My Death Flags Show No Sign of Ending - ตอนที่ 71 ไม่ใช่ดอกไม้ที่งดงามแต่เป็นดั่งต้นไม้ใหญ่
- Home
- My Death Flags Show No Sign of Ending
- ตอนที่ 71 ไม่ใช่ดอกไม้ที่งดงามแต่เป็นดั่งต้นไม้ใหญ่
ฟรานซิสรู้สึกถึงอะไรบางอย่างมากระแทกเขา เขาไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมร่างกายของเขาถึงถูกซัดจนปลิว มุมมองสายตาตัดสลับปรับเปลี่ยนไปมาจนไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรเป็นอะไร ร่างของเขาไม่สามารถควบคุมได้อย่างสิ้นเชิง เขาได้แต่ปล่อยให้ร่างกายของเขากลิ้งคลุกๆไปตามพื้นครั้งแล้วครั้งเล่าจนในที่สุดมันก็หยุดลง แต่ทว่าในตอนที่หยุด ฟรานซิสก็รู้สึกถึงแรงกระแทกเข้าที่บริเวณด้านหลังของเขาอีกครั้ง ด้วยสติที่เริ่มจะพร่ามัว ฟรานซิสสังเกตเห็นว่ารั้วกั้นของคอกม้าบางส่วนถูกทำลายไป บางทีอาจเป็นเพราะร่างของเขาที่ถูกซัดจนปลิวและไปหยุดอยู่ที่รั้วพร้อมกับซากของมัน
นั้นหมายความว่าเขาถูกซัดมาไกลถึงหลายสิบเมตรเลยทีเดียว
แน่นอนว่าการถูกโจมตีด้วยพลังระดับนี้ไม่อาจเรียกได้ว่าจะไม่เป็นอะไรได้ และในที่สุดฟรานซิสก็เริ่มรู้สึกเจ็บที่บริเวณสีข้างทีละนิดทีละนิด จนในที่สุด ความเจ็บปวดเหล่านั้นก็รุนแรงซะจนเขาไม่สามารถเปล่งเสียใดๆออกมาได้ ไม่ต้องพูดถึงการขยับร่างกายของเขา มันเป็นไปไม่ได้เลย
เอาจริงๆ ฟรานซิสไม่แปลกใจเลยถ้าหากเขาถูกตัดสินว่าไม่สามารถสู้ต่อไปได้อีก ขณะที่กำลังคิดอยู่ในสภาพแบบนั้น ด้วยใบหน้าที่คว้ำอยู่จนแก้มขวาติดอยู่ที่พื้น ก็มีร่างๆหนึ่งเดินมาหยุดอยู่ที่นั้น เมื่อเขาพยายามขยับศรีษะเพื่อดูว่าเป็นใคร และคนๆนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจาก ฮาโรลด์ นั้นเอง
ดวงตาสีแดงเข้มอันเยือกเย็นกำลังมองลงมาดูฟรานซิส อันที่จริงแล้ว สำหรับฮาโรลด์ถือว่านี่เป็นผลลัพธ์ที่น่าเบื่อและน่าผิดหวังมากสำหรับเขา บางที อาจเพราะความรู้สึกหงุดหงิดเหล่านี้ จึงทำให้ฮาโรลด์พ่นถ้อยคำเสียดสีออกมาทั้งๆที่ฟรานซิสถูกทำลายลงไปแล้ว
[ ชั้นไม่สนหรอกว่าการดวลนี้ถือว่าจบลงแล้วหรือไม่ ชั้นอุส่าหวังว่าแกจะสร้างความบังเทิงให้กับชั้นในการดวลครั้งนี้ได้บ้าง แต่ความจริงที่ว่าพวกแมลงตัวเล็กๆเช่นแกจะทำลายความหวังอันเล็กน้อยของชั้นก็ไม่แปลกอะไร ลุกขึ้นมา รับผิดชอบซะ ] – ฮาโรลด์
“ไอ้หมอนี่มันพูดอะไรของมันฟร่ะ” นั้นคือสิ่งที่ฟรานซิสคิด อย่างไรก็ตามอาการบาดเจ็บที่ฟรานซิสได้รับมันรุนแรงเกินกว่าเขาจะเปล่งเสียงตอบโต้กลับไปได้ สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวดและพยายามหายใจเพียงเท่านั้น ในขณะที่ลมหายใจรวยรินไม่เข้าที่ ฮาโรลด์ก็คว้าไหล่ของฟรานซิสและดึงร่างขึ้นมา
[ แต่ไม่เป็นไร เพราะสุดท้ายชั้นจะทำให้เจ้าพวกแมลงตัวเล็กๆเช่นแกสร้างความบันเทิงให้กับชั้นด้วยการให้พวกมันพยายามดิ้นรนต่อไปเอง ] – ฮาโรลด์
พร้อมกับคำกล่าวนั้น ฮาโรลด์ยัดอะไรบางอย่างเข้าไปในปากของฟรานซิส สิ่งนั้นให้ความรู้สึกเหมือนกับอะไรบางอย่างที่ไร้รูปร่าง และต่อมาก็เริ่มรู้สึกถึงของเหลวอะไรบางอย่างไหลออกมา ฟรานซิสที่ไม่สามารถต้านทานได้ได้แต่จำใจปล่อยมันไหลลงคอไป และทันทีที่เขาดื่มมันจนหมด ความเจ็บปวดที่แสนทรมานก็เริ่มจางหายไป เรี่ยวแรงเริ่มกลับคืนสู่ร่างกายของเขาอีกครั้ง
หลังจากยืนยันสถานะของฟรานซิสแล้ว ฮาโรลด์ก็เอามือออกจากร่างของฟรานซิส
[ ไอ้ของสิ่งนั้นคือ– …อีเทอร์ ? ] – ฟรานซิส
อีเทอร์ มันคือไอเทมฟื้นฟูชนิดหนึ่ง
แน่นอนว่าฟรานซิสเคยลิ้มรสเจ้าอีเทอร์มาแล้วหลายต่อหลายครั้งในอดีต อาการบาดเจ็บทั้งหมดของเขาในตอนนี้ได้รับการฟื้นฟูจนหมดแล้ว แม้ฟรานซิสยังคงสับสนที่ว่าทำไมฮาโรลด์ถึงทำเช่นนั้น แต่ว่าสำหรับฮาโรลด์ เขาทำเพียงแค่หันหลังกลับและเดินไปหยิบอะไรบางอย่างขึ้นมาและโยนมันมาทางฟรานซิส
มันคือดาบเรเปียที่ตอนนี้ตกอยู่ที่เท้าของฟรานซิส
[ หยิบมันขึ้นมาซะ การดวลนี้ยังไม่จบ ] – ฮาโรลด์
[ … อย่างนั้นหรอ ? ] – ฟรานซิส
เห็นได้ชัดว่าฮาโรลด์ต้องการจะดวลต่อแม้ว่าผลการดวลนี้จะออกมาชัดเจนแล้วก็ตาม ขณะนึกถึงการโจมตีนั้นที่ฟรานซิสเพิ่งได้รับมา เขาได้แต่คิดว่าควรที่จะหยิบดาบเริ่มนั้นขึ้นมาจริงๆหรอ ? แค่คิดถึงความเจ็บปวดนั้น เขาก็รู้สึกหวาดกลัวจนตัวสั่น อย่างไรก็ตาม ความภาคภูมิใจในตัวของฟรานซิสไม่อนุญาตให้เขาทำเช่นนั้น ในที่สุดเขาก็หยิบมันและชี้ปลายดาบไปทางฮาโรลด์ที่กำลังยืนอยู่
ฮาโรลด์ สโตร์ก
ตามข่าวลือที่ได้ยินมา หมอนี่มีนิสัยที่แย่และหยาบคาย ทั้งการพูดและพฤติกรรมรุนแรงและโหดร้าย ในตอนที่เขาสังหารผู้คน เขาจะปล้นทรัพย์สินและเหยียบย้ำศักดิ์ศรีของคนๆนั้นจนจมดิน ชายคนนี้ไม่ได้มองผู้คนเป็นคนเทียบเท่าตัวเขาด้วยซ้ำ เป็นปีศาจที่ไร้มนุษยธรรม
เมื่อได้ฟังข่าวลือพวกนี้ ฟรานซิสจึงรีบไปเตือนเรื่องนี้กับอิสุกิผู้เป็นเพื่อนของเขา “นายต้องรีบถอยห่างออกมาจากหมอนั้น ถ้านายโดนหมอนั้นข่มขู่ ฉันสามารถช่วยนายในเรื่องนี้ได้”
อย่างไรก็ตาม ปฎิกิริยาของอิสุกิกับแตกต่างจากที่ฟรานซิสคาดเอาไว้ อิสุกิพูดว่า “จริงๆแล้ว ตรงกันข้ามกับข่าวลือพวกนั้นเลยต่างหาก หมอนั้นไม่ใช่คนไม่ดีหรอกนะ” ดูเหมือนว่าอิสุกิจะเชื่อว่ามีตั้งใจคนปล่อยข่าวลือเสียๆหายๆให้กับฮาโรลด์ การเตือนของฟรานซิสไม่สามารถโน้มน้าวอิสุกิได้ ดังนั้น อิสุกิจึงบอกกับฟรานซิสว่าเขาควรประเมินฮาโรลด์ดูด้วยสายตาของตัวเอง
นั้นทำให้การลอบโจมตีฮาโรลด์ภายในห้องของฟรานซิสจึงเกิดขึ้น และผลลัพธ์ที่ออกมาก็ชิบหายมาก เพราะฮาโรลด์ทั้งไม่แปลกใจ ไม่กลัว ไม่โกรธแต่อย่างใด เขาเข้าใจสถานการณ์ทุกๆอย่างอย่างใจเย็นและทำให้ฟรานซิสยอมจำนนโดยใช้เพียงคำพูดเท่านั้น แค่ฉากๆนี้ก็มากพอที่จะทำให้ฟรานซิสรับรู้ได้ว่าฮาโรลด์นั้นไม่ได้เป็นเพียงชายผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้น และในขณะเดียวกัน ฟรานซิสก็รู้สึกตัวว่าเขาควรที่จะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำที่หยาบคายของเขา
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ฮาโรลด์เสนอคือการดวล เรื่องในครั้งนี้ฮาโรลด์ไม่ได้ผิดอะไร เขาต่างหากที่เป็์นคนที่ถูกกระทำ จึงไม่จำเป็นต้องมาเสนอความรับผิดชอบใดๆผ่านการดวลครั้งนี้เลยสักนิด และนั้นคือสาเหตุที่ฟรานซิสเริ่มเข้าใจเหตุผลที่อิสุกิมีความทราบซึ่งอะไรบางอย่างกับตัวของฮาโรลด์ เพราะสำหรับฟรานซิสแล้ว เรื่องเหล่านี้ หากเป็นคนที่เห็นแก่ตัวจริง มันคงจะไม่เกิดขึ้น
และเมื่อเขาได้สู้กับฮาโรลด์จริงๆ ฟรานซิสก็รู้ซึ้งถึงความแตกต่างด้านพลังระหว่างตัวเขาและฮาโรลด์อย่างชัดเจน และเขาแถบไม่เชื่อสายตาว่าจะถูกเอาชนะลงได้ด้วยเพียงมือเปล่า โดยไม่ใช่อาวุธหรือเวทมนตร์ใดๆ ตลอดชีวิตของฟรานซิส ฮาโรลด์คือคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด แข็งแกร่งจนฟรานซิสสงสัยในความแข็งแกร่งของตนเองเลยด้วยซ้ำ
ถึงจะพยายามปฎิเสธ แต่ร่างกายที่ถูกกระทำมาของฟรานซิสได้แต่ยอมรับความจริง การโจมตีของเขาทั้งหมดล้วนพลาดเป้า และถูกจัดการทันทีด้วยการเตะเพียงครั้งเดียวจนปลิวออกไป ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนที่เขากำลังกองอยู่ที่พื้น ก็ถูกฮาโรลด์จับเอาอีเทอร์กรอกปาก และบังคับให้สู้ต่อ
[ ลุกขึ้นซะ ] – ฮาโรลด์
แม้ยาจะรักษาอาการบาดเจ็บและความเหนื่อยล้าได้ แต่มันก็ไม่สามารถรักษาสภาพจิตใจของเขาได้ ตอนนี้ ฟรานซิสถูกซัดจนลงไปกองที่พื้นมาแล้วนับสิบครั้ง และทุกครั้ง ฟรานซิสจะถูกบังคับให้ดื่มอีเทอร์ และในท้ายที่สุด ด้วยเข่าที่กำลังชันพื้นอยู่ข้างนึง เขาก็ไม่สามารถลุกขึ้นได้ไหวอีก แต่ฮาโรลด์กับสั่งให้เขาลุกขึ้นอีกครั้งอย่างไร้ความปราณี
ฮาโรลด์เขาโกรธ อย่างไรก็ตาม นั้นไม่ได้หมายความว่าที่เขากำลังซ้อมฟรานซิสอยู่แบบนี้เพราะความโกรธ ทั้งๆที่เมื่อเหตุการณ์ในห้องของฟรานซิสฮาโรลด์ก็ไม่ได้แสดงอาการโกรธใดๆออกมาเลยแท้ๆ แต่เขากับโกรธหลังจากที่เริ่มสู้กัน และน้ำเสียงของเขายังแสดงถึงความผิดหวังอีกด้วย
และทั้งหมดนี้มีเพียงคำตอบเดียวที่ฟรานซิสนึกออก
ฮาโรลด์โกรธเพราะว่าฟรานซิสพยายามเข้าหาเอริกะทั้งๆที่มีพลังแค่นี้
เพราะจากพฤติกรรมของฮาโรลด์ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าเขาจะอนุญาตให้ใครก็ตามเข้ามาจีบเอริกะได้ แม้ว่าเธอจะเป็นคู่หมั้นของเขาก็ตาม อย่างไรก็ตาม เหมือนนั้นไม่ใช่เพราะเขาไม่สนใจในตัวของเอริกะ บางที ฮาโรลด์อาจกำลังมองหาใครสักคนที่ไม่ใช่ตัวเขาเอง ผู้ซึ่งเขาสามารถไว้วางใจให้ดูแลเอริกะได้ ดังนั้นเขาจึงพยายามผลักดันให้ฟรานซิสมีปฎิสัมพันธ์กับเอริกะเพื่อที่เขาจะได้ตรวจสอบว่าฟรานซิสมีคุณสมบัติเหมาะสมกับการเป็นคนๆนั้นหรือไม่ แล้วเหตุใดฮาโรลด์ถึงพยายามที่จะทำเช่นนั้น ฟรานซิสก็ไม่รู้ อย่างไรก็ตาม ขณะที่กำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฟรานซิสก็เข้าใจอะไรบางอย่างสิ่ง
อิสุกิบอกว่าฮาโรลด์นั้นไม่ใช่คนเลว เขาจงใจรับข่าวลือเสียๆหายๆไว้กับตัวเองด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง หากนั้นเป็นความจริง ฮาโรลด์คงคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะสามารถเคียงคู่กับเอริกะ เพราะมันจะทำให้เธอต้องเสี่ยงหากอยู่ข้างเขา หรืออะไรทำนองนั้น
นั้นคือเหตุผล ที่ว่าทำไมเขาจึงมองหาใครสักคนที่สามารถปกป้องเอริกะได้ แต่ทว่า ผู้ชายคนนั้นที่ฝีมือไม่เอาไหนอย่างเขากับเสนอหน้าเข้าหาเอริกะ
บางที นี่อาจเป็นสาเหตุที่ฮาโรลด์โกรธ
ถึงฟรานซิสอยากจะพูดออกมาแบบนั้น แต่ว่า “นายล้อฉันเล่นอยู่รึไง?”
ความโกรธของฟรานซิสเริ่มเดือดพล่านอยู่ในท้องของเขา
ฮาโรลด์นั้นแข็งแกร่งมาก ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับในอาณาจักรแห่งนี้ ฮาโรลด์ถูกนับว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งเป็นเบอร์ต้นๆ ทั้งมันสมองของเขา ฟรานซิสไม่มีอะไรไปสู้ได้เลยกับชายที่สามารถทำทุกอย่างได้ตามต้องการเช่นฮาโรลด์ ความรอบรู้ ที่สามารถ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ได้ในชั่วพริบตา และตัดสินใจออกมาโดยอิงปัจจัยเหล่านั้นอย่างถูกต้อง ฮาโรลด์ผู้ที่มีอายุเพียง 18 ปี แต่กลับมีพลังล้นหลาม สติปัญญาอันยอดเยี่ยม และความกล้าไม่หวั่นไหวแม้จะถูกดาบจ่ออยู่ที่คอ
โลกใบนี้จะจาลึกชื่อของชายผู้นี้ว่าเป็นอัจฉริยะอย่างแน่นอน
แล้ว ทำไมหมอนี่ถึงยอมทำเรื่องโง่ๆอย่างการรับข่าวลือเสียๆหายไว้กับตัวเองแบบนี้ ? แล้วทำไมหมอนี่ถึงปฎิเสธเอริกะและคิดที่จะทิ้งเธอไป ? หรือเพราะกลัวเธอได้รับความเสียงจากข่าวลือพวกนั้น ? นี่มันเรื่องโง่อะไรกัน ? ทำไมต้องทำอะไรอ้อมค้อมขนาดนี้ ? ฟรานซิสได้แต่สงสัยว่า หากเขาแข็งแกร่งเช่นเดียวกับฮาโรลด์ เขาน่าจะปกป้องเอริกะจากทุกๆสิ่งได้ด้วยตัวของตนเอง แล้วทำไมหมอนี่ถึงกังวลเรื่องชะตากรรมของเธอและห่วงใยเธอจนต้องแสดงความโกรธต่อฟรานซิสขนาดนี้ ? ทำไมหมอนี่ถึงเลือกได้วิธีเดียวอย่างการต้องออกจากชีวิตเอริกะกัน?
[ นายกำลังล้อฉันเล่นอยู่สินะ … ] – ฟรานซิส
ขณะที่ฟรานซิสกำลังลุกขึ้นอย่างช้าๆ เขาก็พึมพัมออกมาเบาๆ พร้อมกับรวบรวมพลังไว้ที่มือซ้ายข้างที่กำลังถือดาบเรเปียอยู่ เพื่อใช้มันดันร่างของตัวเองลุกขึ้น
[ แกพูดอะไรนะ ? ] – ฮาโรลด์
[ ฉันพูดว่า นายกำลังล้อฉันเล่นอยู่ใช่มั้ย !! นายน่ะแข็งแกร่งขนาดที่ฉันไม่สามารถอื้มถึงได้แม้แต่ปลายเท้า แล้วทำไม ! ทำไมนายไม่พยายามปกป้องเอริกะด้วยตัวเอง ! ทำไมกัน! ด้วยความแข็งแกร่งของขาย นายทำมันได้แน่นอน ใช่มั้ย? และนั้นมันก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเธอไม่ใช่รึไง !? ] – ฟรานซิส
ฟรานซิสตะโกนคำพูดออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจของเขา เขาโกรธฮาโรลด์จริงๆ แต่ก็ละอายกับตัวเองเช่นกันที่ไม่สามารถเอาชนะเขาได้
[ …… ] – ฮาโรลด์
[ ฮาโรลด์! นายคือชายผู้ที่จะทำในสิ่งที่ฉันไม่สามารถทำได้! แต่ทำไมนายถึงไม่พยายามรับบทบาทนั้นแต่กลับยัดเหยียดมันให้กับชายอื่น! หากเพราะเรื่องนี้ทำให้เอริกะไม่มีความสุข ฉันจะถือว่ามันเป็นความผิดของนาย! ] ] – ฟรานซิส
ถ้าฮาโรลด์แคร์เอริกะจริง เขาต้องพยายามปกป้องเธอด้วยมือของเขาเอง แน่นอนว่าการไม่ทำเช่นนั้นมันเหมือนกับการวิ่งหนี วิ่งหนีจากความกลัวที่ว่าตนไม่อาจจะปกป้องเอริกะได้ด้วยตนเอง
ตอนนี้ฟรานซิสเริ่มโกรธถึงขีดสุด เขาจะปล่อยให้ชายที่ขี้ขลาดเช่นนี้เอาชนะเขาไปได้อย่างไร เขาจะต้อง—–
[ แกมันก็เป็นแค่คนที่พูดไปเรื่อยทั้งๆที่ไม่รู้อะไรบ้างเลย ] – ฮาโรลด์
น้ำเสียงที่เย็นเฉียบของฮาโรลด์ ทำเอาความคิดของฟรานซิสขาดสะบั้น บรรยากาศอันน่าสะพรึงกลัวที่ฮาโรลด์ปล่อยออกมาทำให้ความเร้าร้อนที่ฟรานซิสปล่อยมาออกมาเมื่อครู่ถึงกับดับลงในทันที ฟรานซิสที่เหงื่อท่วมตัวอยู่ก่อนแล้ว เขาไม่สามารถบังคับร่างของตัวเองให้หยุดสั่นได้ มันเป็นความรู้สึกกดดันที่เขาไม่เคยพบมาก่อน ราวกับมีสัตว์ประหลาดที่ไม่สามารถเอาชนะได้มายืนอยู่ตรงหน้า
และทันทีที่ฟรานซิสรู้สึกตัว ฮาโรลด์ก็หายวับไปต่อหน้าเขา พอเขารู้สึกตัวอีกที ฮาโรลด์ก็ได้ทำลายโอกาสที่จะหนีของฟรานซิสไปแล้ว ฮาโรลด์โจมตีมาจากทางด้านหน้า แต่ฟรานซิสก็ไม่สามารถตอบสนองได้ทัน มันเกิดจากความเร็วล้วนๆไม่ได้มีลูกเล่นอะไร
ฮาโรลด์เหวี่ยงดาบสีดำที่อยู่ในมือซ้ายของตนเข้ามา ทันทีที่รู้สึกถึงความตาย ร่างของฟรานซิสแข็งทื่อจนไม่สามารถขยับได้
มันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก จนฟรานซิสไม่สามารถเตรียมใจสำหรับความตายของตนได้ทัน
อย่างไรก็ตาม ความตายนั้นก็ไม่ได้มาถึงแต่อย่างใด พร้อมกับความรู้สึกของแรงปะทะที่เกิดขึ้นที่มือซ้ายที่จับดาบอยู่ของฟรานซิส
เขาป้องกันไม่ได้อย่างสิ้นเชิง ฟรานซิสเซและหงายหลังล้มลง
[ แกมันไม่ควรค่าแก่การฆ่าทิ้งซะด้วยซ้ำ ดังนั้นชั้นคนนี้จะแนะนำอะไรบางอย่างให้ไอ้โง่อย่างแกเรื่องหนึ่ง ] – ฮาโรลด์
ฮาโรลด์กล่าวออกมาพร้อมกับจ้องมองไปยังฟรานซิสด้วยแววตาที่โหดร้าย
[ เอริกะไม่ใช่ผู้หญิงที่อ่อนแอและไม่มีปัญญาทำอะไรไม่ได้เลยนอกเสียจากต้องรอการปกป้องจากคนอื่น เธอมีพลังที่จะต่อสู้ และมีจิตใจที่แน่วแน่ที่พร้อมจะต่อสู้ต่อชะตากรรมของตัวเอง อย่าคิดว่าเธอเป็นเพียงแค่ดอกไม้ที่บอบบางจนต้องทะนุถนอมเท่านั้น เพราะจริงๆแล้ว เอริกะนั้นเป็นดังต้นไม้ใหญ่ ] – ฮาโรลด์
ไม่ใช่ดอกไม้งดงาม แต่เป็นดั่งต้นไม้ใหญ่ นั้นคือสิ่งที่เอริกะเป็นในสายตาของฮาโรลด์ “ฉันเข้าใจแล้ว” ฟรานซิสกล่าวออกมาและยอมรับในคำพูดของฮาโรลด์ ฮาโรลด์นั้นเชื่อในตัวเอริกะ ฮาโรลด์ถือว่าเอริกะเป็นคนที่อยู่ในระดับเดียวกับเขาและไม่ต้องการที่จะให้ใครต้องมาปกป้อง มันคงตลกไม่น้อยที่คนที่อ่อนแอกว่าเธออย่างฟรานซิสมาพูดว่าจะปกป้องเธอด้วยตัวเอง
ในที่สุดฟรานซิสก็เข้าใจ เขามองเห็นเพียงภายนอกของเอริกะเท่านั้น หลงใหลไปกับความงดงามของเธอ เขาคิดเองเออเองว่าบุคคลิกของเธอคงเฉกเช่นกับความงดงามเหล่านั้น การที่ฮาโรลด์จะโกรธเรื่องนั้นคงไม่ใช่เรื่องที่ไร้เหตุผลเลยแม้แต่น้อย
ความเข้าใจของฟรานซิสที่มีต่อเอริกะและความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอ นั้นไม่ถูกต้องตามความต้องการของฮาโรลด์นั้นเอง นั้นคือเหตุผลที่ว่าทำไมฮาโรลด์ถึงโกรธ
[ … ฉันแพ้แล้ว ] – ฟรานซิส
[ อะไร ? แกไม่เห็นนี่รึไง ? ไอ้งั้ง ] – ฮาโรลด์
ฮาโรลด์แสดงดาบที่ถืออยู่ในมือให้ฟรานซิสเห็น นี่ถือว่าเป็นความพ่ายแพ้ของฮาโรลด์อย่างแน่นอนเพราะเขาใช้อาวุธ แต่ฟรานซิสก็ไม่หน้าด้านพอที่จะเรียกร้องชัยชนะในครั้งนี้ เพราะตลอดจนถึงตอนนี้ เขานั้นได้พ่ายแพ้ในทุกๆด้าน
[ อย่าบังคับให้ฉันต้องพูดมันอีกครั้งเลยฮาโรลด์ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่กฎที่พวกเราตั้งขึ้นก่อนจะดวลกัน แต่ว่าตัวของฉันนั้นไม่คู่ควรที่จะดวลกับนายตั้งแต่แรกเลยต่างหา่ก ] – ฟรานซิส
[ หืมม ? งั้นถือว่า เสมอกัน ตกลงนะ ? ] – อิสุกิ
จากคำประกาศของอิสุกิ ผู้ที่เฝ้าดูอยู่เงียบๆมาโดยตลอด ฟรานซิสได้ประกาศขอยอมแพ้ และ ฮาโรลด์ที่ทำผิดกฎ ดังนั้นทั้งคู่ต่างชนะและแพ้ในเวลาเดียวกัน บางทีฟรานซิสคงจะรู้สึกดีกว่านี้หากให้เขาแพ้ในการดวลครั้งนี้ แต่บางทีการหาจุดที่สามารถประนีประนอมได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ควรเช่นกัน
[ ชิ ] – ฮาโรลด์
ฮาโรลด์เดาะลิ้นออกมาอย่างไม่พอใจ และหันหลังกลับให้กับทั้งคู่ แต่ว่าฟรานซิสก็เรียกเขาทันที
[ ฮาโรลด์ รอเดี่ยว แม้ว่าตามกฎแล้วพวกเราจะเสมอกัน แต่หากนับแค่การต่อสู้ ฉันแพ้นายอย่างหมดรูป เพราะงั้น ฉันอยากให้นายทำตามในสิ่งที่พวกเราเคยสัญญากันไว้ ] – ฟรานซิส
เพราะจุดประสงค์ดั่งเดิมของการดวลนี้ถูกแทนทีด้วยการแต่งงานกับเอริกะโดยไม่ทราบสาเหตุ และเขาก็ต้องการที่จะทราบถึงความต้องการของฮาโรลด์
[ มันน่าเบื่อไปแล้วสำหรับชั้นตอนนี้ หากนายจะตามจีบเอริกะต่อ ก็ตามสบาย ฉันก็หวังว่านายจะกลายเป็นผู้ชายที่สามารถเคียงคู่กับเธอได้ละกัน ] – ฮาโรลด์
“ชั้นกลับล่ะ แกก็นอนกองอยู่ตรงนั้นสักพักละกัน” ขณะทิ้งคำพูดเหล่านั้นไว้กับฟรานซิส ฮาโรลด์ก็จากไป แต่ว่าในครั้งนี้ ฟรานซิสก็ไม่เลือกที่จะหยุดเขา
เขาทำเพียงแค่ทิ้งตัวลงนอน และเหงยหน้ามองท้องฟ้า
[ นี่ อิสุกิ ] – ฟรานซิส
[ อะไรรึ ? ] – อิสุกิ
[ ฉันนี่มันเป็นไอ่โง่จริงๆ สินะ !? ] – ฟรานซิส
[ ชั้นไม่เข้าใจสิ่งที่นายกำลังจะสื่อหรอกนะ แต่ว่ามันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะเห็นนายพูดด้อยค่าตัวเองแบบนี้ ] – อิสุกิ
[ ในหลายๆด้าน หมอนั้นแสดงให้ฉันเห็นถึงความแตกต่างของพวกเราทั้งคู่ ทั้งในฐานะนักรบ และ ผู้ชายคนหนึ่ง ] – ฟรานซิส
ในตอนสุดท้าย ฮาโรลด์บอกกับฟรานซิสว่าให้เขากลายเป็นผู้ชายที่สามารถยืนเคียงข้างกับเอริกะได้ หรืออีกความหมายก็คือ ฟรานซิสต้องมีพลังที่สามารถเทียบเคียงกับฮาโรลด์ได้นั้นเอง
แม้ว่าฟรานซิสจะแสดงท่าทางกริยาไม่สุภาพแก่เขา ปฎิบัติไม่ดีต่อเขา แต่ฮาโรลด์ก็ไม่ยอมแพ้ต่อเขา แม้ว่าฮาโรลด์จะบอกว่าเขาผิดหวัง แต่ก็ยอมรับในตัวของฟรานซิสแม้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเมื่อฟรานซิสคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็รู้สึกมีความสุขแปลกๆ
หรือนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมอิสุกิถึงชื่นชอบในตัวของฮาโรลด์ หลังจากได้รับประสบการณ์ที่มีร่วมกับฮาโรลด์ด้วยตนเอง ฟรานซิสเริ่มรู้สึกเห็นด้วยกับความคิดของอิสุกิมี่ทีต่อฮาโรลด์
[ ถึงฉันจะเป็นคนที่เอ้อระเหยลอยชายไปวันๆ แต่ว่าวันนี้ ฉันรู้สึกว่าฉันพบเส้นทางที่ฉันควรจะมุ่งไปแล้วล่ะ ] – ฟรานซิส
ขณะที่เขากำลังนอนและเงยหน้ามองแผ่นฟ้าที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา สำหรับฟรานซิส มันดูราวกับเป็นภาพสะท้อนของเส้นทางที่เขาจะต้องเดินทางต่อไปในอนาคตของเขา