My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 25
ตอนที่ 25 เจ้าก็ดูใช้การได้เหมือนกัน
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย
ความเร็วของผู้ที่มีวรยุทธ์ขั้นศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นความเร็วที่รวดเร็วมาก แต่ถึงแบบนั้นมันก็ช้ากว่าสัตว์ขี่ที่บินได้อยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้นการใช้พลังงานไปกับการบินนั้นก็เป็นอะไรที่สิ้นเปลืองโดยใช้เหตุ และการที่จะบินได้เร็วกว่าสัตว์ขี่ที่บินได้ คนคนนั้นมีแต่จะต้องใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์อย่างวิชาจิตวิญญาณตามล่าเพียงเท่านั้น แต่แน่นอนว่าการใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์แบบนี้เองจะกินพลังงานมากกว่ามาก
หยวนเอ๋อตัวน้อยได้กระโดดขึ้นไปขี่หลังของวิซซาร์ดด้วยความหวาดกลัว แต่ถึงแบบนั้นเธอก็รู้สึกแปลกใจในทันที ขนที่ด้านหลังของวิซซาร์ดนั้นมันนุ่มเป็นอย่างมาก ตัวมันยังมีเขาทั้งสองข้างที่ส่องแสงสว่างอยู่ตลอดเวลา
ในโลกใบนี้นั้นมีสัตว์ขี่ด้วยกันอยู่หลายแบบ สัตว์ร้ายธรรมดานั้นมักจะเคลื่อนที่ได้เชื่องช้า ดังนั้นพวกมันส่วนมากจึงเหมาะสำหรับการใช้เพื่อบรรทุกสินค้าซะมากกว่า แต่ในทางกลับกันสัตว์ขี่ที่เหนือกว่าพวกสัตว์ร้ายธรรมดาๆ ทั่วๆ ไปจะถูกใช้กันในหมู่ของพวกตระกูลที่ร่ำรวยและทรงพลังอำนาจเพียงเท่านั้น และพาหนะสัตว์ขี่อย่างสุดท้ายที่โลกใบนี้มีก็คือสัตว์ขี่ในตำนานนั่นเอง
และสำหรับผู้ฝึกยุทธ์ส่วนใหญ่ การที่จะจับสัตว์ขี่ในตำนานอย่างวิซซาร์ดได้นั้นถือว่าเป็นอะไรที่ประสบความสำเร็จมากแล้ว นี่ไม่ต้องพูดถึงการฝึกฝนให้มันเชื่องจนสามารถขึ้นขี่ได้
แน่นอนว่าหยวนเอ๋อที่พอจะมีประสบการณ์อยู่ในโลกยุทธภพมาบ้างพอเข้าใจดีว่าการที่จะหาสัตว์ขี่ในตำนานแบบนี้ได้มันยากขนาดไหน
“จับให้แน่นซะละ” ลู่โจวพูดขึ้นมาก่อนที่จะยกแขวนขวาของเขาโอบไว้ที่รอบแขนของหยวนเอ๋อ
วิซซาร์ดสัตว์ขี่ของลู่โจวได้ส่งเสียงร้องดังกังวาลออกมาไปทั่วทั้งภูเขาทอง เสียงของมันทำให้สัตว์ร้ายทั่วทั้งภูเขาต่างก็กระจัดกระจายไปทั่วทุกทิศทาง วิซซาร์ดที่พร้อมแล้วได้ใช้เท้าของมันเหยียบขึ้นไปบนอากาศ มันพุ่งตรงไปที่เมืองอันยางผ่านการเหยียบกรีบเมฆ
สองชั่วโมงต่อมา ลู่โจวก็สามารถควบคุมวิซซาร์ดให้มาถึงเมืองยางอันได้ ตัวเขาได้ควบคุมให้วิซซาร์ดลงมาจากฟากฟ้าอย่างช้าๆ ที่ป่าแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับเมืองอันยาง หยวนเอ๋อในตอนนั้นตกใจมาก เธอยังไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เลยหลังจากที่ลงสู่พื้นดินอีกครั้ง
“พวกเรามาถึงแล้ว” ลู่โจวเหลือบมองไปที่เมืองที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าก่อนที่จะกระโดดลงจากวิซซาร์ดไป ตอนนี้เขาสามารถเคลื่อนไหวไปมาได้อย่างอิสระ
“หยวนเอ๋อ? ” ลู่โจวหันกลับมาเรียกหยวนเอ๋อ เธอในตอนนี้กำลังงุนงงสับสนอยู่นั่นเอง
แต่ในที่สุดคำพูดของลู่โจวนั้นก็ทำให้เธอได้สติอีกครั้ง “ท่า…ท่านอาจารย์…” หยวนเอ๋อหลังจากที่ได้สติแล้วเธอก็กระโดดลงมาจากหลังของวิซซาร์ด “ศิษย์ไม่ได้คิดแบบนั้นเลย ศิษย์คิดว่าวิซซาร์ดตัวนี้มันดูงดงามมาก”
“งดงามอย่างงั้นหรอ? ” ดูเหมือนว่าผู้หญิงจากต่างโลกเองก็มีทัศนคติเหมือนกับผู้หญิงในโลกเดิมอย่างงั้นสินะ
“ใช่แล้ว ศิษย์ไม่เคยเห็นสัตว์ขี่อะไรที่งดงามแบบนี้มาก่อนเลย”
“พวกเรามาถึงแล้ว ข้าจะต้องให้เจ้าวิซซาร์ดอยู่ในป่าแบบนี้ไปก่อน การที่จะพามันเข้าไปในเมืองคงจะดึงดูดความสนใจมากเกินไป นอกจากนี้…รอบตัวของเจ้ายังมีพลังออร่าอะไรบางอย่างอยู่ เจ้าจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองสักก่อน”
แม้ว่าหยวนเอ๋อนั้นจะไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนกับศิษย์พี่ของพวกเธอในโลกของยุทธภพ แต่ถึงแบบนั้นถ้าหากเป็นหยวนเอ๋อ อาจจะมีใครบางคนจำเธอคนนี้ได้ก็เป็นได้ ถ้าหากเป็นแบบนั้นแล้วกลุ่มคนที่ลักพาตัวครอบครัวตระกูลซีไปจะต้องรู้ตัวอย่างแน่นอน แน่นอนว่าการปิดบังตัวตนมักจะทำให้ทำงานได้ง่ายกว่า
“ศิษย์เข้าใจแล้วค่ะท่านอาจารย์”
เธอรีบปกปิดพลังออร่าของตัวเองในทันทีให้เหมือนกับท่านอาจารย์ของเธอ หลังจากนั้นเธอก็เดินเข้าไปในบ้านของชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ หยวนเอ๋อรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอให้กลายเป็นเสื้อผ้าของคนธรรมดาทั่วๆ ไป เท่านี้ทั้งลู่โจวและหยวนเอ๋อก็ดูเหมือนกับคู่ปู่กับหลานธรรมดาไปเป็นที่เรียบร้อย
“ฮิฮิ! ท่านอาจารย์ ตอนนี้ท่านดูเหมือนกับชาวสวนไปแล้วนะ” หยวนเอ๋อเอามือปิดปากของเธอเพื่อที่จะพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้
“ขำอะไรกัน” ลู่โจวโบกมือก่อนที่จะพูดต่อไป “จากนี้ไปเจ้ากับข้าจะต้องปลอมตัวเป็นปู่หลานคู่หนึ่ง”
“ศิษย์เข้าใจแล้วค่ะท่านอาจารย์”
“อะไรกัน? “
“อะ…เออ…คุณ…ปู่”
หยวนเอ๋อรู้สึกอึดอัดใจตัวเองที่จะต้องเรียกท่านอาจารย์ของเธอว่า ‘คุณปู่’ แต่เธอก็ใช้เวลาไม่มากนักกว่าที่จะเรียกคุณปู่ออกมาได้
ลู่โจวเองก็ไม่ชินเท่าไหร่ ตัวเขาในโลกก่อนนั้นมีอายุเพียง 28 ปีเพียงเท่านั้น ตัวเขารู้สึกแปลกและค่อนข้างที่จะอายเมื่อถูกเรียกว่าคุณปู่แบบนี้ แต่ถึงแบบนั้นไม่นานมากนักลู่โจวก็รู้สึกชินไปเอง ตอนนี้ตัวเขาค่อยๆ รู้สึกด้านช้าไปแล้ว
‘โชคดีหรือโชคร้ายกันแน่นะที่ตัวฉันมีอายุเพิ่มมากขึ้นแบบนี้…’
หลังจากที่เดินเข้าเมืองมาได้ ลู่โจวและหยวนเอ๋อในตอนนี้ก็ได้ใช้สายตาของตัวเองสอดส่องไปรอบๆ เมืองในทันที ที่ถนนเมืองอันยางนั้นค่อนข้างมีชีวิตชีวามากกว่าปกติ บนนถนนทางเดินนั้นเต็มไปด้วยนักเล่นกล, นักเล่าเรื่อง และแผงขายของต่างๆ นาๆ มากมาย
“เมืองอันยางนั่นร่ำรวยถึงขนาดนี้เลยอย่างงั้นหรอ” ลู่โจวกล่างชื่นชมออกมา
“ฮิฮิ! คุณปู่ ข้ารู้สึกสนุกมากเลย! ” หยวนเอ๋อตัวน้อยกระโดดไปกระโดดมาระหว่างฝูงชน เธอคว้าแอปเปิลเคลือบน้ำตาลมาก่อนที่จะกระโดดหนีไป
“เฮ้ย เจ้าหนูตัวน้อยนั่นน่ะ จ่ายเงินข้ามาซะ! ” ชายเจ้าของร้านตะโกนออกมาก่อนที่จะพุ่งไปหาหยวนเอ๋อ
หยวนเอ๋อที่ได้ฟังแบบนั้นจึงได้หันมาคำรามอย่างไม่สบอารมณ์ “ไปให้พ้น! ถ้าหากเจ้ายังจะพยายามตามมา! ข้าจะให้รางวัลเป็นการฉีกปากเอง! “
“…”
การขู่ของหยวนเอ๋อนั้นทำให้ชายเจ้าของร้านขายของตกใจเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นสาวน้อยคนไหนมีนิสัยดุร้ายและเกรี้ยวกราดเท่ากับเธอมาก่อน
“หยวนเอ๋อ”
“คะ? คุณปู่…” ในพริบตาเดียวเองเธอก็กลับกลายเป็นเด็กหญิงตัวน้อยที่สุภาพเรียบร้อยอีกครั้ง
“จ่ายเงินเขาไปซะ”
“แต่ว่าคุณปู่ เจ้าหมอนั่นมันดุข้าก่อน…ข้าก็เลย” หยวนเอ๋อที่ได้อธิบายออกมาได้แต่เม้มปากสำนึกผิด เธอในตอนนี้ได้ทำผิดไปแล้วนั่นเอง
ลู่โจวส่ายหัวของตัวเขาเอง เขาไม่คิดเลยว่าเหล่าศิษย์สาวกของเขาจะใช้กำลังแย่งชิงข้าวของจากผู้อื่นโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองนั้นเป็นคนผิด เจ้าพวกนี้คงจะไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเลยอย่างงั้นสินะ
‘ฉันจะต้องสอนเจ้าพวกนี้อย่างช้าๆ สินะ’
“ถ้าหากเจ้าขโมยของจากคนอื่นแบบนี้ แล้วใครกันล่ะอยากจะทำแอปเปิลเคลือบน้ำตาลนั่นอีก? “
“โอ้! ” หยวนเอ๋อตัวน้อยไม่มีทางเลือกอีกต่อไป เธอไม่สามารถเถียงอะไรกับผู้เป็นอาจารย์ได้เลย เธอจึงต้องเดินไปจ่ายเงินให้กับชายเจ้าของร้าน
“ติ้ง! คุณสั่งสอนหยวนเอ๋อ คุณได้รับแต้มบุญ 100 แต้ม”
หลังจากจบเรื่องทั้งหมดแล้วพวกเขาทั้งสองก็ได้เดินไปตามถนนปกติอีกครั้ง ในตอนนั้นเองลู่โจวสังเกตเห็นคนหนุ่มสาวกลุ่มใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า ลู่โจวที่เห็นแบบนั้นจึงได้ชี้ไปยังพวกเขาก่อนที่จะพูดกับหยวนเอ๋อ “ไปดูสิ”
“ได้เลยค่ะคุณปู่! ” หยวนเอ๋อรีบฝ่าฝูงชนมากมายโดยการกระโดดไปมา แต่ถึงแบบนั้นฝูงชนที่อยู่ตรงหน้าก็เบียดเสียดกันมากเกินไป หยวนเอ๋อจึงกระทืบเท้าไปบนพื้นด้วยความเดือดดาลจนพื้นตรงนั้นเป็นรูขนาดใหญ่
“หลีกทางซะ! “
ด้วยท่าทีที่เกรี้ยวกราดของหยวนเอ๋อทำให้เหล่าชายฉกรรจ์ทั้งหลายต่างหลีกทางให้กับเธอในทันที
“นั่นชาวยุทธ์อย่างงั้นหรอ! “
“เธอใช้เท้าที่มีเหยียบลงไปบนพื้นดิน! เธอจะต้องเป็นผู้ฝึกยุทธ์แน่ วรยุทธ์ของเธอช่างร้ายกาจ! สวรรค์นี่มัน…”
“เจ้าหนูนั่นเป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ! ทำไมเจ้าหนูนั่นถึงแข็งแกร่งกัน? “
ฝูงชนที่ต่างหลีกทางให้ ตอนนี้หยวนเอ๋อได้เปิดทางจนสำเร็จแล้ว
ลู่โจวได้แต่ส่ายหัวอย่างเบาๆ เช่นเคย ดูเหมือนว่าอารมณ์ของหยวนเอ๋อนั้นจะไม่ได้ดูเหมือนกับในตอนที่อยู่บนภูเขาทอง ไม่น่าแปลกใจที่เหล่าลูกศิษย์วายร้ายของตัวเขาต่างก็อยากที่จะออกจากภูเขาทองไปทำภารกิจแบบนี้ การออกจากภูเขาทองมาได้ก็เท่ากับว่าการได้รับอิสระมาอย่างงั้นสินะ เจ้าพวกนั้นคงจะสามารถทำตามอำเภอใจได้เท่าไหร่ก็ได้ตราบใดที่ออกจากภูเขามา
ในตอนที่เหล่าฝูงชนหลีกทางให้ หยวนเอ๋อในตอนนี้ก็ดึงดูดความสนใจของชาวบ้านทั้งหลาย
มีโต๊ะอยู่ตัวหนึ่งที่มีชายฉกรรจ์ทั้งสามกำลังนั่งอยู่ แต่ละคนนั้นพกดาบเอาไว้ที่เอว ชายคนที่มีหนวดเคราที่กำลังนั่งอยู่ตรงกลางได้จ้องมองมาที่หยวนเอ๋อก่อนที่จะพยักหน้าและพูดออกมา “ไม่เลวเลยนิ! เจ้าหนูมีฝีมือใช่เล่น เจ้าน่ะอยากจะเข้าร่วมกลุ่มของข้ารึเปล่าล่ะ”
“อะไรนะ? “
“เจ้าน่ะมีวรยุทธ์จนสามารถใช้ลูกเตะที่ทรงพลังแบบนั้นได้ เจ้าน่ะเป็นผู้ฝึกยุทธ์อย่างงั้นสินะ ไม่สนใจที่จะเข้าร่วมกับกลุ่มมังกรฟ้า สมาคมแห่งเมืองอันยางอย่างงั้นหรอ? ” ชายคนนั้นยังคงพูดต่อไป
“ข้าบอกว่าสนใจเข้าร่วมสมาคมมังกรเหม็นสาบของเจ้าตั้งแต่ตอนไหนกัน? ” หยวนเอ๋อที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้ถามออกมาอย่างงุนงง
“สามห้าว! เป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ เท่านั้นกล้ามาลบหลู่สมาคมมังกรฟ้าของเราได้ยังไงกัน! “
หยวนเอ๋อที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้ลอยตัวขึ้นไปบนอากาศก่อนที่จะใช้เท้าของเธอขยี้ไปยังโต๊ะที่อยู่ตรงนั้นอย่างรุนแรง โต๊ะตัวนั้นได้พลังทลายไปในทันที “สมาคมมังกรฟ้าอะไรกัน? พวกเจ้าน่ะมาทำอะไรกันที่นี่ รีบๆ บอกมาซะ คุณปู่ของข้ากำลังรออยู่! “
“เจ้าเด็กสามหาวนี่มันใครกัน? เจ้าน่ะกล้ามาลบหลู่เราถึงขนาดนี้ได้ยังไง? ไม่รู้จักความยิ่งใหญ่ของสมาคมมังกรฟ้าอย่างงั้นสินะ…”
ชายคนนั้นที่อดทนไม่ไหวอีกต่อไปกำลังจะโจมตี แต่ในตอนนั้นเองลู่โจวก็ได้เดินมาขวางซะก่อน “หยุดซะ! ” เสียงของลู่โจวนั้นไม่ได้ดังเลยแม้แต่น้อย แต่ถึงแบบนั้นมันก็ยังมีพลังแฝงเอาไว้ ชายคนนั้นที่ได้ฟังเสียงสามารถสัมผัสพลังได้อย่างชัดเจน
“น่าสนใจเหมือนกันนิเจ้าแก่นี่ เจ้าคงจะมีวรยุทธ์อยู่ในขั้นผ่อนคลายร่างกายระดับ 7 ไม่ก็ระดับ 8 อย่างงั้นสินะ? ” ชายคนนั้นได้จ้องมองไปที่ลู่โจวอย่างอยากรู้อยากเห็น
ลู่โจวในตอนนี้ไม่ได้คิดอะไรเลย ตัวเขาได้พูดออกมา “หยวนเอ๋อ เจ้าน่ะสามารถทำให้สมาคมมังกรฟ้าแห่งเมืองอันยางช่วยเราสืบข่าวได้นะ”
ตอนนั้นเองดวงตาของหยวนเอ๋อก็ได้เปล่งประกายขึ้นมา “ข้าเข้าใจแล้วค่ะท่านปู่! ” จากนั้นหยวนเอ๋อก็หันกลับมาสบตาของชายคนนั้นด้วยรอยยิ้มที่ดูน่ากลัวก่อนจะพูดออกมา “พวกเจ้าทั้งสามน่ะมานี่สิ! “
“ฮะ…ข้าพนันได้เลยว่าเจ้าหนูนี่ไม่รู้จักสมาคมมังกรฟ้าของพวกเราแล้วสินะ สมาคมของเราน่ะได้รับการสนับสนุนมาจากสำนักทางใต้! “
“อะไรกัน? สำนักทางใต้อย่างงั้นหรอ? ” หยวนเอ๋อที่ได้ยินแบบนั้นได้หยุดพูดก่อนที่จะหันหน้าไปมองท่านอาจารย์ ผู้นำสำนักทางใต้ที่คนพวกนี้พูดถึงก็คือศิษย์พี่คนโตของเธอนั่นเอง เธอที่เป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายกลัวว่าท่านอาจารย์จะรู้สึกโกรธ หยวนเอ๋อในตอนนี้จึงไม่ได้พูดอะไรออกไป
“ตอนนี้เจ้าน่ะกลัวแล้วอย่างงั้นสินะ? “
ลู่โจวขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปมองชายคนนั้นพร้อมพูดออกมา “เจ้าน่ะบอกว่าสมาคมมังกรฟ้าได้รับการสนับสนุนมาจากสำนักทางใต้สินะ? “
“ถูกต้อง! “
“เจ้าแก่ เจ้าก็ดูใช้การได้เหมือนกัน เจ้าน่ะเข้าร่วมกับสมาคมของพวกเราและเป็นพ่อครัวไปซะ ตราบใดที่อยู่ใต้สมาคมของพวกเรา เจ้าน่ะจะมีอาหารกินดื่มตลอดไปภายใต้ความปลอดภัย”