แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - บทที่ 1014 เด็กสาวในอำพัน
“…” ในช่องว่างที่ทั้งแคบและอึดอัดนี้ หลิงม่อจ้องตากับสัตว์ประหลาดไอหมอกมืดอย่างเงียบงัน…
หลายวินาทีผ่านไป เขาเลื่อนสายตาออกไป แล้วเริ่มพุ้ยของเหลวชั้นนี้ออกอย่างยากลำบาก
เนื่องจากเจ้าสิ่งนี้ยังไม่จับตัวกันอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นถึงแม้ในสถานการณ์ที่หุ่นซอมบี้ไม่มีแรง หลิงม่อก็ยังใช้เล็บอันแหลมคมของมันขุดตัวสัตว์ประหลาดไอหมอกมืดออกมาได้
เพียงแต่ในขณะที่สัตว์ประหลาดไอหมอกมือตัวนั้นเพิ่งจะยื่นมือออกมา หมายจะปีนออกจากรอยแหวกนั้น หลิงม่อกลับกระโจนเข้าไปทันที…
“แกว๊กๆ…” สัตว์ประหลาดไอหมอกมืดพยายามขัดขืน แต่มือข้างนั้นของมันถูกหุ่นซอมบี้จับไว้แล้ว แถมร่างกายยังติดอยู่ในชั้นของเหลวหนืดอีก ถึงแม้มันมีเรี่ยวแรงมากกว่าซอมบี้สภาพร่อแร่ตัวนี้หลายขุม แต่เมื่อตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ติดอยู่ในที่แคบ และเสียเปรียบอย่างนี้ สัตว์ประหลาดไอหมอกมืดจึงตกเป็นรองทันที
หลิงม่อฉวยโอกาสตอนที่อีกฝ่ายยังไม่ทันยื่นมืออีกข้างออกมา เอามือตัวเองล้วงเข้าไปก่อน…
“หื้ม?”
ด้านในชั้นของเหลวหนืดนั้น สิ่งแรกที่เขาคลำเจอคือผิวหนังอ่อนนุ่ม…ทว่าไม่นาน เขาก็เริ่มควานมือสะเปะสะปะไปทั่ว
“รีบบอกมา แกเป็นใครกันแน่? ฉันดูออกนะ ว่าแกอยากเข้ามาในนี้เอง ใช่ไหมล่ะ? มนุษย์ประหลาดที่ถูกยัดเข้ามาเมื่อกี้ ความจริงแกเป็นคนส่งมันมาเองใช่ไหม? ที่แกทำอย่างนี้ ก็เพื่อจะทำให้สัตว์ประหลาดที่อยู่ข้างบนนี้หมดแรง…จากนั้นแกก็จะฉวยโอกาสเคลื่อนไหวสินะ? ถ้าหากที่ฉันเดามาถูกทั้งหมด ถ้าอย่างนั้นฉันมีคำถาม บอกวมา ทำไมต้องเลือกฉัน? ตกลงว่า…” หลิงม่อกดเสียงต่ำ เค้นถาม
“แกว๊กๆ…”
สัตว์ประหลาดไอหมอกมืดพยายามดิ้นพล่าน จนสุดท้ายก็พลิกตัวได้สำเร็จ หลิงม่อพลันรู้สึกว่าแผ่นหลังแนบติด “ไข่” เหล่านั้น ผ่านไปไม่นาน มือเขาก็หลุดออกจากตัวอีกฝ่าย
ไม่รู้ว่าสัตว์ประหลาดไอหมอกมืดตัวนั้นใช้วิธีอะไร ถึงได้สร้างรูข้างบนหัว และพยายามเบียดตัวออกไปจนได้ พอเห็นอีกฝ่ายกำลังคลานลึกเข้าไปข้างใน หลิงม่อก็คว้าข้อเท้าของมันทันที…ถึงแม้ยังไม่แน่ใจว่ามันเป็นใคร แต่หลิงม่อมั่นใจในการคาดเดคาของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ทว่าเพราะเหตุนี้ เขากลับรู้สึกโมโหมากกว่าเดิม…
สัตว์ประหลาดไอหมอกมืดถลึงตาจ้องเขา แต่กลับไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด ได้แต่ลากหุ่นซอมบี้คลานต่อไปด้วย หลังผ่านไป 4 – 5 วินาที หลิงม่อก็รู้สึกว่ารอบข้างเริ่มว่างเปล่าแล้ว…ช่องว่างระหว่าง “ไข่” เหล่านั้นกับหุ่นซอมบี้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด…ไม่นาน เขากับสัตว์ประหลาดไอหมอกมืดก็มาถึงบริเวณขอบของหลุมขนาดใหญ่หลุมหนึ่ง…
หลุมนี้ดูไม่ลึกมาก ด้านบนเต็มไปด้วย “ไข่” จำนวนมหาศาล…และมองจากตรงนี้ขึ้นไป ก็จะเห็นและเข้าใจ “ลำดับขั้น” ของสัตว์ประหลาดใต้ดินเหล่านี้ ด้านนอกสุดคือมนุษย์ประหลาด ต่อมาเป็นสัตว์ประหลาดไอหมอกมืด ลึกเข้ามาเป็นพวก “มนุษย์หน้าอืด” และตรงกลางสุด ก็คือสัตว์ประหลาดที่ล่อพวกเขาเข้ามาในตอนแรกสุดนั่นเอง…นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีสัตว์ประหลาดเปลี่ยนหน้าอยู่ตัวหนึ่งด้วย…
“ไม่น่าล่ะช่องทางเดินที่ทอดยาวมาสู่ที่นี่ถึงได้มีการคุ้มกันแน่นหนานัก…ที่แท้ที่นี่ก็คือฐานทัพใหญ่ของพวกมันนี่เอง… แต่มีกันเยอะขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าเป็นฝีมือสัตว์ประหลาดตัวที่อยู่ข้างนอกนั้นตัวเดียว? พวกนี้…คงไม่ได้ใกล้ ‘ลืมตาดูโลก’ แล้วหรอกนะ? หลิงม่อจ้องมองสัตว์ประหลาดพวกนั้นปากอ้าตาค้าง ขณะที่เขากวาดมองพวกมันทีละตัวๆ อยู่ๆ หน้าอกของพวกมันบางตัวก็กระเพื่อมขึ้นลง
“ชั้นของเหลวหนืดนั่น…มีฟองอากาศอยู่หรอ? ถ้าไม่อย่างนั้นพวกมันจะหายใจได้ไง?” ไม่ต้องคิดหลิงม่อก็รู้ ว่าในของเหลวหนืดเหล่านั้นมีเชื้อไวรัสผสมอยู่ด้วย ระหว่างที่ถูกของเหลวหนืดห่อหุ้ม เชื้อไวรัสที่ผสมอยู่ในนั้นจะแทรกซึมผ่านผิวหนังเข้าไปในร่างกายของสัตว์ประหลาดพวกนี้ และเริ่ม “ปรับโครงสร้าง” ร่างกายของพวกมัน น่าเสียดายที่เวลามีจำกัด จะให้เขาลองสัมผัสประสบการณ์นั้นด้วยตัวเองก็คงไม่ทัน…
คิดถึงตรงนี้ อยู่ๆ หลิงม่อก็มีความคิดแปลกๆ ผุดขึ้นมา…
“ถังฮ่าวเคยมาที่นี่!”
เรื่องนี้แทบไม่ต้องสงสัยเลย…และเป็นไปได้มากว่าเส้นทางที่ถังฮ่าวใช้ อาจไม่ใช่ทางเดียวกับพวกเขา ไม่แน่ว่า ผู้รอดชีวิตพวกนั้นอาจมีวิธีมาที่นี่อย่างปลอดภัย…แต่สิ่งที่หลิงม่อกำลังคิดถึงจริงๆ ในตอนนี้ กลับเป็น—ถังฮ่าวกับผีเสื้อ บางทีอาจมีเด็กผู้หญิงคนนั้นด้วย พวกเขาสามคน อย่างน้อยต้องเคยเข้ามาในหลุมนี้ ไม่แน่ว่า พวกเขาอาจเจอวิธีแปลงร่างจากที่นี่ก็ได้ เพียงแต่เรื่องที่ดูเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญพวกนี้ ความจริงแล้วกลับเป็นแผนการของเด็กผู้หญิงคนนั้นทั้งหมด…
“จากที่ถังฮ่าวเคยเล่า คนที่มีพลังนี้เป็นคนแรก ก็คือผีเสื้อ…แต่ถ้าหากพลังของผีเสื้อได้มาจากการที่เด็กผู้หญิงคนนั้นพาเขามาเจอล่ะ? ถ้าอย่างนั้นทุกอย่างก็เข้าเค้าแล้ว! ตอนแรกคนที่เด็กผู้หญิงคนนั้นหมายตาคือผีเสื้อ ต่อมา ภายใต้การชี้นำของเด็กผู้หญิงคนนั้นผีเสื้อเริ่มออกตามหาผู้รอดชีวิตทั่วทิศ จากนั้นก็เปลี่ยนพวกเขามาเป็นตัวทดลองของตัวเองทีละตคนๆ ไม่สิ บางทีอีกหนึ่งบุคลิกของผีเสื้อ ความจริงก็คือเธอเอง…จะว่าไปเวลาเธอพูด ก็รู้สึกคุ้นหูแปลกๆ อยู่เหมือนกัน…นอกจากนี้ เพื่อที่จะควบคุมพวกเขาให้ดีขึ้น เธอได้สร้างเรื่องโกหกที่ว่าสามารถกำจัดผลข้างเคียงได้ขึ้นมา…หรือพูดอีกอย่างคือ เธอได้ทำให้พวกนั้นกตระหนักถึงผลข้างเคียง เพื่อทำให้พวกเขารั้งอยู่ที่นี่ต่อไป ถ้าไม่อย่างนั้นสถานที่ที่ไม่เหมาะแก่การอาศัยอยู่อย่างนี้ พวกเขาไม่มีทางอยู่มานานขนาดนี้ได้แน่…หลังจากที่ผู้รอดชีวิตที่อยู่รอบๆ ถูกพาตัวมาจนหมด พวกเราก็มาปรากฏตัวที่นี่พอดี แต่ในตอนนี้ ตอนที่การทดลองของเด็กผู้หญิงคนนั้นก็กำลังเข้าสู่ช่วงท้าย ความอดทนของผู้รอดชีวิตพวกนั้นก็หมดลง!”
หลิงม่อพลันกระจ่างทันใด…เข้าใจหมดแล้ว หากเป็นอย่างนี้ เขาก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว!
“เดิมทีเด็กผู้หญิงคนนี้ตั้งใจจะให้ผู้รอดชีวิตเหล่านี้ดำเนินแผนการ แต่กลับไม่คิดว่าจะถูกเราขัดขวาง…บางเธออาจเห็นเราตั้งแต่ตอนที่บังคับหุ่นซอมบี้ให้แอบเข้ามาในบริษัทลอว์สันแล้วก็ได้…ตอนนั้น ใครกันแน่ที่เห็นเรา…” หลิงม่อทวนความจำอย่างรวดเร็ว
ร่างกายร่างนี้เป็นของหุ่นซอมบี้ และความสามารถในการจดจำของซอมบี้ ก็เหนือกว่ามนุษย์ธรรมดามาก…ระหว่างที่หลิงม่อกำลังควานหาข้อมูลในความทรงจำ เขารู้สึกราวกับมีภาพสไลด์ไหลผ่านหน้าตัวเองไปอย่างรวดเร็ว…
“เป็นเธอ!”
หลิงม่อพลันชะงักหยุด และเบิกตาค้าง
ตอนแรกเขานึกว่าจะเป็นซอมบี้ร่างแม่ฟางอิ๋ง แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาเห็น กลับเป็นซอมบี้ตัวน้อยที่หลบอยู่หลังม่านหน้าต่าง…เสี่ยวเยว่เอ๋อ หรือพูดให้ถูกก็คือ ปรสิตที่อยู่ในปากของเธอ…
ด้านหลังม่านหน้าต่าง มันกำลังจ้องมองลงมาที่ซอมบี้ตัวนี้ที่จู่ๆ ก็เริ่มขยับตัว…และก่อนหน้านี้ ก็เป็นมันที่จ้องพวกหลิงม่อซึ่งหลบอยู่หลังรถบัส…มันจ้องมองพวกหลิงม่อมาโดยตลอด และหลิงม่อก็เพิ่งมารู้ตัวเอาป่านนี้…
“มันถูกเราฆ่าไปแล้ว…แต่เสี่ยวเยว่เอ๋อยังไม่ตาย…” หลิงม่อขนลุก อยู่ๆ เขาก็เข้าใจ ทำไมเด็กผู้หญิงคนนั้นถึงได้ดูมั่นอกมั่นใจขนาดนั้น…เพราะว่าเธอลอบสังเกตการณ์พวกเขามาตั้งแต่ต้นจนจบ กระทั่งตอนที่หลิงม่อไม่รู้อะไร เธอได้พบและมีปฏิสัมพันธ์กับเขาแล้ว แต่ว่า เธอรู้หรือเปล่าว่านั่นคือหลิงม่อ…
หลิงม่อกำลังครุ่นคิดปัญหานี้ นอกจากนี้ เขาก็ยังลอบดีใจรางๆ
อย่างน้อย ตอนนี้เขาก็รู้แล้ว…และก่อนหน้านี้ เขาก็เริ่มมีข้อสงสัยคล้ายๆ กันนี้มานานแล้วด้วย นั่นแสดงว่า ความมั่นใจของอีกฝ่ายมีช่องโหว่ให้โจมตีได้…
“แกว๊กๆ…”
สัตว์ประหลาดไอหมอกมืดกลับคลานลงหลุมไปอย่างรีบร้อน มันลูบคลำตรงขอบหลุมอยู่ครู่หนึ่ง แล้วอยู่ๆ ก็หันตัวมา ดึงหลิงม่อให้ลงไปด้วย
หลิงม่อพลันได้สติ รู้สึกหนังศีรษะตึงชาอย่างบ้าคลั่ง เขาหมายจะอ้าปากด่า แต่กลับถูกภาพตรงหน้าทำให้ช็อกค่างไปก่อน……
ร่างกายโปร่งใส ราวกับเครื่องประดับอำพันร่างหนึ่ง กำลังถูกทับอยู่ข้างล่างนี้…ของเหลวหนืดนอกตัวของมันถูกดูดกลืนเข้าไปเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงชั้นบางๆ เท่านั้น…ดังนั้นรูปร่างของมัน จึงปรากฏสู่สายตาหลิงม่ออย่างชัดเจน
นี่คือเรือนร่างที่ทั้งเล็กและบอบบาง ไม่ต่างจากมนุษย์เพศหญิงเลยแม้แต่น้อย…ดูจากความสูง มันน่าจะไม่ต่างจากอวี๋ซือหรานนัก แต่กลับผอมบางกว่าอวี๋ซือหราน ผมหยิกยาวสีดำหุ่อหุ้มร่างกายของมันไว้บางส่วนไปจนถึงข้อเท้า และตรงลำคอของมัน สัญลักษณ์คล้ายตะขาบตัวหนึ่งลากยาวไปจนถึงหัวไหล่ แต่สัญลักษณ์สีแดงเลือดนั้นกลับไม่ได้ดูน่าเกลียดน่ากลัว ตรงกันข้าม มันกลับเผยความงามที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือด และโหดเหี้ยมดุดันออกมาได้เป็นอย่างดี…
หลิงม่อถูกสัญลักษณ์นั้นดึงดูดสายตาทันที ผ่านไปหลายวินาที กว่าเขาจะเลื่อนสายตาไปมองใบหน้าของมัน…
“เชี่ยย!”
—————————————————————————–