My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 962 สาวงามคนนี้หยิ่งยโสเล็กน้อย
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 962 สาวงามคนนี้หยิ่งยโสเล็กน้อย
ราชาอสูรค้างคาวม่วงฮึดฮัดที่พี่สาวใหญ่ของเขาจำฉิงเฟิงไม่ได้เขารีบแนะนำอย่างรวดเร็วว่า “พี่หญิง เขาคือบุตรชายคนเดียวของราชันผู้พิชิตและเป็นนายน้อยของพวกเรา”
ค้างคาวม่วงรู้สึกหงุดหงิดที่หนึ่งในสิบราชาอสูรผู้ภักดีกลับลืมหน้านายน้อยของตัวเอง
“เอ๋…จริงรึ ! ข้าจำได้แค่เพียงว่าเขายังเป็นเด็กตัวกระเปี๊ยกอยู่เลยตอนถูกตาแก่มีดวายุพาตัวไปทวีปหมาป่า ตอนนี้เติบใหญ่ขนาดนี้แล้วหรือเนี่ย ?” ราชินีอสูรเพลิงกล่าวพร้อมกับกะพริบตาที่สดใสของเธอ (ขอเปลี่ยนเป็นราชินี ลืมว่ามันเป็นผู้หญิงใช้ราชาไม่ได้ )
ราชาอสูรค้างคาวม่วงขมวดคิ้วให้พี่สาวของเขาเมื่อเห็นว่าเธอไม่ยอมคุกเข่าต่อหน้านายน้อยอีกทั้งยังไม่แสดงความเคารพอีกด้วย เขาไม่มีความสุขกับนิสัยที่หยิ่งผยองของเธอ
ดูเหมือนว่าราชินีอสูรเพลิงจะอ่านความคิดของค้างคาวม่วงออกจากสีหน้าที่ไม่พอใจของเขาเธอบุ้ยปากและกล่าวว่า “ผู้พิชิตสัญญากับข้าว่าจะมอบผลเพลิงให้เมื่อข้ายอมตกลงเป็นหนึ่งในสิบอสูรของเขา จากนั้นเขาก็หายตัวไปโดยยังไม่ได้ทำตามข้อตกลง ดังนั้น ตอนนี้ข้าคิดว่าข้าไม่ได้มีพันธะอะไรน้า”
“ว่าแต่ว่าน้องชายคนนี้น่ารักน่ากินจริงๆ ให้พี่สาวคนนี้แนะนำแฟนสาวให้สักมั้ยจ้ะ ” ราชินีอสูรเพลิงจ้องมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยรอยยิ้ม
ดูเหมือนว่าการแนะนำสาวๆให้กับชายหนุ่มรูปงามจะเป็นงานอดิเรกของราชินีอสูรเพลิงแม้แต่ฉิงเฟิงก็ไม่มีข้อยกเว้น….
“ฉันมีแฟนแล้วแต่ฉันก็ถูกใจคุณอยู่นะ ฉันชักอยากจับเธอมาทำเป็นแฟนเพิ่มอีกสักคนแล้วสิ” เพื่อไม่ให้น้อยหน้าราชินีอสูรเพลิง ฉิงเฟิงตอบกลับอย่างเจ้าชู้กรุ้มกริ้ม ราชินีอสูรเพลิงหน้าแดงต่อคำพูดของเขาเธอโมโหที่ถูกชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเกี้ยวพาราสี
“เจ้าชื่อหลี่ฉิงเฟิงใช่มั้ย ระวังมารยาทตอนพูดจากับข้าด้วยล่ะ ไม่งั้นข้าจะสั่งสอนบทเรียนให้เจ้า”
“พี่สาวใหญ่ช่วงนี้ฉันรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ชักอยากโดนทุบตีซะแล้วสิ เข้ามานวดให้ฉันหน่อยสิ มามะ” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างสนุกสนาน
แน่นอนว่าเขาย่อมไม่มีปัญหากับการถูกทุบตีจากสาวสวยอยู่แล้ว
ใบหน้าอันงดงามของราชินีอสูรเพลิงเปลี่ยนเป็นสีชมพูด้วยความอับอายและความโกรธเธอรู้สึกหงุดหงิดที่ถูกเขาแกล้งหยอกเธออีกครั้ง
สมาชิกของทีมเขี้ยวหมาป่าทุกคนต่างมองเธอด้วยความสงสารเพราะพวกเขารู้จากประสบการณ์ที่ใช้ชีวิตร่วมกับฉิงเฟิงมานานว่าบอสของพวกเขาไม่เพียงแค่สามารถฆ่าคนได้จากคำด่า แต่เขายังทำให้สาวสวยมากมายตกหลุมรักด้วยคำพูดหวานๆของเขาอีกด้วย
เมื่อได้เห็นฉิงเฟิงและราชินีอสูรเพลิงพูดจาหยอกล้อกันราชาเสือสีชาดกับชายวัยกลางคนผมแดงก็ขมวดคิ้วด้วยความโกรธ
ชายวัยกลางคนผมแดงโกรธมากที่ฉิงเฟิงไม่แยแสเขาแถมยังเข้ามาในดินแดนของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต
“เจ้ามนุษย์ที่น่ารังเกียจพวกเจ้าจงออกไปจากดินแดนของพวกเราเดี๋ยวนี้ !”
ชายผมแดงชี้ไปที่ฉิงเฟิงและตะโกนออกมาอย่างดุเดือด
“ฉันเกลียดการถูกชี้หน้าชักมือกลับไปซะและมอบผลเพลิงให้ฉัน แล้วพวกฉันจะจากไปทันที” ฉิงเฟิงเหลือบมองไปที่ชายวัยกลางคนผมแดงและกล่าวเบาๆ
ผลเพลิงเป็นผลไม้วิญญาณที่ล้ำค่าซึ่งเป็นวัตถุที่เป็นที่ต้องการไม่เพียงแค่ราชินีอสูรเพลิงและราชาเสือสีชาดเท่านั้นที่ต้องการ แต่ฉิงเฟิงก็ต้องการด้วยเช่นกัน “ไม่มีทาง ผลเพลิงเป็นของพวกเรา, ชาวมนุษย์แม็กม่า พวกเจ้าจะไม่มีทางได้มันไปแม้แต่ผลเดียว !”ชายวัยกลางคนผมแดงกล่าวเย้ยหยัน
“ถ้างั้นฉันคงต้องใช้กำลังสินะ” ด้วยรอยยิ้มจางๆ ฉิงเฟิงก้าวไปข้างหน้าและยืนยันที่จะเอาผลเพลิงให้ได้
“
หมัดแม็กม่า
!”
ชายวัยกลางคนผมแดงคำรามลั่นและกระแทกกำปั้นขวาของเขาลงบนพื้นทำให้เกิดกระแสลาวาที่น่ากลัวพุ่งออกมาจากพลังแท้
หมัดแม็กม่าเป็นวิชาบ่มเพาะพลังระดับจิตวิญญาณที่มีประสิทธิภาพสูงมันสามารถแปลงพลังแท้ของผู้ใช้ให้เป็นแม็กม่าและเผาไหม้ผืนดินจนดำเกรียม
เมื่อเห็นผู้นำของพวกเขาเริ่มโจมตีเหล่ามนุษย์แม็กม่าที่อยู่รอบๆต่างก็ตื่นเต้นเพราะพวกเขาฝึกฝนวิชาหมัดนี้กันเป็นประจำ ซึ่งหัวหน้าของพวกเขาสามารถใช้หมัดนี้ระเบิดภูเขาลูกเล็กๆได้เลยทีเดียว
“นี่น้องชายรูปหล่อ ถ้าเจ้าต้องการ พี่สาวใหญ่คนนี้สามารถช่วยรับมือกับหมัดแม็กม่าแทนเจ้าได้นะ” ราชินีอสูรเพลิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า
ฉิงเฟิงเหลือบมองเธอและกล่าวอย่างเฉยชาว่า“ ไม่ต้องหรอกคุณพี่ แต่ฉันต้องการสาวงามมาล้างเท้าให้ฉันมากกว่า ทำให้ได้มั้ยล่ะ ”
“จะจะ จะ จะ เจ้า ! เจ้ามันน่ารังเกียจ จะ เจ้ามันเนรคุณ ~” ราชินีอสูรเพลิงกล่าวด้วยความโกรธแค้น เธอขุ่นเคืองฉิงเฟิงจนแทบจะอกแตกตาย
ถ้าหากฉิงเฟิงไม่ใช่ลูกชายของราชันผู้พิชิตเธอคงฆ่าเขาด้วยฝ่ามือเดียวไปนานแล้ว
เธอคือหนึ่งในสิบอสูรตั้งแต่เมื่อสิบห้าปีก่อนเธอแยกตัวจากราชันผู้พิชิตเพราะเขาไม่สามารถหาผลเพลิงมาให้เธอได้ เธอออกตามหามันด้วยตัวเองจนในที่สุดก็พบว่ามันอยู่บนเกาะเพลิงแห่งนี้
แต่ทว่าผลเพลิงก็ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเติบโตเต็มที่ดังนั้นเธอจึงปักหลักอยู่บนเกาะนี้เพื่อรอเวลาเก็บเกี่ยว ผลเพลิงคือสิ่งจำเป็นในการทะลวงระดับการบ่มเพาะพลังของเธอ เนื่องจากเธอฝึกฝนวิชาธาตุไฟ
ฉิงเฟิงมีสีหน้าไร้อารมณ์ต่อการโจมตีของหมัดแม็กม่าเขาไม่ขยับเขยื้อนจนกระทั่งหมัดอันรุนแรงนี้มาถึงตัวเขา
“
เพลงหมัดทลายนรกานต์หมัดที่สอง
–
บดภูผาทลายปฐพี
!”
ด้วยเสียงคำรามกึกก้องฉิงเฟิงใช้หมัดที่สองของหมัดทลายนรกานต์ออกมาทันที
เงาสีดำรวมตัวกันจากพลังงานธรรมชาติโดยรอบและปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขาอย่างฉับพลันมันทุบลงบนแม็กม่าอย่างรุนแรง
ตูม
!!
แม็กม่าที่เกิดจากพลังแท้ระเบิดสลายไปในอากาศส่วนเงาร่างของหมัดทลายนรกานต์ยังคงพุ่งโจมตีต่อไป มันกระแทกเข้าใส่ชายผมแดงจนทำให้เขากระเด็นจนตกแม่น้ำลาวา คลื่นลาวาพุ่งสูงนับสิบเมตร
“
แข็งแกร่งอะไรเช่นนี้
!
“
รูม่านตาของราชินีอสูรเพลิงหดตัวลงด้วยความประหลาดใจพลังหมัดของฉิงเฟิงนั้นแข็งแกร่งรุนแรงเกินความคาดหมายของเธอ
เหล่ามนุษย์แม็กม่าทุกคนต่างก็ตกตะลึงเมื่อได้เห็นเดิมทีพวกเขาคิดว่าหัวหน้าจะทุบตีฉิงเฟิงจนเละเทะ แต่แล้วในพริบตากลับเป็นหัวหน้าของพวกเขาเองที่ถูกอัดจนกระเด็นตกแม่น้ำลาวา
ฮ่าห์!
ชายวัยกลางคนผมแดงกระโดดขึ้นมาจากแม่น้ำแม็กม่าด้วยเสียงกรีดร้องบนผิวสีแดงที่หน้าอกของเขาปรากฏรอยบุ๋มเป็นรูปหมัด เขากระดูกซี่โครงหักไปชิ้นหนึ่งเพราะหมัดนี้ของฉิงเฟิง
“เจ้ามนุษย์สารเลว! เจ้าทำข้าบาดเจ็บ !” ชายวัยกลางคนร่ำร้องออกมาด้วยความโกรธ เขาอยากจะถลกหนังฉิงเฟิงทั้งเป็น