My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 998 พลังแห่งกระจกเงาเยือกแข็ง
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 998 พลังแห่งกระจกเงาเยือกแข็ง
ตอนที่ 998 พลังแห่งกระจกเงาเยือกแข็ง
“เจ้าหนูเหตุที่พลังวิญญาณของเจ้าหยุดเพิ่มขึ้นก็เพราะว่าพลังวิญญาณของแม่นางคนนั้นอยู่ในระดับขั้นสูง และเจ้าได้ดูดซับจนพลังของเจ้าอยู่ระดับเดียวกับนางแล้ว ดังนั้นเจ้าจะไม่สามารถเพิ่มพลังวิญญาณจากการดูดซับได้อีกจนกว่าจะได้ดูดกลืนพลังวิญญาณของผู้ที่มีระดับสูงกว่า”
เสียงของมังกรเพลิงดังขึ้นในหัวของฉิงเฟิง
ฟังจากคำอธิบายของมังกรเพลิงฉิงเฟิงก็เข้าใจได้ในที่สุดว่าทำไมพลังวิญญาณของเขาไม่เพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากเขาโกยพลังวิญญาณจากอาวุโสสองจนมากถึงขีดจำกัดแล้ว ดังนั้นเขาจึงเตรียมลงมือเอาชนะอาวุโสสอง
“
เกลียวคลื่นวิญญาณคู่
ตอนที่ 998 พลังแห่งกระจกเงาเยือกแข็ง
“เจ้าหนูเหตุที่พลังวิญญาณของเจ้าหยุดเพิ่มขึ้นก็เพราะว่าพลังวิญญาณของแม่นางคนนั้นอยู่ในระดับขั้นสูง และเจ้าได้ดูดซับจนพลังของเจ้าอยู่ระดับเดียวกับนางแล้ว ดังนั้นเจ้าจะไม่สามารถเพิ่มพลังวิญญาณจากการดูดซับได้อีกจนกว่าจะได้ดูดกลืนพลังวิญญาณของผู้ที่มีระดับสูงกว่า”
เสียงของมังกรเพลิงดังขึ้นในหัวของฉิงเฟิง
ฟังจากคำอธิบายของมังกรเพลิงฉิงเฟิงก็เข้าใจได้ในที่สุดว่าทำไมพลังวิญญาณของเขาไม่เพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากเขาโกยพลังวิญญาณจากอาวุโสสองจนมากถึงขีดจำกัดแล้ว ดังนั้นเขาจึงเตรียมลงมือเอาชนะอาวุโสสอง
“
เกลียวคลื่นวิญญาณคู่ !
“
เขาขับเน้นพลังวิญญาณของเขาและก่อตัวเป็นเกลียวคลื่นสองวงที่พุ่งเข้าใส่จิตของอาวุโสสองเกลียวคลื่นวิญญาณคู่นั้นราวกับมีดที่แหลมคมสองเล่มที่ฟันใส่จิตใจของเธอจนเป็นสองส่วน
อ้า!!
ด้วยเสียงครวญครางและหยดเลือดที่ปรากฏในมุมปากของเธอจิตของอาวุโสสองได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นขาวซีด
และก็เป็นเช่นเดียวกับผู้ที่วิญญาณได้รับความเสียหายเธอไม่อาจเคลื่อนไหวได้
ฉิงเฟิงขยับร่างอย่างรวดเร็วดั่งสายลมเขาเตะก้นเธอจนลอยตกจากเวทีและร่วงลงกับพื้น
สาวกทั้งหมดที่อยู่รอบๆนั้นต่างตกตะลึงและตกใจเมื่อได้เห็นอาวุโสสองที่สง่างามถูกเตะก้นจนล้มจ่ำเบ้ากองกับพื้น
มันเป็นความอัปยศขายหน้าต่อสาธารณะอาวุโสสองลุกขึ้นยืนจากพื้น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความเกลียดชัง
“คุณแพ้แล้วไม่มีประโยชน์ที่จะจ้องอย่างกินเลือดกินเนื้อผมแบบนั้น”
ฉิงเฟิงไม่สนใจสีหน้าของเธอหลังจากเหลือบมองเพียงแวบเดียวเขาคิดว่ามันเสียเวลาที่จะมาพูดคุยกับผู้แพ้
ประมุขร้อยบุปผารู้สึกโกรธเคืองเล็กน้อยเมื่อเห็นสภาพที่น่าสงสารของอาวุโสสองเธอมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยสายตาที่เย็นชา
ถึงแม้เธอจะโกรธแต่เธอก็ยังคงต้องประกาศว่า “หลี่ฉิงเฟิงเป็นผู้ชนะ”
หลังจากเอาชนะจ้าวจื่อรั่วและอาวุโสสองฉิงเฟิงเพียงแค่ชนะหลี่ย้งอีกครั้งเดียวฮวาเซียนจื่อก็จะได้รับตำแหน่งนักบุญหญิงเหมือนเดิม “การประลองรอบสุดท้ายหลี่ฉิงเฟิงพบกับหลี่ย้ง” ประมุขร้อยบุปผาประกาศออกมา
หลังจากการประกาศคนดูก็เริ่มพูดคุยกันเองอีกครั้ง
“ในฐานะศิษย์คนแรกของอาวุโสหนึ่ง,ศิษย์พี่หญิงหลี่ย้งแข็งแกร่งมาก ข้าพนันได้เลยว่าเธอจะต้องเอาชนะหลี่ฉิงเฟิงได้อย่างแน่นอน”
“ถูกต้องแล้วผู้อาวุโสหนึ่งเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของนิกายรองจากประมุข ศิษย์พี่หลี่ที่เป็นลูกศิษย์ย่อมแข็งแกร่งมากแน่นอน”
“ลุยเลย! ศิษย์พี่หลี่ย้ง ทุบตีคนชั่วช้าหลี่ฉิงเฟิงเลย”
ทุกคนต่างก็มั่นใจว่าหลี่ย้งจะเอาชนะฉิงเฟิงได้
ฉิงเฟิงที่ยืนอยู่บนเวทีย่อมได้ยินเสียงของพวกเธอทุกคนแต่เขาก็ไม่สนใจแม้แต่น้อยเขามองว่าทุกคนของนิกายนี้ไม่มีใครสู้เขาได้เว้นแต่เพียงประมุขร้อยบุปผา
“หลี่ย้งกระจกเงานี้คืออุปกรณ์วิญญาณระดับโลกา เจ้านำมันไปใช้สู้กับหลี่ฉิงเฟิงซะ”
มันเป็นกระจกสีขาวที่มีขนาดเท่ากับสองฝ่ามือที่มีลวดลายดอกไม้โบราณที่ดูลึกลับจารึกไว้ด้านหลังเห็นได้ชัดว่ามันเป็นวัตถุโบราณ
ด้านหน้าของกระจกไม่ได้ทำจากแก้วแต่เป็นคริสตัลสีขาวชนิดพิเศษที่หลงเหลืออยู่หลังจากสะเก็ดน้ำแข็งของดาวหางพุ่งชนโลก มันเป็นวัตถุดิบส่วนหนึ่งจากหินอุกกาบาตที่อาวุโสหนึ่งนำมาสร้างกระจกเงานี้
ภายในวัตถุที่ล่องลอยบนอวกาศของทางช้างเผือกนับพันล้านชิ้นมีบางส่วนสลายตัวและก่อตัวเป็นอุกกาบาต หลังจากชนเข้ากับโลกพวกมันจะหลงเหลือวัตถุพิเศษบางชนิดที่ล้ำค่ามากซึ่งไม่สามารถพบได้บนโลกใบนี้
เหล่ายอดฝีมือผู้แข็งแกร่งบางคนจะสร้างอุปกรณ์ไร้เทียมทานด้วยวัสดุมีค่าเหล่านี้ มีเทหวัตถุสวรรค์มากมายหลายประเภทในประเภทธรรมชาติก็มีลม, ฝน, สายฟ้า, ไฟฟ้า น้ำแข็ง ในขณะที่ธาตุทั้งห้าก็มี ทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน
ในหมวดหมู่ของอาวุธก็มีดาบสวรรค์กระบี่สวรรค์ ไม้เท้าสวรรค์ ค้อนสวรรค์ ส่วนจำพวกสัตว์อสูรก็คือสัตว์เทพโบราณทั้งหลาย เช่นมังกรคราม เสือขาว หงส์แดง เต่าดำ สิงโตเก้าเศียร เป็นต้น
เมื่อวัตถุสวรรค์แตกสลายหินอุกกาบาตก้อนเล็กๆก็จะตกลงมาบนโลกและกลายเป็นสมบัติ
กระจกเงาในมืออาวุโสหนึ่งเรียกว่ากระจกเงาเยือกแข็งมันทำจากหินอุกกาบาตจากดาวหางน้ำแข็งในจำพวกธรรมชาติ เช่นเดียวกับกระบี่เพลิงคะนองของฉิงเฟิง กระจกเงาเยือกแข็งก็เป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับสูงเช่นกัน
ด้วยกระจกเงาเยือกแข็งในมือหลี่ย้งเดินขึ้นไปบนเวทีด้วยความตื่นเต้น เธอเป็นสาวงามที่มีใบหน้าทรงเสน่ห์ ผิวขาว จมูกได้รูป ริมฝีปากแดง ดวงตาเป็นประกาย หน้าอกใหญ่ เอวเรียวบาง หน้าอกคู่โตและขาเรียวยาวเหยียดตรง
เธอค่อนข้างคุ้นเคยกับกระจกเงาเยือกแข็งดีซึ่งมั่นใจว่าสามารถเอาชนะหลี่ฉิงเฟิงได้อย่างแน่นอน
ดวงตาของฉิงเฟิงเป็นประกายแหลมคมเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายรุนแรงที่น่าตื่นตระหนกจากกระจกบานนั้น
“หลี่ฉิงเฟิงเข้ามาเจอกับกระจกเงาเยือกแข็งของข้า” หลี่ย้งแสยะยิ้ม แสงเย็นกระพริบผ่านดวงตาของเธอ
วูบ!
เธอโคจรพลังงานแท้ในร่างและถ่ายส่งเข้าไปในกระจกเงาเยือกแข็งจากนั้นก็ยิงลำแสงสีขาวไปหาฉิงเฟิงด้วยพลังอันรุนแรง
ฉิงเฟิงกระโดดหลบอย่างรวดเร็วเหมือนนกอินทรีและหลบการโจมตีไปได้ ตูม!
ลำแสงสีขาวพลาดเป้าหมายและยิงทะลุหินอ่อนหนาห้าสิบเมตรของเวที
รูม่านตาของฉิงเฟิงหดตัวลงด้วยความตกใจการโจมตีของกระจกเงาเยือกแข็งนั้นทรงพลังมากจนสามารถทะลุผ่านพื้นหินอ่อนได้ถึงห้าสิบเมตร !
ผู้คนรอบข้างต่างก็ตกใจเช่นกันเนื่องจากเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นพลังของกระจกเงาเยือกแข็ง
“กระจกเงาเยือกแข็งของศิษย์พี่ช่างไร้เทียมทานนัก!”
“ใช่หากเป็นข้าคงไม่อาจรับได้แม้แต่เพียงครั้งเดียว”
“หึ! หลี่ฉิงเฟิงหลบมันได้ แต่สุดท้ายเขาก็ต้องพ่ายแพ้อยู่ดี”
สาวกทั้งหมดต่างก็มองไปที่หลี่ย้งด้วยความคาดหวังอย่างสูง
เช้ง! ฉิงเฟิงชักกระบี่เพลิงคะนองซึ่งปลดปล่อยรังสีกระบี่อันแหลมคมที่ยาวสามสิบเมตรออกมา
“
เพลิงภูเขาไฟระเบิด
!!
“
ฉิงเฟิงคำรามเสียงต่ำและปล่อยกระบวนท่าที่สามของกระบี่เพลิงภูเขาไฟที่เขาบรรลุออกมาในทันที
เขารู้ว่าหากกระบวนท่าไม่ทรงพลังพอเขาคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ย้งและกระจกเงาเยือกแข็งของเธอ
กระบี่เพลิงคะนองเปิดแยกอากาศโดยรอบออกและเปลี่ยนเป็นร่างเงาภูเขาไฟด้วยแม็กม่าที่กำลังลุกไหม้และเต็มไปด้วยพลังงานที่รุนแรงมันกำลังจะพุ่งเข้าชนหลี่ย้งในเวลาต่อมา
หลี่ย้งเผยอยิ้มอันเยือกเย็นเธอถ่ายเทพลังแท้ไปที่กระจกเงาเยือกแข็งอีกครั้งและยิงลำแสงสีขาวอีกเส้นหนึ่งเข้าหาร่างเงาของภูเขาไฟบนท้องฟ้า