แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - บทที่ 1053 แผนเหยื่อล่อ
ถึงตอนนี้ การกลายพันธุ์ของหลิงม่อก็ได้จบลงแล้ว…
ทว่าส่วนลึกในใจของหลิงม่อ กลับยังมีเสียงของ “เด็กผู้หญิง” ดังก้องอยู่…
“เมล็ดพันธุ์ของสัตว์ประหลาด”…มันคืออะไรกันแน่?
ที่บอกว่า “กำลังงอกเงย”…หมายความว่ายังไง?
แต่เขาไม่ทันได้ครุ่นคิดต่อ ก็ได้ยินข่าวจากปากกู่ซวงซวงเรื่องนักบินจางเส่อหายตัวไปเสียก่อน
ถึงแม้เธอไม่ได้เข้าร่วมการหารือด้วย แต่เธอก็รู้สถานการณ์อยู่บ้างไม่มากก็น้อย ตอนนี้พอเห็นหลิงม่อฟื้นมา เธอที่กำลังหวาดกลัวก็อดบอกหลิงม่อทันทีไม่ได้
ขณะเดียวกัน เย่เลี่ยนบอกให้ทุกคนรู้ข่าวที่หลิงม่อฟื้นแล้ว…
“เข้าใจแล้ว…” หลิงม่อฟัง พลางขมวดคิ้วพยักหน้าไปด้วย เขาเหลือบมองเจ้าลิงผอมที่นอนอยู่บนเตียงแวบหนึ่ง บอกว่า “เธอเฝ้าเขาไว้แล้วกัน ถ้าหากไม่มีอะไร เดาว่าคืนนี้เขาน่าจะฟื้นแล้ว”
“ได้…” กู่ซวงซวงพยักหน้าอย่างไม่ค่อยเข้าใจ
“อำเภอหลีหมิงหรอ…”
ระหว่างที่เดินลงบันได หลิงม่อเริ่มควานหาแผนที่เมือง X ในสมอง
“อื่ม…ดูจากตำแหน่ง ที่นี่เหมาะแก่การตั้งหลักมากที่สุดจริงๆ…ส่วนโรงงานแห่งนี้ น่าจะอยู่ทางเหนือของอำเภอหลีหมิงสินะ? หากเดินทางออกจากที่นี่จะไปถึงโกดังอาหารได้เร็วกว่า แถมอยู่แถบชานเมืองยังเข้าออกเมืองได้สะดวกกว่าด้วย…”
แต่ในฐานประจำการที่สมบูรณ์แบบอย่างนี้ กลับมีการหายตัวไปเกิดขึ้น…
“ไม่ใช่ความผิดพลาดของคนของเราแน่นอน…ในโรงงานมีพวกอวี่เหวินซวนอยู่ แถมข้างนอกก็มีหมีแพนด้ากลายพันธุ์ซุ่มดูอยู่…”
ถ้าอย่างนั้น…อะไรกันแน่ที่สามารถพาตัวจางเส่อออกไปจากที่นี่ ทั้งที่มีการป้องกันอย่างนี้อยู่?
การหายตัวไปที่ไม่ทันตั้งตัวอย่างนี้ ทำให้หลิงม่อสังหรณ์ใจไม่ดีนัก…
และลางสังหรณ์นี้ก็พุ่งพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เขาได้ฟังสถานการณ์อำเภอหลีหมิงในปัจจุบัน…
“พี่หลิง! จางเส่อเขา…”
หลิงม่อเพิ่งจะเดินเข้ามาในห้องโถง นักบินหนุ่มคนนั้นก็รีบวิ่งเข้ามาหาทันที
มู่เฉินรั้งตัวเขาไว้ และเกลี้ยกล่อมให้เขาใจเย็นๆ ก่อน
ในอีกด้าน อวี่เหวินซวนก้าวเข้ามาหาเขาเร็วๆ เล่าสถานการณ์รวมถึงการวิเคราะห์และข้อเสนอของทุกคนให้เขาฟังอย่างละเอียด นอกจากนั้นยังไม่ลืมถามอีกว่า “น้องเขย นายเป็นยังไงบ้าง? น้องเขย นายกลายพันธุ์ส่วนไหนหรอ? น้องเขย เครื่องมือผลิตลูกหลานของนายไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมน้องเขย…”
“ฉันสบายดีทุกอย่าง…จะว่าไป ถ้านายไม่เรียกว่าฉันว่าน้องเขยซ้ำไปซ้ำมาแล้วก็ถามถึง XX ของฉัน นายจะตายหรือไง…” หลิงม่อบอก แล้วหันไปพูดกับนักบินหนุ่ม “นายพูดถูกแล้ว ดูเหมือนว่า…ตั้งแต่ที่พวกเราก้าวเข้ามาในอำเภอแห่งนี้ พวกเราก็ได้ตกหลุมพรางหลุมใหญ่เข้าแล้วล่ะ แล้วมันก็สายเกินไปที่จะถอนตัวแล้วด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าสิ่งที่ลอบกัดพวกเราอยู่ในที่มืดจะเป็นตัวอะไรก็ตาม ตราบใดที่มันเอาตัวคนของเราไป พวกเราจะไม่มีวันปล่อยมันไป สรุปว่าหากเขายังอยู่ก็ต้องเห็นตัว ตายก็ต้องเห็นศพ และเรื่องนี้ พวกเราจะเอาคืนพวกมันเป็นสิบเป็นร้อยเท่า”
เขาพูดด้วยเสียงที่ราบเรียบ แต่มันกลับทำให้นักบินหนุ่มใจเย็นลงไม่น้อย…เมื่อคำพูดประเภทนี้ออกมาจากปากหลิงม่อ แม้ไม่ฮึกเหิมหรือปลุกใจ แต่ก็ทำให้ผู้ฟังรับรู้ได้ถึงความหนักแน่นและความจริงจังที่แฝงอยู่ในคำพูดได้เป็นอย่างดี…ไม่ว่าอย่างไร หลิงม่อก็เป็นกำลังหลักในทีมนี้ คำพูดของเขา ย่อมหมายถึงทิศทางการเคลื่อนไหวของทีม และการปรากฏตัวของเขา ก็เท่ากับเป็นการเสริมความมั่นใจให้ทุกคน
“ชะ…ใช่แล้ว…พวกเราต้องตามหาจางเส่อเจอแน่นอน…” นักบินหนุ่มพูดเสียงเบา
“ซย่าน่ากับอวี่เหวินซวนเองก็วิเคราะห์ได้ถูกต้องเหมือนกัน…ดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน วิธีที่ดีที่สุด ก็คือทำตามที่ทั้งสองคนบอก…” พูดจบ หลิงม่อก็กำชับเสริมว่า “ส่วนแผนหลอกล่อ…ถ้าเรารวมตัวกันอยู่ตลอดแบบนี้ไม่ได้ผลแน่ ดูจากเรื่องของจางเส่อ พวกมันระมัดระวังตัวมาก โดยจะการเลือกจัดการคนที่แยกตัวออกจากคนอื่นเท่านั้น ดังนั้นหากอยากให้เรื่องเดียวกันเกิดขึ้นอีกครั้ง พวกเราต้องเลือกหนึ่งในทีมมาเป็นเหยื่อล่อ…”
“ฉันเอง” เย่ไครีบลุกขึ้น ดูจากที่เขาเอาแต่ก้มหน้าก้มตาลับมีดไม่หยุดก็รู้แล้วว่าเขากำลังถูกไฟโทสะครอบงำ โอกาสที่จะได้อยู่แนวหน้าของแผนการอย่างนี้ เขาไม่มีทางพลาดแน่นอน
“สีหน้าที่กำลังพูดว่า ‘ฉันจะฆ่าแก’ ของนาย ถ้าพวกมันเห็นเข้าก็คงไม่กล้าลงมือหรอก…” มู่เฉินตบไหล่เขา พลางเกลี้ยกล่อม
“โค้ช อย่ามาแย่งหน้าที่ผมนะ งานนี้ผมต้องได้ ใครหน้าไหนกล้าแย่งไป ฟันไม่เลี้ยงแน่…” เย่ไคพูเสียงหงุดหงิด
“เรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ฉันเถอะน่า…อย่างน้อยฉันก็เป็นผู้มีความสามารถพิเศษ ไม่ตายง่ายๆ แน่…” มู่เฉินพูดต่อ
“ผมกล้าฟันจริงๆ นะ…”
“ฉันดีกว่าๆ…อย่างอื่นน่ะฉันไม่รู้หรอกนะ แต่เรื่องเอาตัวรอดฉันมั่นใจเต็มร้อย” อวี่เหวินซวนอาสาอีกคน
“ถ้างั้นก็ไปเอาตัวรอดตอนนี้เลยเซ่! อย่าคิดว่าเป็นหัวหน้าค่ายแล้วผมจะไม่กล้าลงมือนะ…”
พวกซย่าน่ากลับไม่มีใครพูดอะไร…ในฐานะซอมบี้ เห็นชัดว่าพวกเธอเป็นเหยื่อล่อไม่ได้แน่นอน…และ “สิ่งมีชีวิตลึกลับ” อย่างเฮยซือที่ยังไม่รู้เผ่าพันธุ์แน่ชัด ก็เหมือนกัน…
“ฉิบหาย…เงียบ!” หลิงม่อตัดบทพวกเขาอย่างเหลือทน “ไม่ใช่งานดีเด่อะไรซักหน่อย พวกนายจะเอะอะเสียงดังกันทำไม? ฉันไม่เคยได้ยินเลยว่ามีคนแย่งกันเป็นเหยื่อล่อด้วย!”
“เอาเป็นว่าเรื่องนี้ทุกคนเห็นตรงกัน ให้ฉันทำก็แล้วกัน” เขาพูดต่อ
“เห็นตรงกันตั้งแต่เมื่อไหร่…”
“ในทีมไม่มีคนแล้วหรือไง? ถึงต้องให้หัวหน้าทีมไปเองน่ะ…”
“เรื่องแบบนี้นายมีสิทธิ์เมื่อไหร่กัน! นายอย่ามาใช้อำนาจเอาเปรียบกันนะ!”
มู่เฉินตกใจกว่าใครเพื่อน หมอนี่เป็นบ้าหรือไง เรื่องแรกที่คิดจะทำหลังได้สติคือรนหาที่ตายเนี่ยนะ!
แม้ว่าทุกคนจะเถียงกันอย่างออกรส แต่ความจริงพวกเขารู้ดีแก่ใจอยู่แล้ว…ผู้ลอบโจมตีสามารถคืบคลานเข้ามาถึงใต้จมูกพวกเขาโดยไม่มีใครรู้ แสดงว่าต้องมีฝีมือเก่งกาจไม่เบา…ถึงแม้มองข้ามเรื่องนี้ไป แล้วเรื่องที่สามารถจัดการอำเภอแห่งนี้จนเกลี้ยงเกลาขนาดนี้ล่ะ? สัตว์ประหลาดอย่างนี้ ไม่ใช่แค่คนสองคนที่จะรับมือได้แน่…
และในฐานะมนุษย์ ความจริงแล้ว…พวกเขาอ่อนแอกว่ามาก…
“วางใจเถอะ” หลิงม่อโบกมือไปมา บอกว่า “นายคิดว่าฉันเหมือนพวกนายหรอ? ฉันไม่เอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงหรอก ตั้งใจจะไปตามหาจางเส่อ แต่ดันถูกจับตัวไปด้วยอีกคน อย่างน้อยฉันก็ไม่มีทางให้เรื่องอย่างนั้นเกิดขึ้น”
“ถ้าอย่างนั้น หัวหน้าตั้งใจจะ…”
นักบินหนุ่มหมายจะถาม แต่ก็ได้ยินหลิงม่อพูดต่อว่า “ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มเคลื่อนไหวจริงๆ ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมอยู่ที่นี่ และดูแลตัวเองให้ดีเถอะ” เขามองหน้านักบินหนุ่มเป็นพิเศษ แล้วบอกว่า “นายไม่มีพลังพิเศษ ไปอยู่กับเจ้าลิงผอมแล้วกัน ไม่ว่ายังไง จำไว้ให้ดีว่าอย่าออกไปไหนคนเดียว เรื่องของจางเส่อ พวกฉันจัดการเอง”
“ขะ…เข้าใจแล้ว…” นักบินหนุ่มพยักหน้า หลังครุ่นคิด ก็พูดอย่างหดหู่ “จางเส่อเขา…น่าจะ…พี่หลิง ยังไงก็ปลอดภัยไว้ก่อนเถอะนะ…”
“ฉันมีสิทธิ์ในค่ายปาฏิหาริย์ครึ่งหนึ่ง เรื่องนี้…ตกลงกันตามนี้” หลิงม่อบอก
“ผม…ผมขอบคุณพี่หลิง…แทนจางเส่อด้วย” นักบินหนุ่มพูดติดอ่างไปชั่วขณะ…เดิมทีเรื่องที่เกิดทำให้เขาหวาดกลัวและเป็นปมในใจ แต่พอหลิงม่อปรากฎตัว เขาก็ตัดสินใจวางแผนการเคลื่อนไหวอย่างไม่ลังเล ซ้ำยังเอาตัวเองไปเสี่ยงอันตรายอีก…สถานการณ์อย่างนี้ ทำให้นิกบินหนุ่มรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก….
และท่าทีสุดท้ายของหลิงม่อ ก็ยิ่งทำให้เขาสงบใจได้มากขึ้น ไม่ว่าอย่างไร เรื่องนี้ หลิงม่อจะเป็นคนนำทีมไปจัดการด้วยตัวเอง…ส่วนเรื่องที่เขาต้องทำ ก็แค่ต้องทำตามที่หลิงม่อบอก คือพยายามมีชีวิตรอดต่อไปอย่างสุดกำลัง…
“ถ้าอย่างนั้นเริ่มแผนเมื่อไหร่…” เย่ไคเห็นว่าทุกอย่างถูกตัดสินไปแล้ว จึงทำได้เพียงถามขึ้น
“เรื่องนี้รอช้าไม่ได้ เริ่มแผนคืนนี้เลย” หลิงม่อบอก
…………
2 ชั่วโมงก่อนเริ่มเคลื่อนไหว
ในช่วงนี้ ทุกคนต่างกำลังเตรียมตัวอย่างเต็มที่
แม้แต่นักบินหนุ่มที่ไม่มีส่วนร่วมในแผนการ ก็กำลังช่วยพวกกู่ซวงซวงแบ่งส่วนอาหารอยู่…
“พวกนายหาอาหารมาได้ไม่น้อยเลยนะ…” หลิงม่อมองอาหารกระป๋องในมือ แล้วพูดขึ้น
มู่เฉินกัดธัญพืชอัดแท่งในมือแรงๆ หนึ่งที บอกว่า “ก็พอได้ ตลาดกับมินิมาร์ทบนถนนแถวๆ นี้ ถูกพวกฉันกวาดของมาจนเกลี้ยงแล้ว…แต่บอกตามตรง แม้แต่อำเภอเล็กๆ อย่างที่นี่ ก็ยังหาอาหารได้ยากขึ้นทุกทีแล้ว อาหารส่วนมาก ต่างก็ติดเชื้อจากศพหรือไม่ก็ขยะจนกินไม่ได้แล้ว…”
“ดีที่โกดังอาหารอยู่ใกล้แค่เอื้อม อย่างน้อยพวกเราก็ถือว่าหาทางออกเจอแล้ว” อวี่เหวินซวนพูดขึ้น
“เรื่องนี้น่ะ…ต้องขอบคุณนิพพาน…” หลิงม่อรำพึง
“นิพพาน…หึหึ ตอนนี้พวกเขาคงกำลังแข่งกับฟอลคอนอยู่…” เย่ไคหัวเราะเย็นชา แล้วพูดแทรกขึ้น
“ฟอลคอนหรอ…”
หลิงม่อหันหน้ามองออกไปข้างนอก ตอนนี้พวกเขากำลังถูกขังไว้ในอำเภอร้างแห่งนี้ หลังจากที่สัตว์ประหลาดใต้ดินปรากฏตัวในเมือง X ไม่รู้ว่าค่ายผู้รอดชีวิตสองแห่งนั้นจะเป็นอย่างไรบ้างแล้ว…
“เอาล่ะ…มาแบ่งหน้าที่กันก่อนเถอะ” หลิงม่อวางกระป๋องเปล่าในมือลง แล้วหยิบห่วงดึงกระป๋องที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมาวาดภาพลงบนพื้นปูน “ตรงนี้คือประตูหน้า ตรงนี้คืออาคารโรงงาน…ตรงนี้ คือตำแหน่งที่พวกเราอยู่ในตอนนี้ อีกฝ่ายมีสติปัญญาในระดับหนึ่ง แถมยังเจ้าเล่ห์รอบคอบ ดังนั้นหากเราอยากทำให้สำเร็จ เราต้องใช้แผนที่ซับซ้อนหน่อย…”
“เลียนแบบการหายตัวไปของจางเส่อ ดีไหม?” มู่เฉินเสนอ
“ถึงแม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่ามีอัตราความสำเร็จอยู่ แต่วิธีเดียวกัน ก็อาจพลาดได้ง่ายๆ นะ ทันทีที่ล้มเหลว โอกาสที่จะตามหาจางเส่อเจอ ก็จะลดลงทันที เราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จะเสี่ยงอันตรายแบบนั้นได้” หลิงม่อส่ายหน้า
อวี่เหวินซวนครุ่นคิด บอกว่า “ถ้าอย่างนั้น…ก็ต้องใช้แผนที่ความจริงแล้วเหมือนเดิม แต่ภายนอกกลับสามารถหลอกพวกมันได้…”
“ลองเปลี่ยนวิธีคิดดูสิ” หลิงม่อครุ่นคิด แล้วอยู่ๆ ก็บอกว่า “ในเมื่ออีกฝ่ายสังเกตพวกเรามาสามวันแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกมันต้องรู้แน่นอน ว่าในอาคารเล็กๆ หลังนี้ มีคนที่ไม่เคยขยับเขยื้อนไปไหนเลยอยู่สองคน…” พูดไป เขาก็วาดจุดสองจุดแทนห้องของตัวเอง และห้องของเจ้าลิงผอม
“ดังนั้น พวกเราให้คนส่วนใหญ่กระจายตัวออกไปรอบๆ โรงงาน…จากนั้น ก็ปล่อยให้อาคารว่าง” เขาวาดวงกลมตรงอาคารโรงงาน แล้วบอกว่า “ฉันจะวางเหยื่อล่อไว้ในห้องเดิม ส่วนอีกห้อง ก็เอาไว้ซุ่มโจมตีได้ สามวันมานี้มีคนเฝ้าดูแลพวกฉันตลอด ดังนั้นห้องที่เอาไว้ซุ่มโจมตี อยู่กันซักสองหรือสามคนก็ได้”
“ส่วนที่เหลือ ก็แค่ต้องรอดูว่าพวกมันจะติดกับไหม…” หลิงม่อเงยหน้าสบตากับพวกเขา พลางพูดเสียงเย็น
—————————————