แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - บทที่ 1034 บุกรุกโลกบนดิน
โบ้มม ครืนน ครืนนน!
แรงสะเทือนจากใต้พื้น แผ่ขยายขึ้นมาถึงบนพื้นในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ขณะเดียวกัน พวกหลิงม่อเพิ่งวิ่งออกมาจากอาคารเล็กๆ หลังนั้น
“เกิดอะไรขึ้น?” ซย่าน่าหยุดวิ่งทันที
หลี่ย่าหลินกวาดมองไปรอบตัว แล้วพูดขึ้นอย่างงุนงง “หรือว่าแผ่นดินไหว?”
“ไม่ใช่…ดูตรงนั้นเร็ว!” เย่เลี่ยนยกมือชี้ไปข้างหน้า พลันตะโกน
ทุกคนพยายามประคองตัวยืนให้มั่น พลางมองไปตามนิ้วมือเธอ…
“ตรงนั้นมัน…ตึกที่ร่างแม่ตัวนั้นโดนฆ่าไม่ใช่หรอ…”
“นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น?”
ท่ามกลางสายตาของพวกหลิงม่อ เวลานี้ตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จหลังนั้น กำลังค่อยๆ เอนเอียงไปฝั่งหนึ่ง…
โครมมม!
วินาทีถัดมา ขณะที่พวกหลิงม่อยังไม่ทันได้ตั้งตัว เสียงโครมครามราวกับระเบิดพลันดังขึ้น และ ณ ตำแหน่งของตึกใหญ่หลังนั้น ก็เหลือเพียงกลุ่มฝุนและควันที่พุ่งขึ้นฟ้าราวดอกเห็ดยักษ์…
ไม่น่าเชื่อ…มันถล่มแล้ว!
การถล่มอย่างกะทันหันของตึกใหญ่ ไม่เพียงทำให้พวกหลิงม่อนิ่งอึ้ง แม้แต่เหล่าซอมบี้ที่อยู่บนถนนต่างก็ทยอยหยุดเดิน และหันไปมองทางนั้นด้วย
หลังผ่านไปสามวินาทีเต็มๆ หลิงม่อม่านตาหดตัว สีหน้าเคร่งเครียด พูดว่า “พวกอวี่เหวินซวน…คงไม่ได้ลงไปจากทางนั้นหรอกนะ?”
“เหมือนจะใช่นะ…” ซย่าน่าเบิกตากว้าง พลางพึมพำตอบเขา
ทั้งสี่มองหน้ากัน พลันพุ่งตัวออกไปพร้อมกันแทบจะทันที…
เวลานี้ ในท่อน้ำทิ้งใต้ดิน
บนภูเขาที่ถูกสร้างขึ้นด้วยมนุษย์ไข่ขนาดย่อม สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวหนึ่งกำลังคำรามสุดเสียงอยู่บนนั้น
เหล่ามนุษย์ไข่ที่อยู่ข้างล่างมันเริ่มฝ่อและตัวหดเล็กลงอยู่ใน “กระดองสีอำพัน” และกลายเป็นซุปเนื้อ ถูกหลอดดูดที่ยื่นออกมาจากท้องของสัตว์ประหลาดยักษ์ ดูดกลืนเข้าไปจนหมดเกลี้ยง
และรอบข้างมัน กลับไม่มีสัตว์ประหลาดตัวอื่นอยู่เลยแม้แต่ตัวเดียว…ในท่อน้ำทิ้งอันว่างเปล่า มีเพียงเสียงกรีดร้องที่ดังก้องไปทั่ว…
“โฮก โฮกกก!”
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องราวกับหัวใจแทบฉีกขาด ท้องของสัตว์ประหลาดร่างแม่ตัวนี้กำลังกระเพื่อมสั่นอย่างรุนแรง ช่องท้องของมันใกล้จะกลายเป็นสีใสแล้ว ทุกครั้งที่มันพองโตขึ้น ก็จะมองเห็นเงาร่างหนึ่งรางๆ จากข้างนอก…
มันคือเงาคน
ร่างแม่ตัวนี้ กำลังจะคลอด!
และพฤติกรรมของมันในตอนนี้ แตกต่างจากเวลาที่มันสร้างสัตว์ประหลาดตัวอื่นอย่างเห็นได้ชัด…
กร๊อบแกร๊บๆๆ…
เมื่อเสียงแตกหักดังมา สัตว์ประหลาดยักษ์พลันแหงนโน้มร่างกายท่อนบนขึ้น และกรีดร้องอย่างเจ็บปวด
พรวด!
การฉีกขาดกะทันหันตรงท้อง ทำให้ร่างกายเจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์แทบฉีกขาดเป็นสองท่อนในเสี้ยววินาที…มือเรียวยาวขาวเนียนข้างหนึ่งยื่นออกมาจากข้างใน ท่ามกลางเสียงกรีดร้องที่ค่อยๆ แผ่วลงของสัตว์ประหลาดยักษ์ เงาร่างเปลือยเปล่านั้นได้ก้าวออกมาจากรอยแผลฉีกขาดด้วยท่วงท่าสง่างาม…
เมื่อมันลุกขึ้นยืนอยู่บนภูเขาศพที่แห้งเหี่ยวเหล่านั้น ร่างกายของสัตว์ประหลาดร่างแม่ตัวนั้นพลันกระตุกสั่น และล้มหงายหลังลงไปอย่างอ่อนแรง
“โครม!”
ร่างแม่กลิ้งตกพื้น แต่เงาคนเงานั้นก็ยังไม่หันมอง มันยกมือทั้งสองข้างขึ้น จ้องมองนิ้วมือเรียวยาว รวมถึงเล็บสีแดงเลือดที่สวยสดของตัวเอง…
“ฮ่าๆ…ฮ่าๆๆๆๆๆ…”
ท่ามกลางความมืดมิด เสียงหัวเราะของผู้หญิงพลันดังก้อง…เสียงนั้นฟังดูนุ่มนวลมาก แม้แต่เงาร่างนั้น ก็ยังดูอรชรอ้อนแอ้นและงดงามชวนหลงไหล…
“ฮ่าๆๆ…สำเร็จแล้วสินะ? มนุษย์คนนั้นคงคิดไม่ถึงสินะ? ไม่ว่าแผนการจะสำเร็จหรือไม่ แต่ฉันก็จะยังลอกคราบสำเร็จตามที่ได้ตั้งเป้าไว้แต่แรก…ตั้งแต่นี้ไป ฉันหลุดพ้นจากร่างกายร่างนั้นโดยสิ้นเชิงแล้ว! ร่างกายที่ค่อยๆ กลายเป็นสัตว์ประหลาดในระหว่างวิวัฒนาการ… ตั้งแต่นี้ไป ฉันไม่ต้องถูกขังไว้ใต้ดินนี้อีกแล้ว! แต่ว่า…ความรู้สึกอ่อนแรงนี้มันอะไรกัน? แล้วทำไม…ทำไมฉันถึงได้รู้สึก…”
มันพึมพำกับตัวเอง “ใช่แล้ว…ไม่สมบูรณ์แบบ…”
พูดถึงตรงนี้ มันพลันเงยหน้าขึ้น
เมื่อเส้นผมสีดำแหวกออกสองข้าง ดวงหน้าของมันจึงเผยออกมาในที่สุด
เป็นดวงหน้าของหญิงสาวที่ถือได้ว่าใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว…ดวงตา จมูก ปาก รูปหน้า ทุกรายละเอียดล้วนไร้ที่ติ…ทว่า! ดวงตาข้างหนึ่งของมัน กลับเป็นสีแดงเลือด…สีแดงเลือดที่แผ่ปกคลุมไปทั่วดวงตาข้างนั้น! และใกล้ๆ ดวงตาข้างนั้น ก็มีแต่เส้นเลือดสีแดงขึ้นเต็มไปหมด พวกมันมีรูปร่างเหมือนกำลังแยกเขี้ยวยิงฟัน ราวกับได้หลงเหลือเงาร่างขนาดเล็กของสัตว์ประหลาดร่างแม่ตัวนั้นไว้ในดวงตาของมัน …
และดวงตาสีแดงเลือดข้างนั้น ก็อยู่บนหัวของสัตว์ประหลาดตัวนั้นพอดี! เมื่อมันลืมตาข้างนั้น จะให้ความรู้สึกเหมือนว่าถูกสัตว์ประหลาดร่างแม่ตัวนั้นจ้องอยู่ ทั้งน่าพิศวง และน่าสยดสยอง …
“กรี๊ดดดดด!”
มันใช้มือลูบคลำใบหน้าตัวเอง และกรีดร้องเสียงแหลมขึ้นมา “ทำไม! ทำไมถึงเป็นแบบนี้!…เพื่อการลอกคราบครั้งี้ ฉันเตรียมการมานานมาก! เกิดข้อผิดพลาดตรงไหนกันแน่? มันผิดพลาดตรงไหนกันแน่…ใช่แล้ว…” อยู่ๆ มันก็หยุดกรีดร้องอาละวาด แล้วพึมพำกับตัวเอง “ตอนที่เจ้ามนุษย์นั่นฆ่าร่างดวงจิต…มันต้องทำอะไรบางอย่างแน่ๆ”
หลายวินาทีผ่านไป อยู่ๆ มันก็หัวเราะขึ้นมา เพียงแต่ครั้งนี้เสียงหัวเราะของมันฟังดูน่าขนลุกมาก “ฮ่าๆๆ…กลืนกินสินะ? น่าจะใช่นะ?” สองมือของมันไล้ลงตามกรอบหน้า เล็บมือแหลมคมเสียดสีกับผิวเกิดเป็นเสียง “เอี๊ยดๆ” เสียดแทงแก้วหู “ถึงแม้ว่าตามแผนการเดิมฉันตั้งใจจะกลืนกินเขาอยู่แล้ว แต่ไม่คิดเลย ว่ามนุษย์คนหนึ่งกลับรู้จักพลังกลืนกินด้วย…น่าเสียดายจริงๆ น่าจะกลืนกินเขาเสีย! ถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนการของฉัน ตอนนี้สิ่งที่ควรอยู่ในกำมือฉัน น่าจะเป็นหลิงม่อผู้มีสติเลอะเลือน และพร้อมให้ฉันฆ่าได้ทุกเมื่อสินะ? ถ้าเป็นอย่างนั้น การลอกคราบของฉัน คงสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ และแข็งแกร่งยิ่งใหญ่…”
“ใช่แล้ว!”
ทันใดนั้น มันก้มมองที่เท้า “มีอาหารเสริมสำคัญอีกหนึ่งตัว…ที่หายไป มันเป็นผลงานล้มเหลวที่เกิดจากการทดลองลอกคราบครั้งที่แล้วสินะ? ถึงแม้มันจะเทียบกับร่างกายร่างนี้ไม่ได้ แต่ฉันก็ลงแรงไปไม่น้อย…”
“ช่างน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วสินะ…ไม่คิดเลยว่าพวกนั้นจะฉวยโอกาสตอนที่จิตใต้สำนึกของฉันไม่อยู่ที่นี่ ขโมยร่างกายร่างนั้นไป…กรี๊ดดดด!” มันกรีดร้องเสียงแหลมขึ้นมาอีกครั้ง และทรุดลงคุกเข่าลงบนศพที่อยู่ข้างล่าง จนกระทั่งมันหยุดกรีดร้องอีกครั้ง มันได้ใช้สองมือยันบนศพ และจ้องเข้าไปในใบหน้าที่ถูกดูดจนแห้งเหี่ยวราวกับมัมมี่
มันเงียบไปนานพักใหญ่ แล้วจึงค่อยพูดเหมือนกำลังละเมอ “ในเมื่อเป็นอย่างนี้…งั้นก็ฝากพวกแกดูแลไปก่อนแล้วกัน ร่างกายร่างนั้น แล้วก็แก…หลิงม่อ! ก่อนจะถึงตอนนั้น ขอให้พวกแกลิ้มรสความวุ่นวายบนโลกใบนี้เสียให้พอ…ซักวันต้องได้เจอกันอีกแน่นอน ซักวัน…”
“หลิงม่ออ!!!”
…………
“หลิงม่อ!”
ณ มุมหนึ่งของซากปรักหักพัง เสียงตะโกนเรียกพลันดังมา
“สวี่ซูหาน? เธออยู่ไหนน่ะ?”
หลิงม่อที่เพิ่งมาถึงบริเวณใกล้ๆ สะดุ้ง ไม่นานก็รีบวิ่งไปตามเสียงเรียก
พอวิ่งไปถึงโซนพื้นที่รูปสามเหลี่ยมแห่งหนึ่ง เขาเห็นแผ่นปูนหลายแผ่นทับซ้อนกันอยู่ และเสียงเรียกก็ดังมาจากตรงนั้น
“อยู่นี่…” สวี่ซูหานตอบ ฟังจากเสียง เหมือนเธอกำลังแบกอะไรหนักๆ ไว้…
พวกเย่เลี่ยนรีบเดินเข้าไป ช่วยกันแหวกแผ่นปูนออกคนละสองสามที
ไม่นานเงาร่างของสวี่ซูหานที่กำลังยืนค้ำแผ่นปูนแผ่นหนึ่งไว้ก็ปรากฏสู่สายตา เธอโยนแผ่นปูนแผ่นนั้นทิ้ง และดึงมือเย่เลี่ยนปีนขึ้นไป จากนั้นก็พูดขณะหอบหายใจถี่ระรัว “นึกว่า…จะตายซะแล้ว…ดีที่ได้กลิ่น…พวกเธอ…พวกเธอ…มาได้ยังไง?”
“พวกเธอถึงทับอยู่ตรงนี้ได้ยังไง? แต่ก็ดีแล้ว ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” หลิงม่อช่วยเธอปัดฝุ่นบนไหล่ พลางพูด
“เรื่องมัน…ยาว…ตอนแรก พวกฉันเกือบวิ่งออกมาได้แล้ว…ไม่คิดว่า จู่ๆ ตึกจะ…ถล่ม…” สวี่ซูหานยังคงพูดเสียงขาดๆ หายๆ “แต่ว่า…นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ทุกคนฟังฉันพูดนะ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว…”
หลิงม่อกำลังจะถาม แต่ทันใดนั้นกลับมีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านล่าง “หลิงม่อ? หลิงม่อใช่ไหม! เฮ้ย พวกนายอย่ามัวแต่ยืนคุยกันอยู่ข้างบนนั้นเซ่! แล้วก็ผู้ประกาศข่าวสวี่ ฉันอุตส่าห์เชียร์เธอนะ…เธอกลับไม่สนฉันหลังจากที่ตัวเองมุดออกไปแล้วได้ยังไงกัน อย่างน้อยฉันก็ใช้พลังพิเศษของตัวเองพาพวกเราขึ้นมาถึงที่นี่นะ! ถ้าเธอยังไม่ช่วยฉันจะมีคนตายแล้วจริงๆ นะ! เชี่ย…ฉันยกไอ้นี่ไม่ไหว…ใกล้ถล่มแล้ว! ถล่มแล้ว! ช่วยด้วยยย!”
สวี่ซูหานได้ยินก็ได้สติ เธอรีบหมุนตัวกลับไป พลางยื่นมือลงไป บอกว่า “นายจะเชียร์อะไรฉันไม่ทราบ! ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้เป็นแบบที่นายคิด! อีกอย่าง ตอนที่ตึกถล่มฉันก็เป็นคนค้ำแผ่นปูนไว้นะ! แล้วฉันก็เป็นคนถีบนายมาอยู่ในโวนสามเหลี่ยมนี้ด้วย! เฮ้ย นายดึงแขนเสื้อฉันทำไมเนี่ย…”
“ก็ฉันคว้าไม่ถึงนี่นา…”
“ฉันเองๆ…” หลิงม่อโบกมือไปมาอย่างปวดหัว จากนั้นก็แผ่หนวดสัมผัสทางจิตเส้นหนึ่งเข้าไป
หนึ่งวินาทีต่อมา อวี่เหวินซวนถูกลากขึ้นมา และร้อง “โอ๊ย” หลังจากล้มลงบนพื้น ตอนนี้ทุกส่วนบนตัวเขา โดยเฉพาะตรงก้น ยังมีควันลอยคลุ้งออกมาอยู่…
“แค่กๆ…” หลิงม่อปัดมือไปมาตรงหน้าจมูก บอกว่า “นี่นายใส่กางเกงเนื้อผ้าแปลกๆ อะไรอีกแล้วเนี่ย…”
“คราวนี้เป็น…กางเกงในที่ทำจาก…อะลูมิเนียม…” อวี่เหวินซวนบอก พลันสะดุ้งตัวโยน “โอ๊ย ร้อน!”
“ใช่แล้ว ผู้ประกาศข่าวสวี่ เมื่อกี้เธอบอกว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว หมายความว่ายังไง?” หลิงม่อหันไปถาม
สวี่ซูหานกำลังจะตอบ แต่กลับเบิกตากว้าง พูดเสียงเบา “ดูเหมือนว่า…คงไม่ต้องให้ฉันบอกแล้ว…”
หลิงม่อมองเธออย่างตกตะลึง ใจเต้น “ตึกตัก” เขาค่อยๆ หันหน้าไป ม่านตาหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว…
ใต้ซากปรักหักพังของตึกที่เพิ่งถล่มลงไป ณ ทางเข้าออกตรงนั้น แผ่นปูนมากมายกำลังถูกแหวกออกทีละแผ่นๆ…
สวบ!
เมื่อมือข้างหนึ่งที่เต็มไปด้วยไอหมอกมืดยื่นออกมา ไม่นาน สัตว์ประหลาดใต้ดินจำนวนมหาศาลปรากฏตัวอยู่ตรงนั้น ราวกับศพที่กำลังมุดขึ้นมาจากหลุม พวกมันขยับตัวดัง “กร๊อบแกร๊บๆๆ” จากนั้นก็พากันแหงนหน้าคำรามเสียงดังแสบหู
“โฮกก โฮกก โฮกกกก!”
หลายสิบตัว…หลายร้อยตัว…กระทั่งนับพันตัว…
สัตว์ประหลาดเหล่านี้ทะลักขึ้นมาจากใต้ดินราวกับไม่มีวันหมด…และเสียงคำรามของพวกมัน ก็ดังก้องไปทั่วทุกแห่ง…
———————————————–