My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 960 ราชา(ราชินี)อสูรคนที่ 6 ผู้งดงาม
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 960 ราชา(ราชินี)อสูรคนที่ 6 ผู้งดงาม
ค้างคาวม่วงขมวดคิ้วในขณะที่เขานึกได้ถึงบางสิ่งจากคำพูดของราชางูเกล็ดเพลิง
“นายน้อยครับในบรรดาราชาอสูรทั้งสิบของราชันผู้พิชิตมีบุคลชื่อราชาอสูรเพลิงอยู่ เป็นไปได้ไหมครับว่า….. ” ค้างคาวม่วงเดินไปหาฉิงเฟิงและกระซิบ
ฉิงเฟิงตกตะลึงและเขาก็นึกออกมาทำไมถึงรู้สึกคุ้นหูกับชื่อนี้อาจารย์ของเขา, ราชาอสูรมีดวายุเคยเล่าให้ฟังว่า ราชาอสูรเพลิงนั้นคือสตรีผู้งดงามที่สุดของเหล่าราชาอสูรทั้งสิบคนและพวกเขาหลายคนก็ชื่นชอบในความมีเสน่ห์ของเธอ
“เข้าใจแล้วฉันหวังว่าเธอจะใช่หนึ่งในสิบราชาอสูรของพ่อจริงๆเพราะมันจะได้ทำให้พวกเราปลอดภัยมากขึ้นในการใช้ชีวิตบนเกาะแห่งนี้” ฉิงเฟิงยิ้มด้วยความคาดหวัง
เขารู้ถึงกำหนดการแน่นอนที่แดนต้องห้ามคุนหลุนจะเปิดขึ้นในไม่ช้าเขาจำเป็นต้องแข็งแกร่งขึ้นโดยที่สุด ตลอดจนรวบรวมเหล่าลูกน้องที่เข้มแข็งเพื่อเข้าไปในนั้น
ฉิงเฟิงได้ขอให้ราชางูเกล็ดเพลิงนำทางไปสู่ศูนย์กลางของเกาะเพลิงระอุเพราะที่นั่นมีราชาอสูรเพลิงอาศัยอยู่
หลังจากเดินทางไปได้เพียงไม่กี่ร้อยเมตรนกอินทรีสีดำขนาดใหญ่ก็ขวางทางพวกเขาไว้
อินทรีดำตัวนี้มีความยาวมากกว่าสิบเมตรมันมีศีรษะเป็นมนุษย์และร่างกายเป็นนก ขนนกสีดำสนิทของมันมีความแหลมคมพอๆกับเข็ม
มีโครงกระดูกมนุษย์จำนวนมากเรียงรายอยู่บนพื้นไม่ไกลจากนกอินทรีผิวหนังและเนื้อของพวกเขาจะต้องถูกอินทรีดำตัวนี้กัดกินอย่างแน่นอนเนื่องจากยังมีเศษซากชิ้นเนื้อติดอยู่ที่เท้าของมัน
“เจ้ามนุษย์ที่นี่คือถิ่นของข้า !” อินทรีดำหน้าคนกล่าวกับพวกฉิงเฟิงอย่างหยิ่งผยอง ราชางูเกล็ดเพลิงยืนขวางหน้าฉิงเฟิงและกล่าวว่า“พี่ชายอินทรีดำ ให้พวกเราผ่านไปด้วย พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปยังศูนย์กลางของเกาะเพลิงระอุ”
เห็นได้ชัดว่าราชางูเกล็ดเพลิงนั้นคุ้นเคยกับอินทรีดำเป็นอย่างดีและเรียกมันว่าพี่ชาย
แต่อินทรีดำกลับไม่ยอมหลีกทางให้แก่ราชางูเกล็ดเพลิงและฉิงเฟิงง่ายๆมันกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ราชางู เจ้ากำลังยั่วยุข้าด้วยการนำคนของเจ้าที่ชายหาดผ่านมายังถิ่นของข้า ข้าไม่ยอมให้พวกเจ้าผ่านไปง่ายๆหรอก”
ทุกคนเริ่มรู้สึกตกใจเมื่อพบว่าสัตว์แทบทุกตัวบนเกาะแห่งนี้สามารถพูดได้
ราชางูเกล็ดเพลิงรู้สึกอับอายด้วยความโกรธเพราะอินทรีดำไม่ไว้หน้าเขา
ฉิงเฟิงก้าวไปข้างหน้าและกล่าวว่า“ฉันจะให้โอกาสแกสักครั้ง หลีกทางซะไม่งั้นฉันจะฆ่าแก”
“ฮ่าๆๆข้าคือสัตว์อสูรระดับครึ่งก้าวจิตวิญญาณแท้จริง มนุษย์ผู้ต่ำต้อยอย่างเจ้าจะฆ่าข้า น่าขันสิ้นดี” อินทรีดำเชิดศีรษะขึ้นและมองฉิงเฟิงอย่างหยิ่งผยอง
เมื่อคิดถึงมนุษย์ที่มันเคยกินมาก่อนอินทรีดำก็กลืนน้ำลายดังอึกและจ้องมองพวกเขาอย่างกระตือรือร้น
“ถ้าแกอยากตายนักงั้นฉันจะให้แกสมความปรารถนา” ดวงตาของฉิงเฟิงเปล่งประกายด้วยเจตนาฆ่าหลังจากเห็นการจ้องมองของอินทรีดำ
ตูม!!
เขาสะบัดข้อมือออกไปทันทีและฟาดฟันไปที่อินทรีดำด้วยกระบี่เพลิงคะนองของเขา
กระบี่ยิงพลังงานกระบี่ยาวนับยี่สิบเมตรออกไปมันฉีกผ่านช่องว่างของอากาศตรงไปยังอินทรีดำ หัวของมันหลุดออกจากร่างด้วยพลังงานกระบี่ เลือดฉีดพุ่งไปทุกแห่งหนและร่างของมันก็ตกลงมาบนพื้น
“ช่างแข็งแกร่งอะไรเช่นนี้…. “ ราชางูเกล็ดเพลิงรู้สึกตื่นตระหนกเมื่อได้เห็นว่าฉิงเฟิงจัดการกับอินทรีดำได้ง่ายดายเพียงใด
ในความเป็นจริงราชางูเกล็ดเพลิงก็มีพลังในระดับเดียวกับอินทรีดำ มันรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ไม่ลงมือต่อฉิงเฟิง มิฉะนั้นมันคงตายด้วยเขาตั้งแต่อยู่ที่ชายหาดไปแล้ว
ฉิงเฟิงเพิกเฉยต่อความคิดของราชางูเกล็ดเพลิงเขาเดินไปที่ศพของอินทรีดำ ตัดผ่านช่องท้องและพบแก่นอสูรของของอินทรีดำซึ่งเป็นคริสตัลสีดำขนาดเท่าไข่ มันเป็นแก่นอสูรธาตุลมซึ่งช่วยในด้านการพัฒนาความคล่องแคล่วรวดเร็ว
“ค้างคาวม่วงนายฝึกพลังธาตุลมใช่ไหม รับนี่ไปสิ” ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและมอบแก่นอสูรของอินทรีดำให้กับเขา
“ขอบคุณขอรับนายน้อย”ค้างคาวม่วงกล่าวขอบคุณและเต็มไปด้วยความรู้สึกยินดี
วิชาท่าร่างค้างคาวที่ค้างคาวม่วงฝึกฝนนั้นรวดเร็วราวกับประกายสายฟ้าและแก่นอสูรธาตุลมนั้นจำเป็นอย่างยิ่งในการเข้าถึงระดับต่อไป อินทรีดำเป็นสัตว์อสูรธาตุลมและแก่นอสูรของมันมีประโยชน์ต่อเขาอย่างยิ่ง
ราชางูเกล็ดเพลิงนำทางพวกฉิงเฟิงด้วยความเคารพมากยิ่งขึ้นหลังจากที่เห็นอินทรีดำถูกฉิงเฟิงฆ่าตาย
เกาะเพลิงระอุแห่งนี้มีความกว้างนับหมื่นตารางไมล์มันเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ร้ายหลายชนิด สัตว์เหล่านี้ได้รับการบ่มเพาะพลังจนวิวัฒนาการไปเป็นสัตว์กึ่งมนุษย์ที่ถูกเรียกว่าสัตว์อสูร
ฉิงเฟิงได้ฆ่าสัตว์อสูรที่พยายามโจมตีพวกเขาไปอีกสองสามตัวอย่างง่ายดายเขามอบแก่นอสูรทั้งหมดที่เขาฆ่าไปให้แก่ทีมเขี้ยวหมาป่าและลู่เต๋าซาง เพื่อประโยชน์ในการเพิ่มระดับพลังของพวกเขา
………..
ในเวลาเดียวกันแม็กม่าสีแดงเพลิงกำลังม้วนตัวอยู่ในภูเขาไฟและพ่นอากาศที่ร้อนจัดออกมา ณ ที่ใจกลางของเกาะ มีผู้หญิงสาวสวยคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลจากแม็กม่าด้วยอากาศร้อนจัดแผ่ซ่านออกมาจากดวงตาคู่งามของเธอ
เธอมีร่างกายที่เซ็กซี่นอกเหนือไปจากใบหน้าที่สวยสดงดงามหน้าอกคู่โตของเธอโผล่พุ่งออกมาจากเสื้อในขณะที่เอวผอมบางของเธอโชว์สัดส่วนผิวพรรณที่งดงามเต่งตึง ช่วงขาเรียวเพรียวบางของเธอก็งดงามดั่งคริสตัลชั้นเลิศ
เธออยู่ในวัยสามสิบซึ่งเป็นช่วงชีวิตที่สวยที่สุดของมนุษย์ผู้หญิงผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนลูกพีชที่บานฉ่ำในเสื้อคลุมสั้นสีแดง มันทำให้ผู้คนอยากจะกัดชิมลิ้มลองเธอ
กลุ่มคนที่มีผิวสีแดง,ผมแดงและดวงตาสีแดงยืนอยู่ตรงหน้าเธอ พวกเขาเป็นกลุ่มคนทั่วไปของเกาะเพลิงระอุที่อาศัยอยู่ใต้แม็กม่า
ผู้นำคือชายที่มีอายุสี่สิบปีเขามีผิวสีแดงดั่งภูเขาไฟและมีเปลวไฟสีแดงล้อมรอบร่างกายของเขา
“จงออกไปซะราชาอสูรเพลิงที่นี่คือถิ่นของพวกเรา,มนุษย์แม็กม่า”
ชายผู้นำกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“แหมๆจูซาน, ไม่ต้องถึงขั้นไล่ก็ได้มั้ง ข้ารับรองว่าจะไปจากที่นี่ทันทีที่เจ้ามอบผลเพลิงมาให้ข้า” ราชาอสูรเพลิงยิ้มอย่างมีเสน่ห์ในขณะที่เธอจ้องมองไปที่ต้นไม้สีแดงที่อยู่ไกลๆอย่างร่าเริง
มันเป็นต้นไม้ขนาดเล็กที่มีความสูงประมาณสองเมตรซึ่งเติบโตขึ้นจากหินใต้พิภพในแม่น้ำแม็กมามันดูเหมือนกับลูกบอลเพลิงที่กำลังลุกไหม้ ต้นไม้สีแดงต้นนั้นล้อมรอบไปด้วยแม็กม่าเหมือนเปลวเพลิง มันกำลังดูดซับพลังงานธาตุไฟอย่างต่อเนื่อง
บนต้นไม้นี้มีผลไม้สามลูกที่มีขนาดเท่ากับลูกแอปเปิ้ลและเป็นสีแดงก่ำดั่งเปลวไฟที่ร้อนระอุ
หากฉิงเฟิงอยู่ที่นี่เขาย่อมรู้ในทันทีว่าผลเพลิงนั้นเป็นโอสถปรับแต่งจิตวิญญาณที่ล้ำค่ามันเป็นสิ่งที่เขาคิดจะฉกฉวยเช่นกัน