My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 175
แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะนุ่มนวลและดูเบาบาง แต่ถึงแบบนั้นมันกลับดังก้องไปทั่วแท่นบูชาแห่งดาบ
เหล่าศิษย์สาวกจากแท่นบูชาแห่งดาบต่างรู้สึกประทับใจในคำพูดของผู้เป็นอาจารย์ที่กำลังทักทายกับชายผู้ใช้ดาบชุดเขียวอยู่ แต่เมื่อได้ยินชื่อของชายผู้ใช้ดาบชุดเขียว ในตอนนั้นเองเหล่าสาวกทั้งหมดก็ได้แต่ตื่นตกใจ ชื่อนี้เปรียบเหมือนกับภัยพิบัติสำหรับพวกเขาก็ว่าได้
ยู่ฉางตงเป็นชื่อที่สามารถทำให้ความกล้าของใครหลายคนต้องถูกทำลายทิ้งไป
ยู่ฉางตงเป็นศิษย์คนที่สองจากศาลาปีศาจลอยฟ้า เขาเป็นผู้ใช้ดาบผู้ชื่นชอบการประมือกับเหล่ายอดฝีมือเป็นไหนๆ ยู่ฉางตงสามารถฆ่าคนอื่นได้อย่างง่ายดายราวกับผักปลาเมื่อคนๆ นั้นขัดแย้งกับตัวเขาแม้ว่าจะเล็กน้อยสักแค่ไหน และเพราะความโหดเหี้ยมอำมหิตของตัวเขา ยู่ฉางตงจึงได้รับสมญานามว่าดาบปีศาจ
เหล่าศิษย์สาวกของแท่นบูชาแห่งดาบไม่คิดมาก่อนเลยว่ายอดฝีมือผู้ใช้ดาบแสนสุภาพและดูถ่อมตนผู้นี้จะเป็นศิษย์คนที่สองจากศาลาปีศาจลอยฟ้า ยู่ฉางตง
เหล่าคนยุคใหม่ทั้งหลายได้แต่ฟังเรื่องเล่าทั้งหมดของวายร้ายมาเท่านั้น พวกเขาต่างก็จดจำไปแล้วว่าศิษย์สาวกของศาลาปีศาจลอยฟ้านั้นชั่วช้า ถ้าหากพวกเขาทั้งหมดไม่รู้จักชื่อของชายผู้ใช้ดาบคนนี้…ก็คงจะไม่มีใครคิดได้เลยว่าชายคนนี้คือดาบปีศาจ จอมวายร้ายแห่งยุทธภพอันแสนจะชั่วช้า
ในที่สุดสาวกของแท่นบูชาดาบคนหนึ่งก็ได้ตะโกนตอบกลับด้วยน้ำเสียงอันเกรี้ยวกราด “ส่งข่าวไปที่แท่นบูชาหลักเร็วเข้า บอกผู้อาวุโสให้มาจัดการดาบปีศายซะ! “
แต่เมื่อลั่วฉีซานได้ฟังแบบนั้น เขาก็ได้โบกมือขึ้นมาก่อนที่จะใช้พลังฝ่ามือเข้าโจมตี
พลังฝ่ามือของเขาได้ฟาดเข้าไปที่แก้มของศิษย์คนนั้นอย่างไร้ความปรานี ศิษย์คนนั้นได้กระเด็นลอยไปกลางอากาศก่อนที่จะล้มลงกับพื้นอีกครั้ง ใบหน้าของเขาแดงและบวมจนดูเปลี่ยนไป
ในตอนนั้นเองแท่นบูชาแห่งดาบก็เงียบงัน
ลั่วฉีซานได้พูดออกมาอย่างเฉยเมย “ข้าบอกแล้วไงว่าข้าต้องการที่จะสู้อย่างยุติธรรม”
ยู่ฉางตงในตอนนี้ยังคงยิ้มให้เช่นเดิม ดวงตาของเขาปราศจากซึ่งความลังเล สำหรับยู่ฉางตงตัวเขาไม่เคยสนใจเหล่าผู้ฝึกยุทธปลาเล็กปลาน้อยพวกนี้
“ถ้าหากเจ้าพร้อมแล้วก็เข้ามาได้เลย” ลั่วฉีซานได้ใช้หงายฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้น ตัวเขาเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้แล้วนั่นเอง
ในตอนนั้นเองที่เครื่องหอมบูชาตรงใจกลางแท่นบูชา มีแสงสว่างส่องประกายขึ้นมา สิ่งที่กำลังสะท้อนแสงอยู่นั่นก็คือดาบของลั่วฉีซานนั่นเอง มันได้ลอยเข้ามาหาตัวเขา อาวุธชิ้นนี้เป็นอาวุธระดับโลกขั้นสูงสุด
ยู่ฉางตงไม่ได้แสดงอาการตื่นตกใจอะไรออกมา ดาบเล่มนั้นยังไม่คู่ควรมากพอที่จะทำให้ตัวเขารู้สึกสนใจได้
ลั่วฉีซานรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายู่ฉางตงไม่ได้สนใจอะไรดาบของเขา และเพราะแบบนั้นตัวเขาจึงรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที ลั่วฉีซานได้โบกแขนของเขาอีกครั้ง
ในทันใดนั้นเองดาบพลังงานก็ได้ปรากฏขึ้น 10 เล่ม! ดาบทั้งหมดนั้นถูกห่อหุ้มไปด้วยพลังที่แน่นหนา พลังพวกนั้นได้สะท้อนกันในชั้นอากาศจนทำให้เห็นเป็นคลื่นของพลัง
เหล่าศิษย์สาวกที่เห็นเช่นนั้นต่างก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ในตอนนี้ศิษย์สาวกทั้งหมดที่อยู่บนแท่นบูชาแห่งดาบมีสิทธิพิเศษที่จะกลายเป็นสักขีพยานในการต่อสู้ระหว่างอาจารย์ของพวกเขาและดาบปีศาจ
กระบวนท่านี้แตกต่างจากกระบวนท่าเดิมอย่างดาบสิบสามหน้ามาก เดิมทีดาบพลังงานทั้งหมดจะถูกสร้างขึ้นมาจากการควบแน่นพลังลมปราณ แต่อย่างไรก็ตามดาบทั้ง 10 เล่มที่อยู่ตรงหน้านี้กับแตกต่างออกไป พวกมันดูเหมือนกับดาบที่แท้จริงไม่มีผิด ดาบทั้ง 10 เล่มดูทรงพลังกว่าดาบ 13 หน้ามาก
ทุกๆ คนต่างก็จับจ้องไปที่ดาบทั้ง 10
นักบุญแห่งดาบลั่วฉีซานได้ทุ่มเทเวลาเกือบทั้งเดือนในการฝึกฝนกระบวนท่านี้ ดาบทั้งสิบเล่มได้เชื่อฟังคำสั่งของตัวเขาก่อนที่จะลอยตรงไปหายู่ฉางตงจากทั่วทุกทิศทาง
พลังของดาบที่เพิ่มมากขึ้นได้ทำให้เกิดลมพายุโหมกระหน่ำ ผมของยู่ฉางตงได้ตั้งขึ้นจากลมแรงของการโจมตีนี้
ในตอนนั้นเองยู่ฉางตงก็ยังคงยิ้มจางๆ เช่นเคย ตัวเขาได้มองไปที่ลั่วฉีซานในขณะที่เอามือกอดอกอยู่
ไม่ทันที่ยู่ฉางตงจะได้ทำอะไรดาบทั้งสิบก็ได้พุ่งโจมตีตัวเขาในทันที
แต่ไม่ทันที่ดาบจะถึงตัวพลังลมปราณอันทรงพลังก็ได้ก่อตัวกันก่อนที่จะเป็นม่านพลังเพื่อหยุดดาบทั้ง 10 เล่มของลั่วฉีซานเอาไว้
ยู่ฉางตงยังคงยืนอยู่ที่เดิมในขณะที่เอามือกอดอกอยู่
ดาบยาวสีแดงฉานยังคงอยู่บนหลังของเขาเฉกเช่นเดิม ดูเหมือนว่ายู่ฉางตงจะไม่ได้ตั้งใจที่จะโจมตีสวนกลับไป
ลั่วฉีซานได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำ “เจ้าน่ะประมาทเกินไป! “
ดาบทั้งสอบได้แยกตัวออกจากกันอีกครั้ง และในตอนนี้มันก็มีมากขึ้นถึงดาบ 20 เล่มด้วยกัน!
เดิมทีแล้วลั่วฉีซานสามารถควบคุมดาบพลังงานทั้ง 13 เล่มได้ดีที่สุด แต่ถึงแบบนั้นถ้าหากถึงยามจำเป็นจริงๆ ตัวเขาก็ยังจะสามารถควบคุมดาบที่เพิ่มขึ้นได้
ดาบทั้ง 20 เล่มได้แทงเข้าใส่ตัวของยู่ฉางตงจนทำให้พื้นดินทั่วทั้งแท่นบูชาแห่งดาบสั่นสะเทือนไปทั่ว
ยู่ฉางตงยังคงไม่ขยับไปไหน เขายืนสงบนิ่งราวกับภูเขาใหญ่ที่มั่นคง
แต่ช่างน่าเสียดาย แม้ว่าลั่วฉีซานจะพยายามโจมตีมากมายแค่ไหน สุดท้ายแล้วยู่ฉางตงก็สามารถรับการโจมตีได้อย่างง่ายดาย
ดาบพลังเริ่มเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ในตอนนี้พลังลมปราณของลั่วซีซานเริ่มควบแน่นจนดูเหมือนกับดาบของแท้มากยิ่งขึ้น
ในการต่อสู้กันด้วยดาบ ปัจจัยหลักที่จะทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคว้าชัยชนะไปได้นั่นก็คือความสามารถในการควบคุมดาบพลังงาน ถ้าหากจะพูดในอีกนัยหนึ่ง ยิ่งควบแน่นพลังลมปราณให้กลายเป็นดาบที่ทรงพลังมากแค่ไหน คนคนนั้นก็จะได้เปรียบจากการต่อสู้ไปมากเท่านั้น
แต่สำหรับคู่ต่อสู้ที่มีความแข็งแกร่งที่ใกล้เคียงกัน ท้ายที่สุดแล้วจำนวนของพลังลมปราณของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่เหนือกว่าก็จะคว้าชัยชนะจากการประมือไป
แต่ถึงแบบนั้นในการต่อสู้จริงๆ เพียงแค่พลังลมปราณไม่อาจที่จะทำให้สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ ไม่ว่าการโจมตีจะรุนแรงแค่ไหน แต่ถ้าหากไม่สามารถปิดฉากการโจมตีได้ คนคนนั้นก็จะไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อยู่ดี
ท้ายที่สุดแล้วม่านพลังลมปราณที่ยู่ฉางตงสร้างขึ้นก็สามารถปัดป้องการโจมตีของลั่วฉีซานได้ทั้งหมด การโจมตีของเขาไม่ได้ผลแม้แต่เพียงนิดเดียว
ยู่ฉางตงที่ปัดป้องการโจมตีได้เอาแต่มือกอดอกโดยที่ไม่ตอบโต้อะไรกลับไป
สำหรับยอดฝีมือระดับสูงผู้ซึ่งได้รับฉายานักบุญแห่งดาบมานี่ถือเป็นความอัปยศอดสูอย่างไม่ต้องสงสัย
ลั่วฉีซานลอยขึ้นสูงก่อนที่จะประสานฝ่ามือเข้ามาอีกครั้ง ตัวเขากำลังเรียกดาบทั้งหมดกลับมาก่อนที่จะผสานกันจนกลายเป็นหนึ่งเดียว ดาบที่เหลือเพียงเล่มเดียวได้ลอยตามฝ่ามือของเขาไปติดๆ
ในเวลาเดียวกันคลื่นพลังลมปราณที่อยู่รอบตัวก็ถูกดึงเข้ามาล้อมรอบดาบเล่มนั้นเอาไว้
“นี่มันกระบวนท่าขั้นสุดยอดของท่านอาจารย์! ” ดวงตาของเหล่าสาวกถึงกับเบิกกว้างขึ้น
นี่คือเพลงดาบที่สร้างชื่อให้กับนักบุญแห่งดาบ มันมีชื่อว่าแก่นแท้ดาบนรก
มันเป็นกระบวนท่าที่สามารถสร้างกรงกักขังขนาดใหญ่โดยใช้อาวุธของผู้ใช้เป็นแกนกลางกรงผนึก มันเป็นกระบวนท่าที่สามารถใช้กับเป้าหมายมากมายหลายคนได้ การจะใช้กระบวนท่านี้ได้จะต้องใช้ในตอนที่รวบรวมพลังดาบพลังงานทั้งหมดให้อยู่ในเล่มเดียว กระบวนท่านี้เองดูเหมือนจะสามารถผ่าทั้งสวรรค์และโลกได้
“อวตารแห่งร้อยวิถี! “
ในตอนนั้นเองพลังร่างอวตารอันใหญ่ยักษ์ก็ได้ปรากฏขึ้นบนแท่นบูชาแห่งดาบ
เหล่าสาวกลั่วฉีซานต่างก็ประทับใจมากเมื่อได้เห็นภาพนี้ พวกเขาได้แต่มองเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยความตื่นเต้น
พลังร่างอวตารที่มีดอกบัวถึง 7 กลีบได้ปรากฏขึ้น ในตอนนี้ยู่ฉางตงจะจัดการกับลั่วฉีซานที่ใช้พลังร่างอวตารที่แสนน่ากลัวแบบนี้ได้ยังไงกัน?
ความสนใจของทุกคนต่างก็จับจ้องไปที่ยู่ฉางตงแทน
ยู่ฉางตงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ตัวเขาได้แต่จ้องไปยังดาบพลังงานเล่มใหญ่ที่เป็นพลังมาจากกระบวนท่าแก่นแท้ดาบนรก
ลั่วฉีซานได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลึก “ข้าหวังว่าเจ้าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควรของข้าล่ะนะ” หลังจากพูดจบลั่วฉีซานก็ได้ขยับมือเพื่อที่จะใช้ดาบพลังงานอันใหญ่ยักษ์เข้าฟาดฟันยู่ฉางตง
แก่นแท้ดาบนรกได้ฟาดฟันเข้าไปที่ยู่ฉางตง การฟาดฟันของมันได้เคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะพุ่งเข้าหาผู้ตกเป็นเป้าหมายภายในพริบตา!
ยู่ฉางตงดูเหมือนจะหายตัวไปอย่างกะทันหัน
ดูเหมือนว่ากระบวนท่าสุดยอดของลั่วฉีซานจะโจมตีพลาดไป!
“หืม? ” ลั่วฉีซานขมวดคิ้วเล็กน้อย “นี่มันเบี่ยงเบนความสนใจอย่างงั้นหรอ? ” เขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลยว่ายู่ฉางตงจะฝึกฝนเคล็ดวิชาที่ทำให้เบี่ยงเบนความสนใจแบบนี้ได้ ตัวเขาคิดมาเสมอว่ายู่ฉางตงคงจะฝึกฝนแต่กระบวนท่าดาบ
เมื่อการโจมตีจากแก่นแท้ดาบนรกได้สิ้นสุดลงไป ในตอนนั้นเองวิสัยทัศน์ทุกอย่างก็ได้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ยู่ฉางตงยังคงยืนอยู่ที่จุดๆ เดิม ตัวเขาได้ยืนกอดอกก่อนที่จะยิ้มกว้างให้ ในตอนนี้ยู่ฉางตงได้แต่จับจ้องไปที่ลั่วฉีซาน
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ” เหล่าสาวกต่างก็รู้สึกตื่นตกใจ
“นี่มันเป็นไปไม่ได้! “
“เจ้านั่นทำแบบนั้นได้ยังไงกัน? “
ลั่วฉีซานเองก็อยากรู้เช่นกัน แต่ถึงแบบนั้นตัวเขากลับเยือกเย็นกว่าเหล่าสาวกมาก ลั่วฉีซานได้จ้องมองไปที่ศัตรูก่อนที่จะถามขึ้นมา “เจ้าวางแผนที่จะอยู่เฉยๆ แบบนั้นไปตลอดอย่างงั้นสินะ? “
“ถ้าหากข้าเคลื่อนไหวจริงๆ เจ้าก็คงจะไม่มีโอกาสยืนอยู่แบบนี้แน่”
“โอหังยิ่งนัก! “
“เจ้าน่ะเข้าใจข้าผิดแล้ว”
“หืม? “
“ถ้าหากเจ้าคิดว่าข้าเป็นคนถ่อมตัว เจ้าน่ะเข้าใจผิดแล้ว…”
“…” ลั่วฉีซานไม่อยากที่จะเสียเวลาพูดอีกต่อไป เขาได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวของเขาได้ทิ้งภาพเงาเอาไว้ทั่วทุกที่! และด้วยพลังร่างอวตารแห่งร้อยวิถีทำให้การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วดุจดั่งสายฟ้า การเคลื่อนไหวนี้คล้ายกับเคล็ดวิชาเต๋าล่องหนเป็นอย่างมาก
ในเวลาเดียวกันคมดาบพลังงานทั้งหมดก็ได้ก่อตัวขึ้นก่อนที่จะพุ่งตัวไปยังยู่ฉางตง
ยู่ฉางตงได้แต่พยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ ดูเหมือนว่าเขาจะพอใจกับสิ่งนี้
ทันทีที่ถูกพลังโจมตี ม่านพลังป้องกันของยู่ฉางตงก็ได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ยู่ฉางตงที่เห็นแบบนั้นได้ยกมือขวาขึ้นมาพร้อมกับชักดาบออกจากฝักอย่างรวดเร็ว
ยู่ฉางตงได้ใช้ดาบของเขาฟาดฟันไปทางด้านซ้าย, กลาง และขวาอย่างรวดเร็ว
ยู่ฉางตงได้ใช้สุดยอดกระบวนท่าดาบตัดวิญญาณสามส่วนหวนกลับ!
การเคลื่อนไหวของยู่ฉางตงรวดเร็วจนเหมือนกับมีภาพติดตาทับซ้อนกัน
ดาบยืนยาวสีแดงของยู่ฉางตงได้ส่องแสงสีแดงออกมาและเพราะแบบนั้นทำให้เหล่าศิษย์สาวกจากแท่นบูชาแห่งดาบต่างก็มองไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
อากาศทั้งหมดถึงกับสั่นสะเทือนจากการฟัน
ลั่วฉีซานมองไม่เห็นอะไรเลย หูของเขาได้ยินแต่เสียงอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเท่านั้น สายตาของเขาไม่อาจตามความเร็วของคู่ต่อสู้อย่างยู่ฉางตงได้ทัน