My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 589 ต่อให้เจ้ามีหมื่นชีวิตก็ไม่พอ
ว่ากันว่าชาววู่เฉียนมักจะอาศัยอยู่ในถ้ำและกินดินเป็นอาหาร ในยามที่พวกเขาตาย หัวใจของชาววู่เฉียนจะไม่เน่าเปื่อย และเมื่อถูกฝัง ชาววู่เฉียนก็จะคืนชีพกลับมาใหม่อีกครั้ง
“เขาเป็นชาววู่เฉียนจริงๆ อย่างงั้นสินะ?”
หลังจากที่ผู้อาวุโสทั้งสามของศาลาปีศาจลอยฟ้าลงสู่พื้น พวกเขาทั้งหมดก็เหลือบมองไปยังหลิวกู่
สาวกจากศาลาปีศาจลอยฟ้าเองก็ลงสู่พื้นเช่นกัน
สีวู่หยารู้สึกกังวล เขาหันไปทางด้านข้างก่อนที่จะไถ่ถามออกมา “แล้วศิษย์พี่ใหญ่อยู่ที่ไหนกัน?”
“บนรถม้าลอยฟ้า…”
เมื่อสีวู่หยาได้ยินเช่นนั้น ตัวเขาก็รู้สึกสิ้นหวังในทันที ตัวเขายังจำได้ดีถึงสิ่งที่ผู้เป็นอาจารย์เพิ่งจะพูดไป ลู่โจวได้บอกเอาไว้ว่าจะให้ผู้อาวุโสทั้งหลายชดใช้ชีวิตให้กับสาวกของตัวเอง เมื่อเรียบเรียงเรื่องทั้งหมดได้สีวู่หยาก็เข้าใจทุกอย่าง
“ท่านเจ็ด?” ฮั๊วจงหยางพยายามเก็บความเจ็บปวดเอาไว้ในขณะที่เดินไปหาสีวู่หยา ในตอนนี้สภาพของสีวู่หยาดูไม่สู้ดีเท่าไหร่
“ข้าสบายดี…” สีวู่หยาพยายามยืนตัวตรง ดวงตาของเขาเปลี่ยนกลายเป็นสีแดง
พรึ๊บ!
ในที่สุดหลิวกู่ก็ลุกขึ้นยืน
ในเวลาเดียวกันม่านพลังที่มีสีแดงก็เริ่มปกคลุมไปทั่ว
พลังลมปราณได้หายไปและบรรยากาศรอบตัวก็เริ่มจะกลับมาหนาแน่นอีกครั้ง
ในตอนนี้แทบจะมองไม่เห็นท้องฟ้า
เขตแดนพลังทั้งสิบถูกเปิดใช้งานขึ้นมาอีกครั้ง
ผู้อาวุโสจากสถานศึกษาต่างก็เหลือบมองมายังร่างของหลิวกู่
หลังจากที่เคลื่อนไหวไปได้สักพัก ในที่สุดหลิวกู่ก็ยืดตัวตรง ตัวเขาเหยียดทั้งแขนและขาราวกับหุ่นไม้ ศีรษะของเขาก้มต่ำ เปลือกตายังคงหลับอยู่
สีวู่หยาสับสนเล็กน้อย ในฐานะที่ตัวเขาเป็นผู้เข้าใจชาววู่เฉียน ตัวเขารู้ดีว่าเงื่อนไขในการชุบชีวิตของชาววู่เฉียมันเข้มงวดมากแค่ไหน ถ้าหากชาววู่เฉียนสามารถฟื้นคืนชีพได้อย่างง่ายดายแบบหลิวกู่ ชาววู่เฉียนก็คงจะไม่มีทางสูญพันธุ์ไปได้ง่ายๆ แน่
ย้อนกลับไปในสมัยก่อน ในสมัยนั้นมีชนเผ่าที่แตกต่างกันนับหมื่นถูกบันทึกเอาไว้ ชนเผ่าส่วนใหญ่ล้วนสูญพันธุ์ไปเกินกว่า 90% ชนเผ่าโบราณมักจะเป็นพวกที่มีเอกลักษณ์ลึกลับซับซ้อน พวกเขามักจะอาศัยอยู่ใกล้กับแม่น้ำ มีเพียงชนเผ่าที่มีอำนาจมากพอที่จะได้อาศัยอยู่บนยอดเขา แต่ในปัจจุบันชนเผ่าทั้งหลายก็ได้หายไปแล้ว ไม่มีใครเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของชนเผ่าโบราณอีก
ถ้าหากต้องการที่จะชุบชีวิตชาววู่เฉียน ร่างของชาววู่เฉียนจะต้องถูกฝังไว้ในดินก่อนจะรดน้ำ การฝังร่างของชาววู่เฉียนเอาไว้ในดินเป็นเหมือนกับการเปิดโอกาสให้ร่างของชาววู่เฉียนดูดซับพลังจากธรรมชาติ ร่างกายที่ได้รับพลังธรรมชาติจะค่อยๆ ซ่อมแซมตัวเองขึ้นมาใหม่ ผู้ที่โชคไม่ดีเท่าไหร่นักก็จะกำเนิดใหม่ในรูปแบบของทารก มีเพียงผู้ที่โชคดีเท่านั้นที่จะได้กำเนิดใหม่ในรูปลักษณ์ที่เหมือนเดิมและสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้
“ฝ่าบาท…ยังไม่ตายอย่างงั้นเหรอ?”
ใครบางคนหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข “ฝ่าบาทยังไม่ตาย? ฝ่าบาทน่ะยังมีชีวิต!”
หนึ่งในทหารราชสำนักได้คุกเข่าลงก่อนจะตะโกนออกมา “ฝ่าบาททรงพระเจริญ!”
ทหารราชสำนักทั้งหลายเริ่มที่จะส่งเสียงสรรเสริญอย่างพร้อมเพรียงกัน
“ฝ่าบาททรงพระเจริญ ขอให้ฝ่าบาทมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน!”
“ฝ่าบาททรงพระเจริญ ขอให้ฝ่าบาทมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน!”
เสียงของเหล่าทหารจากราชสำนักดังไปถึงจุดสูงสุดของเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์
…
ภายนอกเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ ผู้ฝึกยุทธที่ต้องการจะเข้าชมการต่อสู้ในตอนแรกทำได้เพียงจ้องมองม่านพลังทั้งสิบอย่างช่วยไม่ได้ ทุกคนไม่สามารถที่จะมองเห็นภายในได้เลย
สิ่งเดียวที่ผู้ฝึกยุทธทั้งหลายพอจะทำได้นั่นก็คือการปีนขึ้นไปบนต้นไม้สูงเพื่ออยากที่จะเฝ้าดู แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนสุดท้ายมันก็เปล่าประโยชน์
“ศาลาปีศาจลอยฟ้ารุกฆาตแล้วสินะ”
“เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ถูกกดดันมาโดยตลอด ยอดฝีมือหลายคนพยายามจัดตั้งกลุ่มตัวเองภายในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ แต่ถึงแบบนั้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือที่อยู่ภายใต้การดูแลขององค์จักรพรรดิ ยอดฝีมือเหล่านั้นก็ถูกจัดการไปอย่างง่ายดาย ช่างน่าละอายจริงๆ ที่สำนักฝ่ายอธรรมอย่างศาลาปีศาจลอยฟ้าและสำนักอเวจีจะทำสำเร็จ”
…
ภายในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ ณ ด้านหน้าเมือง
ในที่สุดหลิวกู่ก็เงยหน้าขึ้น เขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง! ดวงตาของเขาไร้ซึ่งชีวิตชีวา!
แคร๊ก!
กระดูกที่คอของหลิวกู่ถูกเชื่อมอย่างกะทันหัน ดวงตาของเขากำลังเหลือบมองไปที่เป้าหมาย ความทรงจำของที่มีค่อยๆ กลับมา
หลิวกู่มองดูรอบตัว เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ ม่านพลัง ทหารราชสำนัก ผู้อาวุโสทั้งหลาย และเสื้อคลุมมังกรที่มี! หลิวกู่ฟื้นคืนชีพอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว!
หลิวกู่สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะเหลือบมองไปยังสาวกของสำนักอเวจี สีวู่หยาและฮั๊วจงหยาง “ข้ากลับมาแล้ว!”
“ฝ่าบาททรงพระเจริญ ขอให้ฝ่าบาทมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน!”
“ฝ่าบาททรงพระเจริญ ขอให้ฝ่าบาทมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน!”
หลิวกู่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประทับใจกับภาพที่ได้เห็น
“ท่านอาจารย์…เจ้านั่นยังมีชีวิตอยู่จริงๆ ด้วย!” ต้วนมู่เฉิงอุทานออกมาด้วยความตกใจ แม้ว่าตัวเขาจะรู้อยู่แล้วว่าชาววู่เฉียนสามารถฟื้นคืนชีพได้ แต่ถึงแบบนั้นมันก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้เมื่อได้เห็นภาพทุกอย่างกับตาตัวเอง
เป็นธรรมดาที่ทหารราชสำนักทั้งหลายจะไม่รู้เรื่องนี้ ทุกๆ คนต่างก็คิดว่าองค์จักรพรรดิไม่ตายและเพิ่งจะลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง
ผู้อาวุโสจากสถานศึกษาทั้งแปดคนคุกเข่าในทันที
“ฝ่าบาท ได้โปรดทวงคืนความยุติธรรมให้กับพวกเราด้วย!”
สำหรับลู่โจว ตัวเขาได้เห็นภาพอันแสนจะน่ารังเกียจมามากพอแล้ว…ที่ตัวเขายังคงอยู่เฉยก็เพราะอยากจะเห็นชาววู่เฉียนฟื้นคืนชีพ การได้เห็นการฟื้นคืนชีพอาจจะรวบรวมเบาะแสที่มีประโยชน์ได้ ตัวเขากำลังหาทางช่วยยู่เฉิงไห่อยู่นั่นเอง
หลิวกู่หันกลับมา ตัวเขากวาดตายมองทุกคนก่อนที่จะมาหยุดมองชายชราที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก ที่ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไหร่มีศิษย์คนที่สามของศาลาปีศาจลอยฟ้ายืนอยู่ ตัวเขาที่เห็นแบบนั้นก็ได้หัวเราะอย่างไม่เกรงกลัว “จีเทียนเด๋าแห่งศาลาปีศาจลอยฟ้าอย่างงั้นสินะ?”
หลิวกู่ยังคงระมัดระวังตัวอย่างไม่ลดละ หลิวกู่ถอยหลังไปตามสัญชาตญาณ ท้ายที่สุดแล้วหลิวกู่ก็ยกมือขึ้นก่อนจะโคจรพลังลมปราณ…แต่ดูเหมือนว่ามันว่างเปล่า เขตแดนพลังทั้งสิบถูกเปิดใช้งานแล้ว
ตราบใดที่ยังมีจีเทียนเด๋า มหาวายร้ายแห่งศาลาปีศาจลอยฟ้าอยู่ก็คงจะไม่มีใครอยู่อย่างสงบได้ แม้แต่หลิวกู่ที่เป็นจักรพรรดิเองก็เช่นกัน หลิวกู่ถอยกลับไปหาทหารราชสำนักก่อนจะสูดหายใจเพื่อสงบสติอารมณ์ลง “เจ้าเลือกที่จะหันหลังให้กับความยุติธรรมและเลือกเส้นทางของเหล่าปีศาจ! จีเทียนเด๋า ข้านี่แหละที่จะจบชีวิตเจ้าในวันนี้!” หลิวกู่กางแขนก่อนจะพูดออกมา “ไม่ว่าจะเป็นใครแต่เมื่ออยู่ภายใต้เขตแดนพลังทั้งสิบล้วนเท่าเทียมกัน ทหารทั้งหลายจงฟังข้า กำจัดจีเทียนเด๋าซะ!”
พรึ๊บ!
ทหารราชสำนักรีบเตรียมพร้อมก่อนจะยกง้าวขึ้น
สาวกจากสำนักอเวจีกว่าหลายหมื่นคนเองก็เตรียมพร้อมเช่นกัน
“ปกป้องท่านปรมาจารย์!”
“ปกป้องท่านปรมาจารย์!”
เหล่าสาวกจากสำนักอเวจีต่างก็รู้ความจริงดี ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับปรมาจารย์คนนี้ พวกเขาทั้งหมดก็จะต้องตาย วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการระดมพลปกป้องผู้เป็นปรมาจารย์ เมื่อเวลาของเขตแดนพลังทั้งสิบหมดลง เมื่อถึงตอนนั้นก็คงจะไม่มีใครสู้กับปรมาจารย์คนนี้ได้
สีวู่หยาส่ายหัวก่อนจะถอนหายใจ “น่าเสียดายจริงๆ พวกเราพลาดโอกาสที่ดีที่สุดในการสังหารหลิวกู่ไปซะแล้ว!”
ผู้อาวุโสทั้งแปดยืนคุ้มกันอยู่ข้างกายขององค์จักรพรรดิ
ทหารราชสำนักเองก็คุ้มกันพวกเขาอีกทีเช่นกัน
ต้วนมู่เฉิงที่เห็นแบบนั้นก็ได้พูดออกมา “ท่านอาจารย์ ได้โปรดถอยกลับมาก่อน! ถ้าหากพวกเรามีสาวกของศิษย์พี่ใหญ่อยู่พวกเราจะต้องชนะแน่!”
แต่ถึงแบบนั้นลู่โจวกลับไม่ได้ตอบรับ “ถอยไป”
“ท่านอาจารย์?”
ลู่โจวไม่ได้ตอบโต้อะไร
ต้วนมู่เฉิงที่เห็นแบบนั้นสับสน แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาก็ไม่กล้าพอที่จะถามผู้เป็นอาจารย์อีกครั้ง ต้วนมู่เฉิงได้แต่ถอยกลับไปอย่างเชื่อฟัง
ลู่โจวยืนอยู่ต่อหน้าทหารราชสำนักและเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์
ในเวลานี้ทุกคนล้วนแต่เป็นคนธรรมดา ถ้าหากทหารราชสำนักทั้งหมดร่วมใจกันโจมตี เมื่อถึงตอนนั้นก็คงจะไม่มีใครหยุดพวกเขาไว้ได้!
การสังหารจีเทียนเด๋า มหาวายร้ายของโลกใบนี้ได้ถือเป็นมหาเกียรติยศอย่างไม่ต้องสงสัย!
“พวกเจ้าอยากที่จะฆ่าข้าอย่างงั้นสินะ?” ลู่โจวมองไปที่ทหารทั้งหลายด้วยดวงตาอันล้ำลึก ดวงตาของเขาไร้ซึ่งความเกลียดชัง
“ถูกต้อง! พวกเราจะฆ่าเจ้า! ถ้าหากไม่ใช่ตอนนี้ก็คงจะไม่มีโอกาสอีก” หลิวกู่ยกแขนขึ้นมา
ทหารราชสำนักกว่าหลายร้อยคนได้ล้อมตัวลู่โจวเอาไว้ ทุกคนล้วนยกอาวุธขึ้นก่อนจะพุ่งเข้าใส่ลู่โจว
สาวกจากสำนักอเวจีเองก็ออกเคลื่อนไหวเช่นกัน
ในตอนนั้นเองสีหน้าของต้วนมู่เฉิงก็เปลี่ยนแปลงไป ตัวเขากวัดแกว่งหอกราชันย์ที่มีก่อนจะเตรียมบุก แต่ถึงแบบนั้นลู่โจวก็ได้ใช้แขนห้ามตัวเขาเอาไว้ซะก่อน
ดวงตาของผู้อาวุโสทั้ง 17 คนต่างก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง แม้ว่าพวกเขาจะไม่อาจกวาดล้างสำนักอเวจีได้ทั้งหมด แต่ถึงแบบนั้นราชสำนักก็จะชนะอยู่ดีถ้าหากศึกนี้สามารถสังหารมหาวายร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้
ทุกคนต่างก็ลืมหายใจกันไปชั่วขณะ
ทหารราชสำนักเข้ามาใกล้มากยิ่งขึ้น
ในตอนนั้นทหารราชสำนักเกือบจะถึงตัวลู่โจว…ในตอนนั้นก็มีเสียงดังขึ้น
“ต่อให้เจ้ามีหมื่นชีวิตก็ยังไม่เพียงพอที่จะชดใช้ให้กับชีวิตของศิษย์ข้าได้!”
‘ต่อให้ต้องฆ่าอีกสักกี่ครั้ง ฉันก็จะทำมัน!’
ลู่โจวยกแขนขึ้นมาก่อนที่จะผลักมันออกไป ลู่โจวไม่ต้องการที่จะยืดเยื้อการต่อสู้ให้นานไปมากกว่านี้ ตัวเขาที่คิดแบบนั้นจึงเลือกโจมตีไปอย่างไม่ลังเล
พลังฝ่ามือสีฟ้าที่มีขนาดเท่ากับคนถูกปลดปล่อยออกมา!
ตู๊ม!
พลังฝ่ามือนั้นได้กระแทกเข้ากับใบหน้าของทหารผู้โชคร้าย พลังฝ่ามือได้ทำให้คนกว่าร้อยคนกระเด็นหายไป
พลังฝ่ามือยังคงลอยตัวต่อไป…
ทหารราชสำนักที่ขวางทางถูกผลักกลับไปอย่างไม่มีข้อยกเว้น
เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้นพลังฝ่ามือก็มาถึงหน้าของหลิวกู่
‘เจ้านั่นมันใช้พลังฝ่ามือในเขตแดนพลังทั้งสิบได้ยังไงกัน?’
“เป็นไปไม่ได้” หลิวกู่ยกมือขึ้น
ตู๊ม!
แขนของหลิวกู่บอบบางไม่ต่างจากคนธรรมดา เมื่อต้องพบกับพลังฝ่ามือแขนของเขาก็หักลงในทันที พลังฝ่ามือของลู่โจวได้ผลักให้หลิวกู่ถอยกลับไปด้วยความเร็วสูง
ตู๊ม!
หลิวกู่ชนเข้ากับกำแพงเมือง
ในที่สุดพลังฝ่ามือก็จางหายไป
หลิวกู่ติดอยู่บนกำแพงเมืองโดยที่ไม่ขยับไปไหน ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความกังวล
สาวกจากสำนักอเวจี ผู้อาวุโสทั้ง 17 คน รวมไปถึงผู้ฝึกยุทธทั้งหลายต่างก็ตกตะลึงอย่างที่ไม่เคยเป็น