แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - บทที่ 1072 สู้กับพวกมันซึ่งๆ หน้า
ณ ปากทางเข้าตรอก
เฮ่อเจิ้นยืนอยู่ตรงนี้ ชะเง้อคอมองออกไปที่ไกลๆ อย่างร้อนรน แต่ด้านหน้านอกจากความมืดที่มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กลับมองไม่เห็นสิ่งอื่นเลย…
“เกิดอะไรขึ้น? นี่ก็ผ่านไปจะสองนาทีแล้ว ทำไมยังไม่มีเสียงเคลื่อนไหวอีกล่ะ? ทางฝั่งโรงงาน อุณหภูมิของกำแพงเพลิงก็ลดลงไปมากแล้ว…” มีคนพูดขึ้นจากข้างหลังเขา
เฮ่อเจิ้นขวมดคิ้ว แล้วพูดอย่างกังวล “ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน…ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่…” เดิมทีเมื่อกี้เขาหมายจะเรียกทุกคนให้วิ่งตามไป แต่เขาเผลออึ้งงันไปแป๊บเดียว พอวิ่งมาทางนี้ก็ไม่เห็นเงาของพี่หลี่แล้ว คนที่เหลือพอเห็นสถานการณ์ จึงพากันตีกลองถอยทัพทันที
“ตอนนี้เรายังอยู่ในระหว่างต่อสู้กันอยู่นะ จะวิ่งเพ่นพ่านไปที่อื่นได้ยังไง? ใครจะไปรู้ว่าเขาวิ่งไปทางไหนแล้ว…”
“ใช่! อีกอย่าง ปกติเขาก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้วไม่ใช่หรอ?”
“อาศัยว่าตัวเองเป็นผู้มีความสามารถพิเศษ เลยชอบดูถูกพวกเรา เขาเคลื่อนไหวตามลำพัง ถือเป็นสิ่งที่เขาเลือกเอง ถ้าไม่อย่างนั้นหากทำเสียเรื่องเข้า คนที่ซวยคือพวกเราไม่ใช่หรอ?”
คนนั้นพูดที คนนี้พูดที แต่สุดท้ายความหมายก็คือไม่ยอมตามไป
“แต่ว่าหลี่เฉิงกวงเขา…” เฮ่อเจิ้นยังคิดจะพูดอะไร แต่กลับพบว่าไม่มีใครฟังแล้ว เขาพลันกระจ่าง คนกลุ่มนี้ตัดสินใจเอาตัวรอดไว้ก่อน ด้านหนึ่งเป็นเพราะคำสั่งของลูกพี่ อีกด้านเป็นเพราะเลือดกองนั้น ถึงแม้เมื่อกี้พวกเขายังทำเป็นไม่ใส่ใจเหล่าผู้รอดชีวิตที่เดินทางมาที่นี่ แต่ตอนนี้พออยู่ๆ เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นต่อหน้า แม้ปากไม่พูด แต่พวกเขาก็เริ่มใจเต้นไม่เป็นส่ำแล้ว
แค่คนสี่คนแต่กลับต้านทานแมงมุมมากมายขนาดนั้นไว้ได้ แล้วตอนนี้ทางนี้ยังเกิดเรื่องประหลาดอย่างนี้ขึ้นอีก…สำหรับเหล่าร่างปรสิตแมงมุมตัวผู้ที่หลุดพ้นจากอันตรายมานานแล้ว เพียงแค่ต้องคอยยึดอำเภอหลีหมิงไว้ไม่ให้ใครกล้ำกราย นี่ถือเป็นการกระตุ้นที่ไม่ธรรมดา…ไม่ว่าใครเมื่อมีชีวิตอยู่ ย่อมไม่อยากเสี่ยงอันตราย ที่พวกเขาต้องสู้กับผู้รอดชีวิตกลุ่มนั้นจนต้องตายกันไปข้าง ก็เพื่อจะรักษาสิทธิ์ที่จะทำให้พวกเขาอยู่รอดต่อไปได้ ความจริงแล้วยิ่งอยู่อย่างปลอดภัย พวกเขาก็ยิ่งหวังว่าจะไม่มีปัจจัยภายนอกใดเข้าใกล้พวกเขา โดยเฉพาะเพื่อมนุษย์ด้วยกันเอง…ยิ่งเมื่อพวกเขาอยู่ในสภาพนี้ด้วยแล้ว…
หลังคิดเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วน เฮ่อเจิ้นจึงได้แต่ยอมล้มเลิกความตั้งใจ กอปรกับความจริงแล้ว ตัวเขาเองก็ลอบขนลุกเหมือนกัน…ไม่รู้ทำไม ตอนที่มองตรอกสายนั้น เขามักรู้สึกเหมือนในความมืดมีอันตรายบางอย่างที่มองไม่เห็นกำลังซุ่มซ่อนอยู่ เงียบๆ…นับตั้งแต่ที่อำเภอหลีหมิงไม่มีซอมบี้ เขาไม่ได้รู้สึกอย่างนี้มานานมากแล้ว…
“พี่หลี่มองเห็นอะไรกันแน่? ทำไมถึงได้รีบร้อนวิ่งตามออกไปขนาดนั้น? ถ้าหากเป็นศัตรู ด้วยนิสัยของเขา ไม่น่าจะวู่วามอย่างนั้นนี่นา…”
เฮ่อเจิ้นเพิ่งจะเดินไปเดินมาอย่างสังหรณ์ใจไม่ดี ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้น
เสียงนี้ดังขึ้นอย่างกะทันหัน ระยะห่างทางตรงเหมือนจะอยู่ไม่ไกลนัก…ฟังแวบแรก เสียงนั้นเหมือนดังอยู่ข้างหูพวกเขส ระดับเสียงสูงจนแม้แต่รูปแบบเสียงก็เปลี่ยนไป
เฮ่อเจิ้นสะดุ้งตัวโยน จนกระทั่งเมื่อเสียงกรีดร้องเงียบหาย เขาจึงค่อยตัวสั่นสะท้าน หันไปมองหน้าคนอื่น
คนที่เหลือต่างมีสีหน้าตื่นตะลึง และสีหน้าไม่สู้ดี ไม่ต้องถามก็รู้ ครั้งนี้ ทุกคนต่างได้ยินกันหมด…
“นี่มัน…เสียงของพี่หลี่?” เฮ่อเจิ้นพูดด้วยเสียงสั่นๆ
“เหมือนจะใช่…” มีคนพยักหน้า
“ขะ…เขาเป็น…อะไรไป?” อีกคนถามเสียงติดอ่าง
เป็นอะไรไป? ทุกคนต่างมองหน้ากัน…จะเป็นอะไรไปได้อีก ฟังจากเสียงเมื่อกี้ เกรงว่าเขาคงตายท่ามกลางความหวาดกลัวสุดขีดไปแล้ว
แม้แต่พี่หลีที่เป็นผู้มีความสามารถก็ตายไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นหลี่เฉิงกวงเองก็คงมีชะตาไม่ต่างกัน…คิดไม่ถึงว่าภายในเวลาสั้นๆ แค่นี้ ท่ามกลางพวกเขากลับมีคนตายอย่างกะทันหันไปแล้วสองคน และสองคนนั้นตายได้อย่างไร กลับไม่มีเห็นซักคน…
เฮ่อเจิ้นตัวสั่นสองสามที มองไปยังทิศทางที่เสียงกรีดร้องดัง เปิดปากถามเสียงเบา “พวกเรา…ไปดูหน่อยไหม?”
ทุกคนนิ่งเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นไม่นาน หนึ่งในกลุ่มมองหน้าเขา พูดด้วยแววตาสับสน “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนั้นก็ตาม…แต่มีเรื่องหนึ่งที่บอกได้ชัดเจน นั่นคือสองคนนั้นไม่มีโอกาสขัดขืนเลย พวกเขาถูกฆ่าอย่างง่ายดาย…”
“หมายความว่ายังไง? หรือพวกเราควรกลัวหัวหดอยู่ที่นี่?” เฮ่อเจิ้นพูดอย่างอดไม่ได้
หนึ่งในกลุ่มพลันเดือดดาล ตะโกนด่าเสียงดัง “ถ้าจะไปแกก็ไปเอง! พวกฉันไม่ห้ามแก! แต่ยังไงพวกฉันก็ไม่ไป!”
คนที่เหลือไม่มีใครพูดอะไร แต่ดูจากที่พวกเขาต่างปิดปากเงียบก็รู้แล้วว่าพวกเขาคิดอะไร
เฮ่อเจิ้นโกรธจนตัวสั่น แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าไปคนเดียว เขาครุ่นคิด จากนั้นก็เสนอความคิดเห็นใหม่ “ในเมื่อยังไม่ได้เริ่มสู้…งั้นพวกเรากลับไปรายงานกันก่อนเถอะ…”
ระหว่างแมงมุมตัวผู้ในตัวคนพวกนี้กับแมงมุมตัวใหญ่พวกนั้น มีระยะห่างที่จำกัดในการใช้พลังสัมผัสรู้ ยิ่งอยู่ใกล้ คำสั่งที่เหล่าแมงมุมสามารถทำตามได้ก็จะยิ่งซับซ้อน ยิ่งแม่นยำ ในทางตรงข้าม หากระยะห่างยิ่งมาก สัญญาณก็จะอ่อนลงเรื่อยๆ จนกระทั่งหายไปในที่สุด ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เสียแมงมุมจำนวนมากไป แต่ระหว่างบลัดมาเธอร์กับแมงมุมตัวผู้ กลับไม่มีปัญหาอย่างนี้อยู่…พวกเขาอาจมีระยะห่างที่จำกัด แต่ระยะห่างนั้นกลับไกลจนไม่ทำให้เกิดปัญหาอีกแล้ว…
และในเวลานี้ ทางที่ดีที่สุดที่พวกเฮ่อเจิ้นควรทำ ก็คือเลือกตัวแทนหนึ่งคนกลับไปรายงาย…แต่ในสถานการณ์อย่างนี้ ใครจะกล้าเคลื่อนไหวตามลำพังอีก…
“ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นก็เอาอย่างนี้…”
“ปัง!”
มีคนหมายจะเห็นด้วย แต่ทันใดนั้นกลับเบิกตากว้าง
“ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วย!”
คนที่เหลือต่างเผยสีหน้าที่คล้ายกันออกมาทีละคนๆ นอกจากความตกใจ ก็ยังแฝงไว้ด้วยความกลัว…
นี่มัน…
เหมือนอีกฝ่ายรู้ความเคลื่อนไหวของพวกเขาทุกฝีก้าว…เวลานี้ เหล่าผู้รอดชีวิตที่หยั่งเชิงกับพวกเขามาตลอด กลับเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว…
“เตรียมตัวให้ดี! ถ้าฉันส่งสัญญาณเมื่อไหร่ พวกเราก็ลุยได้เลย!” หลิงม่อกำนิ้วแน่น พลันพูดเสียงเย็นชา
เวลานี้ แม้ว่าพวกอวี่เหวินซวนจะไม่เข้าใจแต่ก็คิดได้ ในเมื่อหลิงม่อพูดอย่างนี้ ก็แสดงว่าพวกเขามีโอกาพลิกสถานการณ์จริงๆ! เพียงแต่โอกาสพลิกสถานการณ์ดังกล่าวจะเป็นอะไรนั้น กลับไม่มีใครรู้…ทว่าถึงแม้อย่างนั้น พวกเขาก็รีบยืดตัวตรง และยกอาวุธขึ้นทันที
“ในที่สุดก็สู้เต็มที่ได้แล้ว! คอยดูเถอะฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด!” เย่ไคร้องอย่างฮึกเหิม
หลิงม่อหยิบปืนที่ทิ้งไว้ข้างหลังขึ้นมาเงียบๆ มู่เฉินเห็นอย่างนั้น ก็เอาปืนที่สะพายหลังไว้ลงมาถือด้วย
เมื่อกี้เป็นการต่อสู้ระยะประชิด ใช้อาวุธปืนไม่สะดวก แต่ถ้าหากพุ่งปะทะเข้าไป…
ถึงแม้ทำอย่างนี้อาจจะยังมีแมงมุมเล็ดลอดมาได้ แต่มีหลิงม่อกับเฮยซืออยู่ พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องพวกนี้อีก
“เตรียมตัว…” หลิงม่อสีหน้าเคร่งขรึม เหมือนกำลังจะทำเรื่องที่สำคัญมากบางอย่าง ไม่เพียงเท่านั้น เขายังถอดเครื่องมือเก็บเสียงออกเงียบๆ สถานที่อย่างนี้ ยิงปืนเสียงดังแค่ไหนก็ไม่เป็นไร…หนึ่งวินาทีถัดมา เมื่อเสียงปืนนัดหนึ่งดังขึ้น ควันอ่อนๆ ลอยออกจากปากกระบอกปืน หลิงม่อพลันตะโกนเสียงดัง “ลุย!”
ทุกคนต่างเหลือบเห็นอย่างตาไว ก่อนที่หลิงม่อจะลั่นไกปืน “ลูกบอล” ที่อยู่หน้าสุด รวมถึงตรงกลางอีกสิบกว่าลูก พลันแตกกระเจิง…
แต่การลั่นไกครั้งนี้ของหลิงม่อ กลับพลาดเป้าไม่ผิดจากที่คิดไว้ แม้แต่ลูกกระสุนก็ไม่รู้ว่าบินไปทางไหน…
“เกิดอะไรขึ้น?”
ถึงแม้ว่าพวกมู่เฉินจะลอบตกใจ แต่ได้ยินเสียงหลิงม่อตะโกนสั่งลุย แต่ละคนต่างเริ่มโจมตีโดยอัตโนมัติ
ชั่วขณะหนึ่ง เสียง “ตึงๆๆๆ” ของปืนดังเสียดแทงแก้วหูไม่หยุด…
อวี่เหวินซวนที่เดิมทียังขว้างบอลเพลิงออกไปไม่หยุด ได้ยินเสียงปืนก็ดึงปืนพกออกมาอย่างลิงโลด จากนั้นก็ปล่อยบอลเพลิงไปด้วยลั่นไกปืนไปด้วย ในสามคนนี้นอกจากมู่เฉินที่ยังดูสงบ อีกสองคนที่เหลือต่างตกสู่ภวังค์การต่อสู้อันดุเดือดไปแล้ว นอกจากเสียงปืน ก็ได้ยินเสียง “ไอ้ชิบหายๆๆ” จากปากเย่ไค ตามมาด้วยเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งของอวี่เหวินซวนด้วย
เทียบกับมนุษย์ที่เสียสติพวกนี้ เดิมทีเหล่า “ลูกบอล” ที่เต็มไปด้วยอันตรายสุดขีด เวลานี้กลับเริ่มแตกตื่น
ความจริงถึงแม้ว่าลูกบอกสิบกว่าลูกนั้นจะแตกกระเจิง แต่พวกมันก็ยังได้เปรียบเรื่องจำนวนอยู่วันยังค่ำ ทันทีที่พวกมันเริ่มเคลื่อนไหว พวกหลิงม่อคงไม่ได้โจมตีอย่างฮึกเหิมบ้าคลั่งอย่างนี้…
แต่ความจริงแล้วก็คือ…การที่ลูกบอลเหล่านั้นกระจุยกระจายกะทันหัน และเสี้ยววินาที่เสียงปืนนัดแรกดังลั่น ทำให้เหล่าร่างปรสิตแมงมุมตัวผู้ที่เดิมปรึกษาจะถอยกันอยู่แล้ว ตกใจอึ้งงันไปทันที…และสิ่งที่ทำให้เชือกฟางเส้นสุดท้ายของพวกเขาขาดสะบั้น ก็คือเสียงคำรามเดือดดังที่ดังอยู่ใกล้ๆ…
“แบ๊!”
“อ๊ากกก!!!”
ไม่รู้ว่าใครเผลอร้องออกมา ทำให้คนกลุ่มนี้หมุนตัว วิ่งไปตามถนนด้วยความเร็วทันที…
——————————–