แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - บทที่ 1066 ขนาดตัวที่ใหญ่เกินธรรมชาติ
ในช่วงสองนาทีต่อจากนั้น โรงงานแห่งนี้ถูกเสียง “สวบๆ” ล้อมไว้รอบทิศในที่สุด…ถึงแม้มองไม่เห็นร่องรอยใดๆ บนถนนหนทางก็ยังคงรกร้างว่างเปล่า แต่ทุกคนรู้ดีแก่ใจว่าโรงงานที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้ ได้กลายเป็นเหมือนเกาะร้างที่ลอยอยู่ท่ามกลางฝูงแมงมุมไปแล้ว เมื่อใดที่เกาะแห่งนี้ถูกปกคลุมจนมิด พวกเขาก็จะกลายเป็นเหยื่อของแมงมุม…แน่นอนว่า เฮลิคอปเตอร์ของพวกเขา ถือเป็นเส้นทางรอดชีวิตสุดท้ายที่พวกเขามี
แต่เวลาอย่างนี้ กลับไม่มีใครคิดถึงเส้นทางนั้น ถึงแม้จะถูกเสียงเคลื่อนไหวเหล่านั้นทำให้อกสั่นขวัญแขวน ทว่าสิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกัน กลับเป็นความปรารถนาในการสู้รบ และความโกรธแค้นมากกว่า
แต่ว่า เมื่อเคลื่อนเข้ามาจนเหลือระยะห่างจากโรงงานช่วงหนึ่ง เสียงเหล่านั้นพลันหยุดลง…ทว่าปรากฏการณ์อย่างนั้นไม่ได้ทำให้ทุกคนโล่งใจ กลับยิ่งทวีคูณความกดดันมากกว่าเก่า ลองคิดดูสิ แมงมุมนับหมื่นตัว…หรืออาจจะมากกว่านั้นด้วยซ้ำกำลังกระจายตัวล้อมรอบที่นี่อย่างรู้หน้าที่ และเมื่อใดที่มีคนส่งสัญญาณ พวกมันก็จะพรั่งพรูเข้ามาด้วยจำนวนที่มากมายนับไม่ถ้วน และฉีกทึ้งสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในโรงงานเป็นชิ้นๆ
“อยู่ห่างขนาดนี้ ฉันยังสัมผัสได้ถึงสายตามากมายที่จ้องมองมาเลย…” เฮยซือพึมพำ
“ดูเหมือนว่า อีกฝ่ายคงคิดจะตัดสินแพ้ชนะในครั้งเดียวเลย…” หลิงม่อขมวดคิ้วบอก
การโจมตีอันบ้าคลั่งครั้งหนึ่ง สามารถตัดสินแพ้ชนะได้จริงๆ แต่หากใช้ข้อได้เปรียบเรื่องจำนวน และดึงเกมไปเรื่อยๆ เพื่อรอให้พวกหลิงม่อเหนื่อยไปเอง เห็นจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ ในเมื่ออีกฝ่ายเลือกอย่างแรก ก็แสดงว่าพวกเขาค่อนข้างมั่นใจในฝีมือตัวเองระดับหนึ่งเลยทีเดียว…
“พี่หลิง พี่เดาไม่ผิดจริงๆ ด้วย อีกฝ่ายไม่รู้จักเราซักนิด พวกเขาถึงได้เลือกวิธีนี้…แต่ว่าคงยากที่จะรู้ได้ว่าพวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ สิ่งเดียวที่มั่นใจได้คือ การต่อสู้ใกล้ปะทุขึ้นแล้ว” เสียงของซย่าน่าพลันมาจากด้านข้าง เธอทอดมองจากที่สูงออกไปยังที่ไกลๆ เช่นกัน
“แต่ว่าสำหรับพวกเรา การที่พวกมันทำอย่างนี้ถือว่าดีกว่าสู้ซึ่งหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะไม่ว่ายังไง พวกเราก็ยังเสียเปรียบเรื่องจำนวนอยู่ดี จุดนี้ไม่ใช่ว่าจะสามารถอาศัยกลยุทธ์ต่อสู้มาอุดได้ ในเมื่ออีกฝ่ายเลือกวิธีที่ตรงไปตรงมาอย่างนี้ งั้นพวกเราทิ้งรอบนอกของโรงงานไปเถอะ” หลิงม่อบอก
“นายหมายความว่า…” เฮยซือเผยสีหน้าครุ่นคิด
“ให้กลุ่มสังเกตการณ์อยู่บนที่สูงต่อไป นอกนั้นให้คนที่เหลือรวมตัวกันในอาคารโรงงาน ในเมื่ออีกฝ่ายอยากเล่นไม่แข็ง งั้นพวกเราจะเล่นเป็นเพื่อนเอง” พูดถึงตรงนี้ อยู่ๆ หลิงม่อพลันเปลี่ยนเรื่อง ถามว่า “ฝั่งอาคารโรงงานเตรียมพร้อมหรือยัง?”
ซย่าน่าพยักหน้า บอกว่า “อื้ม! จุดที่แมงมุมอาจมุดเข้ามาได้ ถูกฉันกับพวกพี่เย่เลี่ยนอุดไว้จนหมดแล้ว แล้วก็ยังมีการจัดแจงสถานที่นอกโรงงานที่พี่มอบหมายให้อีก พวกเราจัดการเรียบร้อยแล้วล่ะ เราเตรียมพร้อมทุกอย่างพร้อมแล้วแล้ว ที่เหลือมีเพียงเรื่องเดียวที่ต้องทำ…ฆ่าพวกมัน…ให้สิ้นซาก!”
…………
“โครม!”
เมื่อเสียงหนึ่งดังสนั่น เงาดำขนาดมหึมาปรากฏใจกลางถนนอำเภอหลีหมิง
ทันทีที่เงานี้ปรากฏ เสียง “สวบๆ” รอบข้างของมันพลันชะงักหยุด จากนั้นก็ดังอื้ออึ้งขึ้นอีกครั้ง เพียงแต่ระดับเสียงดังกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า
สิ่งที่ปรากฏขึ้นพร้อมกัน ยังมีเงาคนอีกหลายเงา…เงาคนเหล่านั้นบ้างสูงบ้างเตี้ย ทว่ารูปร่างกลับน่าตกใจเหมือนกันทั้งหมด นั่นก็คือผอมแห้ง
ตำแหน่งยืนของชายคนหนึ่งในกลุ่มต่างจากคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด…คนที่เหลือต่างพากันยืนโดยรักษาระยะห่างจากเงาดำมหึมาช่วงหนึ่ง มีเพียงเขาคนนั้นที่ตามติดไม่ห่าง
เชายคนนั้นมีเส้นผมขาวโพลนทั้งหัว สวมชุดสูทเข้ารูปตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้กระทั่งเส้นผมก็ยังถูกหวีเรียบแปล้ไม่ให้เล็ดลอดออกมาได้ซักเส้น นอกจากนี้ เขายังสวมแว่นตากรอบบางอีกด้วย ดวงตาเรียบเฉยหลังเลนส์แว่นทอประกายตื่นเต้นพาดผ่าน
หลังจากปรากฏตัวกลางถนน คนเหล่านี้กลับไม่เร่งรีบเคลื่อนไหวทันที ตรงกันข้าม สายตาของพวกเขาทุกคน ล้วนเพ่งมองไปยังเงาดำมหึมานั้นเป็นหนึ่งเดียว
ชายที่ยืนข้างกายเงาดำพลันหมุนกาย พูดกับเงาดำอย่างเคารพนอบน้อม “พวกเราได้ล้อมพวกมันตามที่สั่งไว้หมดแล้ว และเพื่อหยั่งเชิงท่าทีของพวกมัน พวกเราจงใจไม่ปกปิดทิศทางการเคลื่อนไหว แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่เห็นท่าทีว่าจะมีการใช้เฮลิคอปเตอร์ ดูท่า พวกมันตั้งใจจะสู้กับพวกเราสุดตัว”
เงาดำราวกับขยับเล็กน้อย จากนั้นท่ามกลางเสียง “ซู่ๆ” พลันมีเสียงหนึ่งดังออกมาจากเงาดำนั้น เสียงนั้นแหบพร่า และเลือนราง แต่ชายที่ยืนข้างกายกลับพูดราวกับเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง “แน่ใจแล้วหรอว่าจะทำอย่างนี้? เอาเถอะ ฉันจะจัดการพวกมันให้สิ้นซากเอง ลูกพี่วางใจได้เลย”
หลังจากพยักหน้าสองสามที ชายคนนี้พลันหันหน้ามา และมองไปยังเงาคนเหล่านั้นที่ยืนอยู่ข้างหลัง “ทุกคนฟัง การที่อีกฝ่ายจับตัวลู่เหรินที่รายงายเรื่องนี้ให้พวกเรารู้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว แถมยังตัดสินใจสู้ในเวลาอย่างนี้ บ่งบอกถึงอย่างน้อยสองเรื่อง หนึ่ง พวกเขารู้แล้วว่าวิธีโจมตีของพวกเราคือแมงมุม สอง พวกเขามั่นใจว่าสามารถสู้กับแมงมุมของพวกเราได้ แต่ถึงแม้อย่างนั้น ความตั้งใจเดิมของพวกเราก็จะไม่เปลี่ยนไป ครั้งเดียว โจมตีพวกมัน และจัดการพวกมันให้แตกพ่ายในครั้งเดียว! เริ่มได้!”
เมื่อชายคนเดิมโบกมือส่งสัญญาณ เงาคนเหล่านั้นพากันพยักหน้า จากนั้นก็วิ่งพุ่งไปข้างหน้า
เพียงแต่ในขณะที่พวกเขาเคลื่อนไหว กลับไม่มีใครทันสังเกตเลยซักคน เวลานี้ ในตรอกสายเล็กที่อยู่ไม่ไกล ศีรษะสีขาวสลับดำชะโงกหน้าออกมาจากหลังถังขยะอย่างเงียบๆ พลางมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างตาไม่กระพริบ…
“อา…ดูเหมือนคนกลุ่มนี้ก็ไม่ได้โง่นี่ ฉันกะแล้วเชียว ทั้งที่การลอบโจมตีง่ายต่อการฉวยโอกาสพวกเราทีเผลอมากกว่า แต่ทำไมพวกมันถึงได้เลือกทำอย่างนี้ ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง…แต่ไม่ว่าเป้าหมายจะเป็นอะไร การที่พวกมันไม่เลือกวิธีลอบโจมตี ก็แสดงว่ามีความมั่นใจในตัวเองมากพอ ไม่สิ เดี๋ยวนะ…แทนที่จะบอกว่ามั่นใจ สู้บอกว่าหลงลำพองจะเหมาะกว่า…”
บนหลังคา หลิงม่อกำลังทอดมองออกไปด้วยสายตาเลื่อนลอย ปากพลางพึมพำเสียงเบา ขณะเดียวกัน เขาได้สลับมุมมองสายตาไปที่เสี่ยวป๋าย…หลังจากที่อีกฝ่ายประกาศวิธีการต่อสู้ให้รู้ชัด หลิงม่อก็ได้สั่งให้เสี่ยวป๋ายละทิ้งการเฝ้าระวังรอบนอกสุด และเปลี่ยนมาเป็น “แฝงตัว” มาที่นี่แทน…
เกรงว่าอีกฝ่ายคงไม่มีทางคาดคิด ในสถานที่อย่างนี้ กลับมีสัตว์กลายพันธุ์ตัวหนึ่งโผล่มาอยู่ที่นี่ แถมยังเป็นสัตว์ที่เมื่อก่อนอยู่รอดโดยอาศัยความบ้องแบ๊วซะด้วย…
เสี่ยวป๋าย…หรือหลิงม่อ เวลานี้กำลังพยายามหรี่ตา และใช้อุ้งเท้าเขี่ยพื้นเบาๆ
“คนที่เหลือต่างออกไปแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาดีสินะ? นอกจากผู้ชายคนนั้น ก็เหลือแต่ลูกพี่นั่นแล้ว…จะว่าไปนั่นลูกพี่พวกมันหรอ? เห็นไม่ชัดเลย หรือว่าจะสายตาสั้นซะแล้ว? เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง ทีผู้ชายคนนั้นยังมองเห็นได้ชัดเจนเลยนี่ หรือว่าลูกพี่คนนี้จะมีเทคนิคอำพรางตัวแบบพิเศษกัน? ก็ไม่น่าเป็นไปได้อีกนั่นแหละ ตัวใหญ่ขนาดนี้ยังจำเป็นต้องแพรางตัวอีกหรอ? อยู่ห่างสองร้อยเมตรยังมองเห็นเลย มันตัวใหญ่มากจริงๆ …หื้ม?”
วิสัยทัศน์ของหมีแพนด้ากลายพันธุ์ไม่ธรรมดาจริงๆ ถึงแม้ถูกบดบังสายตาเป็นส่วนมาก มันก็ยังฝืนมองรูปร่างของลูกพี่คนนั้นจนเห็นชัด…
ที่แท้สาเหตุที่ทำให้สายตามันพร่ามัวไม่ชัดเจนก็ไม่ใช่เพราะสิ่งอื่นใด แต่เป็นเพราะเงาดำนั้นนั่นเอง…
“เชี่ยอะไรวะเนี่ย!”
หลิงม่อสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เสี่ยวป๋ายก็พลันกัดฟันกรอด “นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ? บนโลกนี้มีแมงมุมที่ใหญ่ขนาดนี้อยู่ด้วยหรอ? เจ้านั่นตัวจะสูงเท่าอาคารหนึ่งชั้นอยู่แล้วนะ ขนาดตัวถ้ารวมขาเข้าไปด้วยก็น่าจะใหญ่เท่ารถสองคันรวมกันแล้ว แถมบนขาใหญ่ๆ พวกนั้นยังมีแต่หนามแหลมเต็มไปหมด น่ากลัวโคตร!”
หลิงม่อคิดในใจ ขณะเดียวกันก็ควบคุมเสี่ยวป๋ายให้เลื่อนสายตาไปอีกทาง —
“มีจริงๆ ด้วย! สถานที่อย่างนี้กลับมีรถเบนซ์อยู่ติดกันสองคันจริงๆ ด้วย! แถมพอเทียบกันแล้ว ขนาดตัวมันก็ใหญ่เท่านั้นจริงๆ…กว่าจะมีรูปร่างอย่างนี้ได้ต้องผ่านการกลายพันธุ์มากี่ครั้งกัน? ถึงแม้มนุษย์ยักษ์จะตัวใหญ่สองเมตรขึ้นไป แต่ยังไงมันก็เริ่มต้นที่ความสูงเกือบสี่สิบเมตร แต่แกกลับเริ่มต้นจากตัวเท่าเม็ดข้าวครึ่งเม็ด ต้องใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตมากแค่ไหนกว่าจะตัวใหญ่ถึงขนาดนี้ได้เนี่ย…”
หลิงม่อคิดในใจ ในขณะที่สมองมีแต่คำว่า “ฉิบหาย!” เต็มไปหมด
————————————