My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 900 การสะกดข่มของจักรพรรดิราตรี
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 900 การสะกดข่มของจักรพรรดิราตรี
เช้ง!
ฉิงเฟิงกุมกระบี่เพลิงคะนองไว้เหนือหน้าอกของเขาและสะบัดมันด้วยมือขวาลำแสงของพลังกระบี่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและพุ่งเข้าหาผู้อาวุโสของตระกูลเคนโด้ทันที
ฉิงเฟิงต้องการฆ่าชายผู้หยาบคายที่ปากเสียใส่เขาและโยชิโกะ
กระบี่เพลิงคะนองไหววูบอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดสีแดงที่ผ่าอย่างรุนแรงนับสิบเมตรในอากาศและตรงไปที่ศีรษะของผู้อาวุโสตระกูลเคนโด้
ใบหน้าของผู้อาวุโสเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่กำลังพุ่งเข้ามาใกล้ของกระบี่เพลิงคะนองเขาชักดาบยาวออกมารับทันที
ในฐานะผู้อาวุโสของตระกูลเคนโด้เขาครอบครองอาวุธวิญญาณระดับกลางที่ทรงพลังมากซึ่งก็คือดาบยาวเล่มนี้เขาฟาดดาบวิญญาณออกไป ปลดปล่อยพลังดาบของอาวุธวิญญาณที่ดุร้ายเข้าปะทะกับกระบี่เพลิงคะนอง
เปรี้ยง!!
ดาบและกระบี่ทั้งสองปะทะกันบนท้องฟ้าและทันใดนั้นเองดาบยาวที่เป็นอาวุธวิญญาณระดับกลางของผู้อาวุโสตระกูลเคนโด้ก็หักครึ่งในทันที
ดาบยาวของเขาเป็นอาวุธวิญญาณระดับกลางที่ทรงพลังก็จริงแต่มันก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกระบี่เพลิงคะนองของฉิงเฟิง เป็นธรรมดาที่มันจะหักครึ่งหลังจากปะทะกับอาวุธวิญญาณที่ระดับสูงกว่า
ใบหน้าของผู้อาวุโสตระกูลเคนโด้เปลี่ยนไปเป็นความหวาดกลัวอย่างสุดแสนหลังจากที่เห็นดาบยาวของเขาถูกทำลาย
เขาไม่ใช่คนโง่และรู้อย่างแน่ชัดถึงพลังของอาวุธวิญญาณว่าแข็งแกร่งเพียงใดยิ่งไปกว่านั้นเขารู้ว่ามีเพียงอาวุธวิญญาณที่อยู่ในระดับสูงสุดเท่านั้นจึงจะสามารถทำลายดาบยาวของเขาได้
ฉัวะ!
ฉิงเฟิงสะบัดกระบี่เพลิงคะนองออกไปอีกครั้งหลังจากทำลายดาบยาวของอีกฝ่ายลงได้และตัดศีรษะของเขาทันทีหัวของผู้อาวุโสตระกูลเคนโด้ลอยขึ้นไปบนอากาศด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
ผู้อาวุโสตระกูลเคนโด้ตกตายอย่างง่ายดายในที่สุด….
“อะไรกัน! เพียงสะบัดกระบี่เดียวก็สังหารผู้อาวุโสได้ ?” ทุกคนที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็อ้าปากค้างด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือดและร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุด
ผู้อาวุโสของตระกูลเคนโด้นั้นเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสุดยอดฝีมืออันทรงพลังที่โด่งดังในเกาะแปซิฟิกพลังของเขาติดหนึ่งในสิบอันดับแรกแน่นอน แต่ตอนนี้เขาถูกฆ่าตายโดยด้วยกระบี่เดียวของหลี่ฉิงเฟิง ชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งเพียงใดกันถึงทำให้อาวุโสตกตายโดยไม่มีโอกาสตอบโต้ !
ความเงียบสงัดเข้าปกคลุมทั่วทั้งห้องนั่งเล่นผู้อาวุโสทุกคนต่างก็ตะลึงงัน
ในบรรดาพวกเขาผู้อาวุโสของตระกูลคาราเต้และบูชิโดนั้นดูหวาดกลัวที่สุด เพราะพวกเขาเพิ่งจะก้นด่าสาปแช่งโยชิโกะกับฉิงเฟิงไปอยู่หยกๆ และตอนนี้ผู้อาวุโสของตระกูลเคนโด้ก็ถูกสังหารอย่างไร้ความปราณี พวกเขารู้ว่านั่นจะต้องเป็นชะตากรรมของพวกเขาในไม่ช้า
หลังจากฉิงเฟิงสังหารผู้อาวุโสของตระกูลเคนโด้ไปแล้วเขาก็หันไปมองอาวุโสของตระกูลบูชิโดและคาราเต้เขาไม่มีทางยั้งมือต่อคนเหล่านี้เพราะพวกเขาสมควรตาย
ฉัวะ! ฉัวะ !
ฉิงเฟิงเหวี่ยงกระบี่เพลิงคะนองออกไปอีกครั้งก่อนที่ทั้งคู่จะมีโอกาสตอบสนอง ศีรษะของพวกเขาก็ขาดสะบั้นและร่างกายไร้หัวก็ล้มลงที่พื้น
ทั้งสองต่างก็เป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอำนาจในสายตาของคนอื่นแต่สำหรับฉิงเฟิงในตอนนี้ พวกเขานั้นอ่อนแอราวกับมด ยกเว้นว่าจะมีผู้ฝึกตนปรากฏกายขึ้นเท่านั้น นอกนั้นไม่มีผู้ใดทำอันตรายต่อเขาได้อีกแล้ว
ฉิงเฟิงใช้เพียงสามกระบี่ในการสังหารผู้อาวุโสทั้งสามคนทั่วทั้งห้องนั่งเล่นเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดลอยคลุ้ง
ใบหน้าของไมโกะและกระเรียนเหินซาโต้เปลี่ยนเป็นซีดเผือดหลังจากได้เห็นการตายของผู้อาวุโสทั้งสามเขาเองก็มีพลังในระดับเดียวกันกับพวกเขา ดังนั้นถ้าหากฉิงเฟิงฆ่าพวกเขาได้ง่ายดายเช่นนี้ ชะตากรรมของเขาก็คงไม่ดีไปกว่าศพที่นอนกองในห้อง
“กระเรียนเหินเจ้าคืนตราประทับให้เขาไปซะ และขออภัยต่อเขาด้วย” ทันใดนั้นเอง เสียงที่แหบพร่าของชายชราผู้หนึ่งก็ดังขึ้น
มีชายชราคนหนึ่งเดินออกมาจากทางด้านหลังเขาดูแก่ชรามากทั้งผมเผ้าหนวดเคราเป็นสีขาวโพลน แต่ที่แปลกคือเขายังเดินตัวตรงและเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่แข็งแกร่ง
“ท่านพ่อ ท่านมาที่นี่ทำไมกันขอรับ ?” ซาโต้ ไมโกะกล่าวอย่างรีบเร่ง การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปเมื่อได้เห็นชายชราคนนี้
ชายชราคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนเขาคือปู่ของโยชิโกะและเป็นพ่อของซาโต้ ไมโกะผู้เป็นหัวหน้าตระกูลนินจา
ปรมาจารย์อาวุโสของตระกูลนินจาผู้นี้มีชีวิตมาหลายปีเขาเคยพาบพบบุคคลที่มีความสามารถมามากมายนับไม่ถ้วน อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยเห็นผู้ใดที่มีอัจฉริยภาพเช่นเดียวกับฉิงเฟิงมาก่อน ไม่สิ คำว่า ‘อัจฉริยะ’ คงไม่เพียงพอ ต้องใช้คำว่า ‘ปีศาจ’ ดูจะเหมาะสมกว่า
ชายชราผู้นี้มิใช่ตัวตนสามัญทั่วไปเขาเป็นถึงผู้ฝึกตนครึ่งก้าว(เกือบจะทะลวงผ่านแต่ยังไม่ทะลวง) แต่พลังของฉิงเฟิงที่เขาสังเกตเห็นนั้นทำให้เขาตกใจมาก
ชายชราผู้นี้รู้ว่าในเมื่ออาวุโสทั้งสามตระกูลถูกสังหารคิวต่อก็ไปก็คือตระกูลนินจา หากเขาไม่แสดงตัวและรีบคลี่คลายสถานการณ์ ถึงเขาจะลงมือเองก็คงไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่ต้องถูกชายหนุ่มผู้นี้สังหารได้
โชคยังดีที่ตระกูลนินจาไม่เหมือนตระกูลอื่นๆเพราะโยชิโกะที่เป็นข้ารับใช้ของฉิงเฟิงเป็นคนของตระกูลนินจา ถึงแม้เธอจะถูกตระกูลขับไล่ แต่เธอก็เป็นคนของตระกูลนินจาวันยังค่ำ อาศัยความสัมพันธ์นี้ บางทีฉิงเฟิงอาจจะไม่ฆ่าพวกเขา
ปฏิเสธไม่ได้ว่าชายชราคนนี้อ่านเกมขาดและฉลาดปราดเปรื่องมากเขารู้ว่าฉิงเฟิงต้องเห็นแก่หน้าโยชิโกะ ไม่งั้นป่านนี้เขาคงล้างสังหารตระกูลนินจาไปหมดสิ้นแล้ว
กระเรียนเหินซาโต้มีอาการลังเลแต่ในเมื่อพ่อของเขาสั่ง เขาก็ต้องทำตาม เขารีบคืนตราประทับให้ฉิงเฟิงอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
“ข้าต้องขอโทษด้วยข้าไม่ควรขโมยตราประทับเก้ามังกรของหัวเซี่ยมาเลย โปรดยกโทษให้ข้าด้วย” กระเรียนเหินโค้งคำนับขอโทษ
กระเรียนเหินรู้สึกละอายใจมากเขาเป็นถึงสุดยอดหัวขโมยของเกาะแปซิฟิกและเป็นผู้อาวุโสของตระกูลนินจา แต่ตอนนี้เขากลับต้องโค้งขอขมาต่อชายหนุ่มชาวหัวเซี่ย
ฉิงเฟิงรับตราประทับเก้ามังกรกลับมาและกล่าวอย่างเย็นชาว่า“คุณควรจะไปขอบคุณโยชิโกะมากกว่านะ ไม่งั้นฉันฆ่าคุณไปนานแล้ว”
จากนั้นฉิงเฟิงก็หันหน้าไปหาชายชราและกล่าวว่า“ท่านเป็นคนฉลาด ผมจะปล่อยตระกูลนินจาไปในครั้งนี้เพื่อเห็นแก่หน้าโยชิโกะ และหวังว่าจะจำเรื่องในวันนี้ไว้ให้ดี อย่าเป็นศัตรูกับผมอีก มิฉะนั้นผมจะกลับมา”
การแสดงออกของชายชราเปลี่ยนไปเขาโกรธมากเมื่อได้ยินคำพูดโอหังของฉิงเฟิง ตัวเขานั้นเป็นถึงปรมาจารย์อาวุโสของตระกูลนินจาและไม่เคยอับอายเช่นนี้มาก่อน แต่เขาก็ไม่อาจเถียงหรือแสดงความโกรธออกมาได้
จากนั้นฉิงเฟิงหยิบตราประทับและพาโยชิโกะพร้อมกับฉินเซียนจื่อออกจากตระกูลนินจา
…….
“ท่านพ่อท่านตัดผ่านระนาบแห่งผู้ฝึกยุทธ์โบราณไปเป็นผู้ฝึกตนครึ่งก้าวแล้ว ทำไมท่านไม่ฆ่าชายหนุ่มคนนี้ซะละขอรับ ” ซาโต้ ไมโกะบ่นกับพ่อของเขา
ชายชราทอดสายตามองเงาหลังของพวกฉิงเฟิงเขาขมวดคิ้วและกล่าวว่า “เจ้าไม่รู้อะไร ถึงแม้ข้าจะเป็นถึงผู้ฝึกตนครึ่งขั้น แต่ข้ากลับสัมผัสได้ถึงพลังอันไร้ขอบเขตที่น่าสะพรึงกลัวจากชายหนุ่มคนนั้น พลังชนิดนี้มันมาจากผู้ฝึกตนที่แท้จริง”
อย่างไรก็ตามพลังงานของผู้ฝึกตนที่ชายชราสัมผัสได้ไม่ใช่ของฉิงเฟิง แต่มันเป็นพลังของจักรพรรดิราตรีต่างหาก ซึ่งความจริงแล้วจักรพรรดิราตรีรู้แต่แรกว่าที่นี่มีผู้ฝึกตนครึ่งขั้นอยู่ ทันทีที่ชายชราคนนี้ปรากฏตัว จักรพรรดิราตรีจึงปลดปล่อยพลังแท้แห่งผู้ฝึกตนออกมาเพื่อขู่ชายชราไม่ให้กล้าลงมือต่อฉิงเฟิง
กระเรียนเหินซาโต้เงียบปากทันทีในครั้งเขาเป็นผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่าผู้ฝึกตนมีพลังเพียงใด
หลังจากนั้นโทรศัพท์ของฉิงเฟิงก็ดังขึ้นทันทีที่ก้าวออกจากตระกูลนินจาเป็นหลิวหรูหยานโทรมา เธอจะคลอดลูกในวันพรุ่งนี้ เธอจึงโทรมาบอกให้เขารีบกลับมา