แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - บทที่ 1052 กลับสู่ปัจจุบัน
เป็นอย่างที่ “เด็กผู้หญิง” พูด ที่นี่คือโลกแห่งความฝันของเจ้าลิงผอม ทุกอย่างล้วนตั้งอยู่บนจิตใต้สึกของเขาทั้งนั้น หากหลิงม่ออยากต่อต้าน ก็จำเป็นต้องทำลายที่นี่ หรือพูดอีกอย่างก็คือ ต้องใช้พลังจิตสู้กันนั่นเอง…
หากเจ้าลิงผอมที่ไม่ใช่ผู้มีความสามารถพิเศษสายพลังจิตอยู่แล้วต้องสู้กับหลิงม่อ เกรงว่าแค่กระบวนท่าเดียวก็หมอบแล้ว…ซึ่งสำหรับหลิงม่อ นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากจะเลือกได้ทั้งสองทาง
“ตายซะเถอะ ถ้าจะฟันแกให้ตายอยู่ในนี้ ไม่รู้ว่าต้องใช้พลังจิตเท่าไหร่…ฉันล่ะอยากรู้จริงๆ! คิกๆ…คิก…”
ทว่า “เด็กผู้หญิง” ยังหัวเราะไม่ทันจบ อยู่ๆ ก็ชะงักไป
“นี่…แก…คิดจะทำอะไร?”
หลิงม่อเช็ดมุมปากเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นยืน บอกว่า “เมื่อกี้ฉันก็บอกแกแล้วไม่ใช่หรอ? ว่าฉันจะหาแกให้เจอ นั่นแสดงว่าฉันมีวิธีจัดการแกแล้วยังไงล่ะ…”
และคู่สนทนาที่เขากำลังคุยด้วย ก็คือเจ้าลิงผอมที่ถูกเงามายาจับมือทั้งสองข้างเอาไว้จากด้านหลัง…
เจ้าลิงผอมยังคงดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดแรง แต่เงามายากลับจับตัวเขาไว้แน่นไม่ปล่อยให้หลุด…
ถึงไม่ทำลาย แต่หลิงม่อก็สามารถจับกุมเจ้าลิงผอมด้วยวิธีนุ่มนวลได้ แม้จะแค่ชั่วคราวก็ตาม…ขอเพียงเขายังคงดิ้นรนต่อไป ก็อาจสามารถเปลี่ยนสถานการณ์จากคุมเชิงมาเป็นต่อต้านได้…
“แกจะฆ่าเขาหรอ? คิกๆๆๆ…ดี ฆ่าซะสิ ฉันอาจจะซ่อนอยู่ในตัวเขาก็ได้น้า…ภาพเมื่อกี้ แกก็เห็นกับตาแล้วไม่ใช่หรอ? ที่จริงแล้ว ในใจแกก็เริ่มคลางแคลงมาตั้งแต่แรกแล้วสินะ?”
“หยุดหัวเราะเถอะ ฉันยอมรับว่าแกพูดยุแยงได้เก่งมาก…แต่ความคิดที่แกอยากจะหลอกฉัน กลับเล็ดลอดสายตาของฉันไปไม่ได้ โดยเฉพาะ…เมื่อฉันมีดวงตาสองคู่อย่างตอนนี้” หลิงม่อเดินไปยืนตรงหน้าเจ้าลิงผอม แล้วพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะเย็นชา
“สองคู่? สองคู่อะไรของแก…”
“เด็กผู้หญิง” กำลังพูด ทว่าทันใดนั้นกลับชะงักไปทันที ขณะเดียวกัน เจ้าลิงผอมก็ค่อยๆ หันหน้าไปมองเงามายาที่อยู่ข้างหลัง
“แย่แล้ว…”
ไม่คิดเลย…ขณะที่มันกำลังยุแยงและสะกดจิตหลิงม่ออยู่นั้น หลิงม่อก็กำลังทำเรื่องเดียวกันอยู่เหมือนกัน…
เมื่อเงามายาปรากฏตัว ความสนใจของมันก็ถูกดึงดูดไปทันที แต่ตอนนี้พอมองดูดีๆ อีกครั้ง เงามายานี้…ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเลยนี่! นอกจากดวงตาและสองมือ ส่วนอื่นๆ ล้วนประกอบไปด้วย “ไอหมอก” ทั้งนั้น!
ผลปรากฏว่า “เด็กผู้หญิง” กลับถูก “อุปกรณ์ประกอบฉาก” ที่ดูคล้ายตัวเองหลอกเข้าเต็มๆ แถมยังรีบร้อนจนเลือกใช้กลยุทธ์ผิดพลาดอีกด้วย…
“ของที่เสียไปแล้ว จะเอากลับมาซ่อมใหม่ง่ายๆ ได้ที่ไหนกัน…อีกอย่างถึงแม้จะเป็นพลังใหม่ มันก็ยังอยู่ในระยะแรกเกิดเท่านั้น…เด็กทารกในชุดผ้ากันเปื้อนกลับถูกแกมองเห็นเป็นฆาตกรโรคจิตไปซะได้ ตอนที่แยกร่างออกมาแกคงไม่ได้เอาสมองมาด้วยจริงๆ สินะ…” หลิงม่อเงยหน้า แล้วหัวเราะอย่างเย็นชาสุดขีด
“แก!…คิกๆ ถึงจะอย่างนั้น แล้วแกจะทำอะไรได้…ถึงแกจะมองเห็นแล้วว่าฉันอยู่ในร่างนี้ แต่แกจะทำอะไรได้ล่ะ?” “เด็กผู้หญิง” ยังคงหัวเราะเสียงเย็น น้ำเสียงของมันเริ่มมีแววลนลานปนอยู่เล็กน้อย แต่ยังไง มันก็คิดว่าตัวเองยังมีหลักประกันสุดท้ายอยู่…
“ทำอะไรได้หรอ? แน่นอนว่า…ฉันก็ต้องลากแกออกมาน่ะสิ!”
หลิงม่อพลันเอื้อมมือออกไป และคว้าขวานในมือเจ้าลิงผอมอย่างรวดเร็ว
ในเสี้ยววินาทีที่เขาแย่งขวานมา ขวานด้ามนั้นพลันกรีดร้องเสียงแหลมทันใด…
“ทำเป็นบอกว่าอยู่ในร่างเขา ความจริงแกก็แค่กำลังหลอกฉันเท่านั้น! เชื่อก็โง่เต็มทีแล้ว!”
หลิงม่อบีบขวานด้ามนั้นอย่างแรง ขณะเดียวกัน รูปร่างของขวานด้ามนั้นเริ่มเปลี่ยนไปช้าๆ
ผ่านไปไม่นาน สิ่งที่หลิงม่อกำไว้ในมือ ก็กลายร่างจากขวานเป็น “เด็กผู้หญิง” ตัวนั้นในที่สุด
เทียบกับร่างจริง “เด็กผู้หญิง” ตัวนี้มีขนาดตัวเล็กกว่าหนึ่งไซส์ แต่เสื้อผ้าการแต่งตัวยังเหมือนกันทุกประการ…
มันขัดขืนสุดแรง พร้อมกับจ้องหน้าหลิงม่ออย่างอาฆาตแค้น
ขณะเดียวกัน เจ้าลิงผอมที่หลุดพ้นจากมันพลันหยุดดิ้นรน ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย
“อยากรู้ล่ะสิว่าฉันรู้ได้ยังไง?” หลิงม่อจ้อง “เด็กผู้หญิง” ในมือ แล้วถาม
“แกจะฆ่าก็รีบฆ่า…” “เด็กผู้หญิง” พูดเสียงแค้น
“ง่ายมาก…”
“ฉันไม่อยากฟัง!”
“…ด้วยพลังจิตของเจ้าลิงผอม เขาไม่มีทางสร้างขวานที่แข็งแกร่งอย่างนี้ขึ้นมาได้แน่นอน? เขาเป็นคนที่ขี้กลัวถึงขนาดจะฆ่าคนในฝันก็ยังต้องโกง! ในเมื่อหาจนทั่วโลกแห่งดวงจิตแล้วก็ยังไม่เจอตัวแก ถ้าอย่างนั้นก็เหลือแค่จุดที่มีคลื่นพลังแรงสุดเท่านั้น ที่เป็นความเป็นไปได้สุดท้าย”
“แกแค่กำลังวางเดิมพันว่าฉันจะกล้าโจมตีเจ้าลิงผอมจริงๆ หรือเปล่าเท่านั้น แต่กลับไม่เคยคิดว่าในเมื่อเจ้าลิงผอมยังมีโลกแห่งดวงจิตที่เป็นอิสระอยู่ ก็แสดงว่าเขาไม่ได้ถูกแกควบคุมทั้งหมด ดังนั้นร่างกายร่างนี้ของแก ก็ทำได้เพียงต้องซ่อนตัวอยู่นอกร่างดวงจิตของเขาเท่านั้น เมื่อกี้ฉันกำลังคิดอยู่เลย ว่าทำไมเจ้าลิงผอมถึงได้ ‘ฟื้นคืนชีพ’ ได้เร็วขนาดนี้ ในขณะที่ความเร็วในการสูญสลายกลับช้าจนน่าแปลก ที่แท้ก็เป็นเพราะลูกไม้สกปรกของแก…แต่พอถูกฉันหลอกให้ตกใจหน่อย แกก็ดันเผยตัวเองออกมาเพราะความลนลานซะเอง…และจังหวะนั้น เสี่ยวเฮยที่อยู่ข้างฉันก็เห็นเข้าพอดี”
หลิงม่ออธิบายอย่างละเอียด
“ปรากฏว่าสุดท้ายเป็นเพราะแกดูถูกเขา…ถึงได้หาช่องโหว่เจองั้นสินะ?” “เด็กผู้หญิง” หัวเราะหยัน
“จะเป็นไปได้ยังไง…” หลิงม่อเหลือบมองมันอย่างดูถูก “แค่เขาไม่ถูกแกกลืนกิน ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว…ฉันพูดมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ยังไม่เห็นมีคลื่นพลังที่ผิดปกติจากจุดอื่น ดูเหมือนแกคงไม่มีร่างแยกที่สองแล้วสินะ…ในเมื่อเป็นอย่างนี้…แกก็ไปตายซะเถอะ”
เงามายาที่อยู่ข้างหลังมันพลันอ้าปากกว้าง และกลืนกิน “เด็กผู้หญิง” ลงไปอย่างรวดเร็ว
เสี้ยววินาทีที่ถูกกลืนกิน สีหน้าของ “เด็กผู้หญิง” พลันบิดเบี้ยว และกลายเป็นควันดำกลุ่มหนึ่งทันที…
“เอิ๊กกก…”
เงามายาเรอออกมาอย่างพึงพอใจ ถึงแม้พลังงานทางจิตที่รวมตัวกันจนกลายเป็น “เด็กผู้หญิง” จะไม่ได้มีมากนัก แต่มันกลับเป็นพลังที่บริสุทธิ์มาก…
และพอกลืนลงท้องไป ร่างกายของเงามายาก็จับตัวกันและชัดเจนขึ้นหลายส่วน ส่วนที่ลากยาวเหมือนเปลวเพลิงก็เริ่มมีรูปร่างเหมือนแขนขึ้นมาบ้างแล้ว…
“เอื่ม…เป็นผลพลอยได้ที่ไม่คาดคิดเลยจริงๆ”
หลิงม่ออึ้งงันไปเล็กน้อย แล้วพูดขึ้น
เขาหันไปมองเจ้าลิงผอมที่อยู่ข้างหน้า ขณะที่ “เด็กผู้หญิง” ถูกกลืนกิน ร่างดวงจิตของเจ้าลิงผอมก็เริ่มเลือนหายอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันทางเดินสองข้างทางก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่ง เหมือนกำลังห่างออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อร่างดวงจิตของเจ้าลิงผอมเลือนหายไปช้าๆ หลิงม่อก็ค่อยๆ ถอยกลับมาอยู่ในห้องเดิม
โครม!
ประตูห้องถูกปิดอีกครั้ง และหลิงม่อก็กลับไปนอนบนเตียงเหมือนเดิม…
“เฮือกก!”
หลิงม่อพลันลืมตาโพลง ลุกพรวดนั่งบนเตียง
“พี่หลิง?”
เสียงเย่เลี่ยนดังมาจากด้านข้างทันที เธอกำลังถือแก้วน้ำไว้ในมือ พลางจ้องมาที่เขาด้วยดวงตากลมโต
ขณะเดียวกัน เสียง “พลั่ก” ก็ดังมาจากนอกห้อง
“เกิดอะไรขึ้น?” เย่เลี่ยนเพิ่งจะหันไปมองทางประตูห้อง ก็พบว่าหลิงม่อรีบกระโดดลงมาจากเตียงแล้ว
เมื่อเขาเปิดประตูห้อง ก็เห็นกู่ซวงซวงกำลังวิ่งมาจากอีกด้านของทางเดิน
“เจ้าลิงผอมหายตัวไปแล้ว…อ้าว? ทำไมเขามาอยู่…”
กู่ซวงซวงมองหน้าหลิงม่ออย่างตกใจ ตอนนี้เขาประคองเจ้าลิงผอมขึ้นจากพื้น และกำลังสำรวจอาการของอีกฝ่ายอยู่
“ไม่เป็นไร…เขาหมดสติไปน่ะ” หลิงม่อมองพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วบอก
“หัวหน้า…ฟื้นแล้วหรอ?” กู่ซวงซวงได้สติทันที รีบวิ่งเข้ามาถามอย่างดีใจ
เย่เลี่ยนเดินมาจากข้างหลัง เอาเสื้อคลุมมาสวมทับไหล่หลิงม่อไว้ และช่วยเขาประคองเจ้าลิงผอม
“อื่ม…เพิ่งฟื้น” หลิงม่อพยักหน้า
ทางเดินที่เห็นในตอนนี้เหมือนกับทางเดินที่เห็นในโลกแห่งความฝันทุกประการ สิ่งเดียวที่ต่างกันคือแสงสว่าง…เห็นชัดว่าตอนนี้ยังเป็นเวลากลางวันอยู่ แถมบรรยากาศก็ไม่ได้อึดอัดเหมือนในโลกแห่งความฝันด้วย นั่นทำให้หลิงม่อที่เพิ่งหลุดออกมาจากโลกแห่งความฝันมึนงงไปชั่วขณะ ผ่านไปไม่นาน เขาก็อดลอบหัวเราะขมขื่นในใจไม่ได้
ไม่คิดเลยว่าก่อนจะลืมตาตื่นขึ้นมาจริงๆ เขากลับได้เดินว่อนไปทั่วอาคารหลังนี้ก่อนซะแล้ว…
ทว่าพอหลิงม่อหันมามองกู่ซวงซวง กลับพบว่าเด็กสาวกำลังชะงักงัน
“ตะ…ตาของคุณ…” เธอพูดขึ้นอย่างตื่นตะลึง
“ตา? ทำไมหรอ?” หลิงม่อถามอย่างไม่เข้าใจ
“เมื่อกี้…เหมือนจะมองเห็น…ดวงตาอีกคู่…” กู่ซวงซวงพูดพลางยกมือปิดปาก เหมือนไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตัวเองเห็น
แต่ดวงตาคู่นั้นปรากฏเร็ว และหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน เวลานี้พอมองอีกที หลิงม่อก็กลับไปเป็นปกติแล้ว
“อย่างนั้นหรอ…” หลิงม่อยกมือปิดตาข้างหนึ่ง แล้วมุมปากก็กระตุกเบาๆ
อย่างน้อยการปรากฏตัวของ “เสี่ยวเฮย” ก็ไม่ใช่ความฝัน…
“ทำไมเจ้าลิงผอมถึงได้…มาอยู่ที่นี่…”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน…คงเป็นเพราะอยากจะคุยกับหัวหน้าจนรอไม่ไหวล่ะมั้ง? ฉันจำได้ เขาเคยบอกว่า มีเรื่องจะบอกกับหัวหน้า…อีกอย่างทุกครั้งที่เขาฟื้นมา ก็เอาแต่ถามถึงอาการของหัวหน้าตลอดเลย…”
หลิงม่อกลับยิ้มอย่างไม่สนใจ แล้วพูดแทรกพวกเธอ “เอาเถอะ…สิ่งที่เขาควรบอก เขาก็บอกหมดแล้ว พาเขากลับไปพักเถอะ…”
————————————————-