แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - บทที่ 1063 ปีศาจในหลุมลึก
“แกรู้เรื่องมากน้อยแค่ไหนแล้วกันแน่…” มนุษย์แมงมุมลอบกัดฟัน เล็บมือจิกลึกเข้าไปในฝ่ามือ
เป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ นิ้วมือของเขา ล้วนขาวซีดทุกนิ้ว…
ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า มนุษย์ที่ยังมีชิวิตอยู่เพียงคนเดียวในอำเภอนี้ กลับไม่ใช่คนที่ขนเหล้าบุหรี่พวกนั้นไป…
ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนต่างรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อ
“น้องเขย นี่นายหมายความว่า…” อวี่เหวินซวนก้าวออกมา ถามว่า “ที่นี่ ยังมีคนอื่นอยู่อีก?”
จางซินเฉิงขมวดคิ้วหันไปมองมนุษย์แมงมุม บอกว่า “ถ้าอย่างนั้นเมื่อกี้ที่มันพูดอย่างนั้น ก็เพื่อให้พวกเราตายใจหลังจากที่ฆ่ามัน จากนั้นก็เปิดโอกาสให้พวกที่เหลือของมันฉวยโอกาสเล่นงานเราอีกครั้งหรอ?”
“ไม่ใช่แค่นี้…” หลิงม่อไม่ได้ตอบคำถามทันที แต่กลับนั่งยองๆ ลงตรงหน้ามนุษย์แมงมุม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแฝงแววเย้ยหยัน “เกรงว่าเหตุผลที่แกเป็นฝ่ายเปิดปากพูดถึงเรื่องฆ่าคนก่อน ความจริงแล้วเป็นเรื่องหลอกลวงทั้งเพสินะ? ฉันคิดว่า…ในเมื่อเราเคยสู้กันมาแล้ว แกก็น่าจะรู้จักพลังฉันบ้างแล้ว อยู่ต่อหน้าผู้มีพลังจิตแท้ๆ แต่ยังคิดจะโกหกหน้าด้านๆ อีก ฉันดูออกหมดแหละ…”
“รู้จัก?” มนุษย์แมงมุมกระตุกมุมปาก จากนั้นก็หัวเราะขมขื่น
จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับตัวอะไรอยู่กันแน่ แล้วเขาจะไปรู้จักพลังหลิงม่อได้ยังไง?
ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าหนุ่มนี่จะกล้าพูดไร้สาระอย่างนี้…ทั้งที่ตัวเองเอาซอมบี้กับสัตว์กลายพันธุ์มาให้เขาเห็นเต็มตาแล้วแท้ๆ แต่กลับยังพูดว่าตัวเองเป็นผู้มีพลังจิตได้หน้าตาเฉย…
ก่อนที่จะบอกว่าคนอื่นโกหก หันไปมองตัวแกเองก่อนไหม!
ทว่าภายใต้สายตากดดันสุดขีดของหลิงม่อ มนุษย์แมงมุมกลับยังคงเลือกที่จะเงียบ
ไม่รู้ทำไม พอสบตากับหลิงม่อ เขาก็รู้สึกว่าความกลัวในจิตใจไม่สามารถควบคุมได้…
สถานการณ์อย่างนี้ ไม่ค่อยดีจริงๆ…
“ยังไม่ยอมพูดออกมาอีก? ดูท่า แกคงอยากจะทรมานจริงๆ สินะ…อ้อ ใช่สิ อน่าหาว่าฉันไม่เตือนแกนะ เมื่อตกอยู่ในกำมือของพวกฉันแล้ว ถึงแกอยากตาย ก็อย่าหวังว่าจะได้ตายสมใจ อย่างเช่นคนผู้นี้ที่พร้อมจะลงมือทุกเมื่อ เมื่อก่อนเขาทำงานสายนี้มาตลอด เรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเลยก็ว่าได้…” หลิงม่อพูดสีหน้าเรียบเฉย พลางเอียงคอพยักเพยิดไปทางเย่ไคที่กำลังเดินเข้ามาเล็กน้อย
เย่ไคที่ไว้ผมทรงสกินเฮด และมีแววตาดุดันผิดปกติดึงมีดออกมา พลางลอบเหงื่อตกในใจ…หัวหน้าทีมคนนี้พอถึงคราวโกหก สีหน้ากลับไม่เปลี่ยนแปลงซักนิด! ที่บอกว่าทำงานสายนี้มาตลอดนั่นมันหมายความว่ายังไงกัน? เรื่องแบบนี้เรียกว่างานได้ด้วยหรอ?
“เชี่ย…อย่ามองผมแบบนั้นนะโว้ย! เมื่อก่อนผมเป็นโปแกรมเมอร์ต่างหาก!” ขณะที่เดินผ่านมู่เฉินกับอวี่เหวินซวน เย่ไคก็คำรามเสียงต่ำออกมาอย่างอดไม่ได้ในที่สุด
“อะไรนะ?!”
“ผมสิต้องถามพวกคุณว่าหมายความว่ายังไง…ทำไมต้องตกใจที่ได้ยินว่าผมเป็นโปรแกรมเมอร์” เย่ไคหงุดหงิด
“เพราะยังไงก็น่ามีแต่คนแบบฉันที่เหมือนพนักงานบริษัทนี่นา…” อวี่เหวินซวนกระตุกคอเสื้อ แล้วหัวเราะคิกๆ
“ไม่ๆๆ…นายน่ะไม่เหมือนที่สุดแล้ว”
“อย่ามาลบหลู่เกียรติของพนักงานออฟฟิสนะ เอาแต่เพ้อฝันว่าตัวเองเป็นพนักงานบริษัทอยู่ในโรงพยาบาลประสาทน่ะสิไม่ว่า…”
พวกเขาสามคนกระซิบกระซาบเถียงกัน ในขณะที่สายตากลับหันไปมองมนุษย์แมงมุมเป็นตาเดียว
พอเห็นสามคนนั้นทำท่ากำหมัดกัดฟัน บวกกับคำพูดของหลิงม่อเมื่อกี้ มนุษย์แมงมุมพลันตัวสั่น
เขาชั่งน้ำหนักในใจอย่างรวดเร็ว บอกว่า “ฉันบอกแล้ว…ฉันจะบอกทุกอย่างเลย!”
“ฉัน…ไม่สิ พวกฉัน เหตุผลที่พวกฉันอยากฆ่าพวกแก ความจริงมีอยู่สองข้อ…หนึ่งเพื่อเอาศพพวกแกไปเลี้ยงแมงมุม…เห็นแมงมุมพวกนี้มีจำนวนมากขนาดนี้ แต่ความจริงพวกมันไม่ได้กินเยอะ ถ้าหากว่าหลังกินอาหารแล้วอยู่นิ่งๆ ไม่ทำอะไร พวกมันอยู่ได้เป็นเดือนเลยนะ! สาเหตุที่อำเภอนี้ไม่เหลืออะไรเลย เหตุผลหลักเป็นเพราะแม่แมงมุมที่ใหญ่ที่สุดของพวกมัน…แม่แมงมุมตัวนั้นเวลาที่มันต้องวิวัฒนาการหรือแพร่พันธุ์ มันต้องกินอาหารในปริมาณที่มากจนน่ากลัวเลยล่ะ แล้วก็…ที่จริงแล้วศพจำนวนมากถูกพวกฉันขนย้ายไปเพื่อกักตุนไว้…” มนุษย์แมงมุมจิกฝ่ามือแน่น ทำท่าครุ่นคิดพลางพูดไปด้วย
“แม่แมงมุม?” หลิงม่อถาม
“ใช่น่ะสิ พวกฉันเรียกมันว่าบลัดมาเธอร์…มันไม่เหมือนกับแมงมุมตัวผู้ที่อยู่ในตัวฉัน เพราะมันแกร่งกว่ามาก แมงมุมตัวผู้แบบนี้…ความจริงแล้ววิวัฒนาการมาจากแมงมุมพวกนั้นที่ตัวเล็กกว่านี้หน่อย มีจำนวนไม่มากด้วย…แต่เมื่อแมงมุมตัวผู้ไปผสมพันธุ์กับมัน ก็จะโดนมันกินทุกครั้ง จากนั้นมันก็จะวางไข่ หากเอาไปให้เหล่าแมงมุมตัวใหญ่กิน ก็จะวิวัฒนาการจนเกิดเป็นแมงมุมตัวผู้ขึ้นมา จากนั้นก็จะมอบหมายให้พวกฉันมาเลี้ยงต่อ…” มนุษย์แมงมุมพยายามเล่าทุกรายละเอียด
“ถ้าอย่างนั้น…ก็หมายว่าพวกแกถูกบลัดมาเธอร์ควบคุมงั้นหรอ? ชิท พวกแม่งคิดว่ากำลังหลอกใครอยู่วะ?” เย่ไคทำท่าจะพุ่งเข้ามา
มนุษย์แมงมุมพูดอย่างลนลาน “มะ…ไม่ได้หลอกอยู่แล้ว…ความจริงแล้วบลัดมาเธอร์…ถูกลูกพี่ของพวกฉันควบคุมไว้ ดังนั้นถ้าจะพูดให้ถูก ความจริงแล้วพวกฉันถูกลูกพี่ควบคุมต่างหาก แมงมุมตัวผู้กับบลัดมาเธอร์มีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมาก ถึงฉันจะไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ว่าพวกฉันสามารถรับคำสั่งของลูกพี่ผ่านเจ้าแมงมุมตัวผู้ได้จริงๆ…”
“ถ้าอย่างนั้น ลูกพี่ของพวกแกก็เป็นมนุษย์แมงมุมที่ใหญ่สุด? ในเมื่อเขาทำให้แกเป็นแบบนี้ แล้วแกจะยังช่วยเขาอีกทำไม? แต่ว่า…เพื่อที่จะเลี้ยงแมงมุมพวกนั้น แกฆ่าคนของพวกฉันไปหนึ่งคน แกเป็นแบบนี้ก็สมควรแล้ว!” กู่ซวงซวงลุกขึ้นยืน และด่าออกมาด้วยความโกธเกลียด แต่ดูจากที่เธอไม่ยอมเข้าใกล้ก็รู้แล้วว่าเธอรับรูปร่างภายนอกของมนุษย์แมงมุมไม่ได้…
“หึหึ…ด่ามาเถอะ แต่ว่าเธอพูดผิดแล้วล่ะ ฉันไม่เกลียดลูกพี่ พวกแกก็น่าจะดูออก ฉันเป็นแค่คนธรรมดา แค่มีชีวิตในสภาพนี้ได้ ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว…” มนุษย์แมงมุมบอก
เย่ไคได้ยินอย่างนั้นก็บันดาลโทสะ แต่กลับถูกมู่เฉินห้ามไว้ก่อน
มนุษย์แมงมุมกลับพูดต่อว่า “แต่ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญ ที่พวกฉันตัดสินใจโจมตีพวกแก…พวกแกมีเฮลิคอปเตอร์ ไม่แน่ว่าอาจมีอาวุธด้วย เดินทางมาถึงสถานที่รกร้างห่างไกลอย่างนี้ แถมพอมาแล้วก็ไม่ยอมไป มันก็ยากที่พวกฉันจะไม่เกิดความโลภ…โดยเฉพาะเฮลิคอปเตอร์ ถึงคนทั่วไปจะหาเจอ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะขับเป็นนี่ ดังนั้น…ฉันเลยสงสัยว่าในหมู่พวกแกมีทหารเก่าอยู่ด้วย และเป้าหมายของพวกแกในการมาครั้งนี้คือ…”
“คืออะไร?” จางซินเฉิงถาม
หลิงม่อกลับใจเต้นไม่เป็นส่ำ รีบถามทันใด “แกหมายถึง…โกดังอาหาร?”
แถวๆ นี้มีโกดังอยู่สองแห่ง สาเหตุที่หลิงม่อเจาะจงถามถึงโกดังอาหาร เพราะเขามีเหตุผล ถ้าหากเป็นโกดังอาวุธ ผู้ชายคนนี้จะมามือเปล่าได้ยังไง…
แต่ไม่คิดเลยว่าโกดังอาหารจะถูกคนอื่นเจอก่อน นั่นทำให้หลิงม่อขมวดคิ้วทันที
ทว่าพอคิดอีกที มนุษย์แมงมุมอย่างพวกนี้ ในตัวมีแต่แมงมุมกินคนอยู่เต็มไปหมด คิดว่าคงมีสมาชิกกันไม่มาก
แต่โกดังอาหารสามารถเลี้ยงปากท้องคนได้นับล้าน…
ในอีกด้าน โกดังอาหารไม่ได้อยู่ในที่ลับตาคนเหมือนโกดังอาวุธ…ถึงแม้คนส่วนมากจะไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน แต่ถ้าหากอาศัยอยู่ใกล้ๆ ก็น่าจะเคยได้ยินมาบ้าง
คิดถึงตรงนี้ หลิงม่อก็ใจเย็นลง
มนุษย์แมงมุมกระตุกยิ้มมุมปากทันที “พวกแกมาตามหาโกดังอาหารจริงๆ ด้วย…”
“คำสั่งโจมตี ลูกพี่แกเป็นคนสั่งสินะ?” หลิงม่อถาม “ในเมื่อรู้ว่าฝีมือพวกฉันไม่ธรรมดา ถ้าอย่างนั้นลำพังแค่แกคนเดียว คงไม่กล้าลงมือส่งเดชแน่นอน”
“เหอะ…ใช่แล้ว แต่ไหนแต่ไรฉันก็มีหน้าที่ดูแลอำเภอหลีหมิงอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าที่นี่จะถูกพวกฉันย้ายศพไปเกือบหมดแล้ว แต่อย่างไรก็ยังเป็นอำเภอแห่งหนึ่ง ยังมีหลงเหลืออยู่บ้าง หลังจากเจอพวกแก ฉันก็เฝ้าดูพวกแกอยู่หนึ่งวัน จนรู้เรื่องของพวกแกหมดแล้ว ถึงได้รายงายลูกพี่ ลูกพี่บอกว่า…ไม่ว่าเรื่องใดลงมือก่อนมักได้เปรียบเสมอ ถึงแม้พวกแกไม่ได้มาตามหาโกดังอาหาร แต่การที่พวกแกอยู่ที่นี่ถือเป็นภัยแฝง อีกอย่างอาหารที่มาให้กินถึงที่ ไม่คว้าไว้ก็เสียเปล่าน่ะสิ…” มนุษย์แมงมุมบอก
“หุบปาก! ลูกพี่แกอยู่ไหน?” หลิงม่อถามเสียงเยือกเย็น
มนุษย์แมงมุมกลับจ้องไปที่ขวดแก้วในมือหลิงม่อ หัวเราะแล้วบอกว่า “ความจริงแล้วขอเพียงมีแมงมุมตัวผู้อยู่ บลัดมาเธอร์ก็จะตามหาเขาจนเจอเอง…ถือว่าแกจะฉลาดไม่เบาที่ไม่ได้ฆ่ามันทันที แต่น่าเสียดายที่ถึงแกจะรู้ตอนนี้ มันก็ยังสายไปอยู่ดี ถ้าคืนนี้ฉันไม่กลับไป ลูกพี่ก็จะรู้ว่าเกิดเรื่องแล้ว…นอกจากว่า พวกแกจะหนีไปคืนนี้เลย…”
“หนี?” หลิงมือลุกขึ้นยืน แล้วพูดเสียงเย็นชา “แกคงจะเข้าใจอะไรผิดไปนะ…ที่ฉันถามก็เพราะ…ฉันจะไปฆ่าเขา”
โครม!
เมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้น มนุษย์แมงมุมที่ท่าเมหือนอยากจะพูดอะไรอีก กลับเบิกตาข้างเดียวที่มีอยู่ และตัวอ่อนล้มลงไป…
ไม่นาน เลือดสายหนึ่ง ก็ไหลออกมาจากกลางหว่างคิ้วของเขา…
——————————-