My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 546 การกลับมา
ทั้งสามคนยังคงต่อสู้กันต่อไป
บรรยากาศรอบศาลาปีศาจลอยฟ้าเต็มไปด้วยความปั่นป่วนและวุ่นวายมีพลังงานแผ่ออกไปทางม่านพลัง แต่ถึงแบบนั้นม่านพลังก็ยังสกัดกั้นพลังเหล่านั้นได้
ในตอนแรกพลังคลื่นนภาของยี่เทียนซินไม่ได้รุนแรงอะไรแต่เมื่อมันถูกปลดปล่อยออกมามากขึ้น พลังคลื่นนภาของยี่เทียนซินก็ไหลออกมาราวกับกระแสน้ำที่ไม่มีที่สิ้นสุด คลื่นน้ำอันเย็นยะเยือกได้เพิ่มพลังถาโถมเข้าใส่เป้าหมายอย่างไม่หยุดยั้ง
ยี่เทียนซินที่สวมชุดขาวกำลังจ้องมองคู่ต่อสู้ทั้งคู่อยู่
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่ศาลาปีศาจลอยฟ้าจะสยบทั่วทั้งใต้หล้าได้…ศิษย์คนแรกอย่างยู่เฉิงไห่และศิษย์คนรองอย่างยู่ฉางตงเองต่างก็เป็นยอดฝีมือที่โดดเด่นด้วยกันทั้งคู่แม้แต่ศิษย์คนที่หกก็ยังเก่งกาจเช่นนี้ ข้าไม่แปลกใจเลย ไม่แปลกใจเลยจริงๆ” ฮั๊ววู่เด๋าที่เห็นพลังของยี่เทียนซินได้อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง
“พลังวิชาคลื่นนภาช่างงดงาม…นางกำลังต่อสู้กับศัตรูถึงสองคนถ้าหากข้าไม่เห็นกับตาตัวเองข้าก็คงจะไม่เชื่อแน่”
“เรื่องที่พวกเราควรในตอนนี้ก็คือการปลุกท่านปรมาจารย์ให้ตื่นมากกว่า”
เมื่อได้ยินแบบนั้นเล้งลั่วก็ได้ปฏิเสธ“ไม่”
“เจ้าหมายความว่าอะไรกัน”
“เมื่อใครก็ตามที่อยู่ในสภาวะหลับใหลแบบนั้นมันอาจจะเป็นอันตรายร้ายแรงก็ได้ถ้าหากพวกเราพยายามปลุกท่านปรมาจารย์” เล้งลั่วให้เหตุผล
“แล้วเจ้าจะบอกให้พวกเรายืนอยู่เฉยๆอย่างงั้นเหรอ” ผู้อาวุโสคนอื่นๆ ต่างก็ดูหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
“เด็กสาวคนนั้นเพิ่งจะฝึกฝนตัวเองจนมีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบได้เท่านั้นนางคงจะยื้อพวกเขาได้เพียงพักเดียวเท่านั้น…”
ทุกๆคนต่างก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ในตอนนี้มันก็ขึ้นอยู่กับยี่เทียนซินแล้ว
มันไม่มีความหมายเลยที่ผู้มีพลังอวตารดอกบัวเจ็ดกลีบและผู้ฝึกยุทธที่อยู่ด้านล่างจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้นอกจากนี้ผู้ที่มีพลังวรยุทธสูงที่สุดที่ยังเหลืออยู่ก็คือหมิงซี่หยิน ตัวเขามีพลังอวตารดอกบัวห้ากลีบเพียงเท่านั้น
ตู๊ม!ตู๊ม! ตู๊ม!
ที่บนอากาศยังคงเกิดการปะทะกันของพลังอันมหาศาลอย่างต่อเนื่อง
ยี่เทียนซินใช้สมาธิอย่างมากกับการโจมตีแต่อย่างไรก็ตามคู่ต่อสู้ของนางก็คือหลิวเก้อ ผู้ที่ครอบครองอาวุธระดับสรวงสวรรค์ขั้นสุดยอดดาบแห่งความเงียบ และนอกจากนี้ยังมีหนึ่งในแปดแม่ทัพใหญ่ชู่เฉิง ผู้มีประสบการณ์การต่อสู้ที่สูงส่งจากสนามรบ การต่อสู้กับยอดฝีมือพร้อมกันถึงสองคนแบบนี้มันยากลำบากอย่างไม่ต้องสงสัย
…
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
การต่อสู้ค่อยๆใกล้ถึงจุดสิ้นสุด
การต่อสู้ในตอนนี้ไม่ได้รุนแรงเหมือนกับในตอนต้น
ในขณะนั้นเองชู่เฉิงก็สังเกตเห็นพลังงานรอบตัวของลู่โจวเกือบที่จะจางหายไปแล้ว“ฝ่าบาท! พลังการป้องกันของผู้อาวุโสจีใกล้จะหมดลงแล้ว! ข้าจะจัดการกับแม่นางนั่นเอง!”
“ดี”หลิวเก้อเองก็สังเกตเห็นเช่นกัน ในที่สุดโอกาสก็มาถึง
ชู่เฉิงรีบชูนิ้วทั้งสองขึ้นมาตัวเขาตั้งใจแน่วแน่ก่อนที่จะกัดไปยังนิ้วของตน เลือดบนนิ้วได้หยดลงเครื่องรางที่อยู่ในมือด้านซ้าย เครื่องรางส่องแสงประกายสีทองถูกย้อมไปด้วยสีแดงเข้มจากเลือดของเขาในทันที “สาวน้อย…ข้าไม่ได้ถูกเรียกว่าแม่ทัพใหญ่เพราะโชคช่วยหรอกนะ!”
เครื่องรางสีแดงได้ร่ายรำไปในอากาศก่อนที่จะก่อตัวจนกลายเป็นมังกรขนาดยักษ์พลังมังกรจากเครื่องรางอัดแน่นไปด้วยตัวอักษร พลังมังกรได้พุ่งเข้าหายี่เทียนซิน
ยี่เทียนซินรีบโยนห่วงแห่งรักออกมานางใช้ห่วงจู่โจมมังกรตัวยักษ์พร้อมกับวิชาคลื่นนภาที่นางมี มังกรที่พุ่งทะยานเข้าหายี่เทียนซินไม่ต่างอะไรกับมังกรที่กำลังแหวกว่ายอยู่ท่ามกลางคลื่นมหาสมุทร…
การต่อสู้เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นหลายเท่า
สีหน้าของหลิวเก้อยังคงไม่แยแสอะไรลวดลายสีแดงบนดาบแห่งความเงียบยังคงส่องประกายเจิดจ้าเช่นเดิม หลิวเก้อได้ใช้ปลายเท้าเคาะไปที่อากาศ ตัวเขาได้จับดาบแห่งความเงียบเอาไว้แน่นก่อนที่จะบินไปหาลู่โจวอย่างรวดเร็ว
“ไม่!”
“หยุดเขาซะ!”
“นั่นคือพลังเครื่องรางมังกรทองคำของลัทธิขงจื๊อที่ถูกใช้โดยผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบ!สาวน้อยประมาทไปแล้ว!” ซูยู่ชูกระทืบเท้าของนางด้วยความหงุดหงิด
ผู้อาวุโสทั้งสี่คนของศาลาปีศาจลอยฟ้าได้ออกจากม่านพลังในทันที
หลิวเก้อดูเหมือนจะคาดคิดเอาไว้แล้วตัวเขาได้ใช้มือซ้ายที่ว่างอยู่สร้างพลังฝ่ามือหลากหลายฝ่ามืออย่างสุดกำลัง
ตู๊ม!ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!
ผู้อาวุโสทั้งสี่ถูกพลังฝ่ามือขับไล่!
หลิวเก้อเล็งดาบไปที่หัวของลู่โจวดวงตาของเขาเป็นประกายในขณะที่พูดออกมาอย่างเย็นชา “มันจบแล้วล่ะพี่จี…”
ในตอนนั้นเองยี่เทียนซินก็ได้ปลดปล่อยสุดยอดเคล็ดวิชาออกมานางได้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดเพื่อเข้าใกล้หลิวเก้อ นางเลือกที่จะใช้ฝ่ามือจู่โจมไปที่ดาบแห่งความเงียบ
แคล๊ง!
“หืม”หลิวเก้อขมวดคิ้ว
ฝ่ามือของยี่เทียนซินได้หันเหให้ดาบแห่งความเงียบออกนอกเป้าหมายไปสิ่งที่ยี่เทียนซินจะต้องแลกก็คือการถูกพลังเครื่องรางมังกรทองคำเข้าโจมตี
ผั๊วะ!
พลังเครื่องรางมังกรทองคำได้กระแทกหลังของยี่เทียนซินเข้าอย่างจัง!
ทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วพริบตา
ยี่เทียนซินคร่ำครวญไปด้วยความเจ็บปวดก่อนที่จะกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
“ศิษย์น้องหก!”
“ศิษย์พี่หก!”
ยี่เทียนซินเพิ่งจะฝึกฝนตัวเองจนกลายเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบมาได้ไม่นานมันวิเศษมากแล้วที่นางสามารถรับมือกับยอดฝีมือทั้งสองคนได้ถึงขนาดนี้ นางทำได้ดีที่สุดแล้ว ดวงตาของทุกคนเบิกกว้างเมื่อเห็นชุดสีขาวของนางเปื้อนเลือด
ยี่เทียนซินล้มลงในขณะที่นางล้มลงนางก็ได้แต่เหลือบมองลู่โจว ภาพที่นางเห็นดูเหมือนจะค้างคาใจของยี่เทียนซินอยู่ ในตอนนั้นเองความคิดนับพันได้ไหลผ่านจิตใจของนาง นางจำได้ดีในตอนที่ขึ้นภูเขาครั้งแรก ในตอนที่ได้เรียนรู้การฝึกวรยุทธ นางยังจำได้ดีว่าสาวกคนอื่นๆ ทะเลาะกันเช่นไร นางที่ออกจากศาลาปีศาจลอยฟ้ามารู้สึกเคว้งคว้าง และในที่สุดเมื่อนางถูกผู้เป็นอาจารย์ทำลายพลังวรยุทธ นางก็รู้สึกโกรธแค้นและสิ้นหวังเป็นอย่างมาก นางได้แต่ถามกับตัวเองว่านางรู้สึกเสียใจไหม ไม่ว่ามันจะเป็นยังไงแต่ยี่เทียนซินก็ยังเหมือนเดิม นางไม่คิดเสียใจเลยที่ได้ช่วยเหลือผู้เป็นอาจารย์ ทุกอย่างล้วนมีกรรม ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่มีวัฏจักร นางจะต้องชดใช้ความผิดของตัวเอง รอยยิ้มที่พึงพอใจได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง ทุกอย่างกำลังจะจบสิ้นลง
ยี่เทียนซินยังคงดิ่งลงสู่พื้น
หลังจากที่การโจมตีได้ผลชู่เฉิงก็ได้ตะโกนออกมา “เจ้าประเมินตัวเองมากเกินไป สาวน้อย!”
การโจมตีด้วยดาบของหลิวเก้อถูกเบี่ยงไปทางซ้ายมือของลู่โจวไปกว่าหนึ่งเมตรมันพลาดเป้าไปก็เพราะฝีมือของยี่เทียนซิน
ในเวลาวิกฤตก็มีดอกบัวสีฟ้าเบ่งบานรอบตัวของลู่โจว!
ตู๊ม!..
เกิดคลื่นพลังแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ
ในยามที่ดอกบัวสีฟ้าเบ่งบานมันก็ได้ปลดปล่อยพลังกระแทกไปที่หน้าอกและด้านข้างของหลิวเก้อ
ตู๊ม!
หลิวเก้อรู้สึกตัวจากแรงกระแทกได้ดี
พลังของมันไม่ได้ลดน้อยลงเลยมันยังคงแผ่ซ่านต่อไป พลังดอกบัวสีฟ้าได้จู่โจมชู่เฉิง ผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบเช่นกัน
ตู๊ม!
ทั้งสองกระเด็นไปไกลราวกับว่าวที่สายขาดทั้งคู่ต่างก็กระอักเลือดออกมา
เป็นเพราะผลกระทบทำให้ชู่เฉิงบาดเจ็บยิ่งกว่าเดิม
ในตอนนั้นเองลู่โจวที่กำลังนั่งทำสมาธิอยู่บนดอกบัวสีฟ้าก็ได้ลืมตาตื่นขึ้นดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืนดูเหมือนจะเติมเต็มประกายในตาของตัวเขาได้อย่างดี ในที่สุดพลังวิเศษของคัมภีร์มนุษย์และคัมภีร์โลกาก็ถูกใช้งานได้ แม้ว่าพลังวิเศษของคัมภีร์มนุษย์จะหมดลง แต่พลังวิเศษจากคัมภีร์โลกากลับสามารถใช้งานได้ในทันที ในที่สุดลู่โจวก็ออกมาจากการเก็บตัวฝึกฝนจนได้!
ลู่โจวรู้สึกสับสนกับภาพที่ได้เห็นตัวเขาเห็นภาพหญิงสาวชุดขาวกำลังดิ่งลงสู่พื้น “เจ้าศิษย์ไม่รักดี”
จากนั้นลู่โจวก็หันไปมองหลิวเก้อและชู่เฉิงที่กำลังบินกลับมา
“หืมทำไมพวกเจ้าถึงได้รับบาดเจ็บกัน?”
หลิวเก้อและชู่เฉิงต่างก็พูดไม่ออก“…”
ลู่โจวค่อยๆลุกขึ้นก่อนจะตรวจสอบสภาพรอบตัว ดอกบัวสีฟ้าใต้เท้าของเขาได้จางหายไปแล้ว ตัวเขามองเห็นผู้อาวุโสทั้งสี่ สาวกทั้งหมด รวมไปถึงผู้ฝึกยุทธหญิงที่อยู่หน้าลานกว้าง
ยี่เทียนซินตกลงใส่ม่านพลังอย่างรุนแรงม่านพลังมีผิวสัมผัสราบเรียบราวกับกระจก ยี่เทียนซินยังคงไหลไปตามหน้าผา เลือดสีแดงของนางเปื้อนชุดสีขาวมากยิ่งขึ้น
ลู่โจวขมวดคิ้วภาพทุกอย่างที่เห็นทำให้ตัวเขาเชื่อมโยงเหตุการณ์ทุกอย่างได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในก่อนหน้านี้กำลังถูกฉายภาพให้เห็นซ้ำในใจของลู่โจว แม้ว่าเขาจะอายุมากแล้วแต่ลู่โจวก็ไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้อีก
ลู่โจวที่ประเมินสถานการณ์ทั้งหมดได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วตัวเขาได้ปล่อยพลังฝ่ามือนักบวชปีศาจอันใหญ่ยักษ์ลงมา
ในขณะที่ยี่เทียนซินกำลังตกลงมานางก็ได้เห็นพลังฝ่ามือที่คุ้นตา…
ระหว่างการต่อสู้บนหุบเขาตะวันฟ้าลู่โจวได้ใช้พลังฝ่ามือนักบวชปีศาจเพื่อจับกุมยี่เทียนซินก่อนที่จะทำลายพลังวรยุทธที่นางมีไป แต่ในตอนนี้พลังฝ่ามือนักบวชปีศาจในแบบเดียวกันกำลังบินมาหานางอีกครั้ง ครั้งนี้มันได้ช่วยเหลือนางไว้ พลังฝ่ามือได้ช่วยทำให้ยี่เทียนซินไม่ตกลงสู่พื้น
ลู่โจวสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่รั่วไหลมาจากยี่เทียนซิน
ยี่เทียนซินเงยหน้าขึ้นมามองผู้เป็นอาจารย์ด้วยความยากลำบากที่ดวงตาของนางเต็มไปด้วยน้ำตา “ท่านอาจารย์”
“เจ้าไม่เสียใจที่ได้ช่วยข้าอย่างงั้นเหรอ”ในที่สุดลู่โจวก็พูดขึ้น
“เพื่อตอบแทนความใจดีของท่านอาจารย์ด้วยชีวิต…ข้า…ข้าไม่คิดเสียใจเลย!”ยี่เทียนซินได้พูดออกมาอย่างสั่นเครือ
ลู่โจวส่ายหัวก่อนที่จะถามออกมาอีกครั้ง“เจ้าไม่โกรธที่ข้าขับไล่เจ้าอย่างงั้นเหรอ”
“ข้ามีเคยโกรธท่านเลย”พลังชีวิตของนางกำลังไหลออกมาเรื่อยๆ เพียงชั่วพริบตาผมของนางก็เปลี่ยนกลับจนกลายเป็นสีขาวโพลน ท้ายที่สุดแล้วสติของนางก็เลือนลาง พลังเครื่องรางมังกรทองคำได้สร้างความเสียหายรุนแรงให้กับนาง ยี่เทียนซินในตอนนี้บาดเจ็บสาหัสอย่างไม่ต้องสงสัย
ลู่โจวยกฝ่ามือขึ้นมาฝ่ามือของเขาเปล่งประกายแสงสีฟ้า มันเป็นฝ่ามือที่ป้องกันให้ยี่เทียนซินไม่สูญเสียพลังชีวิตชั่วคราว แต่ถึงแบบนั้นพลังชีวิตของนางก็ยังกำลังจะจางหายไปอยู่ดี ถ้าหากปล่อยไว้ยี่เทียนซินอาจจะต้องตาย
“ท่านอาจารย์อย่าใช้พลังลมปราณอย่างสูญเปล่าเลย…ในตอนนี้วิกฤตยังไม่ถูกคลี่คลาย” ยี่เทียนซินพยายามพูดต่อ “ข้า…ข้ามีหลายเรื่องที่อยากจะบอกท่าน…แต่น่าเสียดาย ในตอนนี้ข้าไม่มีเวลาแล้ว” นางเริ่มหายใจหอบเหนื่อยมากยิ่งขึ้น
พลังของเครื่องรางมังกรทองคำมันเกินความคาดหมายของทุกคน
ผู้ฝึกยุทธหญิงกว่าหลายสิบคนจากวังจันทราต่างก็คุกเข่าลงบนพื้นพวกนางทุกคนล้วนสะอื้นไห้ ผู้อาวุโสทั้งสี่แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้านิ่งเงียบ
“พักผ่อนซะเถอะเจ้าจะต้องไม่ตาย” ลู่โจวได้พูดกับยี่เทียนซิน
“ก่อนที่ข้าจะตาย…ข้า…ข้าอยากจะขออะไรท่านอาจารย์สักอย่าง”
“ว่ามา”
“ข้า…ข้าต้องการ…ข้าต้องการเป็นศิษย์ของท่านศิษย์ของศาลาปีศาจลอยฟ้าอีกครั้ง”