My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 984 กระบวนท่าที่สาม ภูเขาไฟระเบิด

ตอนที่ 984 กระบวนท่าที่สาม ภูเขาไฟระเบิด
　　ฉิงเฟิงมองไปที่ฉินฮาวเล็กน้อยและกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น“แกบอกว่าฉันไม่ควรเข้ามายุ่งเรื่องภายในของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ใช่ไหม แล้วการที่แกไปสมคบคิดกับพวกศาลากระบี่ที่ยืนหัวโด่อยู่นี่คืออะไร ?”
　　การแสดงออกของฉินฮาวเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำพูดของฉิงเฟิงเขาเถียงไม่ออกเพราะหลักฐานคาตา เขาสมคบคิดกับคนนอก, ศาลากระบี่
　　สำหรับเหตุผลว่าทำไมเขาถึงสมคบคิดกับศาลากระบี่ก็คาดเดาได้ไม่ยากเนื่องจากเขาไม่อาจเอาชนะจ้าวตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ได้เพียงลำพัง ดังนั้นเขาจึงต้องอาศัยความช่วยเหลือจากคนนอก
　　เมื่อศาลากระบี่ถูกพาดพิง,อาวุโสสามแห่งศาลากระบี่จึงกล่าวออกมาด้วยความดูถูกว่า “หลี่ฉิงเฟิง เจ้าจงอย่าได้ทะนงตนเกินไปแค่เพียงเพราะเจ้าเอาชนะอาวุโสสามของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ได้ ความแข็งแกร่งของศาลากระบี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะจินตนาการถึงได้ !”
　　ศาลากระบี่
　　ฉิงเฟิงยิ้มอย่างเย็นชาด้วยความรังเกียจที่จริงแล้วเขาได้ฆ่าสมาชิกของศาลากระบี่ไปแล้วเป็นจำนวนมาก
　　อ่อใช่ฉิงเฟิงเพิ่งฆ่าอาวุโสสามของศาลากระบี่ไป ดูเหมือนว่าอาวุโสสามคนนี้จะเข้ามารับตำแหน่งใหม่แทนที่อาวุโสสามคนเดิม ดังนั้นเขาจึงยังไม่รู้จักฉิงเฟิงดีนัก
　　“พูดตามตรงเลยนะศาลากระบี่ไม่มีค่าในสายตาของฉันตอนนี้ หากพวกแกมารังควานให้ฉันหงุดหงิด ฉันจะทำลายพวกแกเช่นกัน” ฉิงเฟิงกล่าวพร้อมรอยยิ้มเย็นชา
　　ศาลากระบี่นั้นแข็งแกร่งทรงพลังพวกเขาเป็นกองกำลังระดับสูงของหัวเซี่ยและยังมีผู้ฝึกตนหนุนหลัง อย่างไรก็ตาม ฉิงเฟิงไม่กริ่นเกรงพวกเขา　　อาวุโสสามแห่งศาลากระบี่สีหน้าดำคล้ำดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธกริ้ว เขาคิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มคนนี้จะกล้าดูหมิ่นเขาและศาลากระบี่ ช่างสมควรตาย !
　　ในฐานะผู้อาวุโสสามของศาลากระบี่คนปัจจุบันเป็นธรรมดาที่เขาจะต้องการปกป้องชื่อเสียงของนิกาย
　　“หลี่ฉิงเฟิงเจ้ากล้าดูถูกศาลากระบี่ ข้าจะฆ่าเจ้าวันนี้ !” อาวุโสสามกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นเยือก แววตาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
　　วูบ!
　　อาวุโสสามปลดกระบี่ยาวของเขาออกมาและชี้ไปที่ฉิงเฟิงมันเป็นกระบี่ยาวสีดำสนิทและเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับสูง
　　“
　　วิชากระบี่ลมกรด
　　!
　　“
　　อาวุโสสามพึมพำออกมาในขณะที่เขาเหวี่ยงกระบี่ออกไปกระบี่กลายเป็นลมหมุนสีดำที่ผ่าอากาศและพุ่งเข้าหาฉิงเฟิง
　　วิชากระบี่ลมกรดนั้นทรงพลังอย่างมากมันสามารถก่อให้เกิดพายุที่ฉีกกระชากฝ่ายตรงข้ามเป็นชิ้นๆนับไม่ถ้วนได้
　　ดวงตาของฉิงเฟิงสว่างวาบขึ้นเมื่อเขาเห็นพายุหมุนนับไม่ถ้วนในท้องฟ้าการหมุนของมันราวกับพายุทอร์นาโดและเปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาล
　　จากลมหมุนเหล่านี้ฉิงเฟิงได้รับแรงบันดาลใจและเข้าถึงกระบวนท่าที่สามของเคล็ดวิชากระบี่เพลิงภูเขาไฟทันที [การระเบิดของภูเขาไฟ] มันคล้ายคลึงกับลมหมุนเหล่านี้ แต่แข็งแกร่งกว่าด้วยลาวาที่พวยพุ่งออกมาภูเขาไฟ
　　ต้องบอกว่าหลี่ฉิงเฟิงเป็นผู้ที่เรียนรู้สิ่งใดๆได้อย่างรวดเร็วเขาสามารถสังเกตเห็นถึงความเข้ากันได้ของกระบวนท่าภูเขาไฟระเบิดจากวิชากระบี่ลมกรดที่อยู่ตรงหน้า
　　เป็นไปดั่งคำพูดที่ว่าเราสามารถเรียนรู้จากผู้อื่นได้เสมอไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นเพื่อนหรือศัตรูก็ตาม มีบางสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้จากพวกเขาได้หากเราสังเกตดีๆ
　　“ขอบใจที่ช่วยให้ฉันเข้าใจเคล็ดวิชากระบี่เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ ฉันจะใช้กระบวนท่าที่สามกับแก” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม
　　“
　　ภูเขาไฟระเบิด
　　!!
　　“
　　ฉิงเฟิงพึมพำออกมาทันใดนั้นกระบี่ในมือของเขาก็กลายเป็นภูเขาไฟระเบิดขนาดมหึมาด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว
　　ตูม
　　!
　　กระบวนท่าทั้งสองปะทะกันด้วยเสียงดังตูมลมหมุนถูกทำลายอย่างสมบูรณ์และเพลิงลาวาของภูเขาไฟก็ไม่สามารถทำลายได้ พลังอันน่าสะพรึงกลัวของลาวาทำลายกระบี่ของอาวุโสสามเป็นชิ้นๆนับไม่ถ้วนก่อนที่มันจะเจาะเข้าไปที่หัวใจของเขา
　　ครืน!
　　มีหลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่หน้าอกของผู้อาวุโสสามแห่งศาลากระบี่หัวใจของเขาถูกเฉือนเป็นชิ้นๆด้วยวิชากระบี่เพลิงภูเขาไฟ
　　เขาอ้าปากอยากจะกล่าวบางอย่างแต่ไม่มีคำใดออกมาจากปาก จากนั้นเขาก็ร่วงลงบนพื้นด้วยเสียงอันดัง
　　ผู้อาวุโสสามคนใหม่ที่เพิ่งรับตำแหน่งของศาลากระบี่ยอดฝีมือระดับจิตวิญญาณแท้จริงขั้นกลางตกตายด้วยสภาพเช่นนี้
　　ในช่วงเวลานี้ทุกอย่างเงียบสนิททุกคนต่างตกตะลึง
　　มันอาจเป็นความโชคดีที่หลี่ฉิงเฟิงสามารถเอาชนะอาวุโสสามของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้แต่การที่เขาสามารถล้มอาวุโสสามแห่งศาลากระบี่ได้ด้วยกระบวนท่าเดียวเป็นสิ่งที่น่าหวั่นเกรงอย่างยิ่ง
　　“เป็นอย่างที่คาดไว้ไม่ผิดด้วยอาวุธวิญญาณระดับโลกาและกระบวนท่าที่สามของกระบี่เพลิงภูเขาไฟช่างทรงพลังนัก !” ฉิงเฟิงกล่าวเบาๆอย่างตื่นเต้น
　　เขาเพิ่งจะทลายผนึกที่สองของกระบี่เพลิงคะนองแต่พลังอำนาจของมันช่างแข็งแกร่งอย่างมาก หากเขาทลายผนึกที่สามได้มันย่อมมีพลังมากขึ้น
　　การแสดงออกของฉินฮาวมืดครึ้มเขามองฉิงเฟิงด้วยอารมณ์ที่ขัดแย้งและความกลัวในสายตาของเขา
　　หลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งเกินไป… เขาแข็งแกร่งมากจนแม้แต่ผู้อาวุโสก็ยังต้องหวาดกลัว
　　“หลี่ฉิงเฟิงถ้าเจ้าไม่เข้ามายุ่งเรื่องนี้ ข้าจะมอบสมบัติทั้งหมดที่ตำหนักโห่วเย่อหวงตี้สะสมมานับพันปีให้แก่เจ้าทั้งหมด” ฉินฮาวกล่าวเสียงดัง　　ตำหนักโห่วเย่อหวงตี้เป็นกองกำลังระดับสูงในหัวเซี่ยและแม้แต่ยังเป็นหนึ่งในกองกำลังระดับซุปเปอร์ ดังนั้นสมบัติที่นิกายนี้สะสมไว้ย่อมต้องมากมายเหลือคณานับ
　　ในสายตาของฉินฮาวทรัพย์สมบัติของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้นั้นไม่สำคัญเท่ากับตำแหน่งจ้าวตำหนัก ต่อให้ไร้ซึ่งสมบัติแต่ด้วยศักดิ์ฐานะจ้าวนิกาย เขาย่อมสามารถสะสมมันใหม่อีกครั้งเมื่อใดก็ได้ แต่หากเขาพ่ายแพ้ต่อหลี่ฉิงเฟิง เขาจะไม่เหลืออะไรเลย
　　การแสดงออกของฉินเซียนจื่อเปลี่ยนไปเมื่อเธอได้ยินคำพูดของเขาเธอกลัวว่าฉิงเฟิงจะยอมรับเงื่อนไขที่เย้ายวนของฉินฮาว
　　ฉิงเฟิงตอบรับด้วยยิ้มอย่างแผ่วเบาและกล่าวอย่างไม่แยแสว่า“ฉินฮาว, คุณหนูฉินเป็นสหายของฉัน ต่อให้แกสัญญาว่าจะยกตำแหน่งจ้าวนิกายฉันก็ไม่สน ฉันจะยุ่งกับเรื่องนี้ วันนี้ฉันมาเพื่อช่วยเธอ”
　　ใบหน้าของฉินเซียนจื่อแดงระเหรื่อเมื่อเธอได้ยินคำพูดของฉิงเฟิงเธอประทับใจมากจนแทบอยากจะใช้ร่างกายตอบแทนเขา
　　“หลี่ฉิงเฟิงในเมื่อสุราคารวะไม่รับแต่ชอบสุราจับกรอก หากข้าทำอะไรรุนแรงลงไปก็อย่ามาโทษว่ากันล่ะ !” ฉินฮาวกล่าวพร้อมรอยยิ้มเย็น
　　“ฉินฮาวอย่าบ่นว่าฉันไม่ให้โอกาสแกทีหลัง ฉันจะสู้กับแกด้วยนิ้วเดียว ถ้าแกสามารถปัดป้องหรือรับมันได้ ฉันจะจากไปทันทีและไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก”
　　ฉิงเฟิงกล่าวอย่างหยิ่งยโสด้วยรอยยิ้ม
　　อะไรนะนิ้วเดียว
　　ฉินฮาวหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นราวกับว่าเขาเพิ่งได้ยินเรื่องตลกที่น่าขบขันที่สุดเขาเป็นยอดยุทธ์ระดับจิตวิญญาณแท้จริงขั้นปลาย ต่อให้สู้ไม่ได้แต่เขาจะรับมือกับนิ้วเดียวของหลี่ฉิงเฟิงไม่ได้ได้อย่างไร !
　　เขาคิดว่าหลี่ฉิงเฟิงหยิ่งผยองเกินตัว
　　แม้แต่เหล่าสาวกคนอื่นๆของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ก็ยังคิดว่าชายหนุ่มคนนี้ยโสเกินไปแล้ว
　　“หลี่ฉิงเฟิงเย่อหยิ่งอวดดีเกินไป! ต่อให้เขาแข็งแกร่ง แต่มันไม่เป็นไม่ได้ที่จะเอาชนะอาวุโสฉินฮาวด้วยนิ้วเดียว”
　　“ถูกต้องอาวุโสฉินฮาวเป็นยอดฝีมือระดับจิตวิญญาณแท้จริงขั้นปลาย ข้าไม่เชื่อว่าหลี่ฉิงเฟิงจะเอาชนะเขาได้”
　　“ข้าก็เห็นด้วยนี่ล่ะน้าคนหนุ่ม เขาอวดเก่งเกินไปแล้ว”
　　ผู้คนรอบๆต่างก็หันไปกระซิบกระซาบกันอย่างมีชีวิตชีวาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
　　ความกังวลปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ทรงเสน่ห์ของฉินเซียนจื่อเธอกล่าวกับเขาว่า “หลี่ฉิงเฟิงถึงแม้ว่าผู้อาวุโสฉินฮาวจะเป็นตัวอันตราย แต่เขาก็แข็งแกร่งมาก ท่านแน่ใจหรือว่าจะเอาชนะเขาได้ด้วยนิ้วเดียว ”
　　“คุณหนูฉินฉันจะพูดให้เคลียร์กว่านี้นะ ฉันไม่เพียงแค่จะเอาชนะเขา แต่ฉันจะฆ่าเขาด้วยนิ้วเดียว” ฉิงเฟิงกล่าวเบาๆด้วยรอยยิ้ม
　　ฉินเซียนจื่อกระพริบตาที่มีเสน่ห์ของเธอเธอพูดไม่ออกเล็กน้อย เธอคิดว่าหลี่ฉิงเฟิงทำตัวหยิ่งยโสเกินไปอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม สัญชาตญาณของเธอก็บอกเธอว่าคำพูดของเขาเป็นความจริง บางที…เขาอาจจะเอาชนะผู้อาวุโสฉินฮาวได้ด้วยนิ้วเดียวก็เป็นได้