My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 936 ลอบสังหารยามราตรี
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 936 ลอบสังหารยามราตรี
“วูฟคิงเหล่านักรบรุ่นเยาว์ของทวีปเสือต่างก็ทรงพลัง หัวหน้าตระกูลของพวกเขายิ่งแข็งแกร่งกว่า คุณแน่ใจหรือว่าจะไปทำลายงานแต่งงาน ” แคทเธอรีนถาม เสียงของเธอเบามากราวกับกระซิบ มีเพียงฉิงเฟิงเท่านั้นที่ได้ยิน
ฉิงเฟิงพยักหน้ายืนยันความตั้งใจอย่างชัดเจนว่าเขาจะไปขวางการแต่งงานการที่เขาเข้าร่วมงานเลี้ยงดินเนอร์คืนนี้ก็เพื่อสำรวจความสามารถของทุกคน เห็นได้ชัดว่าในขณะนี้ทั้งสิบตระกูลต่างก็พลังอย่างแท้จริง คุณชายคุณหนูบางคนในตระกูลของเขาต่างก็อยู่ในระดับแกรนด์มาสเตอร์แล้ว อีกทั้งผู้อาวุโสในตระกูลก็ยังเป็นยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวจิตวิญญาณแท้จริง
เมื่อเป็นไปตามรูปโครงสร้างเช่นนี้หัวหน้าตระกูลของพวกเขาอย่างน้อยต้องอยู่ในระดับจิตวิญญาณแท้จริงแน่นอน แน่นอนว่าอาวุโสผู้พิทักษ์แห่งตระกูลกาโตร์มีสถานะในระดับยอดฝีมือครึ่งก้าวจิตวิญญาณแท้จริงเขามีสถานะเป็นที่สองรองจากหัวหน้าตระกูลกาโตร์เท่านั้น
สิบตระกูลใหญ่ของสมาพันธ์เทพนภาล้วนเป็นกองกำลังระดับซุปเปอร์คลาสทั้งสิ้นพวกเขาคือกลุ่มคนที่ทรงอำนาจที่สุดของทวีปเสือ ด้วยประวัติอันยาวนานและความมั่งคั่งของทรัพยากรย้อนหลังไปนับพันปี มันก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกเขาที่จะทรงอำนาจเช่นนี้
อย่างไรก็ตามนอกเหนือไปจากหัวหน้าตระกูลทั้งสิบแล้ว ตระกูลเหล่านี้ส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยยอดฝีมือขั้นเหนือสวรรค์และแกรนด์มาสเตอร์มากมาย มีเพียงไม่กี่คนที่อยู่ในระดับครึ่งก้าวจิตวิญญาณแท้จริงขึ้นไป แต่ละคนตระกูลมีไม่น่าจะเกินสามคน
“วูฟคิงชั้นรู้ว่าไม่สามารถโน้มน้าวคุณได้ แต่โปรดระวังตัวด้วย คุณเพิ่งเอาชนะผู้พิทักษ์ใหญ่แห่งตระกูลกาโตร์ ชั้นเกรงว่าตระกูลอื่นๆอาจจะหาทางเล่นงานคุณด้วยเช่นกัน” แคทเธอรีนกล่าวด้วยความกังวล เธอกระพริบตาถี่
ภายในสมาพันธ์เทพนภา,ตระกูลใหญ่ทั้งสิบล้วนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมาก ความพ่ายแพ้ของผู้พิทักษ์ใหญ่ตระกูลกาโตร์คือความอัปยศอดสูต่อพวกเขาทั้งหมด
อย่างไรก็ตามเนื่องจากสุดยอดฝีมือของพวกเขาไม่ได้อยู่ในงานเลี้ยงคืนนี้ เหล่ารุ่นเยาว์จึงไม่กล้าลงมือต่อฉิงเฟิงด้วยตัวเอง พวกเขารู้ตัวว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายหนุ่มชาวหัวเซี่ยคนนี้ สิ่งที่พวกเขาทำได้คือระงับความโกรธเอาไว้ก่อนและรอกลับไปแจ้งข่าวต่อหัวหน้าตระกูล
เหล่ารุ่นเยาว์ของสิบตระกูลใหญ่ล้วนแต่มาจากทวีปเสือพวกเขาไม่ชอบขี้หน้าฉิงเฟิงที่เป็นชาวหัวเซี่ย จึงทำเป็นไม่สนใจเขาและนั่งดื่มกินพูดคุยสัปเพเหระกันเอง
แม้ว่าฉิงเฟิงและพรรคพวกจะถูกเมินแต่ก็ไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะปล่อยให้อาหารชั้นเลิศเหล่านี้เสียของ พวกเขากินกันอย่างอิ่มหนำสำราญ
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่ไม่สนใจฉิงเฟิงและพรรคพวกนอกเหนือจากแคทเธอรีนที่คุยกับฉิงเฟิงอยู่ตลอดแล้วก็ยังมีสาวงามคนหนึ่งเดินมาหาพวกเขาเช่นกัน ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอคืออาฟริลนั่นเอง แต่เธอไม่ได้มาที่โต๊ะนี้เพื่อฉิงเฟิง เธอมาหาค้างคาวม่วงต่างหาก…..
ในตอนที่ต่อสู้กันราชาอสูรค้างคาวม่วงเปิดใช้งานพลังสายเลือดค้างคาวม่วงของเขา มันคือสายเลือดของราชาในหมู่ราชาค้างคาวทั้งปวงตั้งแต่สมัยบรรพกาล และแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ
ในฐานะที่เป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลค้างคาวแห่งทวีปเสือทั่วร่างกายของเธอไหลเวียนไปด้วยสายเลือดค้างคาว เธอรู้สึกได้ถึงความคุ้นเคยในสายเลือดของเธอที่มีต่อราชาอสูรค้างคาวม่วง มันทำให้เธออย่างเข้าใกล้เขาให้มากขึ้น
เธอมานั่งข้างๆค้างคาวม่วงพร้อมกับไวน์แดงหนึ่งขวดจากนั้นก็เริ่มดื่มและพูดคุยกับเขา เห็นได้ชัดว่าเธอติดใจชายหนุ่มรูปหล่อชาวหัวเซี่ยคนนี้เข้าแล้ว
ค้างคาวม่วงที่ปากบอกว่าไม่สนใจแต่เขาก็ดูเหมือนถูกดึงดูดโดยสาวงามที่มีสายเลือดค้างคาวเช่นกันพลังสายเลือดค้างคาวที่ไหลเวียนอยู่ในร่างของเธอทำให้เขาเริ่มตื่นเต้น ทั้งคู่คุยกันอย่างออกรสและไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็ฉุดลากกันไปกอดจูบที่มุมหนึ่งของห้องโถง
อาฟริลนับได้ว่าเป็นสาวงามที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เธอเป็นชาวยุโรป ด้วยผมสีบลอนด์และดวงตาสีฟ้า ตลอดจนริมฝีปากที่หวานและอ่อนนุ่มของเธอ ทั้งหมดนี้ทำให้ค้างคาวม่วงเริ่มหลงใหล
…………………..
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วในที่สุดก็ผ่านไปหลายชั่วโมงในพริบตา
มันมืดแล้วและความเงียบก็เข้าปกคลุมไปทั่วดวงจันทร์ลอยขึ้นสูงไปบนท้องฟ้าส่องแสงของมันลงมาบนโลก
ไม่ว่าจะเป็นในหัวเซี่ยหรือในทวีปเสือดวงจันทร์ก็เป็นดวงเดียวกัน มันสดใสและเปล่งแสงสีขาวนวลออกมา
หลังจากดินเนอร์จบลงเหล่ารุ่นเยาว์ของทั้งสิบตระกูลต่างก็ทยอยเดินออกจากโรงแรมแกรนด์ปารีสทีละคน
ขณะที่พวกเขาเดินออกจากโรงแรมหลายคนจ้องมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยสายตาที่มีทั้งเย็นชา โกรธเกรี้ยวและหวาดกลัว
ส่วนฉิงเฟิงและพรรคพวกไม่ได้กลับไปเพราะแคทเธอรีนบอกให้พวกเขาพักค้างคืนที่นี่
เขาเชื่อใจแคทเธอรีนมากพวกเขารู้จักกันมานานมากและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เขาไว้วางใจและรู้สึกปลอดภัยกับการจัดการของเธอ
อย่างไรก็ตามทันทีที่นาฬิกาถึงเที่ยงคืนก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นเงาดำสองเงาซ่อนตัวอยู่ในโรงแรมและพยายามลอบสังหารฉิงเฟิง
ชายสองคนในชุดดำมีพลังที่แข็งแกร่งร่างกายของพวกเขาเปล่งกลิ่นอายพลังอันน่าเหลือเชื่อออกมา พวกเขาทั้งคู่ล้วนเป็นยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวจิตวิญญาณแท้จริง
ฉิงเฟิงรู้ได้ชัดเจนว่าสิบตระกูลใหญ่ได้ส่งชายสองคนนี้มาเพื่อลอบสังหารเขาเพราะเขาทำให้สิบตระกูลใหญ่ต้องขายหน้าในระหว่างงานเลี้ยง
ชายร่างผอมสูงในชุดดำเจาะรูที่หน้าต่างแล้วพ่นควันบางชนิดเข้ามาข้างในพวกเขาต้องการลอบสังหารฉิงเฟิงหลังจากใช้ยาสลบ เห็นได้ชัดว่าชายสองคนในชุดดำนี้ตระหนักถึงพลังของเขาเป็นอย่างดีจึงไม่กล้าลงมือซึ่งๆหน้า
กลิ่นนี้
ยาสลบ
ฉิงเฟิงยิ้มเยาะดวงตาของเขาเต็มไปด้วยประกายแห่งความรังเกียจ เขาเป็นนักปรุงยาและมีทักษะทางการแพทย์ ยาพวกนี้ไม่มีผลอะไรต่อเขา
ฉิงเฟิงนอนบนเตียงเขาปิดตาลงและแกล้งทำเป็นหลับต่อชายชุดดำทั้งสองคน
หลังจากชายผอมสูงชุดดำพ่นยาสลบเข้าไปเขาก็แกล้งโยนหินเพื่อให้เกิดเสียงดังในห้อง ฉิงเฟิงก็แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน
“วูฟคิงสลบไปแล้วไปฆ่ามันกันเถอะ”
ระบบรักษาความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมของโรงแรมหรูระดับนี้คนทั่วไปไม่สามารถงัดแงะอะไรได้ แต่สำหรับยอดฝีมืออย่างพวกเขามันไม่ได้อยู่ในสายตา พวกเขาเปิดประตูห้องของฉิงเฟิงเข้าไปอย่างง่ายดาย
ฉิงเฟิงตื่นตัวอยู่แต่เขาแกล้งนอนกรนอย่างต่อเนื่องราวกับหลับสนิท
ชายร่างผอมสูงชุดดำที่อยู่ด้านซ้ายหยิบมีดสั้นออกมาและแทงตรงไปที่หัวใจของฉิงเฟิงหากมีดสั้นกระทบร่างเขา มันจะทะลุหัวใจเขาอย่างแน่นอน
เมื่อมีดสั้นมาใกล้หัวใจของเขาฉิงเฟิงก็ลืมตาขึ้นและมองชายทั้งสองอย่างเย้ยหยัน เขากางนิ้วและคีบจับมีดสั้นด้วยมือเปล่าทันที
“อะไรกัน เจ้าไม่ได้ถูกยาสลบหรอกหรือ ?” ชายร่างผอมสูงในชุดดำกล่าวด้วยความตกตะลึง
ยาสลบชนิดนี้ไม่ใช่ยาสลบธรรมดามันทำจากส่วนผสมที่หาได้ยากยิ่งของดอกไม้ระดับจิตวิญญาณ มันได้รับการปรุงแต่งโดยราชายาทิพย์ของทวีปเสือและมีประสิทธิภาพอย่างมากต่อยอดฝีมือระดับแกรนด์มาสเตอร์จนถึงผู้ฝึกตนระดับครึ่งก้าวจิตวิญญาณแท้จริง
ก่อนหน้านี้เคยมียอดฝีมือระดับครึ่งก้าวถูกวางยาสลบชนิดนี้และสลบไสลไม่ได้สติจนกระทั่งถูกลอบสังหารแต่มาวันนี้ฉิงเฟิงกลับไม่เป็นอะไรเลย ชายทั้งสองคนนี้จึงตกตะลึงมาก
“ยาสลบของพวกแกมันอ่อนด้อยเกินไปและไร้ประสิทธิภาพ”ฉิงเฟิงกล่าวพร้อมกับส่ายหน้า
เมื่อได้ยินคำพูดของเขาชายทั้งสองในชุดดำก็ใบหน้าบิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธ นี่เป็นการดูถูกพวกเขาอย่างแท้จริง ไม่ใช่สิ นี่เป็นการดูหมิ่นต่อราชายาทิพย์แห่งทวีปเสือของพวกเขา ! เขากล้าพูดว่ายาที่ปรุงแต่งด้วยมือของราชายาทิพย์ไร้ประสิทธิภาพได้อย่างไร