My Death Flags Show No Sign of Ending - ตอนที่ 69 แผนการณ์ถอนหมั้นให้ได้รอบที่ล้าน
[ เพราะแกใช้ชื่อปลอมเพื่อเข้าหา 2 พี่น้อง แกคงจะไม่บอกกับฉันหรอกนะว่าฉันกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ? ] – ฟรานซิส
บรรยากาศรอบๆตัวฟรานซิสเริ่มคุกกรุ่นยิ่งขึ้น
ตอนแรก ฮาโรลด์คิดว่าพวกเรายังคงอยู่ภายใต้คฤหาสน์ตระกูลเบอร์ลิออส ที่ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานมงคลเฉลิมฉลองการแต่งงานของอิสุกิ ณ ตอนนี้ ไม่มีทางที่ฟรานซิสจะก่อเหตุนองเลือดขึ้นโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา ดังนั้น นี่จึงเป็นไปได้สูงว่าต่อให้เลวร้ายสุดๆ ฟรานซิสคงเรียกเขามาแค่ข่มขู่
แต่ทว่า ณ ตอนนี้ ฟรานซิสกลับชักดาบออกมาจ่ออยู่ที่คอหอยของเขา ซึ่งเขารู้สึกกลัวมากจริงๆ เขาคิดว่าถ้าหากเขาเผลอพูดอะไรไม่เข้าหูฟรานซิสตอนนี้ เขาคงถูกฆ่าตายแน่นอน
สถานณการณ์ของฮาโรลด์ตอนนี้ถือว่าจนมุมสุดๆ หากที่นี่มีเพียงแค่ฟรานซิสคนเดียว เขาคงสามารถจัดการได้ แต่อย่าลืมว่ายังมีคมดาบเล่มที่ 2 ที่จ่อหลังของเขาอยู่ ไม่มีทางที่เขาจะสามารถตอบสนองการโจมตีที่มาจากทั้ง 2 ทางได้ทัน
เห็นได้ชัดว่าถ้าหากเขาขัดขืนมีแต่จะตายสถานเดียว
ด้วยปากที่ติดสกิลการยั่วโมโหคนอื่นอัตโนมัติ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสามารถขอโทษได้อย่างถูกต้องและอธิบายเรื่องต่างๆให้คนอื่นเข้าใจ ดังนั้นทางเลือกเดียวที่เหลือคือการเจรจากับ 1 ใน 2 คนนี้ที่กำลังใช้อาวุธจ่อเขาอยู่ เลือกซักคนที่สามารถอดทนต่อคำยั่วยุที่ปากของเขาจะพ่นออกมาได้มากพอ แม้ว่ามองยังไง การเจรจานี้ไม่มีทางที่จะจบลงอย่างราบลื่น แต่มันก็ยังดีกว่าที่จะเริ่มการต่อสู้ที่เสียเปรียบนี้อย่างกะทันหัน
ฮาโรลด์พยายามอย่างเอาเป็นเอาตายที่จะ”เลือก”คำพูดถัดไปให้ออกมาอย่างเหมาะสม ไม่เพียงแค่หวังให้ฟรานซิสหรือพวกของเขาอีกคนใจเย็นลงก่อน แต่ก็เพื่อให้ตัวเองได้สงบสติและใช้เวลาคิดเช่นกัน ดังนั้นคำที่เขาเลือกคือ “พวกคุณช่วยลงอาวุธลงก่อนจะได้ไหมครับ” ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีทางที่ปากของเขาจะพูดออกมาอย่างถูกต้องได้
[ ฮึ พวกตาขาว หากไร้อาวุธในมือก็คงไม่กล้าเข้ามาทำอะไรแบบนี้สินะ ] – ฮาโรลด์
เป็นอย่างที่ฮาโรลด์คาด ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาเลวร้ายมาก มันคงจะปลอดภัยกว่าหากเขาเลือกที่จะรับมือกับคมดาบที่ฟรานซิสกำลังจ่ออยู่ที่คอของเขาแทนคำพูดเมื่อสักครู่รึปล่าว? แต่ว่าดูเหมือนคำพูดนั้นจะยังไม่ทะลุจุดเดือดของฟรานซิส
[ …… ขนาดตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ปากของนายก็ยังไม่หยุดพ่นคำเสียดสี อย่างคาด เรื่องเล่าที่เขาพูดเกี่ยวกับนายเป็นความจริงสินะ ? ] – ฟรานซิส
[ แกจะเรียกมันว่าเรื่องเล่าหรืออะไรก็ช่าง เพราะในท้ายที่สุด มันก็เป็นเพียงข่าวลือไร้สาระ อย่าหลงคิดไปว่าตัวของแกจะมีพลังเทียบเท่าชั้นได้ ] – ฮาโรลด์
[ แสดงว่า นายจะไม่ปฎิเสธสินะว่านายคือฮาโรลด์ ] – ฟรานซิส
[ ชั้นไม่เคยโอเคกับการถูกเรียกด้วยนามแฝง ใครมันจะไปอยากถูกเรียกว่า “ลอร์ด” กันฟร่ะ ถ้าหากเขาไม่ถูกบังคับให้ถูกเรียกแบบนั้น ? ] – ฮาโรลด์
ถ้ายูสทัสไม่มอบอำนาจสั่งการฮาโรลด์ให้กับอิสุกิ เขาคงไม่มีทางยอมใช้ชื่อปลอมแน่ ใครจะไปยอมให้ประวัติศาสตร์อันดำมืดของเขาเติบโตขึ้นมาอีกครั้ง แต่ทว่า หากฮาโรลด์บอกกับฟรานซิสแบบนั้น อาจทำให้ฟรานซิสฟิวขาดเหตุที่ว่าคนเลวๆอย่างฮาโรลด์นั้นเป็นเพื่อนกับอิสุกิ และอีกอย่างที่เขากลัว นั้นก็คือ ฟรานซิสอาจไม่เชื่อเรื่องที่เขาเล่า และผลลัพธ์อาจออกมาตรงกันข้าม ทำให้ฟรานซิสโกรธยิ่งกว่าเดิมที่ใช้ชื่อของอิสุกิมาอ้าง
[ ….. อืม จริงๆเรื่องนั้นก็ไม่สำคัญเท่าไหร่หรอก กลับมาหัวข้อหลักของเรากันดีกว่า เป้าหมายของนายคืออะไรกันแน่ ? ทำไมนายถึงพยายามผลักดันให้ฉันเข้าหาเอริกะ ? นั้นก็เกี่ยวข้องกับเป้าหมายของนายด้วยรึปล่าว ? ] – ฮาโรลด์
ฟรานซิสถามออกมาด้วยความมั่นใจว่าจะต้องมีคำตอบที่ชัดเจนสำหรับเรื่องนี้แน่ แต่ทว่าฮาโรลด์กลับไม่มีให้ เพราะมันไม่ใช่เป้าหมายของเขาตั้งแต่แรก ปัญหาไม่ได้อยู่ที่จะทำยังไงให้ฟรานซิสได้คู่กับเอริกะ แต่ปัญหาจริงๆคือทำไม อิสุกิถึงพยายามอย่างเอาเป็นเอาตายให้ฮาโรลด์ได้คู่กับเอริกะ ซึ่งคำถามที่ฟรานซิสถามออกมา ฮาโรลด์ก็อยากจะถามเช่นนั้นกับอิสุกิเช่นกัน ไม่สิ อยากจะถามกับทุกคนในตระกูลสุเมรากิเลยต่างหาก
“ทำไมพวกคุณยึดติดกับผมถึงขนาดนี้”
อิสุกิพยายามอย่างเอาเป็นเอาตายที่จะให้ฮาโรลด์แต่งงานกับเอริกะให้ได้ ส่วนทาสุคุ ก็เห็นชอบด้วย พวกเขาทั้งคู่ไม่ต้องการที่จะตัดสัมพันธ์กับฮาโรลด์ และคิดว่าตนเป็นหนี้แก่เขาในเรื่องของวิธีการเพาะปลูกแบบLP และสูตรยาต้านพิษที่ฮาโรลด์มอบให้ แต่เพราะด้วย 2 สิ่งนี้ ตระกูลสุเมรากิในปัจจุบันก็ไม่ประสบปัญหาด้านการเงินอีก หรือก็คือ พวกเขาได้แบ่งผลกำไรที่ว่าเป็นเงินจำนวนมากให้กับฮาโรลด์ นั้นก็ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับฮาโรลด์
แต่ว่าสุดท้าย หมอกพิษที่ซึ่งเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดยังไม่ถูกแก้ไข และฮาโรลด์แม้จะกล่าวได้ว่าเขาเป็นผู้คิดค้นการเพาะปลูกแบบ LP แต่หากให้เขาบริหารจัดการต่อด้วยตัวเอง มันไม่มีทางที่จะออกมาดีและสร้างผลกำไรได้อย่างที่ตระกูลสุเมรากิจัดการแน่
และสิ่งที่เลวร้ายที่สุด นั้นก็คือชื่อเสียงของฮาโรลด์ แม้อิสุกิจะกล่าวว่าตระกูลสุเมรากิในตอนนี้นั้นไม่สนใจชื่อเสียงเลวร้ายอะไรพวกนั้นหรอก แต่สำหรับฮาโรลด์คิดว่า มันคงจะดีกว่าหากตระกูลสุเมรากิไม่ต้องเข้ามาจัดการปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของเขาตั้งแต่แรก
สำหรับฮาโรลด์ เขาไม่อยากถูกกดดันให้แต่งงานกับเอริกะอีกต่อไปแล้ว เขาไม่อยากเจ็บปวดหากยูสทัสเกิดสงสัยในความสัมพันธ์ของเขากับตระกูลสุเมรากิและตรวจสอบเพื่อหาความตั้งใจที่แท้จริงของฮาโรลด์ขึ้นมา
แม้จะนอกประเด็นไปหน่อย แต่คำตอบที่ฮาโรลด์ต้องการจะตอบคือ “ผมไม่ได้มีจุดประสงค์อะไร” อืมก็นะ หากเขาตอบแบบนั้นจริงๆ ฟรานซิสคงสวนกลับมาให้หยุดโกหก
แต่ว่าทันไดนั้น แผนการณ์บางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา บางที วิธีนี้อาจทำให้เขาสามารถตีตัวออกห่างตระกูลสุเมรากิโดยใช้ฟรานซิสได้ ยิ่งกว่านั้น หากแผนการณ์ออกมาดี มันยิ่งทำให้ฟรานซิสแข็งแกร่งยิ่งขึ้น …
โดยแผนที่ว่า ฮาโรลด์จะแสร้งทำเป็นว่ากำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่จริงๆ และชักนำให้ฟรานซิสมาดวลกับเขา หากเอาชนะเขาได้ เขาจะยอมถอยห่างออกจากอิสุกิและเอริกะ ด้วยแผนนี้ฮาโรลด์จะสามารถรอดพ้นเหตุนองเลือดที่จะเกิดขึ้นนี้ไปได้
จากนั้น ฮาโรลด์ก็จะแกล้งแพ้ตามสูตร และใช้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการถอยห่างจากตระกูลสุเมรากิ ถึงตอนนั้นฟรานซิสคงคอยย้ำกับอิสุกิและเอริกะให้ตาสว่างเกี่ยวกับฮาโรลด์ แน่นอนว่าคำพูดของคนนอกไม่อาจทำให้ความตั้งใจของอิสุกิสั่นคลอนได้ แต่ว่าหากคำพูดนั้นมาจากปากของคนที่ถือว่าเป็น “เพื่อน” ของเขา อิสุกิคงไม่สามารถปล่อยให้คำพูดเหล่านั้นปล่อยผ่านไปได้ เขาจะต้องรับฟัง เพราะอิสุกิเป็นคนเช่นนั้น
ด้วยแผนการณ์นี้ การหมั้นหมายของเขากับเอริกะจะจบลง ความสัมพันธ์ของเขากับตระกูลสุเมรากิจะถูกตัดขาดอย่างสมบูรณ์ และความแข็งแกร่งของฟรานซิสจะเพิ่มขึ้น แม้ว่าเรื่องที่ฟรานซิสจะแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่นั้นจะตอบเป็นตัวเลขแน่นอนไม่ได้ แต่หาก 2 อย่างแรกสำเร็จ นั้นคือยกเลิกหมั้นหมาย กับ ตัดความสัมพันธ์ ก็ถือว่าโอเคแล้วสำหรับแผนนี้
[ หึ เป้าหมายของชั้นงั้นรึ ? แล้วแกจะทำอะไรหากได้คำตอบพวกนั้นแล้ว ? ] – ฮาโรลด์
[ ตอนนั้นฉันจะตัดสินใจเอง หากเป้าหมายนั้นเป็นอันตรายกับเอริกะ ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้มันเกิดขึ้น ] – ฟรานซิส
[ คิดหรอว่าจะทำแบบนั้นได้ ? คิดหรอว่าจะหยุดชั้นได้ ? ] – ฮาโรลด์
[ ทั้งๆที่นายตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ? นายจะทำอะไรได้ ? ฟังซะ หากนายไม่หยุดปากเน่าๆของนายซะฉันจะ—- ] – ฟรานซิส
[ จะฆ่าชั้นงั้นเรอะ ? ชั้นคิดว่ามันไม่มีทางเกิดขึ้นได้หรอก แกไม่มีแรงจูงใจมากพอให้ฆ่าชั้นได้ และตอนนี้ ชั้นอาศัยอยู่ในตฤหาสน์แห่งนี้ในฐานะเพื่อนของอิสุกิ หากแกฆ่าชั้นที่นี่ แกจะกลายเป็นอย่างฆาตกรทั่วๆไป นั้นจะทำให้ชื่อของ ตระกูล อาร์คไวท์ ต้องเสื่อมเสีย และสิ่งนี้มันเหมือนดั่งการทาโคลนหยามเกียรติบนใบหน้าของตระกูลเบอร์ลิออสและอิสุกิ ถึงจะใช้มิตรภาพระหว่างนายกับอิสุกิอ้างว่าสิ่งที่ทำก็เพื่อปกป้องอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับเขาและครอบครัวของเขา แต่ว่าไหนล่ะอันตราย ? เพราะนายก็ยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามันมีอันตรายที่ว่านั้นอยู่จริงๆ หรือแค่กำลังหลอกตัวเอง ] – ฮาโรลด์
ดาบที่ชี้มาที่ฮาโรลด์เริ่มสั่นไหว เป็นอย่างที่ฮาโรลด์คาด ฟรานซิสไม่ได้คิดที่จะฆ่าเขาจริงๆ ดังสุภาษิตที่ว่า “คนตายไม่เคยพูดเล่น” หากฟรานซิสตั้งใจจะฆ่าฮาโรลด์จริงๆ และพยายามปกปิดเรื่องนี้ แน่นอนว่าตัวของฟรานซิสนั้นสามารถทำได้แน่ นั้นเพราะตระกูลอาร์คไวท์มีอำนาจมากพอที่จะลบเรื่องราวเหล่านี้ให้หายไปได้
อย่างไรก็ตาม เกียรติของฟรานซิสไม่อนุญาตให้ทำเช่นนั้น และเขาคงสารภาพความผิดของเขากับอิสุกิอย่างแน่นอน เขาไม่มีทางยอมทำเรื่องที่ทำร้ายมิตรภาพระหว่างเขากับอิสุกิ ดังนั้นสิ่งที่ฟรานซิสกำลังทำทั้งหมดก็เพียงเพื่อขู่ให้ฮาโรลด์สารภาพเท่านั้น
[ แกมันแค่ไอ้โง่ … ไม่สิ พวกแกทั้ง 2 ทำผิดพลาดแล้ว พวกแกต้องขู่ว่าจะจับชั้นแทนการขู่ว่าจะฆ่าชั้นหากชั้นขัดขืน พวกแกพลาดแล้วที่ชี้ดาบมายังจุดสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่ชั้นมือเปล่าไร้อาวุธและวิธีการต่อสู้ของชั้นถูกจำกัด หากชั้นเกิดขัดขืนขึ้นมาตอนนี้ พวกแกจะทำได้เพียงต้องถูกบังคับให้จบชีวิตชั้นเท่านั้นหรืออย่างน้อยที่สุดก็ต้องทำให้ชั้นบาดเจ็บสาหัส และถ้าหากชั้นเห็นพวกแกดึงดาบถอยออกเพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์นั้นเพียงนิดเดียว ชั้นจะใช้จังหวะนั้นฆ่าพวกแกทั้งคู่ซะ ] – ฮาโรลด์
คำพูดเหล่านั้นสร้างช่องว่างให้กับฮาโรลด์ แม้อาวุธทั้ง 2 จะชี้มาที่คอและหัวใจของเขา หากคิดตามปกติ การชี้อาวุธไปยังจุดสำคัญของเป้าหมายเป็นวิธีที่เหมาะสมที่จะจำกัดการกระทำของเป้าหมายและควบคุมตัว แต่ทว่าฮาโรลด์กับพลิกสถานการณ์ให้สิ่งนี้กลายเป็นข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรง
และเขาก็เริ่มพูดต่อขณะที่กำลังคิดถึงเรื่องนี้
[ ทำไมแกหน้าซีดล่ะ ? ความตั้งใจของแกหายไปไหมหมด? ฟังซะ ฟรานซิส เจ อาร์คไวท์ หากแกคิดว่าการฆ่าชั้นจะทำให้อิสุกิและคนอื่นๆปลอดภัย เชิญ ลงมือเลย แน่นอนว่าแกจะต้องสูญเสียความเชื่อใจจากอิสุกิ ซึ่งนั้นก็เป็นเรื่องปกติ แต่จงจำเอาไว้ หากสูญเสีญมันไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไม่ง่ายที่จะสร้างมันกลับมาได้ ] – ฮาโรลด์
ใบหน้าของฟรานซิสเริ่มชุ่มไปด้วยเหงื่อ แม้ว่ามันจะไม่ได้ดูชุ่มเหมือนกับวันที่อากาศร้อนจัด แต่มันก็คือเหงื่อ เหงื่อเย็นเฉียบ ดูเหมือนว่าฮาโรลด์จะใช้จิตวิทยาไล่ต้อนฟรานซิสได้
เป็นไปได้ว่าฮาโรลด์อาจจะข่มขู่ไปเองโดยไม่รู้ตัว
[ … นายมัน .. นายมันยิ่งกว่าที่ยินมาจากข่าวลือเสียอีก ฮาโรลด์ นายสามารถสร้างความได้เปรียบจากฉันในสถานการณ์แบบนี้เพียงใช้แค่คำพูดเท่านั้น ] – ฟรานซิส
[ พูดอะไร ? คิดหรอว่าคนอย่างแกจะได้เปรียบชั้นตั้งแต่แรก ไอ้โง่ ] – ฮาโรลด์
แม้ว่าฮาโรลด์จะประกาศออกมาเช่นนั้น แต่ความจริงที่อยู่ตรงหน้ายังคงห่างไกลกับคำว่าได้เปรียบชัดๆ เพราะไม่ว่าจะมองมุมไหน ยังไงฟรานซิสก็ยังได้เปรียบอยู่ดี
ฮาโรลด์เพียงใช้แค่ความเย่อหยิ่งที่เกิดจากธรรมชาติของเขาเพื่อแสดงความรู้สึกว่าเขานั้นกำลังได้เปรียบ และเมื่อเห็นว่าฟรานซิสลังเล ฮาโรลด์จึงเลือกใช้หนทางนี้เพื่อแก้ไขสถานการณ์
[ .. แต่ว่า ฉันยัง— ! ] – ฟรานซิส
จากความลังเลที่เกิดขึ้น ใบหน้าของฟรานซิก้มลงเล็กน้อยและเผลอพลัดสายตาออกจากฮาโรลด์ไปชั่วขณะ นี่เป็นช่องว่างที่เกิดขึ้น ฮาโรลด์สามารถใช้จังหวะนี้จัดการคนที่จ่อดาบอยู่ด้านหลังและจัดการฟรานซิสต่อได้
อย่างไรก็ตามฮาโรลด์ก็ไม่ได้เลือกที่จะทำเช่นนั้นแต่เป้นการเสนอทางเลือกให้กับฟรานซิสแทน
[ ชั้นจะให้โอกาสสำหรับไอ้โง่อย่างแกพิสูจน์ตัวเอง มาดวลกันชั้นซะ โดยมีพยาน หากแกเอาชนะชั้นได้ ชั้นจะทำในสิ่งที่แกต้องการ ] -ฮาโรลด์
[ แล้วถ้าชั้นแพ้ล่ะ? ] – ฟรานซิส
[ แค่ฟังในสิ่งที่ชั้นจะบอกก็พอ ] – ฮาโรลด์
[ …. ตกลง ] – ฟรานซิส
หลังจากครุ่นคิดอะไรอยู่สักพัก ฟรานซิสก็ตอบกลับมาและเก็บดาบของตัวเองเข้าฝัก และความรู้สึกคุกความที่มาจากทางด้านหลังของฮาโรลด์ก็หายไปเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าเขาเอาตัวรอดจากสถานการณ์เฉียดตายมาได้อีกครั้งอย่างสมบูรณ์แบบ แม้ว่าฮาโรลด์กำลังจะรู้สึกโล่งใจอยู่ แต่ว่าจู่ๆ ฟรานซิสก็กล่าวบางอย่างที่คาดไม่ถึงออกมา
[ ชั้นเชื่อนายแล้ว อิสุกิ ฮาโรลด์ไม่ใช่คนอย่างที่ได้ยินมาจากข่าวลือจริงๆ ] – ฟรานซิส
[ หมายความนายเชื่อใจฮาโรลด์แล้วสินะ ? รึว่ายังสงสัยอยู่ ? ] – อิสุกิ
น้ำเสียงนั้นที่ดังมาจากทางด้านหลังของฮาโรลด์ เมื่อแน่ใจ ฮาโรลด์ก็หันกลับไปและเตะเข้าไปป๊าบนึงโดยไม่คิดอะไรในหัวเลยซักนิด
[ แอ๊ก ] – อิสุกิ
หากมีนักศิลปะการต่อสู้อยู่ที่นี่ด้วย ฮาโรลด์คงได้ 10 คะแนนเต็มสำหรับการเคลื่อนไหวท่าทางที่สวยงาม ลูกเตะที่เด็ดเดียว และลื่นไหล ขณะก้มลงมองอิสุกิ ผู้ที่กลิ้งอยู่บนพื้นขณะกุมน่องขาซ้ายของตนเอาไว้ ฮาโรลด์ก็ถามคำถามกับเขาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นกว่าตอนที่พูดคุยกับฟรานซิสหลายต่อหลายเท่า
[ อธิบายมาซะ!! ] – ฮาโรลด์
[ มะ มะ – เมื่อคืน ฟรานซิสมาที่ห้องของชั้นแล้วบอกว่า “ลอร์ดคือ ฮาโรลด์ สโตร์กไม่ใช่หรอ ?” แล้วชั้นก็บอกกับเขาว่า “ใช่แต่..”แล้วก็—- ] – อิสุกิ
แม้ว่าจะกำลังเจ็บปวดอยู่ แต่อิสุกิก็พยายามที่จะอธิบายออกมา
แรกเริ่ม ในช่วงที่เกิดเหตุโกลาหลเมื่อวันก่อน 1 ในคนรับใช้ของฟรานซิสจำใบหน้าของฮาโรลด์ได้และรายงานเรื่องนี้กับเขา เห็นได้ชัดว่าคนรับใช้คนนั้นเคยเห็นฮาโรลด์ที่เมืองหลวงมาก่อน จากนั้นฟรานซิสก็ไปหาอิสุกิเพื่อที่จะยืนยันข้อมูลเหล่านี้ ซึ่งอิสุกิก็ยอมรับออกมาอย่างง่ายดายว่าลอร์ดคือฮาโรลด์จริงๆ แน่นอนว่าฟรานซิสพยายามโน้มน้าวอิสุกิให้คิดใหม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับฮาโรลด์ แต่ก็ไม่สามารถโน้วน้ามได้
“งั้นนายไปตรวจสอบด้วยตัวเองดีกว่ามั้ยว่าฮาโรลด์เป็นคนแบบไหน ..” – อิสุกิ
นั้นคือต้นเหตุที่ทำให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น อย่างน้อย ก็มั่นใจได้ว่าเรื่องวุ่นวายทั้งหมดนี้มีต้นเหตุมาจากอิสุกิ ฮาโรลด์ได้แต่สงสัยว่า อิสุกิมีความตั้งใจที่จะปกปิดตัวตนของฮาโรลด์บ้างรึปล่าว เพราะดูๆแล้วอิสุกิแทบไม่มีความพยายามจะปกปิดตัวตนของเขาเลยซักนิด
“เอาเถอะ ค่อยไปลงโทษหมอนั้นทีหลัง” ขณะคิดเช่นนั้น ฮาโรลด์ก็หันกลับไปยังฟรานซิสและถามออกมาอีกครั้ง
[ แล้ว เรื่องอะไรบ้างที่อิสุกิเล่าให้แกฟัง ? แล้วทำถึงยอมรับชั้น ? ] – ฮาโรลด์
[ { ตามจริงแล้ว ฮาโรลด์ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอย่างในข่าวลือพวกนั้น เขาเป็นคนที่ถูกเข้าใจผิดง่ายเพราะเขาเป็นคนที่เข้มงวดกับตัวเองและผู้อื่นเสียมากกว่า } นั้นคือสิ่งที่อิสุกิบอก ซึ่งชั้นก็คิดว่าถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆแล้วทำไมนายถึงถูกเรียกว่า “นักฆาอัศวิน” กันล่ะ ?…… ] – ฟรานซิส
ฟรานซิสยิ้มออกมาราวกับกำลังเยาะเย้ยตัวเอง
[ นายน่ะแข็งแกร่งมาก ฮาโรลด์ หากพวกเราสู้กัน 100 ครั้ง นายก็คงอัดฉันเละทั้ง 100 ครั้ง แล้วตอนที่ฉันหันไปทางอื่นเมื่อตอนนั้น มันคงเป็นเรื่องง่ายสำหรับนายที่จะจัดการพวกเราทั้งคู่และควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดแท้ๆ .. ] – ฟรานซิส
[ แกจงใจเปิดช่องว่าง ? คิดว่าจะสร้างโอกาสให้ชั้นรึไง ? ] – ฮาโรลด์
[ มันก็เช่นเดียวกันกับที่นายมอบให้ฉันไม่ใช่หรอ ? พวกเราจะได้อยู่ในจุดยืนเดียวกัน จุดที่ชีวิตถูกแขวนอยู่บนเส้นด้ายเหมือนกัน ] – ฟรานซิส
“กูต่างหากที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย” ฮาโรลด์ได้แต่ส่งเสียงร้องออกมาในหัวของเขา อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกเหล่านั้นก็ถูกเป่ากระเจิงไปหลังจากที่ฟรานซิสพูดบางอย่างที่คาดไม่ถึงออกมา
[ แม้ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ นายยังพยายามจัดเตรียมเวทีที่พวกเราทั้งคู่จะได้เผชิญหน้ากันอย่างได้เท่าเทียม หากมองจากมุมของนาย เรื่องบ้าๆพวกนี้เป็นเพียงแค่เรื่องยุ่งยากและไร้สาระแท้ๆ ] – ฟรานซิส
[ และนั้นคือเหตุผลที่ทำให้นายยอมรับในตัวชั้น ? ] – ฮาโรลด์
[ ใช่แล้ว แล้วก็ … การกระทำของฉันสำหรับเรื่องนี้มันรุนแรงเกินไปจริงๆ หากนายต้องการให้ฉันถูกลงโทษ ฉันยินดีที่จะรับผลการกระทำทั้งหมด ] – ฟรานซิส
ซวยแล้ว นี่มันไม่ตลกแล้ว หากฟรานซิสถูกขังคุกเพราะความผิดจริงๆ มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ธงกอบกู้โลกจะถูกหักทิ้ง เหตุการณ์ที่ฟรานซิสจะได้เข้าร่วมกับปาร์ตี้ของไลเนอร์จะหายไป ในเวลานี้ เนื้อเรื่องของเกมส์ใกล้จะเริ่มต้นขึ้น ฟรานซิสจะต้องไม่ถูกจับกุมขังเป็นอันเด็ดขาด
นั้นคือเหตุผลที่ว่าทำไมฮาโรลด์ถึงปฎิเสธคำพูดของฟรานซิสทันที
[ หึ ไร้สาระ ชั้นไม่ใจเรื่องไร้สาะพวกนี้หรอก คิดสิ มันจะเสียเวลาขนาดไหนที่จะต้องชักดาบออกมาทุกครั้งที่กำจัดแมลงวันไร้สาระที่บินมาตอมกวนใจ ] – ฮาโรลด์
[ …. ขอขอบคุณสำหรับความกรุณาจากนาย ไงก็ตาม ฉันต้องขออภัยด้วยจริงๆ แต่ว่า … ด้วยเรื่องแค่นี้ ฉันยังไม่สามารถเชื่อใจนายได้อย่างสนิทใจได้อยู่ดี ] – ฟรานซิส
มันก็ควรจะเป็นเช่นนั้น ฮาโรลด์คงจะสับสนมากกว่าหากฟรานซิสเชื่อในตัวของฮาโรลด์เพียงเพราะเรื่องแค่นี้ และการที่ฟรานซิสพูดในสิ่งที่คิดออกมาตรงๆถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับฮาโรลด์ เพราะมันช่วยให้เขาสามารถเข้าใจอะไรหลายๆอย่างได้โดยง่าย
[ ดังนั้น ฉันอยากจะถามนายอีกครั้ง แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับนายก็เถอะ ฮาโรลด์ ฉันขอดวลกับนายได้รึไม่ ? ] – ฟรานซิส
ฟรานซิสขอร้องออกมาพร้อมกับก้มโค้งลง แม้ว่าฟรานซิสจะคิดว่าฮาโรลด์คงไม่ได้อยากจะดวลกับเขาและไม่สนใจคำขอร้องของเขา แต่ว่า นั้นคือสิ่งที่ฮาโรลด์หวังเอาไว้เต็มๆ
[ อิสุกิ ] – ฮาโรลด์
[ อะไรหรอ ? ] – อิสุกิ
[ นายคือพยาน ] – ฮาโรลด์
[ … ช่วยไม่ได้ละนะ ] – อิสุกิ
[ ขอบคุณ ขอบคุณนายมากๆเลย ฮาโรลด์ สโตร์ก ] – ฟรานซิส
[ ชั้นไม่ต้องการคำขอบคุณจากนาย สิ่งเดียวที่ชั้นต้องการจากนายคือการเพลิดเพลินไปกับความน่าสมเพศของนายที่กำลังคลานอยู่ที่พื้นเมื่อรู้ซึ่งถึงความแตกต่างของพลังระหว่างชั้นกับนาย ] – ฮาโรลด์
ฮาโรลด์เดินออกจากห้องไปโดยทิ้งคำพูดเหล่านั้นไว้กับฟรานซิส
แม้ว่ามันจะไม่เป็นไปตามเป้า แต่อย่างน้อยที่สุด ฮาโรลด์ก็กำลังจะได้ดวลกันฟรานซิส