกย่องว่าเป็นสุดยอดฝีมือแต่เมื่อต้องมาเป็นคู่ต่อสู้ของฉิงเฟิงในยามนี้ ชะตาของพวกเขาก็นับว่าถึงฆาตแล้ว ไม่มีใครสักคนที่สามารถทนรับหมัดของเขาได้แม้แต่เพียงหมัดเดียว
“อิซุซาบุโร่ คนของนายตายหมดแล้ว นายคือรายต่อไป” ด้วยหมัดขวาที่ชุ่มไปด้วยเลือด ฉิงเฟิงหันกลับมามองซาบุโร่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร