My Death Flags Show No Sign of Ending - ตอนที่ 50 หน้าที่ของผู้ใหญ่
——- 5 ปีก่อน
ปีที่ 933 ของปฎิทิน Loiza ณ เมืองหลวง อามาซีร์
ไม่กี่ชม. หลังจากที่ฮาโรลด์ถูกตัดสินประหารชีวิตและถูกคุมขังอยู่ที่คุกชั้นใต้ดินของสภาอัศวิน มีผู้พบเห็นโคดี้อยู่ในภายในห้องทำงานของวินเซนต์
[ นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น! ทำไมฮาโรลด์ถึงโดนโทษประหาร ?! ] – โคดี้
โคดี้ยิงคำถามกดดันแก่หัวหน้าของตน ซึ่งใบหน้าของโคดี้แสดงความบิดเบี้ยวอย่างชัดเจน
แต่สำหรับผู้ที่กำลังถูกกดดันอย่าง วินเซนต์ ใบหน้าของเขากลับเคร่งขรึมเหมือนดั่งเคย
[ นอกจากชั้น ทุกๆคนในสภาต่างเห็นด้วยกับการตัดสินในครั้งนี้ แม้แต่ท่านผู้บัญชาการค็อกซ์เองก็ด้วย พวกเขาไม่แม้จะรอการยืนยันข้อเท็จจริงของข้อกล่าวหานี้ด้วยซ้ำ ซึ่งข้าเองก็คิดว่าโทษของมันหนักเกินไป .. ] – วินเซนต์
ซึ่งมันก็จริงที่ว่ามีหลายๆเรื่องของฮาโรลด์ยังเป็นที่น่าสงสัย และเขาเองก็มีโอกาสที่จะเป็นสายลับของจักรวรรดิ แต่กระนั้น คำตัดสินล่าสุดในครั้งนี้มันดูลัดขั้นตอนการสืบสวนมากจนเกินไป และเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่ายุติธรรมได้
[ … นายจะบอกว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังคำตัดสินนี้งั้นเรอะ ? ] – โคดี้
[ ชั้นเองก็เกรงว่าจะเป็นเช่นนั้น หากต้องการจะหยุดการประหารของฮาโรลด์ พวกเราจำเป็นจะต้องตามหาบุคคลนั้นให้เจอ ] – วินเซนต์
ถึงแม้ว่าตัวของวินเซนต์เองจะยังสงสัยฮาโรลด์อยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่คิดว่าความผิดของฮาโรลด์ในครั้งนี้สมควรที่จะได้รับโทษประหาร และโคดี้ก็ยังอธิบายภาพรวมของเหตุการณ์ทั้งหมดให้เขาฟังแล้วอีกด้วย
แม้ว่าวินเซนต์จะยังไม่หมดความสงสัยใจตัวของฮาโรลด์ซะทีเดียว แต่เขาก็ยังยืนยันที่จะคัดค้านโทษประหาร
[ ดังนั้น เส้นตายในการจัดการเรื่องนี้คือ 1 อาทิตย์สินะ ] – โคดี้
ระยะเวลาแค่นี้มันสั้นเกินไป หากถามเขาว่าจะหาตัวผู้บงการให้เจอในเวลาแค่นี้ได้ทันไหม คงตอบได้ว่าเหมือนสั่งให้เขาไปหาเข็มที่ตกอยู่ในทุ่งหญ้า นอกจากนี้ ต่อให้หาผู้บงการเจอใช่ว่าจะหยุดความตั้งใจของผู้บงการได้ซักหน่อย
อย่างไรก็ตาม หากเขาไม่ทำเช่นนั้น ฮาโรลด์คงจะต้องตายอย่างแน่นอน ดังนั้น แม้มันจะฟังดูเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ไม่มีแผนอื่นๆที่ดีกว่าแผนนี้อีกแล้ว
ทั้งโคดี้และเพื่อนๆในหน่วยต่างเริ่มเคลื่อนไหวกันทันที แต่ทว่าในวันถัดไปสถานการณ์ต่างๆกับแย่ลง เพราะมีข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องแย่ๆของฮาโรลด์ได้แพร่สะพัดออกไปในหมู่กองอัศวินและยังแพร่ไปถึงตามท้องถนน และยิ่งกว่านั้น ข่าวลือพวกนั้นบางส่วนเนื้อหาแย่เกินจริง บางส่วนแทบไม่มีความจริงใดๆเลย
เพราะสิ่งนี้ โคดี้จึงเชื่อโดยสนิทใจว่ามีใครบางคนต้องการให้ฮาโรลด์ตาย พวกเขาจงใจสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับการประหารฮาโรลด์ขึ้นมาด้วยข่าวลือเสียๆหายๆ
ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ข่าวของฮาโรลด์จะเข้าหูของเด็กสาวคนนั้น
[ ดิฉันต้องของอภัยอย่างสุดซึ้งที่มาขอพบอย่างกระทันหันค่ะ ] – เอริกะ
หรือก็คือเอริกะ คู่หมั้นของฮาโรลด์ เธอกำลังก้มหัวของเธอให้กับโคดี้
เป็นเรื่องง่ายที่จะดูออกว่าเธอมาทำไม เรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับคำตัดสินประหารชีวิตของฮาโรลด์ ไม่ก็ข่าวลือเสียๆหายๆเป็นแน่อยู่แล้ว
จริงๆแล้ว ตัวของโคดี้เองก็ไม่ค่อยรู้สถานการณ์มากนัก ดังนั้นเขาจึงบอกอะไรมากไม่ได้เช่นกัน แต่เอริกะเองถึงจะเป็นคู่หมั้นของฮาโรลด์ แต่เธอก็ยังคงเป็นแค่เด็ก มันคงจะโหดร้ายเกินไปหน่อยหากบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องคำตัดสินประหารชีวิตคู่หมั้นของเธอไปตรงๆ
เนื่องจากเอริกะมาในฐานะแขก เขาจึงพาเธอไปยังห้องรับรองเดิมเช่นเดียวกับเมื่อวันก่อน ซึ่งคนรับใช้สาวเองก็มาด้วย พวกเธอทั้ง 2 เดินเข้านั่งที่มุมห้องโดยไม่พูดอะไรซักคำ
โคดี้นั่งลงที่ตรงข้ามเอริกะ และกล่าวออกมาทันที
[ มีอะไรให้ช่วยรึวันนี้ ? … แต่เธอคงไม่อยากจะได้ยินหรอกมั้ง จริงมั้ย ? ] – โคดี้
[ ค่ะ ดิฉันอยากให้คุณบอกทีค่ะว่าท่านฮาโรลด์กำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหนกันแน่จากคำตัดสินของสภาอัศวิน ] – เอริกะ
[ …. พูดตามตรง สถานการณ์ของฮาโรลด์ย่ำแย่มาก เธอยังอยากจะรู้อยู่อีกมั้ย ? ] – โคดี้
[ ค่ะ รบกวนด้วยค่ะ ] – เอริกะ
เอริกะตอบกลับมาอย่างไม่ลังเล บางทีเธออาจจะเดาสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดไว้แล้วก็ได้
ช่างเป็นปฎิกิริยาที่น่าแปลกใจสำหรับเด็กผู้หญิงที่อายุเพียงเท่านี้
[ อย่างแรก โทษประหารชีวิตนั้นเป็นความจริง หากสิ่งต่างๆยังเหมือนเดิม ภายใน 6 วัน ฮาโรลด์จะถูกประหาร ] – โคดี้
ด้วยคำพูดของโคดี้ เอริกะเธอหลับตาของเธอลงพร้อมกับหายใจเข้าออกอย่างช้าๆราวกับพยายามสงบสติอารมณ์
และเมื่อเธอลืมตาของเธอขึ้น ไม่มีการสั่นไหวใดๆภายในดวงตา เธอทำเพียงจ้องมองไปที่ดวงตาของโคดี้
[ … ที่คุณกล่าวว่า “หากสิ่งต่างๆยังเหมือนเดิม” แสดงว่ามีบางอย่างที่พวกเราสามารถพลิกสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ได้ใช่รึไม่คะ ? ] – เอริกะ
เด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของโคดี้สามารถอ่านข้อความที่เขาต้องการจะสื่อออกไปได้อย่างใจเย็น สมแล้วที่เป็นคู่หมั้นของฮาโรลด์ นั้นคือสิ่งที่โคดี้คิด
[ ข้าต้องขอโทษด้วยหากสิ่งที่พูดมันทำให้เธอมีความหวัง เพราะตัวข้าเองก็ไม่กล้ายืนยันว่ามันจะทำได้จริง มันเป็นเพียงการเดิมพันที่เสียเปรียบ ] – โคดี้
[ ถึงจะเป็นเพียงความหวังที่ริบหรี่ก็ตาม หากยังมีหวังที่สามารถช่วยท่านฮาโรลด์ได้ ดิฉันก็ยินดีค่ะ ] – เอริกะ
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เข้าใจหรือยอมรับกับสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้ แม้ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นความผิดของฮาโรลด์จริง แต่เธอก็จะไม่สั่นไหวและต้องการที่จะช่วยเหลือฮาโรลด์ให้ได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
โคดี้เองก็ตรวจสอบสภาพโดยรอบห้องเพื่อยืนยันว่าไม่มีใครแอบฟังอยู่ เมื่อยืนยันได้แล้ว เขาจึงบอกเรื่องนี้กับเธอ
[ โดยปกติ คำตัดสินของสภาอัศวินถือเป็นสิ้นสุดไม่สามารถคัดค้านได้ แต่คำตัดสินในครั้งนี้มีความผิดปกติหลายๆอย่าง ] – โคดี้
โคดี้เล่าให้เอริกะฟังเกี่ยวกับรายละเอียดเรื่องราวต่างๆโดยไม่ปิดบังอะไร เขาบอกกับเธอว่าคำตัดสินนี้มันดูเร่งรีบจนเกินไป คำพูดและการกระทำของฮาโรลด์ถูกเพิกเฉยโดยสิ้นเชิง ในขณะที่โทษประหารชีวิตกลับถูกผลักดันอย่างเร่งรีบ เมื่อได้ฟังเช่นนั้น ใบหน้าของเอริกะและคนรับใช้เริ่มแข็งขึ้นเรื่อยๆ
[ …. นี่คือสถานการณ์ที่ฮาโรลด์กำลังเผชิญอยู่ หรือก็คือมีใครบางคนต้องการให้ฮาโรลด์ตาย ] – โคดี้
[ เขาเป็นใครคะ ? ] – เอริกะ
[ ขอโทษด้วยข้าเองก็ไม่รู้ .. ] – โคดี้
โคดี้ส่ายหน้าพร้อมกับยกทั้ง 2 มือขึ้นราวกลับจนปัญญาเช่นกัน
เขาได้แค่ละอายใจที่ต้องยอมรับมัน
[ แต่ว่าพวกเราจำเป็นต้องหาคนๆนั้นให้เจอด้วยเวลาที่เหลือยู่ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะตัวคนๆนั้นพบ แต่ก็ไม่มีหลักประกันอะไรที่ฮาโรลด์จะรอด ] – โคดี้
พูดตามตรง สถานการณ์ในตอนนี้เหมือนโดนรุกฆาตแล้ว แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพลิกกระดานในครั้งนี้ แต่อาจเพราะเอริกะไม่ทราบถึงความจริงในข้อนี้ จึงทำให้เธอยังไม่ยอมแพ้หรือสิ้นหวัง
[ หากเป็นเช่นนั้น พวกเราต้องรีบลงมือในทันที ท่านโคดี้คะ ใครคือผู้ตัดสินความผิดในการพิจารณาคดีในครั้งนี้คะ ? ] – เอริกะ
[ ห๊ะ ? อืมก็ ถ้าข้าจำไม่ผิด มี 6 คนจากสภาอัศวิน หัวหน้าอัศวิน รองหัวหน้า 3 ผู้บัญชาการกองกำลังสำรวจ พวกเขาทั้งหมดมีเพียงรองหัวหน้าอัศวินเพียงคนเดียวที่คัดค้านผลคำตัดสินนี้ ] – โคดี้
สมาชิกในการพิจารณาคดีจะถูกรวบรวมมาจำนวน คี่ ท่าน และลงคะแนนเสียงหลังจากได้อภิปายกันหลายต่อหลายครั้ง 9 คนคือจำนวนสูงสุดของสมาชิกลงคะแนนตัดสิน
การตัดสินโทษที่รุนแรงขนาดนี้กับใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ มันถือว่าผิดปกติเป็นอย่างมาก
[ แล้วคุณอยู่ในตำแหน่งไหนกันคะ ท่านโคดี้ ] – เอริกะ
[ ตามสัตย์จริง แม้ว่าข้าจะเป็นพวกชอบเดิมพันกับม้าที่ชนะอยู่เสมอ แต่ครั้งนี้ข้าพร้อมที่จะสู้ไปพร้อมกับม้าที่อาจจะต้องพ่ายแพ้ก็ตาม ] – โคดี้
โคดี้ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เมื่อเห็นเช่นนั้น เอริกะก็เผยรอยยิ้มออกมาเล็กๆ
เขาได้แต่สงสัยว่า เอริกะจะเชื่อในตัวฉันบ้างไหมนะ ?
[ ค่ะ ถ้าเช่นนั้น ดิฉันมีเรื่องอยากจะขอร้อง ดิฉันขอรายชื่อผู้ที่ร่วมสนับสนุนโทษประหารของท่านฮาโรลด์ได้ไหมคะ ? ชื่อ ตำแหน่ง และประวัติ ของพวกเขา ] – เอริกะ
[ ข้าเตรียมข้อมูลเหล่านั้นให้ได้แต่ว่า .. ] – โคดี้
[ เช่นนั้นรบกวนด้วยค่ะ แล้วก็ ยูโนะ ช่วยไปเตรียมเรือบินสำหรับโดยสารด้วยค่ะ ดิฉันจะตามไปทีหลัง ] – เอริกะ
เอริกะให้คำแนะนำของเธออย่างไม่ลังเล และคนรับใช้ของเธอก็ก้มศีรษะลงและรีบออกจากห้องไปในทันที
สำหรับโคดี้ เขาบอกให้เอริกะว่า “ได้โปรดรอซักครู่” และกลับไปยังห้องของเขา เพราะที่นั้นมีรายชื่อของผู้ตัดสินความผิดในครั้งนี้อยู่
และทันทีที่เขากลับมาถึงห้องรับแขก เขาก็ส่งมันให้กับเอริกะ
[ นี่คือสิ่งที่เธอต้องการ เอาล่ะ เธอมีแผนจะทำอะไรต่อไป ? ] – โคดี้
[ … ถึงยากที่จะยอมรับ แต่ดิฉันไม่มีพลังเพียงพอที่จะพลิกสถานการณ์ในครั้งนี้ได้หรอกค่ะ ดิฉันจะส่งรายชื่อเหล่านี้ให้กับท่านพ่อและขอร้องท่านให้ช่วยเรื่องเพิกถอนคำพิพากษาแล้วขอพิจารณาคดีใหม่ ] – เอริกะ
ผู้นำตระกูลสุเมรากิคนปัจจุบัน ทาสุคุ สุเมรากิ แม้แต่ผู้คนในเมืองหลวงก็มีหลายคนที่รู้จักชื่อนี้ อิทธิพลของเขาเทียบไม่ได้กับขุนนางทั่วๆไป ถ้าทางตระกูลสุเมรากิกดดันหนักเพียงพอ ขุนนางคนอื่นๆอาจจะคล้อยตามด้วย แต่สำหรับคำถามที่ว่าเพียงแค่นี้จะพอให้พลิกสถานการณ์ได้รึไม่นั้น ขอตอบเลยว่าไม่
[ นอกจากนี้ พวกเราจะตรวจสอบเบื้องหลังของสมาชิกในการพิจารณาคดีไปด้วย พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตรวจสอบให้ลึกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อสืบหาว่าพวกเขาเหล่านั้นติดต่อกับใครก่อนที่จะมีคำตัดสิน แม้ว่าอยากจะตรวจสอบที่มาของข่าวลือแย่ๆพวกนั้นด้วย แต่ว่าเวลาเพียงเท่านี้คงไม่พอ … ] – เอริกะ
[ ปล่อยเรื่องข่าวลือให้ข้าเอง เพราะเรื่องบางเรื่องคงต้องใช่ “เคลือข่าย” ข่าวสารในหมู่ประชาชนคนทั่วไปนี่แหละ แม้ว่าข้าจะดูไม่ค่อยได้เรื่องก็เถอะ แต่ข้าเองก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงกับคนทั่วๆไปภายในเมืองนี้ ] – โคดี้
นี่เป็นผลมาจากที่เขาแอบอู้งานแวะไปยังร้านต่างๆ ระหว่างลาดตระเวณในแต่ละวัน ซึ่งเขาเรียกสิ่งนี้ว่า แวะพบปะประชาชน
แม้จะไม่ได้รับการยกย่อง แต่โคดี้ถือว่าเป็นอัศวินที่มีความสัมพันธ์กว้างขวางกับผู้คนที่อาศัยในเมืองมากกว่าอัศวินคนไหนๆ
[ รองกัปตันวินเซนต์ก็จะตรวจสอบพวกเหล่าผู้บัญชาการเอง เรื่องนี้ไว้วางใจให้เขาจัดการได้ ] – โคดี้
หากเป็นวินเซนต์ เขาต้องพบข้อมูลอะไรบางอย่าง โคดี้เชื่อแบบนั้น
เอริกะเองก็รู้สึกว่าสามารถเชื่อในเรื่องนี้ได้
[ ดังนั้น ปล่อยให้วินเซนต์จัดการเรื่องผู้บัญชาการ และข้าจะตรวจสอบพวกหัวหน้าหน่วยในค่ายและเรื่องข่าวลือแย่ๆนั้นเอง ] – โคดี้
[ ถ้าเช่นนั้น ทางตระกูลสุเมรากิจะมุ่งเป้าการตรวจสอบไปยังสมาชิกสภาอัศวินที่เหลือและโน้วน้าวพวกเขาเองค่ะ ] – เอริกะ
สุดท้าย พวกเขาก็ได้ยืนยันหน้าที่ของแค่ละคน แม้ว่าวินเซนต์ที่ไม่ได้อยู่ที่นี่จะถูกรวมอยู่ด้วย แต่โคดี้คิดว่ามันคงไม่มีปัญหาอะไรแค่เขาไปขอร้องหลังจากนี้ก็พอ
นี่ก็หมายความว่า กลุ่มพันธมิตรช่วยเหลือฮาโรลด์ ได้ถูกจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ และพวกเขาคงจะไม่ได้นอนเต็มอิ่มไปอีกตลอดอาทิตย์
[ ถ้าเช่นนั้น ดิฉันคงต้องไปแล้ว ขอบพระคุณสำหรับความร่วมมือของคุณเป็นอย่างมาก ท่านโคดี้ ] – เอริกะ
[ อ่าใช่ รอเดี่ยว ] – โคดี้
อาจเพราะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ โคดี้จึงเรียกเอริกะให้หยุดอีกครั้ง บางทีสิ่งนี้อาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องทำ แต่ถ้าหากจำเป็น เขาก็ยินดีที่จะทำ
[ มันคงจะเป็นไปไม่ได้สำหรับข้าหากจะบอกกับเธอว่าอย่าใจร้อน แต่ถึงกระนั้นอย่ากังวลไปเลย แม้สิ่งที่พวกเรากำลังจะทำ ถึงในท้ายที่สุดจะไม่มีหวัง แต่ยังมีอีกวิธี เพราะข้านี่แหละจะบุกเข้าไปในสภาเพื่อช่วยเขาแหกคุกออกมาเอง ] – โคดี้
[ หากคุณทำเช่นนั้น ไม่ใช่ว่าคุณจะถูกปลดจากตำแหน่งอัศวินหรือคะ ? ท่านโคดี้ ] – เอริกะ
[ หากเป็นอย่างนั้นจริง ได้โปรดจ้างข้าให้เข้าทำงานที่ตระกูลสุเมรากิด้วยนะ ข้าเองก็มั่นใจในฝีมือดาบอยู่พอสมควร ดังนั้นข้าต้องเป็นประโยชน์ได้แน่ ] – โคดี้
[ คิคิ ได้ค่ะ หากเวลานั้นมาถึง ดิฉันจะเป็นคนแนะนำท่านโคดี้ให้กับท่านพ่อด้วยตัวเอง ] – เอริกะ
เอริกะเผยรอยยิ้มอันอ่อนโยนออกมาที่หากใครก็ตามที่ได้เห็นจะต้องถูกดึงดูดอย่างไม่ต้องสงสัย โคดี้คิดว่า บางทีเขาอาจจะคลายความกังวลให้เธอได้บ้างซักหน่อย
ในตอนที่เขาเล่าถึงสถานการณ์ของฮาโรลด์ให้เธอฟัง มีเพียงใบหน้าที่สงบนิ่งที่เธอแสดงออกมา แต่มือของเธอกำแน่นจนกลายเป็นสีขาว เธอคงรู้สึกกดดันและสิ้นหวังที่จะต้องสูญเสียฮาโรลด์ไป
ไหล่ของเธอสั่นเล็กน้อยเช่นกัน ..
เธอคงรู้สึกราวกับกำลังพยายามมุ่งตรงไปยังเป้าอย่างบ้าคลั่งโดยไม่มองสถานการณ์โดยรอบให้ดีๆ หรือราวกับหลับตาลงเพื่อหลีกหนีความกลัวที่มุ่งตรงมาที่เธอ
อย่างไรก็ตาม เพื่อที่จะช่วยฮาโรลด์ เธอต้องสงบ
หรือก็คือ สะพานที่จะช่วยเหลือฮาโรลด์นั้นแคบมากและไม่มั่นคงอย่างยิ่ง คุณจะไม่มีทางก้าวข้ามผ่านมันไปได้หากไม่มีความกล้าและก้าวผ่านอย่างใจเย็น
[ โปรดจดจำความรู้สึกนี้ไว้ ] – โคดี้
[ ขอบคุณค่ะ ] – เอริกะ
เอริกะโค้งคำนับอย่างช้าๆ และก้าวออกจากห้องรับแขกนี้ไป คราวนี้เป็น โคดี้ที่เห็นแผ่นหลังของเธอ
[ … เธอเป็นเด็กที่เข้มแข็งจริงๆ ] – โคดี้
โคดี้กล่าวออกมาคนเดียว ภายในห้องที่ว่างเปล่า
มันไม่ใช่ความเข้มแข็งทางร่ายกายหรือความสามารถในการต่อสู้ แต่มันคือความเข้มแข็งที่มาจากภายในจนรู้สึกราวกับว่ามันไหลออกมาจากจิตวิญญาณ เธออาจจะแคร์ฮาโรลด์เป็นอย่างมาก แต่เธอกลับสงบอยู่ได้แม้ว่าคนรักของเธอจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ หรือบางที อาจเพราะฮาโรลด์ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้เธอจึงจำเป็นต้องสงบ ?
มันยากเกินกว่าที่โคดี้จะเข้าใจได้
แต่เพื่อฮาโรลด์และเอริกะ เขาจะต้องช่วยทั้งคู่ให้ได้ ความคิดเหล่านี้ลุกโชนอยู่ภายในตัวของเขา นั้นหมายความว่าต่อให้เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งอัศวิน เขาก็ไม่สน มีบางอย่างดังก้องอยู่ภายในจิตใจของเขา มันบอกให้เขาเผชิญหน้ากับมัน กับความจริงอันโหดร้ายนี้ อย่าถอยหลังกลับ
[ อืมก็.. การช่วยเหลือพวกเด็กๆที่กำลังลำบากคือหน้าที่ของพวกผู้ใหญ่ล่ะนะ ]
บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่เหล่าคุณพ่อคุณแม่หลายๆท่านรู้สึก ? โคดี้ได้แต่ขนลุกซุ่เมื่อนึกถึงเรื่องนี้
————————–
ขอบพระคุณทุกๆท่านที่สนับสนุนขนมแมวเลียเมื่อวันที่ 10เดือน10 ที่ผ่านมา แมวของผู้แปลได้ขนมแมวเลียวเพิ่มไปหลายซองเลย (กราบ)
สนับสนุนขนมแมวเลียเพิ่มได้ที่
ธนาคารกสิกร / 0708329649 / กิตติพิชญ์ นิธิพิพัฒพงค์