My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 888 ยอมรับความพ่ายแพ้
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 888 ยอมรับความพ่ายแพ้
!
“หลี่ฉิงเฟิง200 โทเค็น !” ชายผู้ซึ่งรับผิดชอบในการนับโทเค็นไม่อาจทำใจเชื่อต่อสิ่งที่ได้เห็น
ไม่เคยมีผู้ใดครอบครองโทเค็นได้มากขนาดนี้มาก่อนแม้แต่ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดในช่วงสิบปีที่ผ่าน ถ้าให้ย้อนไปจริงๆแม้แต่ยี่สิบหรือสามสิบปีที่แล้วก็ยังไม่เคยมีใครมากขนาดนี้ !
สถิติก่อนหน้านี้ที่ถูกบันทึกไว้เป็นของหลี่ซานเย่ราชันผู้พิชิตแห่งหัวเซี่ย เขารวบรวมโทเค็นได้ถึง 150 ชิ้นในรอบแรก แต่ตอนนี้สถิติของเขาถูกทำลายแล้วด้วยน้ำมือของหลี่ฉิงเฟิง
ทุกคนตกตะลึงและทั่วทั้งสถานที่กลายเป็นเงียบกริบ
ในขณะนี้ทุกคนต่างมองไปที่หลี่ฉิงเฟิงสายตาที่มองไปมีทั้งอารมณ์ที่ซับซ้อน รวมไปถึงความอิจฉา ความชื่นชม ความเกลียดชังและเจตนาฆ่า
ความอิจฉาและความชื่นชมปรากฏบนใบหน้าของสมาชิกทีมหัวเซี่ยในขณะที่ความเกลียดชังและเจตนาฆ่ามาจากบรรดาเหล่าศัตรูของฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงตอบสนองต่อทุกสายตาเพียงแค่รอยยิ้มเขาไม่สนใจในสิ่งที่คนอื่นคิดต่อเขา เขาไม่ชอบชาวเกาะแปซิฟิก ดังนั้นเขาจึงทำให้พวกมันขายหน้า นอกจากนี้เขายังต้องการชนะการแข่งขันครั้งนี้ เขาเลยดึงความสนใจทั้งหมดมาสู่ตัวเอง
หลังจากฉิงเฟิงก็คือฮวาเซียนจือเธอมีโทเค็น 100 ชิ้นและเป็นอันดับที่ 2 ซึ่งน้อยกว่าฉิงเฟิงถึง 100 ชิ้นครั้ง
แน่นอนว่าเป็นเพราะเธอไม่ได้ใช้กำลังเต็มที่ถ้าหากเธอเอาจริงเธอคงได้โทเค็นมากกว่านี้
ส่วนอันดับที่สามคือฉินเซียนจื่อเธอมี 90 โทเค็นและน้อยกว่าฮวาเซียนจือ 10 ชิ้น ซึ่งเธอก็ยังไม่ได้ใช้พลังเต็มที่เช่นกัน “ขอแสดงความยินดีกับการได้อันดับ1 ในรอบแรก” ฮวาเซียนจือยิ้มและกล่าวกับฉิงเฟิง
น้ำเสียงของเธอนุ่มนวลและละเอียดอ่อนมันให้ความรู้สึกที่เย้ายวนและทำให้ผู้คนรู้สึกอยากฟังเสียงของเธอมากขึ้น
แต่เธอยังคงสวมผ้าคลุมหน้าดังนั้นฉิงเฟิงจึงไม่อาจเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอ เขาเห็นเพียงแค่เส้นสายที่ละเอียดของใบหน้าเธอและดวงตาที่สว่างไสวเท่านั้น
“ผู้ฝึกยุทธ์เหล่านั้นก็แค่อ่อนแอเกินไปมันเลยง่ายที่จะแย่งชิงโคเท็นของพวกมัน”
ฉิงเฟิงยิ้มและกล่าว
ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งที่ได้ยินคำพูดของฉิงเฟิงก็โพล่งขึ้นมาว่า“ไม่ใช่เพราะพวกเราอ่อนแอเกินไปหรอก แต่เป็นเพราะเจ้ามันแข็งแกร่งเกินไปอย่างน่าประหลาดต่างหาก”
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่เข้าแข่งขันทุกคนล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดจากแต่ละประเทศและเป็นที่เคารพของผู้คนมากมายแต่พอมาอยู่ต่อหน้าฉิงเฟิงในตอนนี้พวกเขาล้วนแต่อ่อนแอ
ฉิงเฟิงไม่สนใจสีหน้าเศร้าสร้อยของเขาก่อนที่เขาบอกว่าพวกเขาอ่อนแอก็เพราะไม่อยากทำลายชื่อเสียงของพวกเขามากเกินไปกว่านี้ ในสายตาของฉิงเฟิง คนเหล่านี้ล้วนไร้ค่า ด้วยกระบี่เพลิงคะนองในมือของเขา เขาสามารถสับสังหารผู้เข้าแข่งขันได้ครึ่งหนึ่งภายใต้การสะบัดกระบี่เพียงครั้งเดียว
ผู้คนจากเกาะแปซิฟิกล้วนโกรธกริ้วกันยกใหญ่เพราะอันดับที่ 1-3 ในรอบแรกเป็นคนหัวเซี่ยทั้งสิ้น พวกเขาเป็นคนที่จัดการแข่งขันในครั้งนี้ แต่อันดับกลับถูกคนประเทศอื่นขโมยไปหมด ตัวแทนของประเทศที่มาชมการแข่งขันรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
นอกจากนี้ผู้คนจากกองกำลังอื่นๆก็รู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจเช่นกันเพราะตำแหน่งสำคัญที่สุดถูกยึดครองโดยชาวหัวเซี่ย
“ผู้อาวุโสสองท่านไม่ต้องกังวลไป ยังเหลือการแข่งขันอีกสองรอบ ยังไม่แน่ว่าผู้ใดจะเป็นผู้ชนะ” อาวุโสสามของตระกูลเคนโด้ยิ้มและกล่าว
ผู้อาวุโสสองผงกศีรษะของเขาแต่ความผิดหวังในดวงตาของเขายังคงไม่จางหาย
“ขอแสดงความยินดีกับผู้เข้าร่วมทั้ง200 คนที่ผ่านรอบแรก ต่อไปเราจะจัดการแข่งขันในรอบที่สอง เราจะใช้การจับสลาก พวกท่านจับได้คู่กับใครก็ต้องสู้กัน”
อาวุโสสองกล่าวประกาศเสียงดัง
ในฐานะผู้ชนะในรอบแรกฉิงเฟิงเป็นคนแรกที่จับสลาก เขาได้เจอกับตูโบป หัวหน้าทีมรัสเซีย
ตูโบปเป็นพี่ชายของตูลูธเพื่อล้างแค้นให้น้องชายของเขา เขาต้องการฆ่าฉิงเฟิงให้ได้
ฉิงเฟิงเดินไปที่กลางสเตเดียมโดยมีตูโบปตามหลังมาฝูงชนต่างจับจ้องไปที่พวกเขาและอยากรู้ว่าผลจะออกมาอย่างไร
ถึงแม้จะมีหลายทีมกล่าวว่าหลี่ฉิงเฟิงทรงพลังอย่างสุดขั้วและสังหารทั้งซาบุโร่และหัวหน้าทีมชาแมน แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่ไม่ได้เห็นกับตาและไม่เชื่อข่าวลือ
ฝูงชนหวังว่าจะได้เห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหลี่ฉิงเฟิงในการต่อสู้ครั้งนี้
แต่ในวินาทีต่อมาทุกคนต่างก็ต้องตกใจเพราะหลังจากขึ้นเวที ตูโบปก็กล่าวออกมาทันทีว่า “กรรมการ ข้าขอยอมแพ้”
อะไร
ขอยอมแพ้
กรรมการตกตะลึงเช่นเดียวกับฝูงชนพวกเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหุบเขาจึงไม่รู้ว่าฉิงเฟิงแข็งแกร่งแค่ไหน ดังนั้นพวกเขาต่างก็เต็มไปด้วยความสงสัยว่าทำไมตูโบปถึงได้ขอยอมแพ้ก่อนจะสู้
ทุกคนรู้ดีว่าตูโบปเป็นศัตรูคู่อาฆาตของฉิงเฟิงอีกทั้งยังแข็งแกร่งมาก แต่แล้วทำไมบุคลเช่นนี้ถึงได้ยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายดายขนาดนี้ ตูโบปต้องการชีวิตฉิงเฟิงก็จริงแต่เขาก็รักชีวิต เขายังไม่อยากตาย เรื่องในหุบเขาอัสนี เขาก็เห็นกับตาว่าฉิงเฟิงทรงพลังเพียงใด ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่เขาจะต่อกรได้อีกแล้ว
ตูโบปไม่สนใจว่าผู้อื่นจะมองเขาอย่างไรหลังจากประกาศยอมแพ้ เขาก็เดินลงจากเวทีทันที
กรรมการเป็นคนจากเกาะแปซิฟิกถึงแม้ว่าเขาจะไม่แฮปปี้ที่ตูโบปละทิ้งการต่อสู้ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ และต้องดำเนินการแข่งขันต่อไป
คนต่อไปคือหนึ่งในตัวแทนของทีมประเทศไทยเมื่อเขาขึ้นไปที่สเตเดียม เขาก็พูดออกมาทันทีว่า “ข้าขอยอมแพ้เช่นกัน”
นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น
ฝูงชนตกใจอีกครั้งมันมีเหตุผลที่ตูโบปยอมแพ้ แต่ทำไมชายคนนี้ก็ยอมแพ้เช่นกัน
คุณเป็นถึงผู้ฝึกยุทธ์โบราณอย่างน้อยๆควรจะประมือกับเขาสักท่าสองท่าแล้วค่อยยอมแพ้ก็ยังไม่สาย แต่นี่เขากลับยอมแพ้ทันทีโดยไม่ทันจะสู้
ยอดฝีมือจากทีมประเทศไทยไม่สนใจเสียงติฉินนินทาของทุกคนเขาเดินลงจากเวทีในทันที
คนที่สามคือผู้ฝึกยุทธ์จากประเทศสิงคโปร์และเป็นหนึ่งในแกรนด์มาสเตอร์ที่แข็งแกร่งเช่นกันเขาค่อนข้างโด่งดังในยุทธภพของทวีปมังกร
ชื่อของเขาคือหลี่เทียนหมิงเขามีแซ่เดียวกันกับฉิงเฟิง ตัวแทนของแต่ละประเทศต่างก็รู้จักเขาเช่นกัน
“นั่นหลี่เทียนหมิงนี่นาเขาเป็นแกรนด์มาสเตอร์จากสิงคโปร์ เอาชนะหลี่ฉิงเฟิงให้ได้”
“ใช่แล้วเขาไม่เหมือนตูโบปที่ยอมแพ้ทันทีแน่นอน ทุบตีหลี่ฉิงเฟิงเลย !”
“หลี่เทียนหมิงพวกเราเชื่อว่าท่านต้องชนะเขาได้” ฝูงชนต่างกลัวว่าหลี่เทียนหมิงจะเป็นอย่างคู่ต่อสู้ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนที่ยอมแพ้ในทันทีดังนั้นพวกเขาจึงตะโกนปลุกใจหลี่เทียนหมิงทันทีที่เขาเดินขึ้นไปบนสเตเดียม
เหล่าตัวแทนของแต่ละประเทศไม่รู้เกี่ยวกับความแข็งแกร่งของหลี่ฉิงเฟิงดังนั้นพวกเขาจึงต้องการให้มีใครสักคนกล้าที่จะสู้กับเขาเพื่อดูว่าหลี่ฉิงเฟิงได้โทเค็นถึง 200 ชิ้นมาได้อย่างไร
หลี่เทียนหมิงสีหน้าดูไม่ดีนักและไม่พอใจกับเสียงโห่ร้องของฝูงชนพวกเขาบังคับทางอ้อมให้เขาต้องต่อสู้หลี่ฉิงเฟิง ซึ่งเหมือนเป็นการขอให้เขาไปตาย เขาไม่ได้โง่ขนาดนั้น
หลี่เทียนหมิงเป็นอีกคนที่รู้ว่าหลี่ฉิงเฟิงทรงพลังเพียงใดและรู้ตัวว่าเขาไม่ใช่คู่มือของชายผู้นี้เช่นกัน