My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 894 ตบตายทั้งหมด !
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 894 ตบตายทั้งหมด !
ตอนที่ 894 ตบตายทั้งหมด !
“ฉันก็อยากจะเห็นนักว่าแกจะฆ่าราชาอสูรค้างคาวม่วงได้อย่างไร!”
มีเสียงดังขึ้นปรากฏร่างของฉิงเฟิงที่ยิ้มอย่างเย็นชาออกมาจากด้านหลัง
หลังจากได้เห็นการมาถึงของฉิงเฟิงปฏิกิริยาของผู้พิทักษ์ปีกซ้ายก็เปลี่ยนไป ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจเพราะเขารุ้ว่าฉิงเฟิงคือใคร
ฉิงเฟิงพยายามจะฆ่าพวกเขาทุกคนตอนที่อยู่เกาะทมิฬแต่คนของนิกายแวมไพร์สามารถหนีรอดไปได้ หลังจากนั้นผู้พิทักษ์ปีกซ้ายจากนิกายแวมไพร์ก็ได้รับคำสั่งจากจ้าวนิกายให้มาตามล่าราชาอสูรค้างคาวม่วงที่เกาะแปซิฟิก ดังนั้นพวกเขาจึงมุ่งหน้ามาที่นี่ทันที
“หลี่ฉิงเฟิงเรื่องนี้เป็นบุญคุณความแค้นของนิกายแวมไพร์กับชายหนุ่มผู้นี้ เจ้าไม่เกี่ยวอย่าสอดมือ” ผู้พิทักษ์ปีกซ้ายกล่าวอย่างเย็นชา ใบหน้าของเขามืดมน
“ราชาอสูรค้างคาวม่วงเป็นคนของพ่อฉันดังนั้นมันก็คือเรื่องของฉัน” ฉิงเฟิงยิ้มและเดินตรงไปข้างหน้า
สาวกของนิกายแวมไพร์เห็นฉิงเฟิงเดินมาข้างหน้าจึงเหยียดมือออกมาขวางทางเขาไม่ให้เขาเดินไปต่อ
ปัง
!
ฉิงเฟิงชูฝ่ามือขึ้นและฟาดใส่สาวกคนนั้นจนตายในฝ่ามือเดียวเขาเกลียดและชิงชังกองกำลังชั่วร้ายนอกรีตเหล่านี้มากเพราะจากที่เขารู้มา มีผู้ฝึกยุทธ์ฝ่ายธรรมะหลายคนที่ถูกนิกายแวมไพร์สังหาร
“หนอยเจ้ากล้าเหิมเกริมกับนิกายแวมไพร์งั้นหรือ พวกเราจะฆ่าเจ้า !” สาวกนิกายแวมไพร์ที่เหลือคำรามออกมาเมื่อเห็นว่าพวกพ้องของพวกเขาถูกสังหาร พวกเขาชักอาวุธออกมาและฟาดฟันเข้าใส่ฉิงเฟิงอย่างดุดัน
ปังปัง ปัง ปัง …..
ฉิงเฟิงโบกฝ่ามือออกไปสะเปะสะปะและฟาดสังหารสาวกเหล่านี้ร่างกายของพวกเขาระเบิดออกและถูกบดขยี้เป็นเศษเลือดลอยฟุ้งไปในอากาศ
ความแข็งแกร่งของฉิงเฟิงณ ปัจจุบันนี้เรียกได้ว่าไร้เทียมทานในยุทธภพของผู้ฝึกยุทธ์โบราณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังฝ่ายธรรมะหรือนอกรีตล้วนไม่มีค่าอันใดให้เขาเหลือบแลอีกต่อไป
เมื่อได้เห็นฉิงเฟิงสังหารสาวกของนิกายจนตกตายเรียบด้วยการเหวี่ยงฝ่ามือแบบสบายๆเหมือนไม่ต้องออกแรงผู้พิทักษ์ปีกซ้ายและสาวกของตระกูลคาราเต้ก็หน้าถอดสี พวกเขาไม่คาดคิดว่าหลี่ฉิงเฟิงจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
ผู้พิทักษ์ปีกซ้ายมีสีหน้าดูไม่ดีจากกันเพียงแค่วันเดียว เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าความแข็งแกร่งของหลี่ฉิงเฟิงนั้นจะพุ่งทะยานกว่าเก่าแบบเทียบกันไม่ติดกับตอนที่อยู่บนเกาะทมิฬ ชายหนุ่มผู้นี้ทำให้เขาหวาดกลัวมาก
ส่วนราชาอสูรค้างคาวม่วงที่ยังติดอยู่ในเขตแดนอสูรโลหิตใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเช่นกัน แต่มันไม่ใช่ความกลัว มันคือความช็อคผสมกับความประหลาดใจ
ราชาอสูรค้างคาวม่วงได้เห็นภาพใบหน้าของราชันผู้พิชิตซ้อนทับกับฉิงเฟิงเขารู้ได้ในทันทีว่าชายหนุ่มคนนี้คือบุตรชายของเจ้านายของเขา – หลี่ฉิงเฟิง และถือว่าเป็นนายน้อยของเขาอีกด้วย
ค้างคาวม่วงเป็นชายหนุ่มรุ่นเยาว์ที่มากด้วยพรสวรรค์เขาไม่เพียงฝึกฝนท่าร่างค้างคาวได้สำเร็จแต่ยังกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์อีกด้วย แต่เขาอยู่ในขั้นใต้สวรรค์เท่านั้น ซึ่งมันเป็นธรรมดาที่เขาจะสามารถเห็นได้ว่านายน้อยมีพลังในระดับแกรนด์มาสเตอร์ อีกทั้งยังทรงพลังมาก
ฉิงเฟิงยิ้มให้ค้างคาวม่วงเพื่อเป็นการบอกว่าไม่ต้องกังวล
“หลี่ฉิงเฟิงเจ้าแน่ใจนะว่าจะเป็นศัตรูกับนิกายแวมไพร์เพื่อราชาอสูรค้างคาวม่วง ”
ผู้พิทักษ์ปีกซ้ายเริ่มมีสีหน้าเศร้าหมองและพูดข่มขู่ออกมา
“นิกายแวมไพร์ โรงลิเกที่ไหนกัน ?” ฉิงเฟิงยิ้มและกล่าวสบประมาท
“เจ้า! เจ้ากล้าดูหมิ่นนิกายแวมไพร์งั้นหรือ ”
“แล้วไง ไอ้พวกขยะผีดูดเลือดพวกนี้ มันต้องหายไปจากโลกนี้ให้หมด !ง”
“หลี่ฉิงเฟิงแกหาที่ตายแล้ว !” ผู้พิทักษ์ปีกซ้ายโกรธเกรี้ยวมาก เขาเป็นถึงผู้พิทักษ์ปีกซ้ายของนิกายแวมไพร์ เมื่อเขาได้ยินคำสบประมาทอย่างรุนแรงจากฉิงเฟิง มันทำให้เขาโกรธจนตัวสั่น
ดวงตาของฉิงเฟิงเป็นประกายและเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
“ เขตแดนเพลิงพินาศ
!
“
ฉิงเฟิงคำรามด้วยเสียงต่ำเขาปลดปล่อยเปลวเพลิงที่ปกคลุมและแผดเผาเขตแดนอสูรโลหิตของอีกฝ่ายทันที
พรู่ดดด!
หลังจากถูกทำลายเขตแดนผู้พิทักษ์ปีกซ้ายก็พ่นเลือดสดออกมาเต็มปากด้วยอาการบาดเจ็บภายใน ใบหน้าของเขาดูซีดเซียว
เมื่อได้เห็นฉิงเฟิงกำลังเดินมาหาใบหน้าของผู้พิทักษ์ปีกซ้ายก็ดำเป็นขี้เถ้า ชายหนุ่มผู้นี้แข็งแกร่งเกินไป เขาไม่ได้ต่อกรได้แม้แต่น้อย
“อย่าอย่าฆ่าข้า !” ผู้พิทักษ์ปีกซ้ายรีบกล่าวทั้งๆที่เลือดเต็มปาก เขาขอร้องฉิงเฟิงให้ไว้ชีวิต
ไม่ว่าคุณจะเป็นใครไม่ว่าจะเป็นฝ่ายธรรมะหรืออธรรม แม้แต่ผู้เข้มแข็งก็ยังกลัวตายนับประสาอะไรกับผู้พิทักษ์ปีกซ้าย
เปรี้ยง!
ต่อหน้าผู้ฝึกยุทธ์นอกรีตอย่างผู้พิทักษ์ปีกซ้ายของนิกายแวมไพร์ฉิงเฟิงไม่อยากเสียเวลาพูดมาก เขาสะบัดฝ่ามือและตบอีกฝ่ายตายในทันที
ผู้พิทักษ์ปีกซ้ายเป็นหนึ่งในกองกำลังหลักของนิกายแวมไพร์มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไว้ชีวิตคนผู้นี้ สำหรับปีศาจนอกรีตพวกนี้มีเพียงต้องกำจัดให้สิ้นซาก ความตายคือปลายทางเดียวของพวกมัน
ทั่วทั้งซอยเต็มไปด้วยกลิ่นฉุนของเลือดสาวกนิกายแวมไพร์ทั้งหมดถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือฉิงเฟิง ไม่มีใครรอดมาได้แม้แต่คนเดียว
เมื่อได้เห็นฉากนี้ใบหน้าของสมาชิกตระกูลคาราเต้ก็ซีดเผือดไร้สีสันพวกเขาเตรียมจะเผ่นหนีในทันที พวกเขากลัวเกินกว่าที่จะอยู่ใกล้กับปีศาจร้ายหลี่ฉิงเฟิง
“ฉันพูดตอนไหนว่าให้พวกนายไปได้”ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มอันเย็นชา
“ละหลี่ฉิงเฟิง ที่นี่ไม่ใช่หัวเซี่ย ที่นี่คือเกาะแปซิฟิก พวกเราเป็นสาวกของหนึ่งในตระกูลใหญ่ทั้งห้า เจ้าปล่อยพวกเราไปจะดีกว่า” สาวกคนหนึ่งกล่าวขึ้น
“ตระกูลคาราเต้แล้วไง ถ้าฉันไม่สนใจล่ะ ?”
“หลี่ฉิงเฟิงเจ้าแข็งแกร่งไร้เทียมทานก็จริง แต่เจ้าก็ตัวคนเดียว เจ้ารับมือกับผู้ฝึกยุทธ์ทั้งเกาะแปซิฟิกได้หรือไง ข้าขอเตือนเจ้าก็แล้วกัน ถ้าเจ้ากล้าแตะต้องพวกเรา เจ้าจะไม่มีวันได้ออกไปจากเกาะแปซิฟิกเป็นแน่ !” สาวกตระกูลคาราเต้กล่าวและข่มขู่ฉิงเฟิง
บนเกาะแปซิฟิกตระกูลใหญ่ทั้งห้าครอบครองทุกซอกทุกมุมบนเกาะพวกเขาสามารถชี้เป็นชี้ตายทุกอย่างได้ในขณะที่ตระกูลคาราเต้ก็เป็นหนึ่งในนั้น
พวกเขาเชื่อว่านี่คือเกาะแปซิฟิกถึงแม้ฉิงเฟิงกล้าสังหารสาวกนิกายแวมไพร์ แต่เขาก็คงไม่กล้าฆ่าคนของตระกูลคาราเต้
เปรี้ยง!
ฉิงเฟิงเหวี่ยงฝ่ามือขวาออกไปอีกครั้งต่อหน้าสายตาของคนตระกูลคาราเต้ฝ่ามือของเขาปลิดชีพคนผู้นั้นและทำให้เขาสลายไปตลอดกาล
เมื่อได้เห็นถึงความโหดร้ายของฉิงเฟิงคนที่เหลือต่างก็หวาดกลัวเขาอย่างมาก
ฉิงเฟิงไม่เปิดโอกาสให้คนเหล่านี้ได้พูดมากอีกเขาโบกฝ่ามือขวาอีกครั้ง จากนั้นทุกคนในตระกูลคาราเต้ที่อยู่ที่นี่ก็ตกตายเรียบ
มีเพียงสองคนที่เหลืออยู่ในซอยนี้หนึ่งคือฉิงเฟิงและอีกคนก็คือราชาอสูรค้างคาวม่วง นอกนั้นไปเกิดใหม่หมดแล้ว
“ผมราชาอสูรค้างคาวม่วง หนึ่งในสิบราชาอสูรผู้ภักดี คารวะนายท่านครับ”
ค้างคาวม่วงคุกเข่าให้ฉิงเฟิงด้วยความเคารพนอบน้อม
ฉิงเฟิงยิ้มและพยุงตัวค้างคาวม่วงลุกขึ้นและกล่าวว่า“นายเป็นหนึ่งในพี่น้องของฉัน ไม่ต้องสุภาพเป็นทางการนักหรอก อีกอย่าง เราก็อายุพอๆกันด้วย มานี่ฉันจะรักษาอาการบาดเจ็บให้”
ฉิงเฟิงเห็นได้ชัดเจนว่าค้างคาวม่วงได้รับบาดเจ็บจากพลังเขตแดนอสูรโลหิตใบหน้าของเขาดูซีดเซียว
ฉิงเฟิงใช้พลังแท้ของเขาและโคจรเข้าสู่ร่างกายของค้างคาวม่วงหลังจากนั้นไม่นาน ใบหน้าของเขาก็มีสีเลือดดูเปล่งปลั่งขึ้น เขาเป็นหนุ่มหล่อเหลาที่สูงใหญ่ทีเดียว
ตึกตึก ตึก ..
เสียงฝีเท้าที่รุนแรงเร่งถี่ขึ้นดังมาจากด้านข้างพวกเขาครู่หนึ่งต่อมาก็ปรากฏร่างสาวงามหยดย้อยที่เบื้องหน้าของฉิงเฟิง
ผิวของสาวงามผู้นี้ขาวเนียนดั่งหยกชั้นเลิศตาคู่งามเป็นประกายดั่งดวงดาราพร้อมกับเสน่ห์เย้ายวนที่แปลกประหลาด
สาวงามผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้ติดตามรับใช้ของฉิงเฟิงซาโต้ โยชิโกะ นายหญิงน้อยของของตระกูลนินจา
“นายท่านคะเรื่องใหญ่แล้ว ท่านรีบหนีไปเถอะ มีอันตราย!”
โยชิโกะร่ำร้องอย่างตื่นตระหนกในขณะที่วิ่งมาหาฉิงเฟิง