My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 953 อัญเชิญปราชญ์พิชิตสวรรค์ !
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 953 อัญเชิญปราชญ์พิชิตสวรรค์ !
“
ผู้ที่ดูหมิ่นพระสันตะปาปาแห่งศาสนจักรผู้ที่กล้าไม่เคารพต่อพระเจ้าล้วนต้องตายโดยไม่ละเว้น”
ดวงตาขนาดมหึมากล่าวอย่างเฉยเมยไร้อารมณ์ขณะมองไปที่ราชันผู้พิชิตราวกับมองมดตัวหนึ่ง
ดวงตาอันมหึมาคือภาพฉายของเทพแห่งแสงที่ลงมาบนโลก
“ฮ่า! เจ้ามันแค่ภาพฉายของเทพแห่งแสงในโลกมนุษย์ กล้าดียังไงมาข่มขู่เราราชันผู้นี้ น่าขำว่ะ” ราชันผู้พิชิตกล่าวพร้อมกับหัวเราะ เขายังคงเย่อหยิ่งและดุร้ายเหมือนเคย เขาไม่หวั่นแม้แต่ดวงตาจำแลงของเทพแห่งแสง
แม้แต่การเผชิญหน้ากับเทพในตำนานผู้นำอันยิ่งใหญ่ของจักรวาล ราชันผู้พิชิตก็ยังคงไร้ซึ่งร่องรอยแห่งความหวาดกลัว “
ผู้ที่หมิ่นประมาทต่อเทพเจ้าความตายจะมาถึงตัวเจ้า”
ดวงตาขนาดมหึมาพุ่งลำแสงสีขาวออกมาและตรงเข้าหาราชันผู้พิชิต
ลำแสงสีขาวนั้นน่ากลัวอย่างมากมันบรรจุไปด้วยพลังในการทำลายล้างทุกสรรพสิ่ง มันมีพลังมากกว่าขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์ ถ้ามันตกลงบนตัวของราชันผู้พิชิต เขาต้องตกตายอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามราชันผู้พิชิตก็มีของ มิเช่นนั้น ด้วยพลังของราชโองการเทพ เขาย่อมไม่กล้าทำตัวยโสแน่นอน การที่เขากล้าทำตัวโอหังเช่นนี้เพราะเขาก็อะไรบางอย่างรองรับ
ราชันผู้พิชิตหยิบม้วนตำราสีเขียวหยกออกมามันดูเก่าเก่าโบราณและหนักมาก มันถูกปกคลุมด้วยฝุ่นและจุดด่างดำที่เก่าแก่ราวกับอะไรบางอย่างที่หลงเหลือมาจากสมัยโบราณกาล อุปกรณ์ของปราชญ์ฝั่งตะวันออกนั้นมีพลังพอๆกับอุปกรณ์แห่งเทพเจ้าของฝั่งตะวันตกทั้งสองชนิดต่างเต็มไปด้วยพลังในการทำลายล้างสวรรค์และปฐพี
“ข้าคือบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งนิกายพิชิตสวรรค์นายท่าน โปรดปรากฏกาย !”
ราชันผู้พิชิตกล่าวด้วยความเคารพในขณะที่เขาบีบเลือดสดลงบนม้วนหยกสีเขียว
ถึงแม้ว่าราชันผู้พิชิตจะดูถูกเหยียดหยามโลกหล้า,ยโสโอหังอย่างสุดแสน แต่เขาก็มีขอบเขต ต่อหน้าม้วนตำราสีเขียวหยกเขามีแต่ความเคารพ มันเป็นของขวัญที่เขาได้รับมาจากปราชญ์พิชิตสวรรค์หลังจากที่เขากลายเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ของนิกายพิชิตสวรรค์
นิกายพิชิตสวรรค์เป็นเหล่าผู้ฝึกตนที่ทรงพลังมหาศาลในสมัยโบราณกาล พวกเขาเคยปกครองเหนือสรวงสวรรค์ มันเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่จักรพรรดิฟ้าเรืองอำนาจ
ต่อมากลุ่มนิกายพิชิตสวรรค์ได้ถูกขับออกจากสวรรค์หลังจากพ่ายแพ้ในมหาสงครามครั้งใหญ่แม้ว่าอำนาจโดยรวมจะลดลง แต่มันก็ยังคงเป็นกองกำลังยักษ์ใหญ่ในโลกของผู้ฝึกตน
ราชันผู้พิชิตหลี่ซานเย่คือผู้ถูกเลือกในฐานะบุตรศักดิ์สิทธิ์ของปราชญ์พิชิตสวรรค์สืบเนื่องมาจากพรสวรรค์ที่เหนือล้ำผิดมนุษย์ของเขา จากนั้นเขาก็ได้รับมอบม้วนหยกเขียวชิ้นนี้มา
ตูม
!!
เมื่อเลือดของราชันผู้พิชิตหยดลงบนม้วนหยกสีเขียวมันก็ฉายแสงสีเขียวที่เปล่งประกายออกมา ทันใดนั้นเอง นิ้วใหญ่ขนาดใหญ่ก็โผล่พุ่งออกมาจากม้วนหยกสีเขียว นิ้วนั้นมีขนาดใหญ่มหึมามาก มันยาวนับร้อยเมตร !
ทุกคนต่างเฝ้ามองดูนิ้วขนาดมหึมานี้ด้วยความหวาดกลัวพวกเขากำลังหายใจไม่ออก ราวกับว่าพวกเขาได้เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์บางอย่าง
นิ้วนิ้วขนาดยักษ์ชี้ไปที่แสงสีขาวจากเทพแห่งแสงและทำลายมันลงอย่างสมบูรณ์มันระเหิดกลายเป็นพลังงานที่พรั่งพรูและหายไปสู่ความว่างเปล่า
“
ปราชญ์ผู้พิชิตสวรรค์
,
เจ้ายังไม่ตาย
”
ดวงตาขนาดมหึมาจดจำผู้ที่อยู่เบื้องหลังนิ้วยักษ์นี้ได้เขาตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
ดวงตาขนาดใหญ่มาจากเทพเจ้าฝั่งตะวันตกในขณะที่นิ้วยักษ์มาจากปราชญ์ผู้พิชิตสวรรค์ของฝั่งตะวันออกทั้งสองเคยพบกันมาก่อนและเคยต่อสู้กันอีกด้วย เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะจดจำกันได้ในทันที
“ เทพแห่งแสง
,
เจ้าก็ยังไม่ตายเช่นกันกล่าวไปแล้วเจ้าก็โชคดีไม่น้อย ข้าผู้นี้บดขยี้หัวใจของเจ้าไปแล้ว ทำไมเจ้าถึงยังมีชีวิตอยู่ได้
”
น้ำเสียงแผ่วเบาดังมาจากนิ้วยักษ์
ราวกับว่าถูกก้นด่าเทพแห่งแสงเริ่มเดือดดาล ดวงตานั้นปรากฏร่องรอยแห่งความโกรธกริ้ว
“
ปราชญ์พิชิตสวรรค์แม้นเจ้าจะทรงพลังมาก แต่หากข้าลงมือเต็มที่ ข้ามั่นใจว่าสามารถปลิดชีพของราชันผู้พิชิตได้ เจ้าต้องการให้ข้าสังหารสาวกคนโปรดของเจ้าหรือไม่
”
ดวงตาขนาดมหึมาข่มขู่และหัวเราะด้วยเสียงเย็นชา ถูกต้อง,บางทีเทพแห่งแสงอาจจะไม่ทรงพลังเท่ากับปราชญ์พิชิตสวรรค์เมื่อพูดถึงพลังในการต่อสู้ แต่ถ้าหากเขาจริงจัง เทพแห่งแสงสามารถสังหารราชันผู้พิชิตได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แม้ว่าราชันผู้พิชิตจะไร้เทียมทานแต่ระดับพลังของเขาก็ยังไม่อาจเทียบเท่าได้กับสิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้
“
เทพแห่งแสงหากเจ้ากล้าทำอะไรราชันผู้พิชิต ปราชญ์พิชิตสวรรค์ผู้นี้จะสังหารสันตะปาปาตัวแทนของเจ้า
,
ทำลายล้างศาสนจักรและปลิดปลงชีวิตทั้งมวลของเหล่าผู้ภักดีต่อเจ้าบนโลกเจ้าจะลองดูก็ได้”
ปราชญ์พิชิตสวรรค์ตอกกลับคำพูดคุกคามของเทพแห่งแสงด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
เมื่อได้ยินสิ่งนี้เทพแห่งแสงก็ตกอยู่ในความเงียบงันเขาลังเลที่จะลงมือ เขารู้ถึงความสามารถของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี หากเขาสังหารผู้พิชิตแล้วสมเด็จพระสันตะปาปาก็จะตายเช่นกันและศาสนจักรทั้งหมดก็จะถูกทำลายตามมา มันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการอย่างแน่นอน
“
เทพแห่งแสงนี่คือตำนานการต่อสู้บทใหม่ระหว่างคนรุ่นใหม่ด้วยกัน พวกเราในฐานะผู้อาวุโสจากโบราณกาล พวกเราไม่ควรเข้าไปแทรกแซง หากเจ้าไม่ปรากฏตัว ข้าก็ไม่ลงมาโลกนี้เช่นนี้ เจ้าไม่ต้องการให้ผู้สืบทอดของเจ้าตาย ข้าก็ไม่ต้องการให้บุตรสวรรค์ของข้าตายเช่นเดียวกัน ดังนั้นทางออกของเรื่องนี้นั้นง่ายดายและรวบรัดยิ่ง เราควรปล่อยให้พวกเขาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง”
ปราชญ์พิชิตสวรรค์กล่าวเบาๆ
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ดวงตาของเทพแห่งแสงก็เปลี่ยนไปด้วยความครุ่นคิด ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเห็นด้วยกับคำพูดของปราชญ์พิชิตสวรรค์และหายไปในที่สุด
เทพแห่งแสงรู้ว่าเขาไม่สามารถฆ่าราชันผู้พิชิตได้เนื่องจากการปรากฏตัวของปราชญ์พิชิตสวรรค์มิฉะนั้นทั้งสันตะปาปาและศาสนจักรจะต้องพินาศย่อยยับ เพื่อป้องกันความเสียหายลุกลามใหญ่โต ทางออกเดียวที่ดีที่สุดคือยอมรับข้อตกลงของปราชญ์พิชิตสวรรค์ จากไปโดยไม่สนใจเรื่องทางโลก
เมื่อเห็นการสลายไปของดวงตาของเทพแห่งแสงปราชญ์พิชิตสวรรค์ก็กล่าวกับราชันผู้พิชิตว่า
“
ข้าจะไปแล้วต่อไปนี้เรื่องของโลกฆราวาสขึ้นอยู่กับพลังของพวกเจ้าเอง
”
หลังจากกล่าวจบปราชญ์พิชิตสลายก็สลายไป อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะจากไป ชั่วพริบตาหนึ่งเขาเหลือบมองไปยังหลี่ฉิงเฟิงด้วยสายตาที่ชื่นชม ดูเหมือนว่าเขาจะประทับใจในตัวชายหนุ่มผู้นี้
แต่มันก็เป็นเพียงการชั่วขณะเดียวเท่านั้นเขาจ้องมองฉิงเฟิงและสลายไปโดยไร้คำพูด
หลังจากการหายตัวไปของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองความตึงเครียดระหว่างสวรรค์และปฐพีก็ยกระดับขึ้น ทุกคนลุกขึ้นจากพื้นด้วยร่างกายที่ยังคงสั่นเทาจากเหตุการณ์ในวันนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันเหลือล้ำเกินไปสำหรับพวกเขา
“ไอ้แก่ว่ายังไงต่อล่ะทีนี้ เทพแห่งแสงของเจ้าช่วยคุมกะลาหัวให้เจ้าไม่ได้แล้ว เราราชันจะพาบุตรชายและลูกสะใภ้กลับแล้ว ข้องใจอะไรอีกมั้ย ?”
ราชันผู้พิชิตหัวเราะลั่นและกล่าวขึ้นเขามองไปที่พระสันตะปาปาอย่างเย่อหยิ่งจองหอง
เมื่อได้ยินเช่นนี้ใบหน้าของพระสันตะปาปาก็ซีดเผือดเขาสำลักเลือดด้วยความโกรธจนไม่อาจควบคุมได้อยู่ เจ้าหญิงอลิซเป็นเจ้าสาวของออกัสตินซึ่งเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเขา หากราชันผู้พิชิตพาตัวทั้งสองจากไปอย่างง่ายดายเช่นนี้ มันไม่ใช่เพียงการตบหน้าออกัสตินเท่านั้น แต่มันคือการตบหน้าสันตะปาปาอย่างเขาเช่นกัน
พระสันตะปาปาต้องการปฏิเสธคำพูดนี้แต่เขาก็รู้ซึ้งถึงพลังของราชันผู้พิชิต เขาขัดขืนไม่ได้
ที่จริงแล้วเขายังมีอุปกรณ์ระดับเทพที่ยังไม่ได้อยู่อีกแต่เขาก็กลัวที่จะใช้มัน เขารู้ว่าราชันผู้พิชิตเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว หากเขาใช้อุปกรณ์ระดับเทพชนิดอื่น หลี่ฉิงเฟิงอาจจะตายจริง แต่ศาสนจักรรวมถึงตัวเขาก็จะจบสิ้นเช่นกัน มันไม่คุ้มแม้แต่น้อย
ในที่สุดเขาก็เลือกที่จะระงับอารมณ์เพื่อเรื่องส่วนรวมอวตารของเขาหายวับไปภายในมหาวิหารทันที
“สมเด็จพระสันตะปาปาล่าถอยแล้วราชันผู้พิชิตสุดยอดอย่างแท้จริง”
“ใช่แล้วอย่าลืมว่าพระสันตะปาปาเป็นชายผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในทวีปเสือทั้งหมด ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะยอมกล้ำกลืนความอัปยศจากราชันผู้พิชิตในวันนี้ น่าสงสารนัก…”
“เฮ้อ…ราชันผู้พิชิตทรงพลังยิ่งกว่าที่ล่ำลือเสียอีก อีกทั้งภูมิหลังของเขาก็ทรงพลังเหลือคณา ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะได้รับการสนับสนุนจากปราชญ์พิชิตสวรรค์ในตำนาน”
ทุกคนเริ่มพูดคุยกันด้วยเสียงต่ำพวกเขากลัวว่าจะทำให้ราชันผู้พิชิตได้ยิน ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
จากจุดนี้เป็นต้นไปชื่อเสียงของราชันผู้พิชิตและหลี่ฉิงเฟิงบุตรชายจะแพร่กระจายไปทั่วทั้งทวีปเสือ ซึ่งมันจะทำให้โลกต้องสั่นสะเทือน !