My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 923 ความช่วยเหลือของจักรพรรดิราตรี
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 923 ความช่วยเหลือของจักรพรรดิราตรี
เมื่อได้ยินคำขอร้องจากฉิงเฟิงชาวเฟิ่งอู่และฮวาเซียนจือก็เข้าใจได้ทันทีว่าสถานการณ์ของเขาในตอนนี้คับขันเพียงใด เขาจำเป็นต้องฆ่ากุ้ยเทียนคงให้ได้ภายในหนึ่งชั่วโมง
ชาวเฟิ่งอู่เคยได้ยินเกี่ยวกับคำสาปภูติอสูรที่ทำให้เด็กและสตรีตายได้มาก่อน
ฟุ่บ!
เธอหยิบกระบี่อ่อนสีเงินที่อยู่รอบเอวออกมามันเป็นอาวุธที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้
กระบี่อ่อนเล่มนี้ชื่อว่ากระบี่งูเงินมันเป็นอาวุธวิญญาณขั้นสูงที่แกะสลักไว้ด้วยรูปงูสีเงิน
ทันทีที่มันถูกชักออกมากระบี่งูเงินก็เปล่งรัศมีสีขาวที่คมกริบยาวนับสิบเมตร
ทันทีที่เห็นชาวเฟิ่งอู่หยิบอาวุธคู่กายออกมาฮวาเซียนจือก็หยิบบัวกระจกเงาที่ปลดปล่อยดอกบัวสีขาวขึ้นสู่ท้องฟ้า
สีหน้าของกุ้ยเทียนคงดูตึงเครียดอย่างมากเมื่อได้เห็นอาวุธวิญญาณระดับสูงถึงสามชิ้นพร้อมกันตัวเขาเองที่เป็นถึงผู้ฝึกตนระดับจิตวิญญาณแท้จริงก็ยังครอบครองอาวุธวิญญาณแค่ชิ้นเดียว ซึ่งก็คือกระบี่ภูตินภา
อุปกรณ์วิญญาณขั้นสูงสามชิ้นต่อหนึ่งชิ้นกุ้ยเทียนคงรู้สึกกังวลไม่น้อย
“ฆ่ามัน”
ฉิงเฟิงเริ่มลงมือคนแรกด้วยกระบี่เพลิงคะนองที่ลุกโหมไปด้วยเปลวไฟ
เมื่อเห็นฉิงเฟิงลงมือชาวเฟิ่งอู่และฮวาเซียนจือก็โจมตีกุ้ยเทียนคงจากสองทิศทางที่ต่างกัน ปิดกั้นทางหนีเขาหมดสิ้น
กุ้ยเทียนคงรีบชักกระบี่ภูตินภาของเขาออกมาทันทีมันเป็นกระบี่ที่มีความกว้างสี่นิ้วและยาว 1.5 เมตร มันทำมาจากหินสะเก็ดดาว ทั่วทั้งตัวกระบี่เป็นสีดำสนิทและเปล่งประกายกลิ่นอายอันน่ากลัวออกมา
อีกทั้งบนตัวกระบี่ยังมีลวดลายของภูตผีปีศาจอีกด้วยทำให้มันดูน่าขนลุกและน่าสะพรึงกลัว
กระบี่ภูตินภาเป็นอาวุธวิญญาณนอกรีตขั้นสูงและเป็นศัตรูโดยธรรมชาติของอาวุธวิญญาณทั่วไป
“วิชากระบี่ภูตินภา!”
กุ้ยเทียนคงตะโกนออกมาด้วยเสียงดัง
กระบี่ยาวถูกเหวี่ยงขึ้นไปในอากาศแล้วพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้ทั้งสามของเขาด้วยม่านหมอกสีดำทมิฬ
ตูม!!!
อุปกรณ์วิญญาณระดับสูงสี่ชิ้นปะทะกันส่งผลให้เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้องมันทำให้ตำหนักขนาดมหึมายังต้องสั่นสะเทือน คลื่นพลังงานขนาดยักษ์จากแรงปะทะพัดกระจายก้อนหินจนระเบิดออกเป็นฝุ่น
ทุกคนที่อยู่รอบตัวพวกเขาต่างถอยหนีออกไปอย่างเร่งรีบส่วนคนที่ขยับตัวช้ากว่าก็ถูกพลังของพวกเขาผลักกระเด็นไปไกล
“นี่….นี่คือพลังของเหล่าผู้ฝึกตน น่าทึ่งจริงๆ…”
สมาชิกของตระกูลลั่วและตระกูลอื่นที่เฝ้าดูการต่อสู้ล้วนแต่ตกตะลึงในฐานะที่เป็นผู้ฝึกวิทยายุทธโบราณ พวกเขาเย่อหยิ่งอหังการและคิดมาตลอดว่าพวกเขาคือกลุ่มคนที่อยู่บนจุดสูงสุดของยอดพีระมิด แต่มาวันนี้เมื่อพวกเขาได้เห็นการต่อสู้อันรุนแรงของเหล่าผู้ฝึกตนก็ทำให้ได้รับรู้ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า
ครืดครืด ครืด !!!
ในคราวนี้กุ้ยเทียนคงรูดกราวถอยหลังไปถึงสามก้าวภายใต้การโจมตีประสานของทั้งสาม
แต่ทว่าเขาเพียงแค่ถูกแรงปะทะผลักให้ต้องถอยหลังเท่านั้นและไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆแม้แต่น้อย เพราะเขาเป็นถึงยอดฝีมือระดับจิตวิญญาณแท้จริง การโจมตีจากนักสู้ระดับครึ่งก้าวไม่ได้มีผลกระทบร้ายแรงนัก “
เวลาผ่านไปเรื่อยๆขนาดกรุ้มรุมโจมตีขนาดนี้ยังทำอะไรมันไม่ได้เลย ทำยังไงดี ฉันต้องฆ่ามันก่อนจะสายเกินไป… “
ฉิงเฟิงพึมพำด้วยความร้อนรนการต่อสู้ดำเนินไปได้นานพอสมควรแล้ว หลิวหรูหยานกับลูกในท้องไม่อาจรอได้อีกต่อไป เขาต้องรีบจบเกมโดยเร็วที่สุด
พวกเขาเปิดการโจมตีอีกระลอกแต่ก็ทำได้เพียงแค่ทำให้เสื้อคลุมสีดำของกุ้ยเทียนคงยับยู่ยี่เท่านั้น
“
เจ้าหนูมีเวลาเหลือไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก่อนที่คำสาปจะแสดงผล ถ้าจะช่วยเด็กของเจ้า เจ้าต้องฆ่ามันเดี๋ยวนี้เลย เพราะเจ้าต้องใช้เวลาอีกพอสมควรในการลบล้างคำสาป
”
เสียงของจักรพรรดิราตรีดังขึ้นในใจของฉิงเฟิง การแสดงออกของฉิงเฟิงเปลี่ยนไปเป็นร้อนรนเขารีบตอบกลับไปว่า
“
ผู้อาวุโสไอ้เฒ่าซอมบี้คนนี้เป็นยอดฝีมือระดับจิตวิญญาณแท้จริง มันร้ายกาจมากแถมยังมีอาวุธวิญญาณขั้นสูงอีกด้วย ผมทำอะไรมันไม่ได้เลย
”
“
เจ้าทึ่ม
!
เจ้าลืมไปแล้วหรือไงว่าเจ้าฝึกฝนเพลงหมัดมังกรเพลิงหมัดแรกสำเร็จแล้วพลังของเพลงหมัดนี้เพียงพอที่จะบดขยี้ยอดฝีมือทุกคนที่อยู่ต่ำกว่าขอบเขตจิตโลกา
”
“
ผู้อาวุโสผมรู้ว่าเพลงหมัดมังกรเพลิงสามารถฆ่ากุ้ยเทียนคงได้ แต่ผมรู้สึกว่ามันใช้ได้แค่ทุกๆสิบสองชั่วโมง ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา พลังวิญญาณในร่างของผมมีไม่เพียงพอที่จะใช้มัน”
“
ข้าสามารถช่วยให้เจ้าออกหมัดได้ก่อนเวลาแต่ข้าจะสูญเสียพลังวิญญาณจนต้องจำศีลยาว เข้าใจนะ ดูแลตัวเองด้วยละจากนี้”
จักรพรรดิราตรีกล่าว
หากไม่ใช่ช่วงเวลาคับขันเป็นตายจักรพรรดิราตรีจะไม่แนะนำให้เขาใช้เพลงหมัดชุดนี้อย่างแน่นอนเพราะมันเป็นวิชาที่สูบพลังวิญญาณสูงมากและทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายถ้าหากระดับบ่มเพาะยังไม่สูงพอ
พลังวิญญาณของฉิงเฟิงนั้นมีเพียงพอที่จะออกหมัดนี้ได้ในทุกๆสิบสองชั่วโมงหากเขาฝืนใช้มันก่อนจะครบสิบสองชั่วโมง มันอาจจะทำลายสมองของเขาจนกลายเป็นคนพิการ
จักรพรรดิราตรีเป็นร่างวิญญาณที่ไม่มีกายหยาบหากเขาใช้พลังวิญญาณช่วยฉิงเฟิงในครั้งนี้เขาจะต้องหลับจำศีลไปอีกยาว แต่เขาก็เลือกที่จะทำเพื่อฉิงเฟิง
“
ผู้อาวุโสขอบคุณมาก… ถึงแม้ว่าคุณจะหลับลึกไปอีกนาน แต่ผมสัญญาว่าจะหาหนทางฟื้นฟูพลังวิญญาณและหากายหยาบที่เหมาะสมให้คุณให้ได้”
ฉิงเฟิงกล่าวสัญญากับจักรรพรรดิราตรีเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะจากกัน
เขารู้ดีว่าหลังจากจักรพรรดิราตรีส่งพลังวิญญาณให้เขาเขาไม่เพียงแค่จะต้องจำศีลยาว แต่อาจจะได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ฉิงเฟิงติดหนี้เขาอย่างใหญ่หลวง
ในขณะนี้หลังจากใช้เวลาร่วมกันมาระยะหนึ่งจักรพรรดิราตรีนั้นเป็นมากกว่าผู้อาวุโสธรรมดาๆในสายตาของฉิงเฟิงแล้ว แต่เขามองจักรรพรรดิราตรีเสมือนญาติสนิทดั่งเช่นราชาอสูรมีดวายุ อาจารย์ของเขา “
เจ้าหนูไว้เจอกันใหม่ ตอนนี้ข้าจะถ่ายทอดพลังวิญญาณของข้าไปให้เจ้า จงรับมันไปซะ
!
“
จักรพรรดิราตรีตะโกนด้วยเสียงต่ำและปล่อยลำแสงสีฟ้าที่บรรจุไปด้วยพลังงานวิญญาณขนาดมหึมามันพุ่งเข้าใส่ห้วงลึกในจิตใจของฉิงเฟิง
จากนั้นเงาร่างวิญญาณของจักรพรรดิราตรีก็จางหายไปอย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะหลับตาลงและกลับไปจำศีลในกระบี่เพลิงคะนองอีกครั้ง
ฉิงเฟิงจ้องมองละอองวิญญาณที่ค่อยๆสลายไปช้าๆด้วยความขอบคุณอย่างสุดซึ้งเขาตั้งมั่นว่าจะไม่ทำให้จักรพรรดิราตรีต้องผิดหวัง
ทันใดนั้นเองพลังงานวิญญาณของฉิงเฟิงก็พุ่งทะลุขีดจำกัดราวกับน้ำป่าไหลหลาก เขาควบรวมพวกมันไปไว้ในลูกแก้วสีทองในมิติลึกลับและปลุกมังกรอัคคีขึ้น เงาร่างมังกรทองค่อยๆปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนในขณะที่พลังวิญญาณมหาศาลกำลังเอ่อล้นออกมา
ในขณะนั้นเองฉิงเฟิงก็ลืมตาขึ้นและกล่าวกับทั้งสองว่า
“ผู้อำนวยการชาวฮวาเซียนจือ โปรดถอยออกมา ฉันจะระเบิดสมองไอ้ปีศาจเฒ่าผู้นี้ด้วยหมัดเดียว !”
ผู้หญิงทั้งสองมีสีหน้างุนงงแต่พวกเธอก็ยอมถอยออกไปเพราะเชื่อใจฉิงเฟิง