แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - บทที่ 1180 มือถืออันน่าสงสัย
“กลายเป็นแบบนี้ไปซะแล้ว…อย่างนั้นเราก็ไม่ได้เห็นว่าปรสิตระดับที่หนึ่งรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรน่ะสิ เฮ้อ…” หลิงม่อละสายตาออกไปอย่างนึกเสียดาย
นอกจากนี้ ร่างกายร่างนี้ก็ไม่มีเบาะแสอะไรให้ค้นหาได้อีก
ทว่าไม่นาน หลิงม่อก็หันไปมองศพของหัวหน้าทีมนิพพาน
ศพของเจ้านั่นยังไม่เริ่มเน่าเปื่อย…แต่ทั่วร่างกลับคล้ายมีบางสิ่งที่เหมือนหญ้าน้ำสีดำงอกเต็มไปหมด สภาพดูน่าสยดสยอง
“ก็แค่ศพล่ะน่า…” หลิงม่อเพียงจ้องมองอยู่ไม่นาน จากนั้นก็เดินเข้าไปใกล้อย่างไม่เกรงกลัว
“คนคนนี้น่าจะมีพลังโดดเด่นเป็นอันดับต้นๆ ในทีม จากระบบการแบ่งระดับพลังความสามารถของนิพพาน เป็นไปได้มากว่าคนคนนี้เป็นสมาชิกที่มีความสำคัญคนหนึ่ง กระทั่งอาจเป็นสมาชิกที่มีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้าทีมด้วยซ้ำ…”
หลิงม่อคิดพิจารณา พลางใช้หนวดสัมผัสพลิกศพให้หงายหน้าขึ้น
ใบหน้าของหัวหน้าทีมนิพพานยังคงความบิดเบี้ยวเพราะความหวาดกลัวสุดขีด แต่หลิงม่อเพียงเหลือบมองแวบเดียว ก็เริ่มใช้หนวดสัมผัสควานหาทั่วร่างศพ เขาไม่อยากรับรู้ว่ายามที่สัมผัสถูกเส้นเลือดซึ่งถูกกระชากออกมาจากร่างกายเหล่านั้นจะให้ความรู้สึกแบบใด…เรื่องนั้นปล่อยให้เป็นเรื่องที่ไม่รู้ต่อไปจะดีกว่า
ทว่าสิ่งที่มั่นใจได้ก็คือ “ใยแมงมุม” ที่ถูกปรับโครงสร้างอย่างฉับพลันแบบนี้ เมื่อเทียบกับของที่ราชินีแมงมุมใช้ ไม่ว่าจะเป็นด้านพลังสังหารหรือรูปร่างภายนอกล้วนยังห่างชั้นอีกไกล…
“เธอนี่มันปีศาจแห่งการปรับโครงสร้างร่างกายมนุษย์จริงๆ…ไม่รู้ว่ายัยนั่นจะทำอะไรกับเส้นเลือดในร่างกายตัวเองไปแล้วบ้าง…” หลิงม่ออดคิดในใจไม่ได้
ครั้งนี้ราชินีแมงมุมไม่ได้มาด้วยตัวเอง…เรื่องนี้ยืนยันได้จากปฏิกิริยาของหลิวหยางเมื่อครู่
ถึงแม้ไม่รู้เป็นเพราะอะไร แต่สำหรับหลิงม่อในตอนนี้ นั่นกลับเป็นเรื่องน่ายินดี
แค่หุ่นเชิดยังรับมือยากขนาดนี้เลย…
ถ้าหากเจอเจ้าตัวจริงๆ ตัวเขาจะมีอัตราชนะสักเท่าไหร่กันนะ?
“หืม? นี่อะไรน่ะ?”
หลังจากที่ควานหาอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดหลิงม่อก็ค้นพบบางอย่างบนศพของหัวหน้าทีมนิพพาน
เขาพลันเพ่งสมาธิ และควบคุมหนวดสัมผัสให้ปัดเส้นเลือดเหล่านั้นไปกองรวมกันอีกด้านอย่างระมัดระวัง เผยให้เห็นเสื้อผ้าที่ถูกเจาะจนพรุนอยู่ด้านล่าง…
“จิ๊ๆ…นี่มันฝันร้ายของพวกที่เป็นโรคกลัวรูชัดๆ…” หลิงม่อพึมพำกับตัวเอง พลางเปิดเสื้อตัวนอกของหัวหน้าทีมนิพพานออก
แปะ…
ถุงพลาสติกที่ถูกปิดไว้อย่างแน่นหนาหล่นออกจากกระเป๋าด้านในของเขาทันที หลิงม่อเห็นดังนั้นจึงใช้หนวดสัมผัสหยิบมันขึ้นมา
“ของสิ่งนี้…”
สิ่งที่อยู่ข้างในกลับเป็นมือถือเครื่องหนึ่ง…
หากเป็นในเวลาปกติ หลิงม่อคงมองข้ามมันไปและไม่เอะใจอะไร
ในวันสิ้นโลก มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่กี่ชนิดที่ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ หนึ่งในนั้นก็คือมือถือ
หนึ่ง ขอเพียงมีค่ายผู้รอดชีวิตให้อาศัยอยู่ การชาร์จแบตฯ ก็ไม่ถือเป็นเรื่องยาก สอง เพราะไม่ว่าจะเป็นด้านการค้นหาข้อมูล สำรวจสภาพภูมิประเทศ หรือการใช้แผนที่ เจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ล้วนทำได้ทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้หลิงม่อเองจึงมีติดตัวไว้เครื่องหนึ่งด้วยเช่นกัน…
แต่ว่า…ทำไมมือถือเครื่องนี้ถึงถูกห่อหุ้มไว้ด้วยถุงพลาสติกล่ะ?
อีกทั้งยังถูกห่อซ้ำกันหลายชั้น…และถูกซ่อนไว้ในกระเป๋าเสื้อด้านในด้วย…
“นี่มันไม่ปกติ”
หลิงม่อได้ข้อสรุปในทันที แต่ในขณะที่เขาหมายจะเปิดถุงออก กลับได้ยินเสียง “โครม” ดังมาจากชั้นบนเสียก่อน
“พวกซย่าน่า!”
เขารีบลุกพรวด ยัดมือถือเครื่องนั้นใส่กระเป๋า จากนั้นก็พุ่งตัวไปทางบันไดอย่างรวดเร็ว
ความจริงแล้ว ตอนนี้เขายังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่นัก…
แต่เสียงที่ดังสนั่นในครั้งนี้กลับเตือนหลิงม่อถึงเรื่องหนึ่ง…
ถึงเวลาเจอกันอีกแล้วสินะ
‘ม่านพลังสกัดกั้นประสาทสัมผัสทั้งห้ายังคงอยู่…บ้าจริง ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าตัวที่อยู่ข้างบนร้ายกาจกว่าน่ะสิ!’
หลิงม่อหงุดหงิด…ถึงแม้ราชินีแมงมุมไม่ได้มาด้วยตัวเอง แต่เธอกลับส่งฝูงแมงมุมตัวเล็กมาแทนนี่สิ!
และเหล่าตัวการใหญ่พวกนี้ ถือได้ว่าทุกตัวล้วนเป็นเธอ!
นี่ยังเป็นแค่ทีมเล็กๆ ทีมหนึ่ง ถ้าหากเจอกองทัพขนาดเล็กเข้าไปล่ะก็…ยัยแมงมุมบ้านั่นป่านนี้คงมีหุ่นเชิดเยอะจนจัดงานกีฬาสีเองได้แล้วละมั้ง?
‘แต่ไม่รู้ว่าปรสิตแบบนี้ของยัยนั่นจะใช้ได้กับแค่มนุษย์หรือเปล่าน่ะสิ…ถ้าหากเป็นอย่างนั้นจริง แสดงว่าการขยายกองกำลังของเธอก็ยังมีขีดจำกัดอยู่ แต่เมื่อใดที่เธอก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว…เมือง X ทั้งเมืองต้องตกอยู่ในกำมือของเธอแน่…’
ราชาแห่งเมือง!
อยู่ๆ หลิงม่อก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อก่อนเคยได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับค่ายกลาง…ผู้รอดชีวิตในหลายจังหวัดและเมืองต่างๆ ล้วนรวมตัวอยู่ด้วยกัน ส่วนที่อื่นล้วนมีแต่ซอมบี้…
ในอนาคต เมือง X จะลงเอ่ยเหมือนกับสถานที่เหล่านั้นที่ถูกซอมบี้ยึดครองอย่างสิ้นเชิงหรือเปล่า?
ถึงแม้สถานการณ์ในปัจจุบันคงไม่เอื้ออำนวยให้อาลัยบ้านเกิดเมืองนอน แต่หลิงม่อก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าโศกลึกๆ…
มนุษย์…ราวกับกำลังค่อยๆ ถูกกำจัดไปอย่างช้าๆ…
บางที อนาคตหากมนุษย์ถูกบีบให้ไปรวมตัวกันอยู่ในสถานที่เดียวกันเพื่อยื้อชีวิตตัวเอง พวกเขาอาจอยู่ห่างจากคำว่าสูญพันธุ์ไม่ไกลแล้วก็ได้…
‘จะสูญพันธุ์จริงๆ ไหมนะ…’
หลิงม่ออดคิดไม่ได้
ขณะเดียวกัน ตอนนี้เขาวิ่งกลับขึ้นถึงมาชั้นบนแล้ว
“ฟู่ว!”
หลิงม่อเพิ่งจะวิ่งมาหยุดยืนตรงหน้าทางเดิน ก็รู้สึกถึงความผิดปกติทันที
ทั่วทั้งชั้น กลับมืดมิดไปหมด…
เมื่อเขาหันกลับไปมองเส้นทางที่ตัวเองวิ่งขึ้นมา กลับพบว่าขั้นบันไดกำลังถูกความมืดกลืนกินอย่างช้าๆ
“ร้ายกาจกว่าพวกก่อนหน้าตามคาด…”
ก่อนหน้านี้ หุ่นเชิดระดับหนึ่งที่อยู่บนชั้นนี้เพียงมีหน้าที่ทำให้ไขว้เขว…แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นโจมตีเต็มกำลังแล้ว
อาคารทั้งหลังถูกยัยแมงมุมวางกับดักไว้หมดแล้ว ไม่ว่าใครเดินเข้ามาก็ต้องเจอกับสถานการณ์อย่างนี้ทุกคน
“สเตลล่า!”
หลิงม่อใช้พลังสัมผัสรู้เพื่อหาตำแหน่งของพวกเย่เลี่ยน จากนั้นก็หันหน้าเข้าหาทางเดินตะโกนชื่อของอีกฝ่ายเสียงดังลั่น
ตอนนี้เขาไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งสิ้น…แต่หุ่นเชิดที่ซ่อนอยู่ในความมืดตัวนั้นกลับได้ยินทุกการเคลื่อนไหว
“แกดูร้อนรนมากเลยนะ…”
ทันใดนั้น เสียงหนึ่งพลันดังขึ้นข้างหูหลิงม่อ เขารีบกางหนวดสัมผัสป้องกันรอบตัวทันที ทว่ากลับไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากความมืดรอบกายเลยแม้แต่น้อย
“ตั้งใจให้เสียงมันดังในหูของฉันสินะ” หลิงม่อตระหนักได้ทันที ขณะที่พูดอีกฝ่ายอาจกำลังซ่อนตัวอยู่มุมไหนซักแห่ง แต่เสียงของเธอกลับสามารถลอยเข้ามาในโสตประสาทของหลิงม่อได้อย่างแม่นยำ
“ฉันมีอะไรต้องร้อนรนงั้นหรอ” หลิงม่อพูดเสียงเรียบเฉย ขณะเดียวกันก็สาวเท้าเดินตรงไปข้างหน้า
“ไม่อย่างนั้นแกจะรีบวิ่งขึ้นมาทั้งที่รู้ว่ามันเป็นกับดักทำไมล่ะ? แกช่างเป็นห่วงเป็นใยพวกหล่อนซึ่งเป็นพวกเดียวกันกับฉันเหลือเกินนะ…” แม้ปรสิตตัวนี้จะกลายเป็นผู้หญิง แต่น้ำเสียงยามพูดของเธอกลับไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลยซักนิด น้ำเสียงราบเรียบจริงจัง ไร้ซึ่งคลื่นอารมณขึ้นลง
“ใช่ ฉันเป็นห่วง” หลิงม่อคุยกับหุ่นเชิดตัวนี้ต่อ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มืดสนิทอย่างนี้ เขาไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ไหน ทว่าเขากลับสามารถระบุพิกัดของเธอจากการสัมผัสรู้ถึงตำแหน่งของพวกเย่เลี่ยนได้…
แต่สิ่งที่ทำให้หลิงม่อเหนือคาดคือ ซย่าน่ากับหลี่ย่าหลินต่างรวมตัวกันอยู่ในห้องห้องหนึ่ง…ในขณะที่เย่เลี่ยนกลับอยู่ในระหว่างเคลื่อนไหว
เธอเคลื่อนไหวช้ามาก แถมยังอยู่แค่ตรงหน้าหลิงม่อนี้เอง…
ถ้าอย่างนั้น…กับดักก็อยู่ทางซ้ายกับทางขวางั้นหรือ?
หลิงม่อพลันเพ่งจิตระแวดระวังทันที…
“ตั้งแต่ที่พวกแกเข้ามา ฉันก็เริ่มสังเกตการณ์พวกแกแล้ว…”
จู่ๆ หุ่นเชิดกลับพูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมา “แกอาจไม่เชื่อ…บางทีอาจเป็นเพราะฉันมีความทรงจำของนักวิจัยถึงสองคน ฉันจึงคิดว่า…ตัวเองมีความสามารถในการสังเกตการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก…แต่ว่า…”
………………………………….