My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 887 ผู้ใดกันที่มีโทเค็นมากที่สุด
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 887 ผู้ใดกันที่มีโทเค็นมากที่สุด
ด้วยระดับพลังแท้ในปัจจุบันของเขาเขาสามารถเรียกสายฟ้าได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นหากไม่มีฝนฟ้าคะนองบนท้องฟ้า ดังนั้นหากจะใช้พลังนี้เขาจะต้องคิดให้ดี
เมื่อทีมหัวเซี่ยและฉิงเฟิงเดินออกมาทุกคนต่างก็มองด้วยความตกใจฉิงเฟิงมีโทเค็นในครอบครองมากเกินไป อย่างน้อยก็สองร้อยอัน !
อีกทั้งทีมหัวเซี่ยก็เป็นทีมสุดท้ายออกมาไม่มีทีมอื่นติดตามอยู่ข้างหลังพวกเขา
เมื่อพวกเขาเห็นโทเค็นมากมายที่ฉิงเฟิงพวกเขาก็สามารถอนุมานได้ว่าผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหมดที่ยังไม่ออกมาต่างถูกฉิงเฟิงสังหารไปแล้ว
ตัวแทนของเกาะแปซิฟิกและเกาหลีมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยสายตาเย็นยะเยือกและเจตนาฆ่า “ซากุระ,ซาบุโร่อยู่ที่ไหน ” อิซุ โอโนะยืนขึ้นและถามหัวหน้าทีมบูชิโด
หัวหน้าทีมบูชิโดอายุประมาณ40 ปี เขามีหนวดดำใต้จมูกและส่งกลิ่นอายที่แข็งแกร่งออกมา
“เรียนท่านโอโนะ,ท่านซาบุโร่และสมาชิกทั้งหมดของทีมเคนโด้ถูกหลี่ฉิงเฟิงสังหารหมดสิ้นแล้วขอรับ” ซากุระกล่าวด้วยความชิงชังอย่างสุดแสน
ซากุระและซาบุโร่เป็นสหายกันเขาโกรธแค้นที่ฉิงเฟิงฆ่าซาบุโร่เป็นอย่างมาก แต่เขาก็ไม่มีพลังมากพอที่จะไปล้างแค้นให้กับสหายที่ตายไป ดังนั้นเขาจึงบอกต่อโอโนะว่าเกิดอะไรขึ้นเพื่อที่จะให้โอโนะล้างแค้นแทน
ซากุระโกรธแค้นมากเขาไม่เพียงแค่ตะโกนออกมาว่าฉิงเฟิงฆ่าซาบุโร่ แต่ยังกล่าวเสริมอีกว่าฉิงเฟิงนั้นฆ่าหัวหน้าทีมชาแมนและทีมเทควันโด้อีกด้วย
ฮือฮา ~ ภายในพริบตาแทบทุกคนต่างมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยจิตสังหารในดวงตา จิตสังหารเหล่านี้มาจากคนของเกาะแปซิฟิก, ฟิลิปปินส์และกองกำลังเกาหลี
“เจ้า… เจ้ากล้าดียังไงถึงได้สังหารคนของตระกูลเคนโด้ เจ้าอยากตายหรือไง ”
ทันใดนั้นเองโอโนะก็ยืนขึ้นและกล่าว
“หลี่ฉิงเฟิงข้าจะฆ่าแกเพื่อล้างแค้นให้กับคนของตระกูลเทควันโด้ !” ชายคนหนึ่งผุดลุกขึ้นยืนและร่ำร้องออกมา ชื่อของเขาคือปาร์ค อูหลง ตัวแทนของเกาหลี
“แกฆ่าสมาชิกของนิกายชาแมนของข้า”ชายวัยกลางคนสวมเสื้อคลุมสีดำยืนขึ้น ชายคนนั้นมาจากนิกายจอมเวทย์สวรรค์ซึ่งเป็นสาขาของนิกายชาแมน
ตัวแทนแทบทุกคนมองไปที่ฉิงเฟิงท่าทางของพวกเขาแทบจะพุ่งออกไปฆ่าฉิงเฟิงได้ทุกวินาที
ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและไม่สนใจสายตาเหล่านี้เขาไม่แคร์ที่จะต้องเผชิญหน้ากับพวกอ่อนแอที่ต้องการฆ่าเขาแม้แต่น้อย
มันจะเป็นการดีที่สุดที่พวกมันจะไม่พยายามฆ่าเขาเพราะเมื่อใดก็ตามที่พวกมันลงมือ ฉิงเฟิงก็ไม่รังเกียจที่จะเก็บกวาดในรวดเดียว
ชาวเฟิงอู่ลุกขึ้นยืนและเดินไปข้างหน้าทันทีกลิ่นอายที่น่าหวาดหวั่นแผ่กระจายออกมาจากร่างกายเธอและก่อรูปเป็นหมอกสีขาว ส่งผลให้ทุกคนต้องก้าวถอยหลัง
“มันเป็นกฎของการแข่งขันไม่มีใครจะต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตใดๆของผู้เข้าแข่งขัน การที่พวกเขาถูกสังหารก็หมายความว่าคนเหล่านั้นเป็นพวกไร้ค่า ดังนั้นการที่พวกคุณจ้องจะรุมกินโต๊ะหลี่ฉิงเฟิงนั้นหมายความว่าอะไร ” ชาวเฟิงอู่ยิ้มเยาะเย้ยและกล่าวขึ้นทันที
ใบหน้าของทุกคนแปรเปลี่ยนไปหลังจากพวกเขาได้ยินสิ่งที่เธอพูดพวกเขาทุกคนรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบดี แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าทีมของฝ่ายตนมิได้กลับออกมาและถูกหลี่ฉิงเฟิงสังหาร พวกเขาก็โกรธเกรี้ยว
ถ้าหากชาวเฟิงอู่ไม่ได้แข็งแกร่งตัวแทนเหล่านี้ก็คงไม่สนใจคำพูดเธอและลงมือต่อฉิงเฟิงในทันที แต่ประเด็นคือชาวเฟิงอู่คนนี้แข็งแกร่งอย่างยิ่ง พวกเขาต่างก็หวั่นเกรงต่อเธอไม่น้อย
เธอคือเทพีสงครามแห่งหัวเซี่ยแม้แต่ในทั่วทั้งทวีปมังกร ชาวเฟิงอู่ก็มีชื่อเสียงและสถานะที่สูงส่งเป็นอย่างมาก เหล่าตระกูลทั้งหลายต่างไม่กล้าเป็นศัตรูกับเธอ
“อิซุโอโนะ เกาะแปซิฟิกของเราเป็นสถานที่จัดการแข่งขันของทวีปมังกร เจ้ากล้าฝืนกฎงั้นหรือ ” ทันใดนั้นเองเสียงของผู้อาวุโสคนหนึ่งก็ดังกังวานขึ้น
ชายชราถือไม้เท้าคนหนึ่งเดินเข้ามาเขามีอายุร่วม 100 ปี ถึงแม้ว่าเขาจะชราแล้วแต่ฝีเท้าของเขาก็เบาและละเอียดอ่อนมาก ทั่วร่างเปล่งกลิ่นอายที่แข็งแกร่งออกมา
ชื่อของชายชราผู้นี้คืออิซุนากาโนะ เขาคืออาวุโสสองของตระกูลเคนโด้ เขามีอิทธิพลและพลังมากกว่าโอโนะ
สามผู้เฒ่าจากตระกูลเคนโด้ทุกคนล้วนทรงพลัง
แล้วอิซุนากาโนะเกลียดชังฉิงเฟิงหรือไม่ แน่นอนว่าใช่ ; เขาก็เป็นผู้หนึ่งที่ต้องการฆ่าฉิงเฟิงในทันที แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ของทวีปมังกร พวกเขาตกอยู่ท่ามกลางสายตาของตระกูลเก่าแก่มากมายในทวีปมังกร หากมีการฝ่าฝืนกฎ ชื่อเสียงของตระกูลเคนโด้จะต้องมัวหมอง
ชื่อเสียงของตระกูลเป็นเรื่องเล็กแต่สิ่งสำคัญคืออีเว้นต์ระดับทวีปเช่นนี้มันเป็นหน้าตาของประเทศอีกด้วย หากทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง ตระกูลอื่นๆของเกาะแปซิฟิกจะไม่มีทางให้อภัยตระกูลเคนโด้
การแข่งขันมีกฎและระบุว่าการต่อสู้และฆ่ากันนั้นสามารถทำได้อีกทั้งการแข่งขันก็ยังไม่จบ พวกเขาไม่อาจแตะต้องหลี่ฉิงเฟิงได้ “อาวุโสสองซาบุโร่ตายแล้ว ท่านต้องล้างแค้นให้เขา” โอโนะมองไปที่อาวุโสสองและพูดขึ้น
ซาบุโร่เป็นราชาดาบที่สามแห่งตระกูลเคนโด้เขาเป็นชายที่มากด้วยพรสวรรค์และมีความสำคัญอย่างยิ่งในสายตาของผู้อาวุโส เขาเป็นชายที่มีอนาคตที่สดใส
ซาบุโร่เป็นตัวแทนตระกูลเคนโด้ของเกาะแปซิฟิกและเป็นตัวเก็งที่จะชนะการแข่งขันไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเขาจะตายในรอบแรก
โชคดีที่อาวุโสสองรู้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการแตะต้องหลี่ฉิงเฟิงแม้พวกเขาอยากจะฆ่าฉิงเฟิงก็ยังไม่อาจทำได้ เว้นเสียแต่ว่าจะฆ่าเขาในระหว่างการแข่งขัน
“อาวุโสสามท่านกำลังหัวเสียและไม่เหมาะสมที่จะเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันอีกต่อไป ที่เหลือข้าจะรับหน้าที่แทนท่านเอง” อาวุโสสองของตระกูลเคนโด้ยิ้มอย่างเจิดจรัสและเดินไปที่สเตเดียม อาวุโสสามรู้ตัวดีว่าเขาแสดงเจตนาฆ่าออกมาชัดเจนมากต่อหน้าตัวแทนของกองกำลังทุกประเทศทุกคนต่างก็เห็นแล้วว่าเขาต้องการฆ่าหลี่ฉิงเฟิงมากเพียงใด ซึ่งมันจะทำให้ชื่อเสียงของเกาะแปซิฟิกต้องเสียหาย เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่เหมาะในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันอีกต่อไป
“ต้องขออภัยที่เสียมารยาทต่อหน้าทุกท่านเอาล่ะ พวกเราเริ่มการแข่งขันกันต่อเถอะ ตอนนี้ทุกท่านโปรดจัดแถวและบอกจำนวนโทเค็นที่ท่านได้มา ข้าจะได้ประกาศอันดับที่ 1-3 ของรอบนี้” อาวุโสสองยิ้มและกล่าวเสียงดัง
เสียงของอิซุนากาโนะดังกังวานมาก ทุกคนที่อยู่ในระยะหนึ่งไมล์ต่างก็ได้ยินเสียงของเขาโดยไม่ต้องอาศัยลำโพงเลยด้วยซ้ำ
เหล่าผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดต่างก็เดินเข้ามาและแสดงโทเค็นนักสู้ออกมา
ทันทีที่ฉิงเฟิงหยิบโทเค็นนักสู้ทั้งหมดที่มีออกมาทุกคนต่างก็ตกใจกับจำนวนโทเค็นที่ฉิงเฟิงครอบครอง มันมากเหนือจินตนาการของพวกเขา