My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 288
ลู่โจวมองเห็นแสงสีแดงที่ส่องออกมาจากอาวุธนิรนามได้อย่างชัดเจน ในตอนนี้อาวุธนิรนามดูยาวขึ้นกว่าเดิมแล้ว
‘แล้วระดับของมันล่ะ? ‘ ลู่โจวยังไม่แน่ใจในเรื่องนี้ และเพราะเกิดความสงสัยตัวเขาจึงสั่งให้อาวุธนิรนามนั้นกลับมา เมื่ออาวุธนิรนามกลับมาลู่โจวก็ยังคงสั่งการอาวุธนิรนามต่อไป ตัวเขาได้เปลี่ยนมันให้กลายเป็นค้อน, กระบี่, สามง่าม และอาวุธชิ้นอื่นๆ แม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นอาวุธชิ้นอื่นแต่มีเพียงดาบเท่านั้นที่ยังมีพลังของคำจารึกล้อมรอบเอาไว้อยู่ อาวุธนิรนามในรูปแบบดาบมีพลังมากกว่ารูปแบบอื่นๆ แล้วนั่นเอง ‘ดูเหมือนว่ามันยังมีศักยภาพที่สูงได้มากกว่านี้ เพราะแบบนั้นก็เลยยังไม่รู้ระดับของมันสินะ? ‘
ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่นี่ก็ยังไม่ใช่เวลามาศึกษาอาวุธนิรนาม ลู่โจวได้เก็บมันไปก่อนที่จะตรวจสอบรอบตัวเอง ในตอนนี้มันเงียบจนน่าตกใจ เมื่อตัวเขามั่นใจว่าปลอดภัยแล้วสุดท้ายลู่โจวก็ลอยลงมาบนพื้น หลังจากที่คำนวณไปตัวเขาได้ใช้การ์ดป้องกันไร้ที่ติดไป 2 ใบด้วยกัน ในการต่อสู้ครั้งนี้ตัวเขายังไม่ได้รับแต้มบุญแม้แต่คะแนนเดียวซะด้วยซ้ำ นี่ถือเป็นอะไรที่ขาดทุนย่อยยับ
ตัวเขาได้จ้องมองดูม่านพลังแห่งดาบทั้งเจ็ดที่อยู่บนพื้น อันที่จริงมันไม่ได้ส่องแสงสว่างอีกต่อไป ในตอนนี้ไม่มีวี่แววว่ามันจะถูกใช้งานขึ้นมาได้อีก
‘แปลก’ ลู่โจวเดินไปหาดาบมารที่วางอยู่
ตอนนี้หลุมฝังศพที่เคยมีได้แตกสลายไปแล้ว ไม่มีอะไรอย่างอื่นเหลืออยู่นอกซะจากโซ่ทั้งแปดที่ขาดออกจากกัน มีเพียงดาบไม่กี่เล่มเท่านั้นที่ยังไม่ได้รับความเสียหายไป ดาบที่ยังรอดจากการต่อสู้มาได้ล้วนแต่เป็นดาบชั้นดี
ในขณะนี้ผู้ฝึกยุทธที่ได้รับบาดเจ็บต่างก็ลุกขึ้นมาเพื่อคารวะลู่โจวอย่างจริงใจ เสียงหน้าผากที่โคกกับพื้นได้ดังไปทั่วสุสานแห่งดาบ
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโส! “
“ขอบคุณท่านปรมาจารย์! “
“ท่านมีพระคุณกับข้าเหมือนกับพ่อแม่แท้ๆ ได้โปรดรับการเคารพจากพวกเราด้วยเถอะ! “
“ติ้ง! ได้รับการเคารพบูชา 15 คน ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 150” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือนนี้ลู่โจวก็ไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ‘ฉันเนี่ยนะช่วยพวกแกไว้…’
ผู้ฝึกยุทธจากสี่สำนักใหญ่ต่างก็ถูกจำกัดไปจนหมดแล้ว ในตอนนี้เหลือเพียงผู้ฝึกยุทธจากสำนักย่อยเท่านั้น เพราะแบบนั้นลู่โจวจึงไม่ได้กังวลอะไร
ตัวเขาได้เดินไปยังดาบมารก่อนที่จะใช้พลังลมปราณใส่ไปที่มัน…
ในตอนนั้นนักบวชอย่างกงหยวนก็ได้พลิกกลับร่างกายของตัวเองก่อนที่จะลุกขึ้นยืนด้วยเท้าทั้งสองข้าง…พลังมุทราได้ถูกใช้งานออกมาอีกครั้ง ตัวเขาได้มองไปรอบๆ ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง สีหน้าของกงหยวนแทบไม่อยากที่จะเชื่อในสิ่งที่เห็น ‘นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน? นานแค่ไหนแล้วที่ข้าไม่ได้สติ? แล้วม่านพลังแห่งดาบทั้งเจ็ดอยู่ไหนกัน? ทำไมดาบมารถึงถูกวางลงบนพื้นแบบนี้ได้? ‘
สมองของกงหยวนได้รับแรงกระทบกระเทือนนิดหน่อย ตัวเขาได้พยายามลองนึกดูในที่สุดก็จำทุกอย่างได้ ก่อนที่ตัวเขาจะหมดสติไปกงหยวนได้คว้าดาบมารเอาไว้ ตัวเขาได้พ่ายแพ้ให้กับดาบมารเล่มนี้ก่อนที่จะร่วงหล่นลงสู่พื้น โชคยังดีที่ตัวเขายังได้รับการปกป้องจากลูกประคำทั้งหลาย กงหยวนในตอนนี้จึงไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอะไร
“เป็นเจ้าเองอย่างงั้นหรอ.? ” สีหน้าตื่นตกใจของกงหยวนได้เปลี่ยนไปเป็นสีหน้าแห่งความโกรธเกรี้ยวแทน
“กงหยวน…” ลู่โจวลูบเคราของตัวเอง
“ไม่มีใครสามารถแตะต้องดาบเล่มนี้ได้ มันเป็นของข้าแล้ว ข้าไม่สนใจหรอกว่าเจ้าจะทำลายม่านพลังแห่งดาบทั้งเจ็ดได้ยังไง…ข้าจะเป็นผู้เอาดาบมารเล่มนี้ไปเอง” กงหยวนหลงลืมสิ่งที่เกิดขึ้นไปอย่างสมบูรณ์แบบ
“โอ้? ” ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง ลู่โจวที่เห็นกงหยวนยังมีชีวิตอยู่รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
กงหยวนยกฝ่ามือก่อนที่จะพูดออกมา “ประสก ข้ารู้สึกขอบคุณเจ้าจริงๆ ที่ทำลายม่านพลังแห่งดาบทั้งเจ็ดให้ แต่ดาบเล่มนี้…มีเพียงผู้ที่มีความสามารถเท่านั้นจึงจะใช้งานมันได้” กงหยวนได้โจมตีในตอนที่ลู่โจวยังไม่ทันตั้งตัว
ลู่โจวลูบเคราของตัวเองก่อนที่จะพูดขึ้น “ข้าพูดไปแล้ววิถีพุทธก็คือวิถีพุทธและวิถีปีศาจก็คือวิถีปีศาจ…วิถีพุทธปีศาจของเจ้าน่ะไม่ใช่วิถีพุทธที่แท้จริงหรอกนะ…”
“เจ้ากำลังสอนข้าถึงเรื่องการฝึกยุทธอย่างงั้นหรอ? ” กงหยวนที่พูดเสร็จหัวเราะออกมาเบาๆ ตัวเขายังไม่ได้ใช้พลังมุทราผสานออกมา กงหยวนได้แสดงสีหน้าไม่พึงพอใจก่อนที่จะพูดออกมาอีกครั้ง “พลังวิถีพุทธปีศาจของซู่จินฉานเป็นเพียงแค่ของเล่นเด็กเท่านั้น เจ้านั้นเทียบเคียงข้าไม่ได้แม้แต่นิดเดียว ข้าเป็นเพียงคนเดียวและคนแรกในโลกที่สามารถฝึกฝนวิถีพุทธปีศาจมาได้…ถ้าหากบอกว่าข้าเป็นผู้ฝึกวิถีพุทธปีศาจเป็นคนที่สอง แล้วเจ้าคิดว่าใครเป็นคนแรกที่ฝึกฝนมันได้ล่ะ? “
พลังมุทราทั้งสองแบบได้ผสานหลอมรวมกันก่อนที่จะเข้าโจมตีลู่โจว
ลู่โจวส่ายหัวก่อนที่จะตอบกลับไป “กบในกะลา…” ตัวเขาได้หยุดพูดไปก่อนที่จะพูดเน้นเสียงออกมา “ข้าจะสอนเจ้าเองว่าอะไรกันคือวิถีพุทธปีศาจ” ลู่โจวได้ยกมือขึ้นมา ในมือของเขามันมีแสงสว่างจางๆ ส่องออกมา แสงสว่างที่ได้ส่องออกมาได้หมุนวนรอบฝ่ามือของลู่โจว
“หืม? ” กงหยวนเริ่มรู้สึกไม่ดี แม้ว่าพลังที่มือลู่โจวจะไม่ได้ผันผวนอย่างรุนแรงก็ตาม แต่ถึงแบบนั้นตัวเขากลับรู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัย มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนที่เผชิญหน้ากับภัยอันตราย
ผู้ฝึกยุทธที่อยู่ใกล้ๆ ต่างก็ขมวดคิ้วสงสัย
“ท่านผู้อาวุโสเป็นใครกันแน่? “
“พลังของเขาคงจะทัดเทียมได้กับกงหยวน! “
“ท่านผู้อาวุโสเป็นนักบวชพุทธจากคนละวิหารอย่างงั้นหรอ? “
ผู้ฝึกยุทธทั้งหลายยังคงจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับวิหารชาวพุทธได้ดี มันเป็นข่าวใหญ่ที่ถูกพูดถึงกันทั่วทั้งยุทธภพ มีข่าวมาว่าวิหารแห่งความว่างเปล่าได้ขัดแย้งกับวิหารทางเลือกแห่งสวรรค์ หลังจากวิหารแห่งความว่างเปล่าส่งคนไปลงโทษวิหารทางเลือกแห่งสวรรค์ ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างสี่นักบวชศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกส่งไปถูกฆ่าตายทั้งหมด วิหารทางเลือกแห่งสวรรค์ได้ยุบตัวลง จนถึงตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมากันแน่ แต่ทุกคนต่างรู้กันดีว่าเกิดความบาดหมางบางอย่างในระหว่างวิหารพุทธด้วยกันเอง!
ลู่โจวยืดหลังตรง ตัวเขางอแขนไปด้านหน้าก่อนที่จะผลักพลังฝ่ามือออกไป พลังฝ่ามือเล็กๆ ได้ลอยไปที่ด้านหน้าของลู่โจว
“พลังฝ่ามือไร้ความกลัวเล็กจิ๋ว? ” กงหยวนไม่รู้เลยว่าตัวเขาควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีที่ถูกคนแบบนี้เหยียดหยาม “นี้คือสิ่งที่เจ้าเรียกมันว่าพลังวิถีพุทธปีศาจอย่างงั้นหรอ? …นี่…นี่มันก็แค่…”
เมื่อพูดไปได้ครึ่งทางพลังฝ่ามืออันเล็กจิ๋วก็ได้ขยายใหญ่ขึ้น พลังฝ่ามือได้ขยายขนาดจนมีขนาดพอๆ กับตัวของกงหยวน ท้ายที่สุดแล้วมันก็ขยายไปจนมีขนาดหลายฟุตด้วยกัน
พลังฝ่ามือไร้ความกลัวขนาดเล็กได้กลายเป็นสุดยอดพลังฝ่ามือไร้ความกลัวไปแล้ว! นอกจากมันจะขยายขนาดขึ้น พลังฝ่ามือนี้ยังเปลี่ยนกลายเป็นสีดำ
กงหยวนรีบถอยห่างในทันทีก่อนที่จะปล่อยพลังมุทราผสานออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
คนอื่นๆ ที่ได้เห็นก็ได้แต่อ้าปากค้าง มีผู้ใช้พลังวิถีพุทธผสานได้เก่งกาจถึงเพียงนี้!
‘ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ชาวพุทธเต็มไปด้วยยอดฝีมือเช่นนี้? ‘
‘นักบวชผู้ปลีกตัวจากทางโลกมีพลังถึงขนาดนี้ได้ยังไงกัน? ‘
กงหยวนรีบใช้พลังพุทธองค์กายาทองคำออกมาเพื่อใช้พลังมุทราผสานออกไป “สุดยอดพลังฝ่ามือไร้ความกลัวจะไปทำอะไรข้าได้กัน…”
ตู๊ม!
สุดยอดพลังฝ่ามือไร้ความกลัวได้ขยายขนาดใหญ่อีกครั้ง
พลังพุทธองค์กายาทองคำเป็นเหมือนกับของเด็กเล่นในทันทีเมื่อถูกพลังฝ่ามือสีดำโอบล้อมเอาไว้
ตู๊ม!
มีเสียงระเบิดครั้งใหญ่ดังกึกก้องก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบสงบลง
ลู่โจวมองไปที่พลังฝ่ามือที่ค่อยๆ สลายหายไปอย่างไม่แยแส
“ติ้ง! สังหารผู้ฝึกยุทธขั้นมหาภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์ ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 1,500”
‘ค่อยคุ้มทุนขึ้นมาหน่อย’ แม้ว่าจะยังคุ้มค่าอยู่ แต่ถ้าหากเป็นแบบนี้ต่อไปในที่สุดลู่โจวก็จะต้องไปถึงสถานการณ์ที่ไม่อาจใช้การ์ดการโจมตีของเพชฌฆาตได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบนั้นก็ตามตัวเขาก็จะต้องสังหารกงหยวนให้ได้อยู่ดี
หลังจากที่พลังฝ่ามือสีดำได้หายไป ลูกประคำก็ได้ร่วงหล่นลงมาจากอากาศ
“ติ้ง! ได้รับลูกประคำอธิษฐานชาวพุทธ จำเป็นจะต้องขัดเกลาเพื่อใช้งาน”
นี้เป็นผลลัพธ์ที่ลู่โจวไม่ได้คาดคิดเอาไว้ ตัวเขาได้โบกมือก่อนที่ลูกประคำจะลอยเข้ามาหา
ยอดฝีมือชั้นหนึ่งจากวิหารชาวพุทธทั้งสี่ เจ้าอาวาสจากวิหารแห่งความว่างเปล่าผู้ที่ฝึกฝนพลังวิถีพุทธปีศาจคนแรกในตอนนี้กงหยวนได้เสียชีวิตแล้ว
เจียงอาเฉียนถึงกับตกตะลึง
แคล๊ง!
ดาบคีตะมังกรได้หลุดมือเจียงอาเฉียนไป
เมื่อหยวนเอ๋อเห็นแบบนั้นนางก็ได้พูดออกมา “เจ้านั่นเรียกตัวเองว่าเป็นผู้ฝึกพลังวิถีพุทธปีศาจคนแรกได้ยังไงกัน…ถุ้ย! “
ในที่สุดเจียงอาเฉียนก็กลับมามีสติอีกครั้ง ตัวเขารีบเก็บดาบคีตะมังกรคู่ใจขึ้นมาก่อนที่จะเช็ดมันอย่างเร่งรีบ
“ท่านผู้อาวุโส ในยามที่ท่านเคลื่อนไหวทุกอย่างก็ล้วนถูกคลี่คลายได้! ข้าเจียงอาเฉียนไม่เคยรู้สึกประทับใจใครเท่ากับท่านผู้อาวุโสมาก่อน! “
ผู้ฝึกยุทธคนอื่นๆ เองก็โค้งคำนับอีกครั้ง
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโส”
เป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับลู่โจวที่ตัวเขาไม่อาจรับรางวัลจากการคารวะเป็นครั้งที่สองได้
ลู่โจวไม่ได้สนใจอะไรพวกเขา ตัวเขาได้โบกมือเพื่อที่จะเรียกดาบมารให้มาที่มือ เมื่อได้จับดาบมารความเย็นยะเยือกจากด้ามจับก็ได้ไหลเข้าสู่ฝ่ามือของเขา อย่างที่เคยคาดคิดเอาไว้ ดาบเล่มนี้ไม่ใช่ของธรรมดา
ลู่โจวหรี่ตาลงเล็กน้อย ในตอนนั้นเองดาบมารก็ได้สั่นไหว แน่นอนว่าดาบมารคงจะรู้สึกกลัวไม่ได้ มีเพียงความเป็นไปได้เดียวเท่านั้นดาบเล่มนี้คงจะไม่อยากถูกลู่โจวควบคุม
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงดันอันแปลกประหลาดดังออกมาจากอุโมงค์
แคล็ก! แคล็ก! แคล็ก!
ทุกๆ คนที่ได้ยินเสียงแปลกประหลาดได้หันไปมองในทันที