My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 117
ลู่โจวรู้สึกประหลาดใจ
ฮั๊ววู่เด๋าได้รวบรวมผนึกแปดเหลี่ยมให้หลอมรวมเข้ากับผนึกพลังทั้งหก ไม่ว่าการโจมตีจะทรงพลังแค่ไหนแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าการป้องกันอันไร้เทียมทานนี้มันก็ไม่มีความหมาย ความจริงแล้วพลังในการป้องกันของเขาน่ายกย่องมาก มันเป็นเรื่องธรรมดามากที่ฮั๊ววู่เด๋าจะมั่นใจมากถึงขนาดนี้ เขามั่นใจในพลังป้องกันมากจนกล้าที่จะเดินทางมาถึงศาลาปีศาจลอยฟ้า
กระบวนท่ายุทธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งในกระบวนท่าสูงสุดของยุทธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์แล้วนั่นเอง ด้วนมู่เฉิงวางแผนที่จะใช้ทักษะขั้นสูงนี้ควบคู่ไปกับอาวุธระดับสรวงสวรรค์พร้อมกับการใช้พลังร่างอวตารแห่งร้อยวิถี
ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงมั่นใจมากกับการโจมตีของด้วนมู่เฉิง
ภาพติดตาหอกนับไม่ถ้วนได้หลอมรวมกันและโจมตีเข้าจุดจุดเดียวของผนึกตราประทับทั้งหก
ตราประทับทั้งหกที่หลอมรวมเข้ากับผนึกแปดเหลี่ยมได้กลายเป็นม่านพลังป้องกันที่ดูประหลาดไป
การปะทะกันระหว่างสองสุดยอดเคล็ดวิชาทำให้คลื่นพลังลมปราณกระจายไปทั่วทั้งอากาศ ทั่วทุกคนจากศาลาปีศาจลอยฟ้าต่างก็สัมผัสได้ถึงพลังลมปราณนี้
“ตราประทับผนึกทั้งหกทรงพลังมาก! ศิษย์พี่สามได้ใช้เคล็ดวิชาขั้นสุดยอดออกมาแล้ว แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลเลยสินะ! “
“ฮั๊ววู่เด๋าน่าทึ่งมาก! “
ฝางซงมาจากสำนักบริสุทธิ์ สำนักบริสุทธิ์เดิมทีก็มีรากฐานการฝึกฝนเดียวกันกับสำนักหยุน ดังนั้นเขาจึงรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับเคล็ดวิชาแห่งเต๋า แต่ถึงแบบนั้นตราประทับทั้งหกของฮั๊ววู่เด๋าก็ได้อยู่เหนือความเข้าใจของตัวเขาไปซะแล้ว มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ฮั๊ววู่เด๋าจะใช้เวลาฝึกฝนมันถึง 20 ปี เพื่อให้มันกลายเป็นเคล็ดวิชาที่สุดยอดได้ถึงขนาดนี้
ฮั๊ววู่เด๋าได้เตรียมพร้อมมาอย่างดี เป้าหมายของเขาคือการให้ชาวศาลาปีศาจลอยฟ้าโจมตีมา เพราะแบบนั้นแล้วเขาจึงจะต้องสู้อย่างเต็มที่
“มันยังไม่จบหรอก! ” ด้วนมู่เฉิงตะโกนออกมาอย่างกะทันหัน เมื่อหอกราชันย์ถูกผนึกตราประทับทั้งหกผลักกลับมา เขาก็เริ่มหมุนตัวเองไปรอบๆ และเริ่มโจมตีอีกครั้ง ปลายหอกราชันย์ได้ส่องแสงประกายสีแดงออกมา
ฮั๊ววู่เด๋าได้พูดออกมาด้วนน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ “มันยังไม่พอ! ” ผนึกตราประทับทั้งหกได้รวมตัวจนหนาขึ้น ในเวลาเดียวกันนั้นพลังผนึกแปดเหลี่ยมที่รวมตัวเองก็มารวมตัวมากขึ้นเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าคู่ต่อสู้ของเขาตั้งใจที่จะโจมตีมายังจุดจุดเดียวเพื่อที่จะทำลายการป้องกันนี้ลง
ซู่ว!
เสียงของคลื่นพลังที่เข้าปะทะกันได้ดังไปทั่วทั้งห้องโถงเมื่อหอกราชันย์ได้เข้าปะทะกับผนึกตราประทับทั้งหก
ทุกๆ คนที่ดูอยู่ต่างก็ขมวดคิ้ว นี่เป็นเหมือนกับการปะทะกันระหว่างพลังลมปราณ
เมื่อด้วนมู่เฉิงและฮั๊ววู่เด๋าได้ปะทะพลังกัน ในตอนนั้นการไหลเวียนของพลังลมปราณในอากาศก็ได้กระจายตัวออกไปข้างนอก เสียงที่ดังขึ้นยิ่งฟังดูแปลกประหลาดมากขึ้น
ทุกๆ คนต่างก็ใช้พลังลมปราณของตัวเองเพื่อปัดพลังลมปราณที่มาจากการปะทะกันให้ไหลไปให้พ้นตัว
ลู่โจวเป็นคนเดียวที่ยังนั่งอย่างสงบและไม่แยแสกับสิ่งที่เกิดขึ้น หัวใจของเขาเต้นอย่างเป็นธรรมชาติ ลู่โจวไม่ได้รับผลกระทบจากพลังลมปราณเลย ตัวเขายังคงนั่งมองดูการต่อสู้ต่อไปอย่างสบายใจ
ปั๊ง!
คลื่นพลังที่เข้าปะทะกันได้สลายหายไปหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที
ด้วยการใช้หอกราชันย์แทง ผนึกตราประทับทั้งหกก็ได้แตกสลายไม่เหลือชิ้นดี!
ฮั๊ววู่เด๋าเดินโซเซไปข้างหลังหลังจากที่วงแหวนใต้เท้าหายไป
ด้วนมู่เฉิงเองก็เช่นเดียวกัน ตัวเขาก็ได้รับผลจากแรงกระแทก ด้วนมู่เฉิงได้ตีลังกาถอยหลังกลับไปก่อนที่จะเสียหลักไปในที่สุด เขามองไปที่ฮั๊ววู่เด๋าด้วยสีหน้าที่ตื่นตกใจ เขาไม่คิดว่าฮั๊ววู่เด๋าจะสามารถต้านทานการโจมตีในครั้งนี้เอาไว้ได้ ฮั๊ววู่เด๋าได้เดินโซเซกลับหลังไปเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดูเหมือนว่าด้วนมู่เฉิงจะพ่ายแพ้ให้กับการต่อสู้ในครั้งนี้ไปซะแล้ว
แต่ถึงแบบนั้นฮั๊ววู่เด๋าก็รู้สึกประหลาดใจมากเมื่อเทียบกับด้วนมู่เฉิง เขาไม่คิดว่าจะมีใครทำลายการป้องกันที่ตัวเขาได้ใช้ขึ้นมาได้ ก่อนหน้าที่ตัวเขาจะได้มาที่ศาลาปีศาจลอยฟ้า ฮั๊ววู่เด๋าก็ได้ทดสอบการป้องกันของเขากับผู้ฝึกยุทธขั้นมหาภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์หลายคนแล้ว แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่มีใครเลยที่จะทำลายการป้องกันของเขาลงได้ เขาไม่คาดคิดว่าด้วนมู่เฉิงจะสามารถทำลายการป้องกันนี้ ถ้าหากด้วนมู่เฉิงแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้ เขาก็คงจะทำลายผนึกตราประทับทั้งหกรวมไปถึงโจมตีตัวเขาได้ หลังจากที่จบการโจมตีไปฮั๊ววู่เด๋าก็ได้พูดชมเชยออกมาอย่างจริงใจ “เป็นกระบวนท่าที่ดี”
แต่ถึงแบบนั้นด้วนมู่เฉิงก็ไม่มีอารมณ์มายินดีกับคำสรรเสริญของคู่ต่อสู้ ในตอนนั้นเขาได้จับหอกราชันย์เอาไว้ก่อนที่จะพูดออกมา “อีกสามกระบวนท่า! “
“…”
ด้วนมู่เฉิงเป็นคนที่ไม่รู้จักยอมแพ้ เมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้นเขาก็จะสู้ให้ถึงที่สุด
ฮั๊ววู่เด๋าเอามือไขว้หลังเอาไว้ก่อนที่จะพูดออกมา “ข้ายอมรับว่าเจ้าเก่งมาก แต่ในตอนนี้ข้าได้รับการโจมตีไปถึง 3 กระบวนท่าแล้ว มันได้ตรงกับเงื่อนไขที่ได้สัญญาเอาไว้ก่อนหน้านี้ ท่านปรมาจารย์คงจะต้องเป็นคนต่อไป”
ทุกคนหันไปมองลู่โจว ท้ายที่สุดแล้วเขาเป็นคนที่วางเงื่อนไขนี้ขึ้นมา
ด้วนมู่เฉิงส่ายหัวก่อนที่จะพูดขึ้น “ข้ายังไม่ได้ใช้พลังอย่างเต็มที่ ให้ข้าได้ใช้อีกระบวนท่าซะ ข้าจะต้องทำลายผนึกตราประทับทั้งหกนั่นได้แน่! “
ฮั๊ววู่เด๋ามองไปที่ด้วนมู่เฉิงก่อนที่จะพูดออกมาอย่างไม่แยแส “ถ้าหากข้าไม่ประมาทก่อนหน้านี้ เจ้าก็คงจะผลักให้ข้าถอยหลังกลับไปไม่ได้ ข้าได้ใช้พลังของผนึกตราประทับทั้งหกเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น”
ทุกคนต่างก็ตกใจเมื่อได้ฟังแบบนั้น ในตอนแรกทุกคนตั้งใจที่จะชื่นชมด้วนมู่เฉิง แต่เมื่อได้ฟังแบบนั้นทุกคนก็ต่างจ้องมองฮั๊ววู่เด๋า ชายชราคนนี้ช่างเป็นคนที่หยิ่งผยองยิ่งนัก
“ครึ่งเดียว? เพียงแค่พลังของผนึกตราประทับทั้งหกเพียงครึ่งเดียวก็สามารถป้องกันพลังของศิษย์พี่สามได้! ” ฝางซงตกใจมาก
“ข้าไม่เคยเห็นเคล็ดวิชาแห่งการป้องกันแบบนั้นมาก่อนเลย”
ฺฮั๊ววู่เด๋าจ้องมองไปที่ลู่โจว เขากำลังรอคำตอบจากลู่โจวนั่นเอง
ในที่สุดลู่โจวก็เดินลงมาอย่างช้าๆ “นี่คือผนึกตราประทับทั้งหกที่เจ้าได้ฝึกฝนมาเป็นอย่างดีกว่า 20 ปีอย่างงั้นสินะ? “
“ถูกต้องแล้ว”
“ถ้าหากข้าโจมตีเจ้า ป่านนี้เจ้าก็คงจะต้องตายไปแล้ว” ลู่โจวพูดออกมาด้วยเสียงที่เรียบเฉย
ฮั๊ววู่เด๋าตกตะลึงกับคำกล่าวอ้างของลู่โจวมาก เนื่องจากลู่โจวได้เห็นพลังของตัวเขาแล้ว ทำไมเขาถึงมั่นใจขนาดนี้กัน?
ชีวิตมีค่า มีไม่มากนักที่จะเห็นคนเอาชีวิตไปทิ้งอย่างไร้ค่า หลังจากที่พึมพำกับตัวเองได้อยู่พักหนึ่งฮั๊ววู่เด๋าก็ได้พูดออกมาอีกครั้ง “โปรดชี้แนะข้าด้วย ท่านปรมาจารย์ ถ้าหากนั่นทำให้ข้าต้องตายไป…ก็ถือซะว่าข้าโชคร้ายเอง”
“งั้นก็ดี” ลู่โจวพูดออกไปก่อนที่จะมองไปยังห้องโถงที่กว้างใหญ่ ในเวลาเดียวกันลู่โจวก็ได้เตรียมการ์ดพิเศษเอาไว้ในมือ
ฮั๊ววู่เด๋าไม่รู้สึกถึงความผันผวนของพลังลมปราณเลย แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ไม่อาจที่จะลดการป้องกันได้ เขาก้าวไปข้างหน้าก่อนที่จะยกมือขึ้นมาอย่างช้าๆ
ตราผนึกแปดเหลี่ยมและตราผนึกทั้งหกได้ส่องแสงสีทองออกมาอีกครั้ง พลังทั้งหมดได้วนรอบตัวของฮั๊ววู่เด๋าเอาไว้ พลังที่หลอมรวมกันมันดูแข็งแกร่งมากกว่าเดิม พลังทั้งสองอย่างได้หลอมรวมกันแบบเดิม แต่พลังลมปราณของฮั๊ววู่เด๋ากลับเพิ่มสูงขึ้นมาก
ไม่มีใครคาดคิดว่าฮั๊ววู่เด๋าจะสามารถเก็บซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้ได้ถึงขนาดนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับด้วนมู่เฉิงก่อนหน้านี้ ฮั๊ววู่เด๋าได้ใช้พลังป้องกันที่ดูอ่อนกำลังมากกว่านี้มาก ฮั๊ววู่เด๋าไม่ได้โกหก! ฮั๊ววู่เด๋าใช้พลังเพียงครึ่งเดียวในก่อนหน้านี้!
ฮั๊ววู่เด๋าเริ่มจ้องมองไปที่ลู่โจวอย่างกระตือรือร้น เขาทำท่าทางเพื่อเชื้อชวนลู่โจว “ข้าพร้อมแล้ว! “
ทุกๆ คนต่างก็จ้องมองไปยังลู่โจว พวกเขาได้แต่สงสัยว่าลู่โจวจะสามารถทำลายพลังของฮั๊ววู่เด๋าได้ ฮั๊ววู่เด๋าไม่เหมือนกับซู่จินฉาน พลังการป้องกันของเขามีมากกว่าซูจินฉานมาก
ถ้าหากจะตัดสินกันเพียงกระบวนท่าเดียว ผนึกตราประทับทั้งหกของฮั๊ววู่เด๋ามีพลังมากกว่าพลังมุทราที่ซู่จินฉานมีแน่ ลู่โจวจะสามารถทะลวงเคล็ดวิชาการป้องกันนี้ได้หรือไม่? ทุกคนต่างก็รออย่างใจจดใจจ่อ
ลู่โจวยกมือขวาขึ้นมา ในตอนนั้นการ์ดสีฟ้าอ่อนก็ได้แตกสลายไปคามือ คราวนี้ไม่มีกระแสคลื่นพลังอีกต่อไป มันกลับมีสัญลักษณ์ของสายฟ้าเข้ามาแทน ลู่โจวได้รวบรวมพลังเอาไว้และในตอนนั้นเมฆสายฟ้าก็ได้ปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้าก่อนที่จะมีสายฟ้าพุ่งลงมา!
“คลื่นพลังสายฟ้า!? เป็นไปได้ยังไงกัน?! ” โจวจี้เฟิงและฝางซงต่างก็จ้องมองมันก่อนที่จะอ้าปากค้าง
ด้วนมู่เฉิง, หมิงซี่หยิน และหยวนเอ๋อต่างก็ตกใจที่เห็นเคล็ดวิชานี้ ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของการเป็นศิษย์ พวกเขาทั้งหมดไม่เคยเห็นอาจารย์ใช้เคล็ดวิชาแบบนี้มาก่อน! ยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นคลื่นพลังสายฟ้า!
ตู๊ม!
ภายใต้สายตาของทุกคน ในตอนนั้นสายฟ้าก็ได้พุ่งเข้าใส่ผนึกตราประทับทั้งหก
ประกายไฟจากสายฟ้าได้ลอยไปทั่วทุกที่ ควันที่เกิดจากสายฟ้าเองก็ลอยไปทั่วทั้งศาลาปีศาจลอยฟ้าเช่นกัน
พรึ๊บบบ!
ฮั๊ววู่เด๋ากระเด็นถอยหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว เขาไม่สามารถที่จะต้านพลังนั้นได้