My Death Flags Show No Sign of Ending - ตอนที่ 37
ในวันนั้น ฮาโรลด์ได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง หลังจากตรวจสอบชื่อผู้ส่งแล้วปรากฎว่ามันมาจากจูโนะ
“ทำไมเธอถึงส่งจดหมายมา ?” ฮาโรลด์ได้แต่สงสัยอยู่ในใจ ขณะนึกถึงเรื่องวิธีแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันในตอนที่เขาแจ้งทางสุเมรากิว่าเขาจะเข้าร่วมกับกองอัศวิน
การจัดการและเป็นตัวแทนของการทำฟาร์มLP สามารถดำเนินแผนต่อไปได้เลยแม้ว่าตัวเขาจะไม่อยู่แล้ว แต่ว่าพวกเขาก็ยังคงส่งรายงานความคืบหน้ามาให้ฮาโรลด์อยู่เสมอ จนถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่มีปัญหาอะไรเพราะจะเป็นตัวเขาเองที่มักคอยตรวจสอบสิ่งต่างๆด้วยตัวเองอยู่เสมอ แต่ว่าทุกๆอย่างเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เขาไดเข้าร่วมกองอัศวิน
ฮาโรลด์เสนอแนะว่าให้เปลี่ยนจากการทำเป็นรายงานส่งมาเป็นเขียนด้วยมือแทนเพื่อรายงานสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งฮาโรลด์เองก็ไม่ค่อยชอบวิธีนี้เท่าไหร่นัก และยอมรับว่ามันดูน่ารำคาญ
หากพิจารณาจากชื่อผู้ส่ง พวกเขาควรเลือกชื่อที่ไม่อาจทำให้เกิดความสงสัยในความสัมพันธ์ของเขากับสุเมรากิ เพื่อรับประกันเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ทาสุคุรู้ดีว่าฮาโรลด์นั้นตั้งใจจะยกเลิกการหมั้นหมายกับเอริกะในภายหลัง หากเรื่องนี้ถูกเปิดเผย ตระกูลสุเมรากิอาจจะถูกตรวจสอบอย่างหนัก หากพิจารนาถึงข้อนี้จึงคิดว่าควรจะปกปิดเรื่องการหมั้นนี้ไว้จะดีกว่า
จดหมายที่ถูกส่งมาโดยจูโนะคงไม่ใด้มาจากความคิดของทาสุคุแน่ นั้นเพราะ เรื่องนี้เป็นการยืนยันว่าตัวของเขานั้นมีความสัมพันธ์กับทางตระกูลสุเมรากิ อืม แม้ว่าเรื่องการหมั้นของเขากับเอริกะจะล่วงรู้ไปถึงหูของโคดี้แล้วก็เถอะ
แม้ว่านี่จะไม่ใช่ความผิดของทาสุคุ ยังไงซะก็ไม่มีทางปิดเรื่องนี้ได้อย่างสมบูรณ์หรอก นั้นเพราะไม่มาทางเลยที่พ่อของเขา เฮย์เดนคงจะปล่าวประกาศเรื่องการหมั้นนี้ออกไป
ขณะที่นึกถึงพ่อของตน ฮาโรลด์ก็เปิดซองจดหมายพร้อมกับถอนหายใจ
ในนั้นมีกระดาษอยู่ 5 แผ่นที่แสดงถึงผลกำไรที่ได้จากการทำฟาร์มแบบ LP รายละเอียดต่างๆและตัวเลขมากมาย ซึ่งทำให้ฮาโรลด์ตระหนักได้ว่าเขาควรมอบความไว้วางใจให้นี้กับสหายร่วมธุรกิจของเขา
น่าเสียดาย ที่ฮาโรลด์ในตอนนี้ไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารจัดการอย่างแท้จริง ความคาดหวังต่อข้อเท็จจริงนี้เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ว่าทำไมเขาถึงมอบตำแหน่งนี้ให้ทาสุคุตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้ทาสุคุสามารถจัดการในเรื่องที่เขาไม่แน่ใจได้
แม้ว่าฮาโรลด์จะตอบกลับจดหมายโดยเขียนเพียงประโยคเดียวว่า “ทำตามใจชอบได้เลย” อาจจะดูหยาบคายไปบ้างสำหรับในฐานะผู้ก่อตั้งการทำฟาร์มแบบ LP
คงพูดไม่ได้เต็มปากว่าทาสุคุทำงานได้ดีเกินคาด แต่ว่ามันคงจะไม่ดีเท่าไหร่ถ้าหากจะเอาแต่คิดแบบนั้น
ในตอนนี้แทนที่จะมุ่งทำกำไร พวกเขาต้องค่อยๆเผยแพร่วิธีการทำฟาร์มออกไปแก่เหล่าขุนนางคนอื่นๆอย่างช้าๆอย่างไม่เป็นจุดเด่น เพื่อไม่ให้เกิดความเกลียดชังโดยไม่จำเป็น
สำหรับตอนนี้ การทำฟาร์มแบบ LP “ถูกพัฒนาโดย” ตระกูลสุเมรากิ และสนับสนุนวิธีการทำฟาร์มนี้กับตระกูลสโตร์ก สองตระกูลคือผู้ผูกขาดเทคนิคการทำฟาร์ม LP แต่ว่ารายได้ของพวกเขายังอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น
นั้นคือแผนที่ถูกวางไว้
ถ้าหากพวกเขาค่อยๆเผยแพร่เทคนิคนี้โดยการค่อยๆขายมันแทนที่จะเผยแพร่มันโดยตรงกับเหล่าขุนนางทุกคนในสมาคมการค้า มันจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับพวกเขาได้ในภายหลัง
ที่จะกล่าวคือ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญคือการดูแลเพื่อไม่ทำให้ก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ใดๆ เฝ้าดูทิศทางของตลาดและช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะเผยแพร่เทคนิคการทำฟาร์มนี้สู่เหล่าขุนนางคนอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้ฮาโรลด์มั้นใจในฝีมือของทาสุคุ
ซึ่งตัวของฮาโรลด์เองก็ไม่คิดถึงขนาดที่จะต้องเอาคำแนะนำเหล่านี้ป้อนใส่ปากพวกเขาหรอก
หลังจากที่คิดได้ว่าจะแสดงจุดยืนในเรื่องนี้อย่างไรดี ฮาโรลด์ก็หยิบปากกาขึ้นมา
ขณะเขียนจดหมายอยู่เงียบๆ เพื่อนร่วมห้องของเขาก็โซซัดโซเซไปทางด้านหลังห้อง พร้อมกับส่งเสียงโอดครวญราวกับซอมบี้
ในทุกๆวัน หลังจากที่พวกเขามาขอคำแนะนำจากฮาโรลด์ ไอแซคและคนอื่นๆก็ทำงานหนักในการฝึกต่อสู้กับฮาโรลด์อยู่ตลอด และไม่ต้องคิดให้มากความ มันเป็นชัยชนะอย่างถล่มทลายของฮาโรลด์ในทุกๆครั้ง ซึ่งฮาโรลด์แทบเหงื่อจะไม่ออกเลยในการดวลดาบกับคนพวกนี้ กลับกัน ไอแซคและคนอื่นๆสิ้นสภาพลงทุกๆวัน ความทุกข์ทรมานไม่หยุดลงแม้ว่าพวกเขาจะแพ้ไปแล้ว นั้นเพราะพวกเขาจะถูกบังคับให้ลุกขึ้นและสู้ต่อไปเรื่อยจนกว่าจะหมดสิ้นเรี่ยวแรง ไอแซคทิ้งตัวลงที่เตียงและหันหน้าไปทางฮาโรลด์ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ
[ ฮาโรลด์ มีเวลาให้ชั้นสักหน่อยมั้ย ? ]
[ มีอะไร ? ]
[ ชั้นได้รับข้อความจากหัวหน้าโคดี้ถึงนายว่า “พรุ่งนี้ หลังจากนายฝึกช่วงเช้าเสร็จมาที่ห้องชั้นหน่อย” หัวหน้าเค้าพูดงั้น แค่นั้นแหละ …. ]
ทันทีที่ไฮแซคพูดจบ ลมหายใจของเขาก็เริ่มสงบแล้วก็พร่อยหลับไปในทันที ไม่มีแม้เวลาให้ฮาโรลด์ตอบกลับใดๆทั้งสิ้น
พรุ่งนี้ อาจจะเป็นวันที่พวกเขาประกาศว่าฮาโรลด์สอบผ่าน ที่จริงเรื่องนี้ควรเป็นสิ่งที่จะได้รับหลังจากผ่านการฝึกมาเป็นเวลานานเท่านั้น และหากผลสอบนี้ถูกประกาศออกมาพร้อมกับชื่อเสียงของเขาที่ติดลบเป็นทุนเดิม แน่นอนว่าชื่อเสียงของเขายิ่งจะติดลบลงไปเรื่อยๆ
ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่าความจริงที่กำลังรอคอยฮาโรลด์อยู่นั้นโหดร้ายกว่าที่เขาจินตนาการไว้หลายขุม
ในเช้าวันต่อมา เขาถูกเรียกโดยโคดี้และคนอื่นๆในหน่วย ซึ่งมันอดไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกว่าจะมีบางอย่างเลวร้ายเกิดขึ้น
[ช่างบังเอิญจริงๆ อรุณสวัสดิ์ฮาโรลด์คุง วันนี้นายอารมณ์ดีรึปล่าว ?]
[ … ย่ำแย่ ]
นี่ถือเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดจริงๆ แก้งโคดี้ทั้งหน่วยถ่อมาหาเขาทั้งแต่ไก่โห่ขนาดนี้? ไม่ใช่ว่าเขาเผลอไปปักธงอะไรเพิ่มอีกหรอ ?
เมื่อมองย้อนกลับไป ธงนี้อาจจะถูกปักตั้งแต่จบการสอบของเขาแล้วก็เป็นได้
[ เพื่อไม่ให้เสียเวลานาน เอาล่ะ ฮาโรลด์คุง นายได้ถูกบรรจุเข้าสู่หน่วยของชั้น จากนี้ไปฝากตัวด้วยนะ โอเค๊~ ]
(…เอาจริงดิ ?)
ฮาโรลด์ได้ยินเสียงเส้นเลือดปูดดังในหัวของเขา จากทั้งหมดทุกหน่วยที่เขาสามารถเข้าร่วมได้ หน่วยของโคดี้เป็นหน่วยที่เขาไม่อยากจะเข้าร่วมด้วยที่สุด
ฮาโรลด์จิตตกทันที ในขณะที่โรบินสันและคนอื่นๆก็เข้ามาทักทาย
[ ต่อไปนี้ นายคือพวกของเราแล้วนะฮาโรลด์ ]
ชิโด้ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับดันไหล่ของเขาเข้ากับฮาโรลด์ โรบินสันและไอรีน ทั้งคู่ก็มาพูดต้อนรับเช่นกัน
[ ผมดีใจนะที่รู้ว่านายได้อยู่หน่วยเดียวกับพวกเรา ฮาโรลด์คุง ]
[ ต-แต่ว่า พวกเราที่นี่คือรุ่นพี่ของนาย อย่าลืมให้ความเคารพกันด้วยล่ะ เข้าใจรึปล่าว ? ]
คงจะเป็นการโกหกหากบอกว่าเขาเองก็ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่กับปฎิกิริยาเช่นนี้ สำหรับคนที่เป็นที่รังเกียจอยู่เสมอเฉกเช่นเขา เนื่องจากปากที่ชอบหาเรื่องของเขา การพูดคุยกับคนอื่นได้อย่างปกตินั้นเป็นสิ่งมีค่าอย่างมาก
ไงก็ตาม นี่คือทีมที่จะตุยกันหมดในอนาคตโดยมีโคดี้รอดเพียงคนเดียว ถ้าในเนื้อเรื่องตามปกติอะนะ
และความจริงที่ว่าเขาได้ถูกยัดเข้าหน่วยนี้เหมือนดั่งถูกคำสั่งประหารชีวิตอย่างไงอย่างงั้น ซึ่งก่อนที่เขาจะคิดวิธีช่วยชีวิตคนอื่นๆในหน่วย เขาเองต้องคิดหาวิธีช่วยตัวเองให้รอดก่อน
( หน่วยของโคดี้จะตุยกันหมดก่อนเนื้อเรื่องหลัก 4 ปี แสดงว่ามีเวลาเตรียมตัวรับมืออีก 1 ปีสินะ จะหาทางหลบเลี่ยงได้มั้ยนะถ้าหาทางเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ภายในหน่วยได้ ? )
แต่ทว่า ก่อนที่ฮาโรลด์จะหาวิธีรับมือธงตายนี้ได้ เรื่องราวกับเลวร้ายลงในทันที
[ ก็ตามนั้น 1 สัปดาห์หลังจากนี้จะมีบางหน่วยได้พัก 5 วัน แน่นอนว่าพวกเราก็คือ 1 ในหน่วยที่ได้รับวันพักผ่อนนี้เช่นกัน ]
[ ทำไมไม่พักตลอดไปเลยล่ะ ]
[ เฮ้ พวกเราจะได้หยุดพักผ่อนนะ พวกนายไม่ดีใจกันหรอ ? ]
[ นั้นก็เพราะพวกเขาจะใช้พวกเราออกลาดตะเวณหลังจากนั้นไง! เลยให้พวกเราได้พัก เห้อ ฉันล่ะสงสัยจริงๆพวกนั้นมองหน่วยพวกเราเป็นหน่วยที่น่าวางใจได้ขนาดนั้นหรอถึงได้ขยันเลือกพวกเราจัง ]
และคนที่ตอบคำถามเหล่านั้นไม่ใข่โคดี้ แต่เป็นโรบินสัน
[ มันไม่เกินไปหน่อยหรอ ที่จะจู่ๆจะโยนพวกเราไปเข้าร่วมภารกิจลาดตระเวณ ? ]
[ ดูเหมือนจะไม่ใช่งานยากอะไรเท่าไหร่นะ หากดูจากสถานที่ที่พวกเราจะได้ไปลาดตะเวณ ดูเหมือนว่าที่นั้นจะชื่อว่า ป่าเบลติส ]
ป่าเบลติส
ทันทีที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากของโคดี้ ฮาโรลด์ถึงกับขนลุกซู่
◇◇
ป่าเบลติส ดินแดนที่ยังไม่ถูกสำรวจที่ซึ่งเผ่าพันธุ์ลึกลับอย่าง เผ่าสเตลล่า ผู้อ่านดวงดาวอาศัยอยู่
ในเนื้อเรื่องของเกมส์ การปะทะกับระหว่างอัศวินและเผ่าสเตลล่าทำให้โคดี้สูญเสียลูกทีมทั้งหมดไปในการต่อสู้ครั้งนั้น นั้นเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เขาออกจากกองอัศวิน
แล้วทำไมหน่วยอัศวินถึงได้เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ล่ะ ? นั้นเพราะทหารฝ่ายศัตรูได้ปลอมตัวเป็นคนในหน่วยอัศวินและลอบโจมตีทั้งหน่วยอัศวินและเผ่าสเตล่าโดยไม่ทันได้ตั้งตัว มันเป็นแผนของผู้บงการที่ต้องการให้ทั้งอัศวินและเผ่าสเตลล่าแตกหักกัน ซึ่งรอยร้าวนี้จะดำรงอยู่ต่อไปอีกนานทีเดียว
ผู้บงการในเหตุการณ์นี้ไม่ใช่ทั้งคนที่ลอบโจมตีหรืออัศวินที่ทรยศหรือคนจากเผ่าสเตล่า แต่เป็นตัวของยูสทัสเองที่เป็นคนยุยุงปลุกปั่นให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เพื่อที่เขาจะได้ศึกษาลักษณะเฉพาะบางอย่างของเผ่าสเตลล่าและลักพาตัวคนในเผ่ากลับมาทดลอง
โรบินสันและคนอื่นๆในหน่วยจะตายในการต่อสู้นี้ โคดี้ออกจากกองอัศวิน และยูสทัสก็รอดตัวไปทำงานทดลองและวิจัยของเขาต่อไป การต่อสู้ที่เกิดขึ้นในป่าเบลติสนั้นเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบกับเนื้อเรื่องหลักเป็นอย่างมาก หากเขาเข้าแทรกแซง แน่นอนว่าจะทำให้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเบี่ยงเบนไปมากพอสมควร นั้นคือเหตุผลที่ฮาโรลด์ยังคงลังเลว่าจะช่วยอย่างไรดี แต่ทว่า เหตุการณ์กับพลิกผลัน และมาถึงจุดนี้อย่างกระทันหัน
‘‘ผมควรทำอย่างไรดี ?’’ เขาได้แต่จำนนต่อการเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้โดยที่ไม่สามารถหาคำตอบนั้นให้กับตัวเองได้ ฮาโรลด์จมอยุ่กับความกังวล ราวกับตอนที่เขารู้สึกตัวว่ามาโผล่ที่โลกนี้ครั้งแรก เขาไม่สามารถที่จะคิดวิเคราะห์ได้อย่างใจเย็นได้อีกต่อไป
หัวสมองของเขาว่างเปล่า ไม่มีความคิดดีๆใดๆปรากฎขึ้นมาเลยในหัวของเขา และมันเหลือเวลาเพียง 5 วันก่อนที่จะออกเดินทาง
ถึงจะไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี ฮาโรลด์ก็ออกเดินทางไปยังดินแดนสุเมรากิ
ถึงจะถูกถามว่าทำแบบนี้ทำไม ? ตัวของฮาโรลด์เองก็ไม่สามารถตอบได้ เขาติดอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถปรึกษาใครได้ หาทางออกไม่ได้ ตอบคำถามเหล่านั้นกับตัวเองไม่ได้ อาจกล่าวได้ว่านี่คือวิธีหลบหนีจากความทุกข์ทรมานวิธีนึงของเขาก็เป็นได้
มันเป็นการกลับมาเยี่ยมเยือนดินแดนสุเมารากิอีกครั้งในรอบ 2 เดือน มันเป็นการกลับมาที่ไม่ได้แจ้งข่าวล่วงหน้าแต่อย่างใด และผู้คนในคฤหาสน์รุ้สึกปั่นป่วนกับการเดินทางมาอย่างกระทันหันของอาโรลด์
และท่ามกลางเหตุการณ์วุ่นวายนี้ ฮาโรลด์ได้รับการต้อนรับจากคิริว พ่อบ้านประจำตระกูล
[ สวัสดีขอรับท่านฮาโรลด์ มีเรื่องด่วนอะไรรึขอรับ? กระผมไม่ได้รับการแจ้งล่วงหน้าใดๆมาก่อนเลยว่าท่านจะเดินทางมาที่นี่ ]
[ มีเรื่องด่วน ทาสุคุอยู่ไหน ? ]
ถึงมันจะไม่เป็นไร แต่คิริวเองก็หวังว่าจะได้รับคำอธิบายอะไรบ้างก่อนที่เขาจะแจ้งเรื่องนี้ให้กับเจ้านายของเขา
[ นายท่านยังไม่สะดวกที่จะมาพบท่านฮาโรลด์ตอนนี้ขอรับ คงจะเป็นช่วงค่ำเท่านั้น ]
[ ชิ ]
เขาเดาะลิ้นอย่างไม่ตั้งใจ ซึ่งมันก็ไม่แปลกอะไรที่ทาสุคุจะไม่ว่างเพราะตัวของฮาโรลด์มาที่นี่อย่างกระทันหัน แต่เขาก็อดที่จะกระวนกระวายไม่ได้ที่ทาสุคุไม่รีบๆออกมาพบเขาซักที ขณะที่นั่งรออยู่ในห้องรับแขกจนกว่าจะถึงเวลาพลบค่ำ ฮาโรลด์ทำได้เพียงแค่นั่งรอและความหงุดหงิดค่อยๆก่อตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แม้ว่าเขาจะคิดแผนการณ์บางอย่างคร่าวๆออกแล้วหากทาสุคุมาถึง แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลอยู่ดี
ความเดือดดาลภายในจิตใจเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป ขณะที่คิดว่าจะลุกออกไปเดินตามหาทาสุคุที่ไหนซักแห่งด้วยตนเอง แต่ก็ทำได้เพียงพยายามสงบใจเพราะมันคงไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมเท่าไหร่นัก
และทันใดนั้นก็มีเสียงของใครบางคนปรากฎขึ้นที่อีกฟากของประตูเลื่อน และมันทำให้ฮาโรลด์กัดฟันอย่างไม่รู้ตัว
[ ขออนุญาตค่ะ ]
มันเป็นน้ำเสียงที่สงบราวกับช่วยบรรเทาความร้อนลุ่มในหัวของฮาโรลด์ลงได้
จู่ๆหญิงสาวที่กล่าวออกมานั้น ด้วยท่วงท่าที่สง่างามจนดูคล้าบกับโคโยมิผู้เป็นแม่ของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่สิ บางมุมอาจสง่างามเกินแม่ของเธอไปแล้ว ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง เธอไม่ได้แสดงมุมที่เย็นฉาของเธอเหมือนดั่งที่เธอมักจะทำเป็นประจำ
มันแน่นอนอยู่แล้วการที่ต้องมาต้อนรับฮาโรลด์ผู้ที่เธอควรจะเกลียดที่สุดในโลกใบนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะมาด้วยเหตุผลของตัวของเธอเอง ดังนั้นนี่คงเป็นเพราะหน้าที่เพียงเท่านั้น
[ … เข้ามา ]
ด้วยการตอบกลับของเขา ฮาโรลด์ได้ยินเสียงถอนหายใจเล็กๆจากอีกฟากหนึ่งของประตู เห็นได้ชัดว่าท่าทีของเขาทำให้เธอแปลกใจพอสมควร
และในชั่วอึดใจเดียว ประตูก็ถูกเปิดออก
[ ไม่ได้พบกันนานเลยนะคะ ท่านฮาโรลด์ ]
หลังจากนั่งลงด้วยท่วงท่าที่สมบูรณ์แบบแล้ว เธอก็ก้มศีรษะอย่างสุภาพจนติดพื้นก่อนที่จะเงยขึ้นอีกครั้ง
เป็นเธอเอง เอริกะผู้ที่อยู่ในชุดกิโมโนสีเขียวสว่าง