My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 976 แกคือคนที่ฉันอยากจะทุบตี
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 976 แกคือคนที่ฉันอยากจะทุบตี
ตอนที่ 976 แกคือคนที่ฉันอยากจะทุบตี
เมื่อได้ยินเซี่ยเติ้งเฟยด่าทอเขากับหลินเสวี่ยแสงอันเยือกเย็นก็เจิดจรัสในดวงตาของเขา
เพี๊ยะ!
ฉิงเฟิงเหยียดมือขวาออกด้วยความเร็วดั่งสายฟ้าและตบเข้าที่หน้าของเซี่ยเติ้งเฟยเสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าดังสนั่นและใบหน้าของเขาก็บวมแดงขึ้น รอยฝ่ามือห้านิ้วที่อยู่บนหน้าเขาคือหลักฐานของการตบที่รุนแรงนี้
“แก.. แก .. แกกล้าตบหน้าข้า ” เซี่ยเติ้งเฟยเอามือกุมหน้าในขณะที่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ เขาเป็นถึงนายน้อยของนิกายแวมไพร์ ! ชายหนุ่มคนนี้กล้าลงมือกับเขาได้อย่างไร ?
“ใช่ฉันตบหน้าแก และกำลังจะฆ่าแกอีกด้วย” ฉิงเฟิงยิ้มอย่างเย็นชาด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย เพี๊ยะเพี๊ยะ เพี๊ยะ …
ฉิงเฟิงตบใบหน้าของเซี่ยเติ้งเฟยไปหลายหลายจนมันเปลี่ยนเป็นสีแดงและบวมเหมือนหมูฟันของเขาหลุดออกมาหลายซี่ ริมฝีปากบิดเบี้ยว หน้าตาของเขาดูยุ่งเหยิงและมัวหมองมาก
เขาต้องการจะต่อต้านขัดขืนแต่ฉิงเฟิงนั้นรวดเร็วมากจนทำให้เซี่ยเติ้งเฟยไม่โอกาสแม้แต่จะหลบเลี่ยงหรือต่อต้าน
โครม!
เซี่ยเติ้งเฟยล้มลงกับพื้นและจ้องมองฉิงเฟิงอย่างหวาดกลัวเหมือนเห็นผีเขารู้สึกว่าชายหนุ่มตรงหน้าผู้นี้แข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาจะมีโอกาสได้ตอบโต้
“
หนอยเขตแดนแวมไพร์
!
“
เซี่ยเติ้งเฟยคำรามเสียงต่ำและปลดปล่อยเขตแดนออกมาอีกครั้งเขาหมายมั่นจะพันธนาการความเคลื่อนไหวของฉิงเฟิงเอาไว้
โดมแสงสีแดงขนาดมหึมาที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของแวมไพร์สีแดงปกคลุมไปทั่วเขตแดนมันดักจับทั้งฉิงเฟิงและหลินเสวี่ยเอาไว้
เพล้ง!
ฉิงเฟิงไม่ได้ใช้เขตแดนของเขาตอบโต้แต่เขาใช้ดรรชนีผู้พิชิตยิงลำแสงสีเขียวออกมาด้วยนิ้วชี้ของเขา แสงสีเขียวนั้นมีพลังมหาศาลซึ่งสามารถแยกเขตแดนแวมไพร์ออกเป็นสองส่วนได้ในทันที
“ปะ..เป็นไปไม่ได้ ! แกทำลายเขตแดนของข้าโดยไม่ใช้เขตแดนได้อย่างไร !”
เซี่ยเติ้งเฟยรู้สึกตกใจที่ได้เห็นดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง
ควรรู้ว่าพลังแห่งเขตแดนนั้นเปี่ยมล้นไปด้วยประสิทธิภาพเมื่อเขตแดนถูกปล่อยออกมาจะมีเพียงเขตแดนที่อยู่ในระดับที่เทียบเท่าหรือแข็งแกร่งกว่าเท่านั้นที่สามารถรับมือกันและกันได้ การต่อต้านเขตแดนด้วยวิชาต่อสู้ปกตินั้นไร้ค่า
แล้วหลี่ฉิงเฟิงใช้วิชาบ่มเพาะผีสางอันใดกันถึงสามารถฉีกกระชากเขตแดนเป็นสองส่วนได้เพียงลำแสงจากนิ้วชี้! หากข่าวนี้แพร่ออกไปมันจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้ฝึกยุทธ์โบราณทุกคน !
ฉิงเฟิงไม่ตอบสนองต่อคำถามของเซี่ยเติ้งเฟยเขามีความสุขอย่างยิ่ง พ่อของเขาส่งต่อเคล็ดวิชาดรรชนีผู้พิชิตนี้มาให้เขา มันเป็นวิชาที่ทรงพลังอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง ถึงแม้ว่าเขาจะฝึกสำเร็จเพียงแค่ขั้นแรก ‘หนึ่งนิ้วแยกสรรพสิ่ง’ แต่มันก็ทรงพลังไร้เทียมทานจนแม้แต่พลังเขตแดนก็เอาไม่อยู่
พรู่ด!
การที่เขตแดนถูกทำลายด้วยนิ้วเดียวของฉิงเฟิงทำให้เซี่ยเติ้งเฟยกระอักเลือดออกมาจำนวนมาก เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
“ ดาบแวมไพร์
!”
เซี่ยเติ้งเฟยตะโกนลั่นในขณะที่เขาหยิบดาบสีแดงออกมาและพุ่งเข้าใส่ฉิงเฟิงอย่างดุดัน
ดาบเล่มนี้เป็นสีแดงยาวเกือบเมตรครึ่งและกว้างสี่นิ้วตัวดาบเป็นสีแดงเหมือนเลือดและมีลวดลายปีศาจแวมไพร์สลักอยู่บนนั้น
เพื่อฆ่าฉิงเฟิง,เซี่ยเติ้งเฟยจึงใช้ออกด้วยการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดทันที ดาบแวมไพร์ตัดผ่านอากาศด้วยเสียงแหลมที่คมชัดและแทงเข้าหาศีรษะของฉิงเฟิง
“ความเร็วของแกมันช้าเกินไปและความแข็งแกร่งของแกก็ยังไม่ถึงขั้น”
ฉิงเฟิงยิ้มด้วยความรังเกียจเขาคีบจับดาบแวมไพร์อย่างอ่อนนุ่มด้วยสองนิ้ว
อะไรวะเนี่ย
มันรับอาวุธวิญญาณของข้าได้ด้วยมือเปล่า ใบหน้าของเซี่ยเติ้งเฟยเปลี่ยนไปดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขารู้สึกว่าหลี่ฉิงเฟิงที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่มนุษย์แล้ว เขาทรงพลังเกินไป
“ฮึ่ม! ในเมื่อแกกล้าจับดาบแวมไพร์ของข้าด้วยมือเปล่า งั้นข้าจะดูดเลือดของแกให้แห้งเลย !” เซี่ยเติ้งเฟยตะโกนออกมา ด้วยวิชาดาบแวมไพร์เขาสามารถสูบเลือดของคู่ต่อสู้ที่สัมผัสกับดาบได้
สายเลือดผู้กลืนกิน
!
ฉิงเฟิงคำรามลั่นเขาเปิดใช้งานสายเลือดผู้กลืนกินทันที มันสร้างวังวนสีดำขนาดใหญ่ขึ้นรอบตัวเขาที่เหมือนหลุมดำในอวกาศและเต็มไปด้วยพลังดึงดูดอันน่าสะพรึ่งกลัว มันดูดกลืนสายเลือดของเซี่ยเติ้งเฟยโดยตรง
“อ๊ะ! ทำไมโลหิตของข้าถึงได้ถูกดูดกลืนไป ” เซี่ยเติ้งเฟยกรีดร้องด้วยความกลัว
เพียงเวลาสั้นๆแก่นโลหิตของเซี่ยเติ้งเฟยก็ถูกฉิงเฟิงกลืนกิน เหลือไว้เพียงร่างกายผอมแห้ง
ฉิงเฟิงยังมีสิ่งที่อยากรู้ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ฆ่าเซี่ยเติ้งเฟยทันที ถ้าไม่ใช่เพราะยังมีธุระกับตัวบัดซบผู้นี้เขาคงดูดเลือดมันจนกลายเป็นมัมมี่ไปแล้ว
“แก…แกไม่ใช่มนุษย์ แกมันปีศาจ! แกมันเป็นอสูรกาย!” เซี่ยเติ้งเฟยจบสิ้นแล้ว เขามองฉิงเฟิงอย่างตื่นตระหนกและรู้สึกหวาดกลัวชายหนุ่มผู้นี้อย่างล้ำลึก
เซี่ยเติ้งเฟยเป็นนายน้อยของนิกายแวมไพร์เขามักจะดูดเลือดของคนอื่น, ทำสิ่งชั่วร้ายมากมายและเขาคิดว่าตนเองน่ากลัวที่สุด แต่วันนี้เมื่อเขาได้ปะทะกับฉิงเฟิงเขาจึงได้ตระหนักว่าชายหนุ่มคนนี้น่ากลัวกว่าเขาหลายเท่า เขารู้สึกว่าวิชาบ่มเพาะของฉิงเฟิงคือกรรมตามสนองโดยตรงของนิกายแวมไพร์
“นายน้อยของนิกายแวมไพร์ใหญ่โตคับฟ้านักเหรอ ฉันยืนอยู่นี่ไงมาฆ่าฉันซี่”
ฉิงเฟิงแสยะยิ้มและมองเซี่ยเติ้งเฟยด้วยความดูถูก
เซี่ยเติ้งเฟยรู้สึกสังเวชตัวเองมากเขาต้องการจะฆ่าฉิงเฟิงแต่มันก็เป็นไปไม่ได้ เมื่อตอนที่ฉิงเฟิงตบหน้า เขาก็หลบเลี่ยงไม่ได้ เขาใช้ทุกวิชาออกไปโจมตี ก็ไร้ผล
“
นายท่านแกร่งขึ้นอีกแล้ว”
เหมียวซิยี้ดวงตาพร่ามัวเธอพึมพำชมฉิงเฟิงในใจ
เมื่อไม่นานนี้เซี่ยเติ้งเฟยทำร้ายเธออย่างไร้ทางตอบโต้จนเธอบาดเจ็บสาหัสเธอรู้ดีว่าชายหนุ่มชั่วร้ายคนนี้แข็งแกร่งเพียงใด แต่ตอนนี้เขากลับถูกเจ้านายของเธอสั่งสอนจนมีสภาพไม่เป็นผู้เป็นคน
“บอกฉันมาว่าฐานใหญ่ของนิกายแวมไพร์อยู่ที่ไหน”ฉิงเฟิงเหยียบไปบนร่างของเซี่ยเติ้งเฟยและถาม
ในครั้งนี้นิกายแวมไพร์ได้ทำผิดพลาดอย่างรุนแรงโดยการคุกคามชีวิตของคนธรรมดาอย่างหลินเสวี่ยฉิงเฟิงตัดสินใจที่จะหาฐานใหญ่ของพวกมันและทำลายล้างให้สิ้น !
เมื่อได้เห็นประกายตาเย็นชาของฉิงเฟิงเซี่ยเติ้งเฟยก็กล่าวว่า “แกต้องการอะไร ข้าไม่มีวันบอกแกหรอกว่าฐานทัพของพวกเราอยู่ที่ไหน !”
กร๊อบ!!
ฉิงเฟิงคว้านิ้วก้อยของเซี่ยเติ้งเฟยและหักมันในทันทีเขากล่าวอย่างเยือกเย็นว่า “ นี่คือนิ้วแรกที่ฉันจะหัก ขืนแกยังปากแข็ง ฉันจะหักนิ้วทั้งหมดของแกอย่างช้าๆจากนั้นก็หักกระดูกทั้งหมดในร่างกายของแก”
ใบหน้าของเซี่ยเติ้งเฟยเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง
กร๊อบกร๊อบ กร๊อบ …
ฉิงเฟิงไม่ได้พูดอะไรต่อและหักนิ้วทั้งห้าของเซี่ยเติ้งเฟยโดยตรงนิ้วทั้งหมดของเขาหักเละเทะจนเผยให้เห็นกระดูกขาวที่แทงทะลุผ่านผิวหนังออกมา
“เซี่ยเติ้งเฟยขืนแกยังไม่พูด ฉันจะหักนิ้วแกอีก 5 นิ้ว” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างดุร้าย ในการจัดการการกับศัตรู เขาไม่เคยมีความเมตตา
“ถะ…ถ้าข้าบอกแกว่าฐานใหญ่ของนิกายแวมไพร์อยู่ที่ไหน แกจะปล่อยข้าไปใช่ไหม ”
“ไม่มีวันเพียงแค่บอกฉันมาว่าฐานใหญ่ของนิกายแวมไพร์อยู่ที่ไหน ฉันจะสงเคราะห์ให้แกตายอย่างรวดเร็ว ไม่งั้นฉันจะหักกระดูกนับร้อยๆชิ้นในร่างกายของแกและเฉือนเนื้อแกเป็นพันๆชิ้น”
“ดะได้โปรดอย่าฟันข้าเป็นชิ้นๆเลย ข้ายอมบอกแกแล้วว่าฐานของนิกายแวมไพร์อยู่ที่ไหน มัน มันอยู่อยู่ในแถบเทือกเขาจันทราโลหิตในมณฑลเจียงหนาน” เมื่อรู้สึกได้ถึงความโหดเหี้ยมของฉิงเฟิง เซี่ยเติ้งเฟยก็กล่าวออกมาหมดเปลือก
ในที่สุดนายน้อยแห่งนิกายแวมไพร์ก็รู้แล้วว่าความกลัวคืออะไรเขารู้ว่าฉิงเฟิงเป็นคนโหดเหี้ยมต่อศัตรู เขาทรงพลังและน่ากลัวมากด้วยวิธีการทรมานที่โหดร้าย หากยังปากแข็ง เขาคงต้องทนทรมานอย่างไม่รู้จบ