My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 274
อาวุธที่ห่อหุ้มไปด้วยพลังลมปราณได้ชนเข้ากับฝ่ามือของหลี่หยุนเฉา
ขันทีเฒ่าได้สกัดกั้นการโจมตีจากอาวุธด้วยมือเปล่า! เห็นได้ชัดว่ามือสังหารประเมินพลังของหลี่หยุนเฉาต่ำไป แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บก็ตาม แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ไม่ใช่คนที่จะถูกสังหารด้วยอาวุธลับง่ายๆ
หลี่หยินเฉาหันไปมองอาวุธชิ้นนั้นที่ถูกโจมตีออกมา “ไม่ต้องแปลกใจไป…มีผู้คนมากมายที่อยากจะลอบสังหารฆ่า เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับข้าไปแล้ว”
ลู่โจวมองไปที่อาวุธลับซึ่งกำลังวางอยู่บนพื้น
ถ้าหากดูอาวุธลับที่ตกอยู่ ดูเหมือนมือสังหารจะไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธยอดฝีมือธรรมดาทั่วไป
เป็นไปอย่างที่คาดเอาไว้ ที่เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ไม่ได้ต่างอะไรกับถ้ำเสื้อที่เต็มไปด้วยอันตราย
ไม่มีใครรู้สึกประหลาดใจกับเรื่องนี้
หลิวปิงเป็นคนที่มีความเข้มแข็งทางจิตใจที่มากกว่าคนทั่วไป ตัวเขาได้มองไปทิศทางหนึ่งก่อนที่จะพูดออกมา “นั่นมันมือสังหารสินะ? “
“ผู้ที่สามารถใช้พลังร่างอวตารดอกบัว 1 กลีบเป็นอย่างน้อยสินะ…น่าสนใจจริงๆ ” หลิวปิงได้พึมพำออกมา
หลี่หยุนเฉาได้มองหามือสังหารรอบตัว ตัวเขาพยายามที่จะค้นหามือสังหารคนนั้น
ในระหว่างที่หาตัวคนร้ายขันทีเฒ่าก็ได้พูดออกมา “ลำพังชีวิตของตัวข้าคงไม่ได้มีค่ามากมายอะไร…ถ้าหากอัครมเหสีไม่เลือกที่จะให้ข้าเป็นผู้ที่เชื่อใจได้ จนถึงตอนนี้ข้าก็คงจะต้องตายไปนานแล้ว ข้าคงจะไม่สามารถมีชีวิตจนมาถึงทุกวันนี้ได้เลย”
เป็นไปอย่างที่คาดไว้…คนที่ได้เจอที่เจดีย์ลอยฟ้าตอนนั้นเป็นคนเดียวกับคนที่ตามไล่ล่าหลี่หยุนเฉาคนนี้
หลี่หยุนเฉาได้พูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้ามือสังหารน่ารังเกียจ! “
น้ำเสียงแหลมคมของเขาได้ดังขึ้น เพียงแค่ได้ยินเสียงเท่านั้นทุกคนก็สัมผัสได้ถึงความโกรธของขันทีเฒ่าคนนี้
เมื่อทุกคนรู้สึกหมดหนทางลู่โจวก็ได้พูดออกมา “หยวนเอ๋อ”
“ค่ะ ท่านอาจารย์”
“ไปจับเจ้านั่นมาซะ”
“ฮิฮิ…ศิษย์น้อมรับคำสั่ง” หยวนเอ๋อรู้สึกดีใจมาก นางไม่เคยได้รับความไว้วางใจเพื่อที่จะทำงานที่สำคัญแบบนี้มาก่อน
เหตุผลที่ลู่โจวมอบงานนี้ให้หยวนเอ๋อเป็นเพราะว่าหยวนเอ๋อเป็นผู้ที่เหมาะที่สุดแล้วที่จะจับมือสังหาร นอกจากนี้นางยังมีสมบัติล้ำค่าติดตัวมากมายหลายชิ้น แม้ว่านางจะเป็นผู้มีพลังร่างอวตารดอกบัว 1 กลีบเท่านั้น แต่การจะจัดการกับมือสังหารที่อยู่ในระดับเดียวกันคงจะเป็นเรื่องง่ายแสนง่ายสำหรับหยวนเอ๋อ
หยวนเอ๋อกระโดดขึ้นจากพื้นก่อนที่จะลอยอยู่เหนือคฤหาสน์แห่งนี้ นางได้ใช้สายสะพายนิพพานออกมา สายสะพายที่แผ่ขยายออกมาจากตัวทำให้หยวนเอ๋อดูราวกับดอกไม้ที่กำลังผลิบาน
เมื่อหยวนเอ๋อได้ลอยขึ้นฟ้านางก็ได้ใช้วิชาเจ็ดดวงดาวล่องเมฆาบดขยี้ด้วยรองเท้าเหยียบเมฆา ที่ตัวของหยวนเอ๋อเต็มไปด้วยแสงสีฟ้า หยวนเอ๋อในตอนนี้ได้ดูเหมือนดาวในยามราตรี นางได้ส่องประกายสว่างออกมาอยู่เหนือเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
พรึ๊บ!
เมื่อหยวนเอ๋อได้หายตัวไป หลี่หยุนเฉาที่ยืนมองอยู่ก็ได้แต่กลืนน้ำลายด้วยความตกใจ แม้ว่าตัวเขาจะรู้ดีว่าสาวน้อยคนนี้ไม่ได้มีพลังวรยุทธที่แข็งแกร่งไปกว่าเขา แต่ถึงแบบนั้นหลี่หยุนเฉาก็สัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งจากสาวน้อยคนนี้ได้
ฉินจานและหงฟู่ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะได้เห็นเหล่ายอดฝีมือ
แม้ว่าจะเจอกับยอดฝีมือมามากแค่ไหนแต่พวกเขาก็ไม่เคยพบกับอัจฉริยะแบบนี้ ถ้าหากสาวน้อยคนนี้มีอายุมากขึ้น นางจะต้องมีพลังวรยุทธที่แข็งแกร่งกว่านี้แน่! กว่าจะถึงตอนนั้นได้ก็เหลือเพียงแค่เวลาเท่านั้น สาวน้อยคนนี้จะไปได้อีกไกลแค่ไหนกัน? ในตอนนี้ไม่มีใครอาจล่วงรู้ได้
หลังจากที่ผ่านไปครู่หนึ่ง หลิวปิงที่เห็นแบบนั้นได้ปรบมือก่อนที่จะพูดขึ้น “ข้าได้ยินมาว่าสาวกศาลาปีศาจลอยฟ้าล้วนแต่มีความสามารถที่น่าทึ่ง ตอนนี้ข้าได้เห็นมันกับตาตัวเองแล้ว! ข้ารู้สึกประทับใจจริงๆ! “
“เจ้าน่ะช่างพูดซะจริง” ลู่โจวได้พูดออกมา
“ข้า…” จู่ๆ หลิวปิงก็รู้สึกว่าตัวเองแสดงท่าทีที่หยิ่งผยองออกไป มันเป็นท่าทีที่ไม่ได้ให้เกียรติผู้อาวุโสที่อยู่ตรงหน้า ตัวเขาได้ลดเสียงก่อนที่จะพูดออกมา “ที่ข้าพูดออกไปทั้งหมดก็เพราะอยากที่จะทำความรู้จักท่านมากกว่า ท่านผู้อาวุโส”
“อยากทำความรู้จักข้าอย่างงั้นหรอ? “
“ข้าเพิ่งจะกลับมาจากดินแดนที่แสนห่างไกลอย่างหรงเป่ย มีหลายสิ่งหลายอย่างในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าไม่อาจที่จะทำความเข้าใจได้ และแน่นอนว่าข้าเองก็ไม่ได้มีสหายอยู่เลย ด้วยพลังวรยุทธของท่านผู้อาวุโสที่ลึกล้ำด้วยแล้ว ข้าก็เลยอยากที่จะพูดคุยทำความรู้จักกับท่านผู้ซึ่งเป็นยอดคนแห่งยุค” หลิวปิงได้พูดออกมา
“แล้วเจ้าไปที่สำนักดาบสวรรค์ทำไมกัน? ” ลู่โจวได้ถามออกมา
หลิวปิงที่ได้ยินแบบนั้นสั่นไปทั้งตัว “ท่านผู้อาวุโสรู้เรื่องนั้นด้วยสินะ? เป็น ไปอย่างที่ข้าคิดเอาไว้จริงๆ ข้าเคยไปที่สำนักดาบสวรรค์จริง โชคไม่ดีที่ลั่วซิงกงเจ้าสำนักดาบสวรรค์ได้ตายไปเพราะความแค้นที่ตัวเองมี…จุดจบของเขาช่างน่าอนาถใจจริงๆ “
“เจ้ารู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นที่แท่นประลองดอกบัว? “
“ข้าเคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้าง…ข้าได้ยินมาว่าท่านผู้อาวุโสได้ช่วยผู้ฝึกยุทธมากมายหลายคนเอาไว้ด้วยความเมตตา เหล่าผู้ฝึกยุทธได้ลือกันไว้ว่าท่านก็เหมือนกับพระผู้เป็นเจ้าของเหล่าผู้ฝึกยุทธที่ถูกช่วยชีวิตเอาไว้” หลิวปิงได้พูดออกมา
“เจ้าคิดว่าข้าไม่ใช่ผู้มีเมตตาสินะ? “
“ไม่…ไม่…ไม่เลย” หลิวปิงได้โบกมือพร้อมกับส่ายหัวปฏิเสธ “ตรงกันข้ามต่างหาก ถ้าหากท่านผู้อาวุโสไม่ใช่ผู้มีเมตตาจริงๆ ไม่มีทางเลยที่ผู้ฝึกยุทธพวกนั้นจะรอดตายมาได้ถ้าหากไม่ได้ท่านช่วยไว้”
หลิวปิงรู้แล้วว่าการสนทนาในครั้งนี้จะทำให้ตัวเขาเจอกับอันตราย แม้ว่าปรมาจารย์จีเทียนเด๋าจะดูสุขุมนุ่มลึก แต่แท้จริงแล้วเขาก็เป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหว การที่จะไปยั่วยุชายคนนี้เข้าโดยไม่ได้ตั้งใจคงจะเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ แน่
“เกือบไปซะแล้ว” สิ่งที่หลิวปิงพูดเกือบที่จะทำให้ลู่โจวรู้สึกโกรธ คำพูดของเขาได้ทำให้ลู่โจวเป็นเหมือนกับผู้ที่ใช้กำลังข่มขู่เหล่าผู้ฝึกยุทธทั้งหลายที่รอดตัวมา ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นอะไรที่น่าเชื่อกว่าก็ตาม แต่การพูดอะไรตรงๆ ต่อหน้าปรมาจารย์มหาวายร้ายแบบนั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรจากการฆ่าตัวตายดีๆ นี่เอง
หลิวปิงเริ่มคิดเสียใจแล้วที่มาที่นี่ด้วยตัวเองแบบนี้
ในตอนนี้สายสะพายสีแดงสดได้ลอยอยู่เหนือคฤหาสน์แห่งพลังราวกับมังกรที่กำลังเต้นรำ
ผู้คนที่อยู่เบื้องล่างแทบที่จะมองไม่เห็นหยวนเอ๋ออีกต่อไป ความเร็วที่นางเคลื่อนไหวเป็นความเร็วที่รวดเร็วเป็นอย่างมาก
หยวนเอ๋อในตอนนี้กำลังบินรอบตัวเองโดยใช้ความสามารถของรองเท้าเหยียบเมฆา ในขณะที่บินรอบตัวสายสะพายของนางก็ได้พันรอบตัวของหยวนเอ๋อเอาไว้
หยวนเอ๋อที่ลอยอยู่บนฟ้าเห็นผู้ฝึกยุทธชุดดำได้อย่างชัดเจน นางได้พุ่งตัวไปก่อนที่จะใช้ลูกเตะโจมตีมือสังหารคนนั้น
พรึ๊บ!
มือสังหารที่ถูกโจมตีได้ร่วงหล่นลงสู่ลานบ้านของคฤหาสน์แห่งพลัง
“ติ้ง! จับผู้ฝึกยุทธขั้นมหาภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์ได้ ได้รับแต้มบุญ: 200”
หลี่หยุนเฉาได้จ้องไปรอบๆ ชายคนนั้นก่อนที่จะอุทานออกมาด้วยความตกใจ “จุดพลังลมปราณของเจ้านี่…ถูกทำลายไปแล้วนิ นี่มัน…”
หยวนเอ๋อค่อยๆ ลอยลงมาอย่างช้าๆ
ด้วยสายสะพายนิพพานที่นางมีตรงเอวรวมไปถึงรองเท้าเหยียบเมฆาที่ส่องสว่างออกมาทำให้หยวนเอ๋อในตอนนี้ดูเหมือนกับเทพธิดาที่กำลังลอยลงมาจากสวรรค์ สาวน้อยตัวเล็กๆ บัดนี้ได้เติบโตขึ้นมาแล้ว
หยวนเอ๋อได้คารวะก่อนที่จะพูดออกมา “ท่านอาจารย์ ศิษย์อธิบายได้! ศิษย์ไม่ได้ตั้งใจจะโจมตีรุนแรงแบบนั้น ศิษย์กลัวว่าเจ้านี่จะหนีไป เพราะแบบนั้นศิษย์ก็เลยไม่มีทางเลือกนอกซะจากทำลายจุดพลังลมปราณของเจ้านี้ในการโจมตี”
‘สาวน้อยนี่ช่างน่ากลัวจริงๆ! ‘
หยวนเอ๋อได้พยายามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมากที่สุด นี่เป็นศิษย์ที่อายุน้อยที่สุดของศาลาปีศาจลอยฟ้าอย่างงั้นหรอ?
หลี่หยุนเฉายอมรับว่าตัวเองประเมินพลังของศาลาปีศาจลอยฟ้าต่ำไป แม้ว่าปรมาจารย์จีจะแก่มาแล้ว แต่ถึงแบบนั้นเหล่าสาวกของเขาก็ไม่ได้ด้อยพลังเลย เหล่าสาวกของปรมาจารย์คนนี้ล้วนแต่เป็นอัจฉริยะด้วยกันทั้งนั้น!
ใครจะรับประกันได้ว่าศิษย์คนที่เก้าคนนี้จะไม่เติบโตจนกลายมาเป็นปรมาจารย์จีคนต่อไปในอนาคตได้กัน?
ในที่สุดฉินจานก็ได้พูดออกมา “ท่านหยวนเอ๋อ ข้าคิดว่าวิธีการนี้เป็นวิธีการที่ดีที่สุดแล้วที่จะใช้กับมือสังหารนี่ได้ พวกเราต้องไม่ลืมว่าเจ้านี่เองก็ใช้วิธีการอันน่ารังเกียจอย่างการลอบสังหาร เพราะแบบนั้นการใช้วิธีนี้โต้ตอบกลับไปข้าคิดว่าไม่ใช่เรื่องผิดเลย”
ลู่โจวพยักหน้าก่อนที่จะพูดออกมาอย่างพอใจ “เยี่ยมมาก”
เป็นเรื่องที่ดีที่ลู่โจวจะได้เห็นการเติบโตของเหล่าสาวกในทางที่ควร
หยวนเอ๋อหัวเราะคิกคักอย่างดีใจ “ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะท่านอาจารย์! ศิษย์จะตั้งใจทำงานให้ดีกว่านี้! “
ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างที่แปลกไป หลี่หยุนเฉาและองค์ชายสี่หลิวปิงถึงกับพูดไม่ออก หยวนเอ๋อที่มาถึงเป็นคนสุดท้ายได้เดินเข้ามาใกล้มือสังหารก่อนที่จะเอ่ยปากขึ้น “ใครส่งเจ้ามากัน? “
มือสังหารชุดดำไม่ได้ตอบกลับมา
“ถ้าหากเจ้าไม่ยอมพูด ข้าจะพาเจ้ากลับไปที่ศาลาปีศาจลอยฟ้าเอง เมื่อถึงเวลานั้นศิษย์พี่สามและศิษย์พี่สี่ของข้าจะต้องเค้นคำตอบมาจากปากแข็งๆ ของเจ้าได้แน่ ศิษย์พี่สี่ของข้าน่ะมีวิธีการอันแสนแยบยลที่จะรีดเร้นความลับจากปากของศัตรูมาอยู่แล้ว…”
ฟรึ๊บ!
มือสังหารชุดดำดวงตาเบิกกว้าง หัวของเขาได้หันไปทางด้านข้างก่อนที่จะล้มลง
หลี่หยุนเฉาที่เห็นแบบนั้นก้มตัวลงก่อนที่จะตรวจจับชีพจร “เขาตายแล้ว”
“ห๊ะ! ตายแล้วอย่างงั้นหรอ…เจ้าคนขี้ขลาด! ” หยวนเอ๋อรู้สึกลุกลี้ลุกลน นางที่ได้แต่กลัวความผิดได้หันไปหาผู้เป็นอาจารย์ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล
ลู่โจวที่เห็นแบบนั้นก็ได้พูดออกมา “เจ้านี่กัดลิ้นตัวเอง ดูเหมือนว่าเขาจะอมยาพิษอยู่ที่ใต้ลิ้นแต่แรกแล้ว เจ้าพวกไม่รักชีวิตพวกนี้ ข้าน่ะไม่แปลกใจเลย”
ลู่โจวได้ส่ายหัวก่อนที่จะถอนหายใจออกมา
‘น่าเสียดายจริงๆ ฉันควรจะปล่อยให้หยวนเอ๋อจัดการเจ้านี่ไปซะเลย การที่เขาฆ่าตัวตายไปไม่ได้ทำให้ฉันได้แต้มบุญเพิ่ม หรือว่าฉันสั่งสอนลูกศิษย์ไปในทางที่ผิดกันแน่นะ? ‘