แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - บทที่ 1050 มา มาทำควมรู้จักกับตัวเองหน่อย
“และเพราะว่าเป็นแค่มนุษย์ แกถึงได้รู้ไง ว่าไม่ว่าแกจะดิ้นรนยังไง แกกับฉันก็ต่างกันอยู่ดี แต่ในอีกด้าน…แกก็ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา” “เด็กผู้หญิง” พูดต่อ “ฉัน…สนใจแกมาก ถ้าหากสามารถควบคุม…มนุษย์กับซอมบี้ได้พร้อมกัน…ถ้าเป็นอย่างนั้น ถึงจะถือว่าเป็นร่างแม่ที่แท้จริงสินะ? ร่างแม่…ที่แข็งแกร่งที่สุด…เพียงหนึ่งเดียว…”
ระหว่างที่พูด ร่างกายของมันก็ค่อยๆ ถูกดูดจมหายเข้าไปในหน้าผากของเจ้าลิงผอม
เจ้าลิงผอมอ้าปากค้างอย่างทรมานแสนสาหัส เขาลั่นร้องเสียงดังไม่หยุด สองมือตะเกียกตะกายบนพื้น สองเท้าถีบสะเปะสะปะไปทั่ว…หลิงม่อร้อนใจหมายจะเข้าไปช่วย แต่กลับพบว่าร่างกายตัวเองค้างแข็งไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ตอนนี้เขามั่นใจแล้ว ว่าคนที่ “เด็กผู้หญิง” กำลังคุยด้วย เป็นเขาจริงๆ!
ถึงแม้ร่างดวงจิตตัวนั้นตายไปแล้ว แต่ “เด็กผู้หญิง” ที่อยู่ตรงนี้ กลับมีความสามารถในการนึกคิดแยกออกมาอีกต่างหาก เกรงว่าตั้งแต่ที่เจ้าลิงผอมถูกจับตัวไป มันก็ได้แยกตัวออกมาจากร่างดวงจิต แล้วซ่อนตัวอยู่ในร่างของเจ้าลิงผอมตั้งแต่นั้นมา ภาพที่เกิดตอนนี้ เดาว่าคงจะเคยเกิดขึ้นแล้ว เพียงแต่ตอนนี้ มันกำลังฉายซ้ำต่อหน้าเขาอีกครั้งเท่านั้นเอง
พอคิดถึงจุดนี้ หลิงม่อก็กัดฟันกรอดอย่างเดือดดาล ถ้าหากไม่ใช่เพราะเจ้าร่างแม่ชั่วร้ายตัวนั้น เจ้าลิงผอมคงไม่ต้องทรมานถึงขนาดนี้ แต่ปัญหาในตอนนี้คือ ที่อีกฝ่ายฉายภาพเหตุการณ์นี้ซ้ำอีกครั้ง เพื่ออะไรกันแน่?
หรือว่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่มันบอกว่า “ทำให้เขากลายเป็นของฉัน”? “เขา” ในที่นี้ น่าจะหมายถึงตัวหลิงม่อสินะ…
“เชี่ย แกนี่มันตามรังควานไม่เลิกเลยนะ! แม้แต่ลูกไม้สกปรกอย่างนี้ก็ยังเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว!” หลิงม่อลอบด่า
“ใจเย็นก่อน…ยังมีโอกาสอยู่…” เขาพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเอง พลางเค้นสมองคิดอย่างรวดเร็ว “ฟังจากที่มันพูดเมื่อกี้ ตอนที่มันเตรียมเรื่องพวกนี้ ความจริงแล้วมันไม่รู้ว่าผลการต่อสู้จะออกมาเป็นยังไง ดังนั้นสำหรับมัน นี่อาจเป็นแค่แผนสำรองกันเหนียวเท่านั้น ในเมื่อเป็นอย่างนั้น แสดงว่าจะต้องมีช่องโหว่อยู่แน่ๆ!”
ระหว่างใช้สมอง หลิงม่อก็กำลังพยายามขยับตัวอย่างสุดความสามารถ แต่ในตอนนี้เอง อยู่ๆ เขาก็เข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา…
“เด็กผู้หญิง” กำลังมองเขา แล้วก็หัวเราะออกมา “ไม่มีประโยชน์หรอก…เห็นมาถึงขนาดนี้แล้ว แกยังไม่เข้าใจอีกหรอ แกทำอะไรไม่ได้อีกแล้วล่ะ เพื่อนของแก ผู้ชายคนนี้ เขาได้กลายเป็นฉันไปแล้ว…ถ้าอย่างนั้น แกจะทำยังไงต่อไปล่ะ? จะฆ่าเขาไปพร้อมกับฉัน หรือว่าจะยอมถูกพวกฉันฆ่าแต่โดยดีกันล่ะ? ไม่ว่าผลสุดท้ายจะเป็นแบบไหน สำหรับแก คงจะเป็นความล้มเหลวทั้งสองทางสินะ? ถึงฉันจะไม่รู้ว่าแกรอดจากเงื้อมมือฉันมาได้ยังไง แต่พอฉันปรากฏตัวอีกครั้ง แกคงจะสิ้นหวังมากสินะ?”
“ขนาดร่างดวงจิตของตัวเองถูกทำลายไปแล้ว แต่ร่างแยกที่เหลือกลับยังปากดีขนาดนี้…” หลิงม่อกลับใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว แล้วเปิดปากพูดแทรกมันอย่างเย็นชา
“เด็กผู้หญิง” ชะงักงันไปชั่วขณะ พลางย้อนถามโดยสัญชาตญาณ “ว่ายังไงนะ?”
“อ้าว ไม่เข้าใจที่พูดหรอ? ฉันกำลังจะบอก ตอนที่แกกำลังลงมือทำสิ่งนี้ แกลืมคิดถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่งไปนะ” หลิงม่อพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“แกหมายความว่ายังไง?” เสียงหัวเราะของ “เด็กผู้หญิง” หยุดชะงักทันที มันถามด้วยความสงสัย
“ร่างจริงของแก ถูกฉันกลืนกินแล้ว ดังนั้น ตั้งแต่ต้น คนที่แพ้ก็คือแก”
“เด็กผู้หญิง” อึ้งค้าง จ้องหน้าหลิงม่ออยู่ครู่หนึ่ง แล้วอยู่ๆ ก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว “อย่างนั้นหรอ? ไม่เป็นไรหรอก…ขอเพียงจัดการแกได้ ทุกสิ่งที่เสียไปล้วนเอากลับคืนมาได้ทั้งนั้น…เจ้ามนุษย์สมควรตาย…แกมันสมควรตาย!” ตอนนี้หน้าของมันเปลี่ยนไปจนไม่ต่างอะไรกับสัตว์ประหลาดเลยแม้แต่น้อย และท่ามกลางเสียงตวาดลั่นของมัน เจ้าลิงผอมพลันกรีดร้องเป็นครั้งสุดท้าย
ถึงจะรู้ว่าภาพนี้เคยเกิดขึ้นแล้ว แต่หลิงม่อก็ยังอดกำหมัดแน่นไม่ได้
ผู้ชายที่ขี้กลัวเหมือนหนูตัวเล็กๆ คนนี้ แม้ในยามคับขันที่ต้องเผชิญหน้ากับอันตราย กลับยังคงส่ายหน้าไปมาไม่หยุด…
เจ้าลิงผอมที่ดูดร่าง “เด็กผู้หญิง” เข้าไปจนหมด ยืนก้มหน้าเงียบๆ อยู่ตรงนั้น
หลายวินาทีผ่านไป เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้น พร้อมกับเสียงขยับคอดัง “กร๊อบแกร๊บๆ” จากนั้นก็มองมาทางหลิงม่อด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
รอยยิ้มนั่น เหมือนรอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของ “เด็กผู้หญิง” ทุกประการ…
“คิกๆ…หลิงม่อ แกตัดสินใจหรือยัง? แกจะทำยังไง…” “เจ้าลิงผอม” เอามือยันพื้น แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นยืน
เมื่อเขาลุกขึ้นยืนเสร็จ ร่างกายของหลิงม่อพลันเซไปทันที ตอนนี้เขาสามารถขยับตัวได้แล้ว
แต่ไม่รอให้เขาทันตั้งตัว “เจ้าลิงผอม” ก็กระโจนเข้ามาตรงหน้าเขาอย่างรวดเร็ว
เขาหัวเราะดังลั่น และอ้าปากงับลงมาที่หัวไหล่ของหลิงม่อ
หลิงม่อรีบโฉบกายหลบการโจมตีของ “เจ้าลิงผอม” ทันที
ทว่า “เจ้าลิงผอม” กลับเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วว่องไวสุดๆ ถึงแม้เทียบกับ “เด็กผู้หญิง” ไม่ได้ แต่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมในระดับหนึ่ง และเมื่อเวลาผ่านไป ความเร็วและพลังของเขาก็ค่อยๆ ใกล้เคียงกับมันมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่การหลบหลีกของหลิงม่อกลับเริ่มมีช่องโหว่มากขึ้น
“คิกๆๆ…เป็นอะไรไป? ไม่กล้าโจมตีกลับหรอ? แกอยากตายอยู่ที่นี่หรือไง? เร็วเข้าสิ แค่แกโจมตีกลับ ก็จะฆ่าเขาทิ้งได้เร็วขึ้นแล้ว! ใช่สิ ดูท่าทางแกเหมือนจะไม่ชอบฉันเอามากๆ เลยนะ! ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ก็รีบฆ่าฉันซะสิ!” “เจ้าลิงผอม” โจมตีอย่างบ้าคลั่ง พลางตะโกนเสียงดังโหวกเหวกไปด้วย
“แกพูดมากเกินไปแล้ว” หลิงม่อหาจังหวะตอกกลับ
กำปั้นของ “เจ้าลิงผอม” พุ่งเฉียดหัวหลิงม่อไปอีกครั้ง เขายังคงหัวเราะเสียงดังและพูดต่อว่า “ครั้งหน้าแกจบเห่แน่ ถ้ายังไม่ยอมโต้กลับ แกจะไม่เหลือเวลาแล้วจริงๆ นะ…”
ทว่าในขณะที่โจมตี อยู่ๆ เขากลับพบว่า หลิงม่อกำลังมองซ้ายมองขวา…
“แกกำลังมองอะไรอยู่? นี่แกยังคิดอะไรอย่างอื่นอยู่อีก?” “เจ้าลิงผอม” ตะโกนลั่น พลางเหวี่ยงหมัดเข้ามาเต็มแรงอีกครั้ง
หลิงม่อกระโดดหลบเข้าไปในมุมกำแพง หลุดรอดจากการโจมตีอย่างเฉียดฉิวอีกครั้ง
แต่คราวนี้ ข้างหน้าเขากลับมีหนวดสัมผัสสีแดงเส้นหนึ่งที่กำลังไหวกระเพื่อมอยู่กลางอากาศ
เดิมที “เจ้าลิงผอม” หมายจะกระโจนตามมา แต่พอเห็นเข้าก็หยุดชะงัก หัวเราะบอกว่า “ในที่สุดก็จะโจมตีคืนแล้วหรอ?”
“อื่ม…ใกล้แล้วล่ะ” หลิงม่อบอก พลันบังคับให้หนวดสัมผัสพุ่งพรวดเข้าไป
แต่สิ่งที่ทำให้ “เจ้าลิงผอม” ไม่คาดคิดก็คือ เป้าหมายที่หนวดสัมผัสพุ่งเข้ามาโจมตีไม่ใช่เขา แต่เป็น…พื้น…
“โครม!”
เมื่อเสียงดังสนั่น บนพื้นพลันปรากฏเหวลึกเป็นทางยาว…ทว่าสิ่งที่พุ่งออกมาจากเหวลึก ไม่ใช่ละอองฝุ่น แต่เป็นจุดขาวดำมากมายราวกับคลื่นสัญญาณรบกวน…
หลิงม่อไม่มองเหวลึกนั่นด้วยซ้ำ แต่กลับเงยหน้ามองขึ้นไปข้างบน พลางหัวเราะเย็นชา บอกว่า “ดูละครพอหรือยัง?”
“เจ้าลิงผอม” ทำหน้าตกตะลึง เขาจ้องหน้าหลิงทม่อเขม็ง สีหน้าขึ้งเคียด ถามว่า “แกคิดจะทำอะไรกันแน่?”
“อ้าว…มันก็ชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่หรอ? ถึงแม้ตั้งแต่ที่แกปรากฏตัวแกจะไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้ใช้ความคิด แต่สถานที่แห่งนี้ ยังไงก็มีช่องโหว่ที่ชัดเจนเกินไป ที่นี่ เป็นเพียงโลกมายาเท่านั้น และยังเป็นโลกมายาที่สร้างขึ้นสำหรับฉันโดยเฉพาะ” หลิงม่อชี้ไปที่ “เจ้าลิงผอม” ถามว่า “นี่ เป็นเจ้าลิงผอมตัวจริงอยู่แล้ว ใช่ไหมล่ะ? เพียงแต่ว่า คนที่ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ใช่ตัวเขาจริงๆ แต่เป็นร่างดวงจิตของเขา…”
“แกพูดอะไรของแก…” “เจ้าลิงผอม” ทำท่าเหมือนจะเข้ามาโจมตี แต่สุดท้ายก็ยังยืนอยู่ที่เดิม พลางกัดฟันกรอดเค้นเสียงถามรอดไรฟัน
“ยังต้องถามอีกหรอ? ในเมื่อเป็นโลกมายา แล้วเจ้าลิงผอมจะใช้พลังจิตของตัวเองมาโจมตีฉันได้ยังไงล่ะ? ที่ฉันเห็นภาพพวกนี้ เป็นเพราะว่าแกสะกดจิตฉันด้วยวิธีต่างๆ ส่วนเรื่องที่แกบอกว่ารวมร่างกับเขาน่ะ…แกคงไม่ได้คิดให้รอบคอบพอ มันถึงได้กลายเป็นช่องโหว่ที่ใหญ่ที่สุดแบบนี้ แต่ก็ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้แกจองหองขนาดนี้เวลาเตรียมแผนสำรองกันล่ะ คงไม่เคยคิดเลยล่ะสิว่าร่างจริงของตัวเองจะถูกจับไต๋ได้แล้ว และวิธีการควบคุมร่างแยกพวกนั้นของแก ก็ถูกเปิดโปงแล้วเหมือนกัน แกน่ะ อย่างมากก็เป็นได้แค่หนอนปรสิตที่อยู่ในตัวเจ้าลิงผอมเท่านั้นแหละ…” หลิงม่อบอก
“สิ่งที่แกต้องการ คือให้ฉันทำร้ายเจ้าลิงผอม…และฆ่าเจ้าลิงผอมด้วยมือฉันเอง พอถึงตอนนั้น แกถึงจะยอมเปิดเผยความจริง และฉวยโอกาสตอนที่สภาพจิตใจฉันไม่ปกติ แทรกซึมเข้ามาอยู่ในดวงแสงแห่งจิตของฉัน ใช่ไหมล่ะ?”
“เจ้าลิงผอม” เงียบไม่พูดไม่จา แต่ร่างกายของเขากลับเริ่มเลือนราง ราวกับจอโทรทัศน์ที่สัญญาณเริ่มขาดหาย…เป็นอย่างที่หลิงม่อพูด นี่เป็นเพียงการสะกดจิตของ “เด็กผู้หญิง” เท่านั้น…คำพูดของมัน รวมถึงภาพเหตุการณ์ที่มันฉายซ้ำ ล้วนทำเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ แต่หลังจากที่หลิงม่อจับผิดได้ การสะกดจิตก็จะคลายประสิทธิภาพลง
ด้วยพลังจิตเพียงเท่านั้นของเจ้าลิงผอม เขาไม่มีทางสร้างร่างดวงจิตที่สมบูรณ์ออกมาได้แน่นอน…ถึงแม้จะสร้างขึ้นมาได้ ก็อยู่ได้ไม่นาน
ส่วนทำไมเขาถึงได้ร่วมมือกับ “เด็กผู้หญิง” เกรงว่าคงเป็นเพราะลูกเล่นสกปรกที่ “เด็กผู้หญิง” ใช้สะกดจิตเขา…
“แก…” เสียงของ “เด็กผู้หญิง” ดังขึ้นอีกครั้ง ทว่าหลังตกใจไม่นาน มันก็หัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง “ถ้างั้นก็ช่วยไม่ได้แล้วล่ะ ที่นี่คือโลกแห่งดวงจิตของผู้ชายคนนี้ ถ้าแกอยากออกไป ก็ทำลายมันสิ แต่ถ้าแกทำอย่างนั้น มันก็ไม่ต่างอะไรจากฆ่าเขา พอถึงตอนนั้น ไม่แน่ว่าฉันอาจสามารถใช้ร่างเขาต่อก็ได้…”
“แกไม่ฉลาดเท่าร่างจริงของแกจริงๆ ด้วย…” อยู่ๆ หลิงม่อก็พูดขึ้น
“หมายความว่ายังไง?”
“ถ้าหากเป็นร่างจริงของแก ป่านนี้คงเข้าใจไปนานแล้ว…ถ้าไม่ใช่เพราะฉันคิดวิธีกำจัดแกได้แล้ว ฉันจะรีบร้อนพูดเรื่องพวกนี้ออกมาทำไมล่ะ…ที่ฉันคุยกับแก เพราะแค่ต้องการถ่วงเวลาเท่านั้นแหละ…”
หลิงม่อม่านตาหดเล็ก จากนั้นพลันเบิกกว้าง
เมื่อสิ้นเสียงพูดของเขา เงาขนาดมหึมาเงาหนึ่งก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนข้างหลังเขา
เงาเส้นนั้นข้างในเป็นสีดำ ในขณะที่ด้านนอกเป็นเงาสะท้อนสีแดงเลือด…หากมองอย่างละเอียด ก็จะพบว่ามันมีส่วนคล้ายกับเงาที่เกิดตอน “เด็กผู้หญิง” เผยร่างจริงของมันออกมาถึงเจ็ดแปดส่วนเลยทีเดียว…และในซอกนิ้วทั้งสิบของมัน กลับมีเส้นหนวดสีแดงห้อยอยู่เต็มไปหมด ทันทีที่มันปรากฏตัว มันก็เงยหน้าจ้องเพดานเขม็งด้วยดวงตาสีแดงเลือดของมัน
“แกคิดว่าซ่อนอยู่ตรงนี้ แล้วฉันจะหาไม่เจองั้นหรอ? ใช้ตัวแกไปตามหาตัวแก แกคิดว่าจะมีอัตราสำเร็จถึงกี่เปอร์เซ็นต์กันล่ะ?” หลิงม่อหัวเราะเย็นชา “ใช่สิ จะบอกอะไรให้อย่างหนึ่ง ฉันทำอย่างนี้ได้ตั้งแต่ที่กลืนกินร่างดวงจิตของแกล่ะ…ตุ๊กตาลม”
“หรือชื่อเล่นก็คือ…เสี่ยวเฮย!”
“ชื่อเล่นประเภทไหนของแกเนี่ย!” “เด็กสาว” นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็คำรามเสียงดังขึ้นมา
——————————-