My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 911 กุ้ยเทียนคง
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 911 กุ้ยเทียนคง
ณเมืองเทียนจิง ตำหนักโกสคิง
ในฐานะกองกำลังระดับซุปเปอร์ของยุทธภพไม่ต้องสงสัยเลยว่าตำหนักโกสคิงเป็นหนึ่งในตัวตนที่ทรงพลังที่สุด
ตำหนักโกสคิงตลอดจนศาลากระบี่, ตำหนักร้อยบุปผาและตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ ต่างก็เป็นกองกำลังระดับซุปเปอร์ของหัวเซี่ย ซึ่งกองกำลังเหล่านี้ทุกแห่งต่างก็มีความสัมพันธ์บางประการกับผู้ฝึกตน รวมไปถึงตำหนักโกสคิงแห่งนี้อีกด้วย
กองกำลังชั้นหนึ่งไม่สามารถเข้าถึงผู้ฝึกตนได้แต่กองกำลังระดับซุปเปอร์สามารถทำได้ ในบางแห่งแม้กระทั่งมีผู้ฝึกตนอาศัยอยู่ในนั้นอีกด้วย
ที่ตำหนักโกสคิงมีผู้ฝึกตนเก็บตัวอาศัยอยู่แต่ผู้ฝึกตนที่ลึกลับผู้นี้มิใช่โกสคิงหรือเฮลคิง เขาคือชายที่มีชื่อ ‘กุ้ยเทียนคง’ [Sky Ghost] (จะแปลผีฟ้าหรือผีท้องฟ้าก็ตลกไปทับศัพท์ชื่อจีนเลยละกันว่ากุ้ยเทียนคง)
–ภายในตำหนัก –
กุ้ยเทียนคงนั่งบนเก้าอี้กลางโดยมีโกสคิงกับเฮลคิงนั่งอยู่ด้านซ้ายและขวาของเขาถึงแม้ว่าโกสคิงจะได้รับการยกย่องอย่างสูงในยุทธภพ แต่เขากลับด้อยค่าในสายตาของกุ้ยเทียนคงอย่างยิ่ง เขาสามารถบดขยี้โกสคิงได้ราวกับบี้มดบนพื้น
สำหรับเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนตัวตนของผู้ฝึกตนนั้นสูงส่งและน่าหวั่นเกรงอย่างไม่น่าเชื่อ พวกเขาเป็นดั่งมดแมลงในสายตาของตัวตนระดับนี้
กุ้ยเทียนคงเป็นชายชราอายุร่วมร้อยปีการที่มีอายุยืนยาวของผู้ฝึกตนเป็นหนึ่งในสิ่งที่น่าเหลือเชื่ออย่างมาก กุ้ยเทียนคงมีใบหน้าที่ซีดขาวราวกับคนตาย ทั่วร่างของเขาห่อหุ้มไปด้วยเสื้อคลุมสีดำที่มิดชิด มีเพียงนิ้วมือและใบหน้าของเขาเท่านั้นที่ปรากฏให้เห็น
นิ้วมือของเขาแตกต่างจากคนปกติทั่วพวกมันทั้งยาวและบางโดยไม่มีเลือดเนื้อ มีเพียงผิวหนังหุ้มกระดูกที่ดูน่ากลัวเท่านั้น เล็บของเขาก็ทั้งยาวและดำ มันดูแหลมคมและเต็มไปด้วยความมืดมิดที่น่าสะพรึงกลัว
“เฮลคิงเจ้าจับหลิวหรูหยานมาได้หรือไม่ ” กุ้ยเทียนคงแสยะยิ้มและถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก เสียงของเขาเยือกเย็นราวกับว่าเขาถูกส่งมาจากขุมนรกที่ทำให้ผู้คนต้องสั่นสะท้าน
“เรียนท่านอาจารย์ผู้น้อยได้พาตัวหลิวหรูหยานมาแล้วขอรับ เธออยู่ในห้องข้างๆ”
เฮลคิงพยักหน้าและกล่าวด้วยความเคารพนอบน้อม
อาจารย์คนก่อนของเฮลคิงคือโกสคิงอย่างไรก็ตาม ภายหลังเขาได้มาถึงถ้ำแห่งหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจในขณะที่กุ้ยเทียนคงกำลังฝึกฝนบ่มเพาะพลัง หลังจากประทับใจในพรสวรรค์ที่น่าทึ่งของเฮลคิง กุ้ยเทียนคงจึงลงมือสอนสั่งเฮลคิงด้วยตนเอง
เฮลคิงนั้นเป็นชายหนุ่มมากพรสวรรค์ที่ฉลาดปราดเปรื่องหลังจากที่เขาฝึกฝนการบ่มเพาะพลัง เขาก็ก้าวเข้าสู่ระดับครึ่งก้าวจิตวิญญาณแท้จริง มันทำให้เขาประทับใจต่อการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้มาก
เมื่อครั้งก่อนตอนที่กลุ่มยอดฝีมือทั้งหลายของเมืองเทียนจิงรวมพลังกันเข้าโจมตีฉิงเฟิงฉินเซียนจื่อจากตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ได้แจ้งข่าวต่ออาวุโสฉิน ให้ช่วยฉิงเฟิง อย่างไรก็ตาม อาวุโสฉินถูกขวางโดยเฮลคิงและตกตายด้วยมือเขา
ในครานี้เฮลคิงได้ลักพาตัวหลิวหรูหยานและนำเธอมายังตำหนักโกสคิงไม่เพียงแค่เป็นการตอบโต้ต่อฉิงเฟิงเท่านั้น แต่ยังสอดคล้องกับความต้องการของกุ้ยเทียนคงเช่นกัน
กุ้ยเทียนคงต้องการโลหิตมังกรแท้จริงในร่างของฉิงเฟิงเขาต้องการดูดกลืนโลหิตมังกร นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาสั่งการให้เฮลคิงลักพาตัวหลิวหรูหยาน
“เรียนท่านกุ้ยเทียนคงจากข่าวที่ได้ยินมาในช่วงนี้ หลี่ฉิงเฟิงได้รับชัยชนะอันดับหนึ่งในการแข่งขันของทวีปมังกร มันกวาดล้างยอดฝีมือทั่วทั้งเกาะแปซิฟิก มันกลายเป็นหนึ่งในผู้ทรงพลังอย่างไม่เชื่อไปแล้ว” โกสคิงขมวดคิ้วและกล่าวกับกุ้ยเทียนคงด้วยความเคารพ
โกสคิงเป็นหนี้บุญคุณใหญ่หลวงต่อกุ้ยเทียนคงถึงแม้ว่าเขาจะโดนชิงตัวลูกศิษย์คนโปรดไป แต่เขาก็กลัวเกินกว่าที่จะแสดงความไม่พอใจ เขากล่าวกับกุ้ยเทียนคงด้วยความเคารพ
“โกสคิงนี่คือเหตุผลที่ข้าให้เฮลคิงไปจับตัวผู้หญิงของมันมา ข้าต้องการล่อมันมาที่นี่” กุ้ยเทียนคงกล่าวอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาดูดุร้าย
เขาได้วางข่ายอาคม‘ภูตินภา’ ไว้ที่ตำหนักโกสคิง มันเป็นข่ายอาคมระดับจิตวิญญาณที่ใช้ได้เพียงผู้ฝึกตนเท่านั้น เจตนาของเขาคือต้องการล่อให้ฉิงเฟิงมาติดกับ
ถึงแม้กุ้ยเทียนคงจะเป็นผู้ฝึกตนแต่เขาก็ตระหนักดีถึงพลังของหลี่ฉิงเฟิง เขามีอายุยืนยาวและละเอียดรอบคอบมาก เขาหวาดระแวงต่อพลังในครอบครองของฉิงเฟิงรวมไปถึงโลหิตมังกรและพลังสายเลือดอีกด้วย เขาต้องการจะกินเนื้อดื่มเลือดของฉิงเฟิงภายในข่ายอาคมภูตินภา
“ท่านอาจารย์ข้าเข้าใจว่าทำไมท่านถึงสั่งให้ข้าลักพาตัวหลิวหรูหยาน แต่ทำไมต้องลักพักตัวอลิซกับนักพรตเฒ่ามาด้วยละขอรับ และทำไมท่านต้องมอบพวกเขาให้เป็นของขวัญต่อหัวหน้าตระกูลกาโตร์ในทวีปเสือ ?” เฮลคิงถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
เฮลคิงรู้ซึ้งถึงพลังของอาจารย์คนใหม่ของเขาเป็นอย่างดีชายชราผู้นี้สามารถทำลายภูเขาลูกใหญ่ได้ด้วยหมัดเดียว อย่างไรก็ตามเขารู้สึกสับสนต่อการกระทำของอาจารย์ที่มีต่อตระกูลกาโตร์ ทำไมผู้ฝึกตนที่เข้มแข็งอย่างเขาถึงต้องไปใส่ใจกับหัวหน้าตระกูลที่มีพลังแค่ระดับแกรนด์มาสเตอร์ ตระกูลกาโตร์
ราวกับกุ้ยเทียนคงสัมผัสได้ถึงความข้องใจของเฮลคิงกุ้ยเทียนคงอธิบายว่า “หัวหน้าตระกูลกาโตร์เป็นหนึ่งในเทวาของสมาพันธ์เทพนภาแห่งทวีปเสือ สมาพันธ์เทพนภานั้นเป็นกองกำลังระดับสุดยอดที่มีผู้ฝึกตนมากมาย ผู้ฝึกตนหนึ่งในสมาพันธ์นั้นเคยช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ครั้งนี้ข้าทำเพื่อตอบแทนเขา”
สามสิบปีก่อนกุ้ยเทียนคงไปที่ทวีปเสือและถูกตามล่าจากศัตรูของเขาจนเกือบจะเสียชีวิตในเวลานั้นผู้ฝึกตนของสมาพันธ์เทพนภาได้ยื่นมือเข้าช่วยและช่วยชีวิตเขาเอาไว้
ในครั้งนี้ผู้ฝึกตนคนนั้นได้ติดต่อหากุ้ยเทียนคงและขอให้เขาลักพาตัวอลิซกับนักพรตเฒ่าเขาจึงทำตามคำขอ
ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมถึงต้องจับตัวลู่เต๋าซาง,นักพรตเฒ่าจ้าวอาวาสแห่งภูเขาบู๊ตึ๊งนั้นกุ้ยเทียนคงก็ไม่ทราบจริงๆ ที่จริงแล้วเขาไม่ได้สนใจเหตุผลใดๆทั้งสิ้น เขาแค่ทำตามคำขอของผู้ฝึกตนผู้นั้นและส่งตัวทั้งสองคนไปให้หัวหน้าตระกูลกาโตร์
…… … หลังจากฉิงเฟิงลงจอดเฮลิคอปเตอร์บนหลังคาโรงพยาบาลเขาก็พุ่งปราดราวกับสายฟ้าไปที่ห้องพักของหลิวหรูหยานในโรงพยาบาล
ณตอนนี้ทั้งฉิงเฟิงและลู่ซวนจี๋ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนลักพาตัวหลิวหรูหยาน อลิซและนักพรตเฒ่าไป ทั้งคู่ต่างก็กระวนกระวายอย่างสุดใจ พวกเขากลัวว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับคนเหล่านี้
“ฮือๆพี่เขย พี่มาจนได้ พี่สาวหายไปแล้ว ช่วยตามหาเธอเร็วเข้า !” เมื่อหลิวเจียวเจียวได้เห็นฉิงเฟิงมาถึง เธอก็โผเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและร้องไห้ไม่หยุด
หลิวเจียวเจียวเป็นเพียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเธอยังเป็นแค่นักศึกษา เธอไม่เคยมีประสบการณ์กับเรื่องพวกนี้มาก่อน เธอรู้สึกตื่นตระหนกจับใจ
ในหัวใจของเธอคนที่สนิทสนมกับเธอมากที่สุดก็คือหลิวหรูหยาน, พี่สาวของเธอ หลังจากที่เธอหายตัวไปหลิวเจียวเจียวก็รู้สึกราวกับว่าโลกของเธอพังทลายลง
“เจียวเจียวไม่ต้องร้องไห้ ฉันอยู่ที่นี่แล้ว ฉันสัญญาว่าจะพาตัวพี่สาวเธอกลับมาให้ได้อย่างแน่นอน” ฉิงเฟิงลูบหลังหลิวเจียวเจียวและกล่าวปลอบใจเธออย่างอ่อนโยน
ในขณะที่ฉิงเฟิงกำลังปลอบใจหลิวเจียวเจียวสมาชิกคนอื่นในทีมเขี้ยวหมาป่าก็ลงมือค้นไปทั่วห้อง แม้แต่เม็ดฝุ่นก็ไม่อาจรอดสายตาพวกเขาไปได้ พวกเขาพยายามมองหาเบาะแสภายในห้องว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการลักพาตัวหลิวหรูหยานและอลิซ
“บอสครับ! มีเลข 7 อยู่ที่ปลายเตียง” ทันใดนั้นเองเสียงของลู่ซวนจี๋ก็ดังขึ้น
คำพูดของลู่ซวนจี๋ทำให้ฉิงเฟิงสะดุ้งเขารีบผละจากหลิวเจียวเจียวไปยังจุดที่ลู่ซวนจี๋บอกในทันที
เตียงนอนในห้องนี้เป็นของหลิวหรูหยานโดยที่มีอลิซดูแลอยู่ไม่ห่างซึ่งเลข 7 นี้ถูกทิ้งไว้โดยอลิซ ทีมเขี้ยวหมาป่าโลดแล่นไปทั่วทั้งทวีปหมาป่าแต่บางครั้งพวกเขาก็แยกตัวกันไปปฏิบัติภารกิจในการฆ่าศัตรู การติดต่อกันผ่านโทรศัพท์มือถือนั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่ง มันจะเปิดเผยที่อยู่ของพวกเขาอย่างง่ายดาย พวกเขาจึงกำหนดตัวเลขรหัสลับกันขึ้นมา ตัวเลขจะเป็นโค้ดลับเฉพาะพวกเขา ไม่มีบุคลภายนอกจะสามารถรับรู้ได้
หมายเลข
7
งั้นหรือ
ดวงตาของฉิงเฟิงกลายเป็นหนักอึ้งเลข 7 คือเดือน 7 ซึ่งเป็นเทศกาลผีหิวเดือน 7* ซึ่งเป็นเดือนที่จะมีภูตผีปีศาจออกมาเผ่นผ่าน อลิซทิ้งหมายเลข 7 เอาไว้เพื่อแจ้งให้พวกเขาทราบว่าศัตรูในครั้งนี้เกี่ยวพันกับคำว่า ‘Ghost (ผี)’
สมองของฉิงเฟิงทำงานด้วยความเร็วสูงในการสแกนคู่ต่อสู้และศัตรูชั่วชีวิตทั้งหมดตั้งแต่ที่เขาเกิดมาเขามีศัตรูมากมายไม่ว่าจะเป็นนักเลงข้างถนน มาเฟีย แก๊งค้ายา จนปัจจุบันนี้ก็มีทั้งผู้ฝึกยุทธ์ฝ่ายธรรมะและนอกรีต แต่ศัตรูทั้งหมดที่เขาขบคิดและนึกออกมีเพียงคนกลุ่มเดียวเท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับคำว่า ‘ผี’
มันคือตำหนักโกสคิง!
******************************
*บู๊สะบั้นหั่นแหลกยาวๆยันไปไล่ตบอัศวินศักดิ์สิทธิ์และชิงตัวอลิซกลับมาเลย
*สาระครับชาวจีนเชื่อว่าทุกเดือน 7 ของปี ในปฎิทินจีน ผีในนรกทุกขุมจะขึ้นมาบนโลก ชาวจีนเรียกว่า “เดือนผี” 鬼月 ซึ่งเป็นเดือนที่ผีเฮี้ยนที่สุด คนไทยเรียกว่า เทศกาลสารทจีน หรือคนจีนเรียกว่าเทศกาลผีหิว 餓鬼 Hungry Ghost จะมีการไหว้วิญญาบรรพบุรษ และผีที่หิวโหยอื่นๆ ชาวจีนเชื่อว่าเป็นเทศกาลที่เฮี้ยนที่สุด เพราะผีจากนรกต่างๆ จะขึ้นมากินอาหาร*