แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - บทที่ 1178 ลองดูไม่เสียเงินสักหน่อย
ชั่วเวลาหนึ่ง การเคลื่อนไหวของหลิวหยางหยุดชะงักลง
หลิงม่อยืนอยู่ที่เดิม ใบหน้าเคร่งเครียดกำลังจับจ้องไปที่หลิวหยาง…
สำเร็จหรือยัง?
หนึ่งวินาทีที่ยาวนานผ่านไป หนวดสัมผัสกระจายออก เผยให้เห็นดวงตาทั้งสองข้างของหลิวหยางได้ชัดเจน
ไม่มีเลือด…
หลิวหยางเบิกตาโต คล้ายกับมีหนวดสัมผัสนับไม่ถ้วนกำลังขยับยั้วเยี้ยอยู่ในลูกตาของเขา จากนั้นไม่นาน “หนวดสัมผัส” พวกนี้ก็ค่อยๆ หดถอยเข้าไปภายในลูกตา…
หลิงม่อที่เห็นรู้สึกหนังศีรษะตึงชาทันที ในใจก็คิด ‘ดูแล้วเขาคงจะใช้เส้นโลหิตพวกนี้ป้องกันการโจมตี…แสดงว่าดวงตาของเขาไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้แล้ว…ถ้าอย่างนั้น เขาใช้วิธีอะไรในการ ‘มองเห็น’ ฉันล่ะ? ดมกลิ่น? หรือ สัมผัสรู้งั้นเหรอ?’
ระหว่างที่ครุ่นคิดในใจ หลิงม่อก็โจมตีติดต่อกันไปอีกหลายครั้ง แต่หลังจากที่หลิวหยางลืมตาขึ้น เขาก็เดินต่อไปยังทิศทางที่หลิงม่ออยู่ต่อ
สิบเมตร…เก้าเมตร…แปดเมตร…
หลิงม่อยิงโจมตีไปยังแต่ละส่วนบนใบหน้าของหลิวหยางอย่างแม่นยำ รวมถึงตำแหน่งของอวัยวะสำคัญทั้งหมด…แต่ไม่ว่าจะเป็นพลังป้องกันของผิวหนัง หรือเส้นโลหิตที่มีอยู่ทั่วทุกที่ ล้วนทำให้หลิงม่อไม่รู้จะเริ่มลงมือที่จุดไหน
เส้นโลหิตพวกนั้นผุดออกมาจากผิวหนัง ถึงขนาดที่ว่าไม่สามารถทำอันตรายอะไรได้เลย ที่น่าปวดหัวที่สุดก็คือ เส้นโลหิตพวกนั้นผุดออกมาจากทั่วทุกส่วนในร่างกายได้อย่างฉับพลัน หรือรวมเป็นกลุ่มก้อนได้ทั่วทุกที่ในชั่วพริบตา ถ้าเป็นแบบนี้ ถึงแม้หลิงม่อจะรวมพลังโจมตีทั้งหมดแล้วเลือกโจมตีไปยังตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ก็คงไม่มีผลลัพธ์ดีๆ เกิดขึ้น
“จัดการยากเสียจริง…” ในที่สุดหลิงม่อก็เข้าใจแล้วว่าหลิวหยางเอาความมั่นใจมาจากไหน…เหมือนกับที่เขาพูดทั้งหมด ในที่สุดตอนนี้หลิงม่อก็เข้าใจความแตกต่างระหว่างความสามารถของหุ่นเชิดที่มีระดับต่างกันพวกนี้เสียที
หุ่นเชิดระดับสามที่ระดับต่ำที่สุดเป็นเพียงร่างที่ถูกปรสิตระดับสามกาฝากไว้ ถึงแม้พวกเขาจะแข็งแกร่งกว่าร่างมนุษย์ แต่ความแข็งแกร่งก็มีขีดจำกัด และหุ่นเชิดระดับสองอย่างหัวหน้าทีมนิพพานก็แข็งแกร่งกว่าอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่เพียงแต่ยังคงความคิดและทักษะพิเศษเดิมที่มนุษย์มีไว้ อีกทั้งยังถูกควบคุมได้ในขณะเดียวกัน ระดับความแข็งแกร่งทางกายก็เหนือชั้นกว่าหุ่นเชิดระดับสามหลายเท่านัก
แต่ถึงยังไงหัวหน้าทีมนิพพานก็ยังมีจุดอ่อน…และจุดอ่อนนี้ก็ไม่ใช่อะไรอย่างอื่น มันเป็นเพราะว่าเขายังคงความตื่นรู้ไว้ได้ ร่างกายหนึ่งร่างถูกควบคุมโดยสองสิ่ง นี่เป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงอยู่บ้าง แต่พอเวลาผ่านไป ข้อด้อยก็จะเผยออกมา ทว่าถึงจะเป็นเช่นนี้ การจะจัดการเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย อย่างเช่นหลิงม่อ…เขาใช้กับดัก พยายามหลีกเลี่ยงการปะทะต่อสู้ แต่ก็ยังถูกผลาญพลังจิตไปในปริมาณมาก พลังงานทางจิตที่เหลือของเขาตอนนี้ จริงๆ แล้วเหลือประมาณครึ่งเดียวเท่านั้น
การโจมตีใส่หุ่นเชิดระดับหนึ่งหลิวหยางอย่างเต็มกำลังเมื่อครู่ ยิ่งผลาญพลังของหลิงม่อมากขึ้น…ในระหว่างที่หลิวหยางกำลังใกล้เข้ามา เขาก็ยังคงผลาญพลังหลิงม่อในปริมาณมากเช่นกัน…
“ทำไม ไม่สู้ต่อแล้วหรือไง?” หลิวหยางมองหลิงม่อที่จับจ้องมาที่เขาพลางพูด “ถ้าเปลี่ยนเป็นอีกสถานการณ์หนึ่ง ฉันคงคิดว่าแกยอมแพ้ไปแล้ว แต่…ฉันมองออก แกยังไม่หมดหวัง ว่าไง กำลังคิดวิธีจัดการฉันอยู่หรือ? ไม่มีประโยชน์หรอก หุ่นเชิดระดับหนึ่ง…มีมาเพื่อรับมือกับแกโดยเฉพาะ จากความสามารถของแกตอนนี้ ถึงฉันจะยืนยอมให้แกโจมตีอยู่ตรงนี้ แกก็ทำให้ฉันบาดเจ็บไม่ได้ ท้ายที่สุด แกจะหมดเรี่ยวแรงล้มลงกับพื้นไปเอง เทียบกับซอมบี้อย่างพวกฉัน เมื่อมนุษย์อย่างพวกแกล้มลง พวกแกก็หมดหนทางดิ้นรนทันที เพราะถ้าตัดความสามารถพิเศษทิ้งไป ร่างกายจริงๆ ของพวกแกอ่อนแอจะตายไป…”
“อ่อนแอแล้วทำไม แค่ตอนนี้ยังไม่ล้มก็พอ” หลิงม่อถลึงตาใส่
ถึงจะพูดออกไปแบบนั้น แต่เขากลับเริ่มรู้สึกร้อนใจแล้ว
ก็จริง ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เขาต้องแพ้แน่ๆ…
‘ไม่ได้ จะตายแบบนี้ไม่ได้…ฉันยังต้องช่วยเย่เลี่ยน ฉันกับพวกเธอยังต้องไปต่อให้ไกลยิ่งขึ้นด้วยกัน…’
ในวินาทีที่ตึงเครียดเช่นนี้ หลิงม่อกลับพลันหวนนึกถึงสมุดบันทึกความทรงจำเล่มนั้นของเย่เลี่ยน
ในก้นบึ้งหัวใจ…เธอก็คงกำลังเฝ้ารอคอยเหมือนกันละมั้ง…
หลิงม่อกระทั่งหวนคิดถึงคืนวันนั้นที่เขาหลบซ่อนอยู่ในบ้านพักชาวบ้าน…ข้างนอกเต็มไปด้วยซอมบี้ ตกดึกจะมีเสียงกรีดร้องเจ็บปวดแสนสาหัสดังแว่วเข้ามา…ภายนอกประตูห้องเขา บางครั้งก็จะมีเสียงที่ทำให้ขนลุกขนพองดังขึ้นมา
และสิ่งที่ประคับประคองเขาซึ่งตอนนั้นดวงตาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยเส้นเลือดให้มีชีวิตรอดต่อไป ถึงกระทั่งออกไปต่อสู้กับซอมบี้ ล้วนแล้วแต่เป็นเสียงร้องหวาดกลัวไร้ที่พึ่งพวกนั้น…
ทุกคนต่างก็ต้องการเหตุผลในการจะสู้ต่อไป และเดิมทีหลิงม่อมีเพียงแค่เหตุผลเดียว แต่ตอนนี้เขามีเหตุผลมากมายเพิ่มขึ้นมาแล้ว…
“ฉันต้องมีชีวิตต่อไป” หลิงม่อจิตใจสงบลงโดยพลัน
เหลือห้าเมตรแล้ว…
หลิงม่อเริ่มสังเกตหลิวหยางอย่างสงบ และนึกย้อนเหตุการณ์ที่โจมตีหลิวหยางเมื่อครู่อย่างละเอียด
‘เขาพูดถูกจริงด้วย…ฉันโจมตีแบบนี้ไม่มีทางทำให้เขาบาดเจ็บได้…โดยพื้นฐาน จุดที่โจมตีได้ทุกจุดบนร่างกายเขา ฉันก็โจมตีไปหมดแล้ว อีกทั้งแต่ละครั้งที่โจมตีก็ทุ่มสุดกำลัง ถ้าตอนนี้ยังโจมตีไม่ทะลุ ถ้างั้นถึงจะโจมตีอีกกี่ครั้ง ก็คงไม่มีทางโจมตีทะลวงได้’ หลิงม่อได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว
‘แต่เจ้าสิ่งนี้ไม่มีทางที่จะสมบูรณ์แบบไปทุกอย่าง…ไม่เช่นนั้นราชินีแมงมุมแค่อาศัยหุ่นเชิดพวกนี้ ก็สามารถเป็นราชาแห่งเมืองอะไรนั่นได้แล้ว ไม่เห็นต้องมาหาเรื่องให้ฉันลำบาก ถ้าอย่างนั้น…จุดอ่อนอยู่ตรงไหนล่ะ?’
‘อืม…ถ้าพิจารณาจากมุมมองโดยทั่วไปล่ะก็ เพียงแค่พลังโจมตีแข็งแกร่งกว่าพลังป้องกัน ก็จะสามารถจัดการกับเขาได้ แต่เขาใช้ทั่วทั้งร่างกายในการป้องกัน อีกทั้งปฏิกิริยาตอบสนองก็เร็วกว่าอะไรทั้งสิ้น…ถึงแม้ฉันจะใช้หนวดสัมผัสพลังจิตรูปสสารมากมาย แต่ตอนที่โจมตีส่วนศีรษะก็มีหนวดสัมผัสพลังจิตผสมปนไปด้วยอยู่พอสมควร น่าเสียดายที่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย…’ คิดถึงตรงนี้ หลิงม่อก็สงสัยอีก
‘ฉันสงสัยตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ทั้งๆ ที่เขามีความสามารถในการคิด พูดคุยตอบโต้ฉันได้ อีกทั้งยังเหมือนเป็นผู้ควบคุมสมาชิกทีมนิพพานคนนั้นและหุ่นเชิดระดับสามพวกนั้น…แต่ว่า ทำไมเขาถึงไม่ได้รับผลกระทบจากพลังจิตโจมตีล่ะ? ถึงแม้เขาจะถูกควบคุมโดยราชินีแมงมุมในระยะไกลโดยสมบูรณ์แบบ แต่มันก็น่าจะเกี่ยวข้องกับสายสัมพันธ์ทางจิตไม่ใช่เหรอ? เหมือนกับร่างแม่ที่เคยปะทะครั้งก่อน ถึงจะมีร่างแยก แต่เขาก็ใช้พลังจิตติดต่อสื่อสารระหว่างกัน หรือจะเป็นเฮยซือก็แบ่งตัวเองออกเป็นสองส่วน แต่ถึงจะยังไงก็เป็นการอาศัยพลังจิตอยู่ดี…ใช่แล้ว เมื่อกี้หุ่นเชิดระดับหนึ่งพูดแล้ว นี่เป็นสิ่งที่เอามารับมือกับฉันโดยเฉพาะ…ดังนั้นฉันไม่ควรวิเคราะห์เรื่องนี้จากหลักการทั่วไป…’
“หลิงม่อ ถึงเวลานอนของแกแล้ว”
หลิวหยางยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาแล้ว
แต่ตอนนี้เอง ในที่สุดหลิงม่อก็มีประกายสว่างขึ้นในดวงตา
เขาคิดได้แล้ว!
“ฮ่าๆๆ ฉันเข้าใจแล้ว…”
แค่ปะติดปะต่อสถานการณ์พวกนี้เข้าด้วยกัน เท่านี้คำตอบก็โผล่ออกมาแล้ว! อีกอย่าง คำตอบนี้ก็ออกมาจากปากของหลิวหยางเองด้วย!
เพราะเป็นช่วงเวลาความเป็นความตาย ก็เลยยากที่จะคิดมากมายได้ในทันทีเท่านั้น…
‘คำตอบอยู่ในคำพูดที่เขาพูดออกมาทั้งหมด…อาศัยความสามารถของฉันในตอนนี้ ถึงจะยืนให้ฉันโจมตีอยู่เฉยๆ ฉันก็โจมตีมันจนตายไม่ได้ ฮ่าๆๆ…ฉันโจมตีให้ตายไม่ได้จริงๆ!’ หลิงม่อค่อยๆ แสยะยิ้มมุมปากขึ้น…เป็นเพราะอะไรถึงถูกหลิงม่อโจมตีให้ตายไม่ได้? นั่นเพราะเขาถูกผลาญพลังไปใช่ไหมล่ะ? ถ้าอย่างนั้น…ทำไมหุ่นเชิดพวกนี้ถึงต้องผลาญพลังของเขาก่อนล่ะ?
‘นั่นก็เป็นเพราะว่าฉันที่มีสภาพสมบูรณ์เต็มที่ อาจจะโจมตีพวกมันจนตายได้ แต่พลังโจมตีหนวดสัมผัสของฉันส่วนใหญ่แล้วเป็นพลังเฉลี่ยที่เท่ากัน จุดที่หนวดสัมผัสหนึ่งเส้นโจมตีไม่ทะลุ หากโจมตีด้วยหนวดสัมผัสหลายร้อยเส้น ก็ไม่แน่ว่าจะโจมตีให้ทะลุได้ เพราะฉันสามารถรวมพลังแล้วโจมตีในครั้งเดียว เขาก็รวมพลังแล้วป้องกันในตำแหน่งเดียวได้ พวกนี้เหมือนการโจมตีที่ไม่มีจุดสิ้นสุดชัดๆ แต่มีหนึ่งอย่างที่เขาไม่สามารถป้องกันได้…’
‘นั่นก็คือพลังจิตที่เขาไม่แยแสแม้สักนิด!’
สวบๆๆ!
หลิวหยางที่เพิ่งจะลงมือถูกขวางไว้อีกครั้ง…เส้นโลหิตพวกนั้นที่เพิ่งจะกระจายออกมาจากแขนของเขาถูกหลิงม่อโจมตีกลับไป
หลังจากนั้น ขณะที่ใบหน้าของหลิงม่อซีดขาวขึ้นทุกที ทั่วทั้งร่างกายของหลิวหยางก็ถูกหนวดสัมผัสทางจิตรูปสสารพันธนาการเอาไว้ทั้งหมด
หนวดสัมผัสพวกนี้ยังคงบีบรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็ขวางเขาไว้กับที่ได้ชั่วคราว
ทว่าหลิวหยางกลับไม่เคร่งเครียดสักนิด เขายังคงมองหลิงม่อด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ แล้วจึงเอ่ยปากถาม “แกเตรียมจะหนีหรือไง? แกน่าจะรู้ดี อาศัยสมรรถภาพทางกายของแก แกไม่มีโอกาสหนีไปต่อหน้าต่อตาฉันได้หรอก”
“ฉันรู้ ฉันรู้อยู่แล้ว” หลิงม่อตอบกลับ
“ถ้าอย่างนั้นแกยังจะลองอีกครั้งงั้นเหรอ? ไม่มีประโยชน์หรอก เมื่อกี้ฉันก็…”
“มีหรือไม่มีประโยชน์ เดี๋ยวแกก็รู้แล้ว…” หลิงม่อเผยให้เห็นสีหน้าตื่นเต้นดีใจ หัวใจเขาก็เต้น “ตุบๆๆ” อย่างบ้าคลั่ง
จะเป็นหรือตาย ก็ดูที่ครั้งนี้แหละ!
……………………………………….