My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 971 ต่อเรือ
ตอนที่ 971 ต่อเรือ
“พี่สาวคนสวยตกลงตามนี้ เมื่อคุณหายดีแล้ว คุณต้องเป็นบอดี้การ์ดให้ฉัน 1 ปี เอาล่ะออกไปกันเถอะ” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ราชินีอสูรเพลิงพยักหน้าและออกจากถ้ำพร้อมกับฉิงเฟิง
แม้ว่าจะไม่ค่อยเต็มใจที่จะพูดออกไปแต่เธอก็ยอมรับฉิงเฟิงแล้วและเต็มใจที่จะคอยปกป้องเขา
ราชาอสูรค้างคาวม่วงและทีมเขี้ยวหมาป่าทั้งหมดต่างก็รอเขาอยู่ข้างนอกถ้ำทุกคนมีสีหน้าแปลกๆยามที่เห็นฉิงเฟิงเดินออกมา
“หืม ซวนจี๋ มีอะไรหรือ ?”ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและถามด้วยความสับสน
ลูซวนจี๋ขยิบตาเขาเดินไปแซะข้างๆฉิงเฟิงและกระซิบถามว่า “บอสครับ หล่อนเด็ดจัดเหรอคุณถึงส่งเสียงร้องดังขนาดนั้นในถ้ำ….” ฉิงเฟิงงุนงงอยู่ครู่หนึ่งเขาไม่คิดว่าเสียงของเขาจะดังขนาดนั้นจนทุกคนได้ยิน เขารู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
“บอสครับแล้ว…..บอสจัดนังปีศาจดุร้ายนี่ไปกี่ดอกครับ ”
“เพ้อเจ้อ! จัดเจิดอะไร หล่อนแค่….. แค่ตีก้นฉัน”
“อะไรนะครับ! บอส … พวกคุณ…. ” ก่อนที่ลู่ซวนจี๋จะพูดจบ ฉิงเฟิงก็เอามืออุดปากเขาอย่างรวดเร็ว
ฉิงเฟิงปิดปากไม่ให้ลู่ซวนจี๋พูดพร่ำเพื่อและกระซิบบอกว่า“ฟังให้ดี ตอนนี้เธอมีพลังในระดับจิตโลกาแล้ว เธอสามารถฆ่านายได้เพียงแค่กระพริบตา นายพูดเสียงดังยังงี้อยากตายรึไง ”
ว็อทเดอ ฟัค
!
ขอบเขตจิตโลกา
นั่นไม่ใช่พลังระดับเดียวกันกับพระสันตะปาปาหรอกหรือ
ลู่ซวนจี๋ตกตะลึงและพูดอะไรไม่ออกเขาตระหนักว่าถ้าหากเขาทำให้ราชินีอสูรเพลิงโกรธ เขาคงตายเพราะฝ่ามือเดียวของเธอ
“พี่สาวคนสวยเราจะออกจากเกาะเพลิงระอุไปได้อย่างไร ” ฉิงเฟิงถามราชินีอสูรเพลิงด้วยรอยยิ้ม
เครื่องบินลำที่พวกเขาโดยสารถูกยิงตกและพวกเขาก็ไม่สามารถออกจากเกาะนี้ไปได้อีกทั้งเกาะนี้ก็ล้อมรอบไปด้วยมหาสมุทรที่ไร้ขอบเขตและไม่มีเรือแล่นผ่านอีกเช่นกัน
ส่วนโทรศัพท์ของพวกเขาก็ตกทะเลพังเสียแล้วพวกเขาไม่สามารถโทรติดต่อใครได้
ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรแต่ราชินีอสูรเพลิงอาศัยอยู่ที่นี่มานานกว่าสิบห้าปี เขารู้ว่าเธอย่อมมีทางออก
ทันทีที่ฉิงเฟิงถามเสร็จราชินีอสูรเพลิงก็กล่าวอย่างเฉยชาว่า “บนเกาะนี้มีต้นไม้เก่าแก่มากมาย ตอนว่างๆข้าเคยเอามันมาสร้างเป็นเรือ มันทำให้เราไปจากที่นี่ได้”
“พี่สาวคนสวยคุณรู้วิธีสร้างเรืองั้นหรือ คุณยอดเยี่ยมมากเลย !”
ฉิงเฟิงชมเชยเธออย่างหนักแต่เธอกลับไม่แยแสเธอเอียงศีรษะอย่างเย็นชาและเดินต่อไป
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป….
ราชินีอสูรเพลิงพาฉิงเฟิงและคนอื่นๆไปยังสถานที่ที่เธอเคยสร้างเรือมันเป็นป่าทึบที่เต็มไปด้วยต้นไม้โบราณและมีเรือ()ลำเล็กอยู่ตรงกลาง
“นี่…นี่คือเรือที่คุณพูดถึงใช่ไหม…..” ฉิงเฟิงถามด้วยความตกตะลึง
หากเขามีความสามารถในการเอาชนะนังปีศาจผู้ดุร้ายคนนี้ได้เขาจะกดเธอลงบนพื้นและตบเธออย่างหนักเพราะเรือที่เธอสร้างนั้นน่าเกลียดมาก
มันแทบจะเรียกว่าแพมากกว่า! สิ่งที่เธอสร้างและเรียกว่าเรือนั้นจริงๆคือการเอาไม้มาผูกกันสามท่อนเท่านั้น นี่หรือ ‘เรือ’ของเธอ !
แน่นอนว่าราชินีอสูรเพลิงแข็งแกร่งทรงพลังจนยืนบนขอนไม้ในมหาสมุทรได้แต่ฉิงเฟิงและคนอื่นๆนั้นไม่ใช่ ! นอกจากนี้ยังมีทั้งค้างคาวม่วงและทีมเขี้ยวหมาป่าอีกหลายคน ท่อนไม้ผูกติดกันสามท่อนนั้นไม่เพียงพอสำหรับทุกคน
เมื่อเห็นใบหน้าเหยเกของฉิงเฟิงราชินีอสูรเพลิงก็เขินอาย เธอรู้ว่าแพของเธอนั้นโทรมเกินไปและเพียงพอสำหรับตัวเธอเองเท่านั้น
จากนั้นค้างคาวม่วงก็พูดว่า“เรื่องนี้ให้ผมจัดการเอง ผมเคยเรียนรู้เทคนิคการต่อเรือในเกาะแปซิฟิกมาก่อน ผมสามารถสร้างเรือง่ายๆจากไม้และเชือกได้”
ฉิงเฟิงรู้สึกยินดีมากที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้เขาตบไหล่ของค้างคาวม่วงและกล่าวว่า “ยอดมาก ! นายเก็บงำความสามารถได้ดีมากไอ้เพื่อนยาก ฉันไม่คิดว่านายจะต่อเรือเป็น”
ค้างคาวม่วงฉีกยิ้มกว้างด้วยความภาคภูมิใจบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาแน่นอนว่าเขาจะไม่บอกความจริงต่อฉิงเฟิงว่าเขาเรียนรู้ทักษะนี้ได้อย่างไร ครั้งหนึ่งเขาถูกตามล่าและต้องซ่อนตัวอยู่ในอู่ต่อเรือเพื่อฝึกงานและหลบหนีมือสังหาร
เมื่อได้รู้ว่าค้างคาวม่วงสามารถสร้างเรือได้ทุกคนรู้สึกมีแรงบันดาลใจ พวกเขาตัดสินใจที่จะสร้างเรือด้วยตัวเอง
“นายน้อยครับรบกวนท่านไปตัดต้นไม้นะครับ ลู่ซวนจี๋, คุณไปตัดต้นไม้เป็นแผ่นไม้หนาสักประมาณสิบเซนติเมตรและทำให้มันเรียบ คุณโล้น, คุณไปเก็บเถาวัลย์สีดำแล้วบิดมันให้เป็นเชือกนะครับ” ค้างคาวม่วงเริ่มบอกทุกคนถึงสิ่งที่ควรทำ
แม้ว่าราชาอสูรค้างคาวม่วงจะยังเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มวัยรุ่นที่มีรูปร่างหน้าตาที่ดูอ่อนโยนนุ่มนวลแต่เขาก็มีพลังและความแน่วแน่ยามทำงาน แม้แต่ยังกล้าออกคำสั่งต่อฉิงเฟิงที่เป็นเจ้านาย
ค้างคาวม่วงเป็นผู้บังคับบัญชาคนอื่นๆทั้งหมดยกเว้นเพียงหนึ่งหน่อที่เขาไม่กล้าออกคำสั่งราชินีอสูรเพลิงนั่นเอง…… เขาเกรงกลัวพี่สาวปีศาจคนนี้มาก
ที่จริงแล้ว…เขาถูกราชินีอสูรเพลิงกลั่นแกล้งทุบตีหลายต่อหลายครั้งตอนเป็นเด็ก เธอนี่แหละคือสาเหตุหลักของบาดแผลบนร่างกายเขาในช่วงวัยนั้น…
“นี่ๆค้างคาวน้อยทำไมเจ้าไม่เห็นมอบหมายงานให้ข้าทำบ้างล่ะ ข้าล่ะว๊างว่าง”
ราชินีอสูรเพลิงเดินไปหาค้างคาวม่วงและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“พี่…..พี่หญิง ก็อย่างที่พี่เห็นนี่ล่ะครับ เรามีคนทำงานเยอะพอแล้ว พี่ไปพักผ่อนเถอะ” ค้างคาวม่วงฝืนยิ้มด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว
เขาจะกล้าสั่งงานราชินีอสูรเพลิงได้อย่างไร ใครจะรู้ว่าเสร็จงานแล้วเธออาจจะทุบตีเขาก็เป็นได้
“นี่ๆค้างคาวน้อยโตขึ้นแล้วเจ้าหล่อเหลามากเลยนะ หลายปีมานี้เป็นไงบ้าง มีแฟนรึยังของขาดมั้ย ข้าแนะนำสาวๆให้เจ้าได้นะเอามั้ยๆ ”
“ขอบคุณนะพี่หญิงแต่ผมมีแฟนแล้ว”
“จริงเหรอๆ ไหนๆ เธออยู่ไหน ข้าอยากเห็นหล่อน”
“เธอกำลังเรียนอยู่ที่เกาะแปซิฟิก”ค้างคาวม่วงพูดคุยกับเธอในขณะที่ตัวสั่นด้วยความกลัว
ราชินีอสูรเพลิงตบไหล่ของค้างคาวม่วงจนทำให้เขาสะดุ้งโหยงเธอฉีกยิ้มอย่างน่าหลงใหลและกล่าวว่า “เด็กน้อยในวันนั้น ตอนนี้มีแฟนซะแล้ว ดี ดี”
จากนั้นราชินีอสูรเพลิงผู้น่ากลัวก็เดินจากไปเธอไม่มีอะไรทำในขณะที่คนอื่นๆกำลังยุ่งอยู่กับการสร้างเรือ
“
พระเจ้า…..พี่หญิงแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมากมายนัก เพียงแค่ยืนข้างๆเธอฉันก็สั่นไปหมดแล้ว” ค้างคาวม่วงพึมพัมกับตัวเองด้วยความหวาดกลัวในขณะที่ปาดเหงื่อเม็ดโป้งบนหน้าผากของเขา
ราชินีอสูรเพลิงไม่ได้ปลดปล่อยกลิ่นอายที่แท้จริงของระดับพลังเธอออกมาแต่ออร่าของผู้ฝึกตนในขอบเขตจิตโลกาที่เอ่อล้นออกมานั้นไม่สามารถเก็บซ่อนได้ ในฐานะผู้ฝึกตนคนหนึ่ง ค้างคาวม่วงสามารถสัมผัสได้ถึงพลังอันไร้ขอบเขตที่สามารถสังหารเขาได้นับร้อยๆครั้ง
“เจ๊,มานี่ซิ มาช่วยฉันแบกท่อนไม้เหล่านี้ไปที เยอะ”
ฉิงเฟิงกล่าวขึ้นในขณะที่ชี้ไปหาราชินีอสูรเพลิง
เมื่อได้เห็นฉิงเฟิงพูดห้วนๆออกคำสั่งต่อราชินีอสูรเพลิงค้างคาวม่วงก็อ้าปากค้างและหน้าเหวอไปด้วยความซีดทันที เขาคิดในใจว่า
นายน้อยพี่หญิงมีพลังระดับนี้แต่คุณยังกล้าออกคำสั่งกับเธออีกหรือ !
แต่สิ่งที่ทำให้ค้างคาวม่วงตกตะลึงยิ่งกว่าเดิมก็คือเธอกลับพยักหน้าและทำตามคำสั่งของฉิงเฟิง ! เธอกระโดดไปหาเขา ช่วยเขาแบกท่อนไม้และเตรียมจะตัดเป็นแผ่นๆทันที
“นายน้อยโคตรเจ๋ง! แม้แต่พี่หญิงผู้ดุร้ายดั่งอสูรกายก็ยังเชื่อฟังเขา” ราชาอสูรค้างคาวม่วงชูนิ้วโป้งให้ฉิงเฟิง ดวงตาเต็มไปด้วยความเคารพชื่นชม