My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 127
รูปแบบของช่องว่างมันมีรูปร่างที่ชัดเจนมากขึ้นถ้าหากมองใต้แสงแดด
หมิงซี่หยินรู้สึกทึ่งมาก เขาวางเคียวพื้นพิภพเข้าไปในช่องว่างนั้น
แคล๊ก!
ส่วนหนึ่งของด้านบนกล่องได้ถูกเปิดออก ในตอนที่ส่วนหนึ่งของกล่องได้ถูกเปิดขึ้น ในตอนนั้นเสียงการเปิดกล่องก็ได้ดังขึ้นก่อนที่จะเงียบดับไป
“ฮะ? เคียวพื้นพิภพ! ” หมิงซี่หยินตกใจมาก เขารีบคว้าอาวุธคู่ใจของตัวเองกลับมา “มันติดอย่างงั้นหรอ? ไม่จริง! ” เคียวพื้นพิภพของเขาเป็นเหมือนกับแก้วตาดวงใจ หมิงซี่หยินจะไม่ยอมให้มีอะไรเกิดขึ้นกับเคียวพื้นพิภพของเขาเป็นอันขาด ตัวเขาที่คิดแบบนั้นรีบดึงเคียวพื้นพิภพออกมาจากกล่องในทันที
ปั๊ง! ปั๊ง! ปั๊ง!
หมิงซี่หยินพยายามใช้แรงแขนอย่างสุดกำลัง ก้อนหินทั้งหลายที่อยู่ใกล้ๆ ต่างก็ถูกพลังของตัวเขาทำลายไป แต่ถึงแบบนั้นเคียวพื้นพิภพของเขาก็ไม่ได้หลุดออกจากกล่อง มันเข้าไปในช่องว่างตอนแรกอย่างพอดี
“ไม่มีทาง…” หมิงซี่หยินอยากที่จะร้องไห้ออกมา “ท่านอาจารย์เสียดายที่มอบอาวุธให้กับข้าเลยต้องหาวิธีที่จะเอาคืนอย่างงั้นหรอ? ” หมิงซี่หยินได้แต่คิดกับตัวเอง ‘ไม่ใช่สิ ถ้าหากท่านอาจารย์ต้องการอาวุธคืนจริงๆ ท่านอาจารย์ไม่เห็นจะต้องใช้วิธีซับซ้อนเช่นนี้’
ในตอนนั้นเองต้วนมู่เฉิงก็ได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับหอกราชันย์ “ศิษย์น้อง…เจ้ากำลังทำอะไรอยู่กัน? ข้าตามหาเจ้าไปทั่วทุกหนทุกแห่งเลยนะ! “
“ศิษย์พี่ ข้าคิดว่าข้าคงจะไม่สามารถประลองกับท่านได้อีกแล้ว…เคียวพื้นพิภพของข้าติดอยู่ในกล่อง! ” หมิงซี่หยินได้ชี้ไปที่กล่องที่อยู่ตรงหน้า
ต้วนมู่เฉิงที่เห็นแบบนั้นก็ได้พูดออกมาอย่างไม่พอใจ “นั่นมันก็แค่กล่องเน่าๆ เท่านั้น ถอยไปซะ! “
“ศิษย์พี่กำลังจะทำอะไรกัน? “
“เดี๋ยวเจ้าก็ได้รู้เอง”
“…”
ปั๊ง!
ต้วนมู่เฉิงได้ใช้หอกราชันย์ที่มีแทงเข้าไปที่กล่อง กล่องใบนั้นได้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าก่อนที่จะตกลงสู่พื้น ที่บนตัวกล่องมีรอยบุ๋มที่ถูกหอกราชันย์แทงอยู่
ต้วนมู่เฉิงได้มองไปที่หอกราชันย์ของตน อาวุธของเขายังดูสมบูรณ์แบบไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด แต่เมื่อมองไปที่กล่อง กล่องใบนั้นเองก็ดูเป็นปกติเช่นกัน “กล่องนี่มันแข็งจริงๆ! “
“ศิษย์พี่ดูนี่สิ…” หมิงซี่หยินได้ชี้ไปยังช่องว่างที่ได้ใส่เคียวพื้นพิภพของตัวเองไป ที่ตรงนั้นมีช่องว่างอีกช่อง
“นี่มันอะไรกัน? ” ต้วนมู่เฉิงถามออกมา
“ทำไมศิษย์พี่ไม่ลอง…เอาหอกราชันย์ใส่ลงไปดูล่ะ? ” หมิงซี่หยินรู้สึกว่ากล่องใบนี้จะชื่นชอบอาวุธระดับสรวงสวรรค์เป็นพิเศษ
ต้วนมู่เฉิงได้แต่ทำตามคำแนะนำของหมิงซี่หยิน ตัวเขาได้ยกหอกราชันย์ขึ้นมาก่อนที่จะใส่ลงไปร่องข้างๆ ของเคียวพื้นพิภพ
แคล๊ก!
หอกราชันย์เองก็ติดอยู่ในช่องนั้น
ในตอนนั้นเองกลไกอะไรบางอย่างของกล่องก็ได้ทำงานขึ้นมา
“อาวุธของข้า! ” ต้วนมู่เฉิงกู่ร้องออกมาอย่างเสียงดังด้วยความตกตะลึง
การเปิดขึ้นของกล่องทำให้อาวุธทั้งสองชิ้นได้ลอยขึ้นไปบนอากาศ หมิงซี่หยินรีบใช้พลังลมปราณของตัวเองคว้าเคียวพื้นพิภพเอาไว้ด้วยมือขวา
ส่วนหอกราชันย์เองได้ลอยไปบนอากาศก่อนที่จะทิ้งตัวลงมา ต้วนมู่เฉิงจับหอกราชันย์เอาไว้อย่างง่ายดายเพราะลวดลายมังกรที่มีอยู่รอบๆ ด้ามจับมัน
“กล่องใบนี้…แปลกมาก” ต้วนมู่เฉิงมองไปที่กล่องด้วยสีหน้าที่ตกใจ
ในตอนนี้เองที่ด้านหนึ่งของด้านทั้งหกกล่องมีช่องเล็กๆ ปรากฏขึ้น
หมิงซี่หยินที่จ้องมองกล่องอยู่นานในที่สุดก็พูดออกมาอย่างตื่นเต้น “ข้าเข้าใจแล้ว! ตราบใดที่พวกเราวางอาวุธทั้งหมดไว้ในช่องว่างตามลำดับ พวกเราจะต้องสามารถเปิดกล่องของท่านอาจารย์ได้แน่! “
ยิ่งกล่องใบนี้อยู่ภายใต้แสงของพระอาทิตย์ ช่องว่างที่ปรากฏขึ้นจะยิ่งดูเด่นชัดเป็นพิเศษ
หมิงซี่หยินเริ่มชี้ไปยังช่องมากมายที่ปรากฏขึ้นบนตัวกล่อง “นี่มันช่องของดาบนิลโลหิต นี่ก็ช่องของดาบยืนยาว ช่องของห่วงแห่งรัก และช่องของพัดขนนกยูง”
ต้วนมู่เฉิงที่ได้เห็นแบบนั้นก็ได้แต่พูดออกมาอย่างประหลาดใจ “ข้าสงสัยจริงๆ ว่าใครกันที่สร้างกล่องประณีตใบนี้ขึ้น”
“ข้าจะไปรู้ได้ยังไงกัน? ” หมิงซี่หยินหยักไหล่ก่อนที่จะพูดต่อ “แต่ยังไงซะพวกเราก็โชคดีมากที่ค้นพบวิธีการเปิดกล่องใบนี้! “
“แล้วพวกเราจะทำอะไรได้ล่ะ? พัดขนนกยูกตกอยู่ในมือของศิษย์น้องเจ็ด ดาบนิลโลหิตและดาบยืนยาวเองก็ตกอยู่ในมือของศิษย์พี่ใหญ่และศิษย์พี่รอง ข้าไม่คิดว่าในใต้หล้านี้จะมีใครทำให้พวกเขาทั้งสามคนยอมจำนนจนมอบอาวุธมาให้ได้หรอก! ” ต้วนมู่เฉิงพูดขึ้นมา ในตอนแรกเขาจะพูดว่า ‘แม้แต่ท่านอาจารย์เองก็ยังทำไม่ได้’ แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ไม่ได้พูดออกมา ต้วนมู่เฉิงรู้ดีว่าคำพูดคำนี้อาจจะทำให้ตัวเขาเจอปัญหาเข้าซะเอง
หมิงซี่หยินพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ข้าเองก็ไม่กล้าสู้กับศิษย์พี่ใหญ่ศิษย์พี่รองหรอก…ข้าจะรายงานเรื่องนี้ให้กับท่านอาจารย์ได้รู้เอง! “
“ท่านอาจารย์น่ะพักผ่อนไปแล้ว ในเวลาแบบนี้ทำไมพวกเราไม่ลองประลองฝีมือกันดูล่ะ? “
“…” หมิงซี่หยินที่ได้ยินแบบนั้นน้ำตาแทบไหล “ศิษย์พี่สามข้าคิดว่าผู้อาวุโสฮั๊วคงจะเหมาะที่จะเป็นคู่ต่อสู้ให้กับศิษย์พี่มากกว่าข้า! ตัวข้าด้อยฝีมือจนเกินไป ข้ายังไม่สามารถทำลายการป้องกันของท่านผู้อาวุโสได้แม้ว่าเขาจะออมมือให้ก็ตาม แต่ศิษย์กลับสามารถทำได้ นอกจากนี้ผู้อาวุโสฮั๊วยังเป็นผู้มีพลังร่างอวตารดอกบัว 6 กลีบ ข้าว่าเขาคงจะเหมาะที่จะเป็นคู่ซ้อมให้กับศิษย์พี่มากกว่าแน่”
ต้วนมู่เฉิงที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้พูดส่งเสียงออกมา “เจ้าเองก็พูดมีเหตุผล ข้าจะไปตามหาผู้อาวุโสฮั๊วเอง! “
หลังจากที่ต้วนมู่เฉิงจากไป หมิงซี่หยินก็ได้ศึกษากล่องใบนั้นต่อไปอีกระยะหนึ่ง ตัวเขาได้กลับมาที่ห้องโถงใหญ่ศาลาปีศาจลอยฟ้าในช่วงบ่ายก่อนที่จะถือกล่องใบเดิมมาด้วย
เมื่อหมิงซี่หยินกลับมาถึงห้องโถงใหญ่ ตัวเขาก็เห็นอาจารย์ของตน, หยวนเอ๋อ, จ้าวยู่, โจวจี้เฟิงและคนอื่นๆ มารวมตัวที่นั่นอยู่ก่อนแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังสนทนาอะไรกันอยู่
ลู่โจวในตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ที่อยู่สูงเหนือคนอื่นๆ เมื่อเห็นหมิงซี่หยินเดินมาเขาก็ได้เริ่มต้นพูดขึ้น “มาได้ทันเวลาพอดี”
หมิงซี่หยินรีบวางกล่องใบเดิมลงบนพื้นก่อนที่จะคารวะเพื่อเป็นการทักทายลู่โจว “ท่านอาจารย์ ศิษย์ไขปริศนาความลับในการเปิดกล่องได้แล้ว”
“โอ้? ” ลู่โจวรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย แต่ถึงแบบนั้นสีหน้าและท่าทางของเขาที่แสดงออกไปก็ยังดูไร้อารมณ์เช่นเดิม แม้ว่าศิษย์ของเขาคนนี้จะเป็นคนที่ควบคุมยากและเอาแต่ใจ แต่ถึงแบบนั้นเขาก็สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้สำเร็จลุล่วงได้ในทุกๆ ครั้ง
“การที่จะเปิดกล่องใบนี้ได้จะต้องใช้อาวุธทั้ง 6 ชิ้นติดเข้าไปที่ช่องตามๆ ที่มี ท่านอาจารย์ได้โปรดดูนี่ที…” หมิงซี่หยินได้โบกมือขึ้นมา ในตอนนั้นเองกล่องก็ได้ลอยอยู่บนอากาศด้วยพลังลมปราณของเขา “นี่คือช่องว่างของดาบนิลโลหิต ส่วนนี่คือช่องว่างของดาบยืนยาว ส่วนนี่คือช่องว่างของพัดนกยูง และส่วนนี่คือช่องว่างของห่วงแห่งรัก…”
หมิงซี่หยินได้หมุนกล่องไปมาเพื่อให้แสงจากดวงอาทิตย์ส่องไปที่กล่องใบนั้น และเพราะแสงจากดวงอาทิตย์ทำให้ลู่โจวสามารถเห็นช่องว่างที่เกิดขึ้นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
มันเป็นไปตามสิ่งที่หมิงซี่หยินคาดการณ์เอาไว้ ลวดลายบนกล่องทั้งหมดล้วนเป็นอาวุธของศิษย์ลู่โจว
“ท่านอาจารย์ ศิษย์พี่สามกับตัวศิษย์เองได้ลองใส่อาวุธของพวกเราลงไปในช่องว่างก่อนหน้านี้แล้ว ในตอนนั้นเหมือนกับมีส่วนหนึ่งของกล่องเปิดขึ้น ข้าคิดว่าพวกเราจะต้องใส่อาวุธเพิ่มไปอย่างน้อยก็ต้องอีก 2 ชิ้นจึงจะสามารถเปิดกล่องใบนี้ได้” หมิงซี่หยินพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ
ลู่โจวพยักหน้าตอบรับ “ทำได้ดีมาก”
หมิงซี่หยินรู้สึกมีความสุขมากที่ได้รับคำชื่นชมจากผู้เป็นอาจารย์ ตัวเขาได้โค้งคำนับก่อนที่จะตอบกลับไป “ขอบคุณสำหรับคำชมครับท่านอาจารย์”
ลู่โจวเองก็คิดแบบนั้น ตัวเขาเคยเปลี่ยนอาวุธนิรนามให้ตรงตามช่องว่างแล้ว แต่ถึงแบบนั้นเขาก็เปิดกล่องใบนี้ไม่สำเร็จ เห็นได้ชัดว่าระบบไม่ยอมที่จะปล่อยให้ลู่โจวได้ใช้ช่องโหว่นี้ได้ ตัวเขาต้องการดาบนิลโลหิต, ดาบยืนยาว และอาวุธชิ้นอื่นๆ ในการเปิดกล่อง แต่เพราะว่าศิษย์จอมวายร้ายของเขาได้ออกจากศาลาปีศาจลอยฟ้าไปแล้ว ดังนั้นการที่จะหาอาวุธพวกนั้นมาคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายแน่
จ้าวยู่ที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้โค้งคำนับก่อนที่จะเริ่มพูดขึ้น “ท่านอาจารย์ ศิษย์คิดว่าศิษย์พี่สี่เหมาะที่สุดแล้วที่จะเปิดกล่องลึกลับใบนี้”
หมิงซี่หยินที่ได้ฟังแบบนั้นรู้สึกตกใจ
“ยังไงกัน? ” ลู่โจวได้ถามขึ้น
“พัดขนนกยูงในตอนนี้ตกอยู่ในมือของศิษย์น้องเจ็ด ศิษย์น้องเจ็ดเป็นคนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับศิษย์น้องแปดมาโดยตลอด ด้วยความสามารถของศิษย์พี่สี่ สำหรับเขาไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะหาตัวศิษย์น้องแปดได้ และถ้าหากพบตัวศิษย์น้องเจ็ดจากศิษย์น้องแปดแล้ว การจะหาตัวศิษย์พี่ใหญ่และศิษย์พี่รองจากศิษย์น้องเจ็ดจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ศิษย์เชื่อว่าพวกเขาทั้งหมดเองก็อยากที่จะรู้ว่ามีอะไรภายในกล่องกันแน่ ศิษย์คิดว่าพวกเขาจะต้องให้ความร่วมมืออย่างแน่นอน”
หมิงซี่หยินที่ได้ฟังแบบนั้นยิ่งรู้สึกตกตะลึง
ลู่โจวเองลูบเคราก่อนที่จะตอบกลับมาอย่างเยือกเย็น “เป็นความคิดที่ดี”
หมิงซี่หยินรีบตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว “แต่ท่านอาจารย์ พวกเราควรจะใช้เวลาไตร่ตรองให้ดีซะก่อน…พลังวรยุทธของศิษย์พี่ใหญ่และศิษย์พี่รองลึกล้ำมาก จะเป็นยังไงกันถ้าพวกเขาตัดสินใจที่จะสังหารศิษย์เพื่อที่จะครอบครองกล่องใบนี้ไปซะเอง? “
คนอื่นๆ ที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้พยักหน้า พวกเขาทั้งหมดรู้ดีว่าหมิงซี่หยินพูดถูก
แต่ถึงแบบนั้นลู่โจวได้แต่ส่ายหัวก่อนที่จะตอบกลับมา “แม้ว่ายู่เฉิงไห่และยู่ฉางตงจะเป็นศิษย์ทรยศก็จริง แต่ถึงแบบนั้นเจ้าพวกนั้นจะต้องผ่อนปรนต่อศิษย์น้องอย่างเจ้าแน่ ตั้งแต่ที่อยู่ศาลาปีศาจลอยฟ้ามาระหว่างพวกเจ้าก็ไม่เคยมีเรื่องที่จะต้องบาดหมางกัน ข้าเชื่อว่าเจ้าพวกนั้นไม่ทำร้ายเจ้าหรอก”
หมิงซี่หยินที่ได้ฟังแบบนั้นก็อยากที่จะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง “แต่…ศิษย์…ศิษย์ไม่คิดอย่างงั้น…”