แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - บทที่ 1192 เมล็ดพันธุ์ที่ถูกปลุกตื่น
เส้นเลือดเส้นนี้เหมือนเชือกลูกรอก สิ่งที่อยู่ตรงปลายอีกด้านเมื่อถูกดึงขึ้นมาก็ตกลงบนพื้นดัง “แปะ” ซึ่งเป็นสิ่งที่หลิงม่อรู้จักดี…
“เมล็ดพันธุ์…” หลิงม่อพึมพำ
เย่เลี่ยนดวงตาเป็นประกาย เธอนั่งยองๆ ลงไปเก็บมันขึ้นมา ถึงจะเรียกว่าเมล็ดพันธุ์…แต่ความจริงหากดูจากรูปร่างภายนอก สิ่งนี้คล้ายลูกแก้วสีแดงลูกหนึ่งมากกว่า…อย่างน้อยตอนที่ถูกนิ้วมือเรียวขาวของเย่เลี่ยนกำไว้ มันก็ดูสวยงามมากทีเดียว…
‘แต่มันพุ่งออกมาจากตรงไหนกัน…’ หลิงม่อขมวดคิ้วหมายจะชะโงกเข้าไปดูปลายอีกด้านของเส้นเลือดเส้นนั้น แต่กลับถูกเย่เลี่ยนรั้งข้อมือไว้
ซอมบี้สาวตัวนี้จ้องมองเมล็ดพันธุ์ในมืออย่างอาลัยอาวรณ์ จากนั้นก็ส่งให้หลิงม่อ
“หืม? เด็กโง่ เธอไม่เอาเหรอ?” หลิงม่อแปลกใจ เขานึกว่าเย่เลี่ยนมาที่นี่เพราะสนใจเจ้าสิ่งนี้เสียอีก…แต่ไม่คิดว่าพอได้มันมา เธอกลับส่งมันให้เขา “แต่ฉันเก็บมันไว้ก็ไม่มีประโยชน์หรอก…ถ้าเธอชอบก็เก็บไว้เถอะ ไม่เป็นไร ฉันอยากรู้มากกว่าว่าเจ้าสิ่งนี้ถูกกระชากออกมาจากตรงไหน…”
พอเห็นหลิงม่อทำท่าจะเข้าไปสำรวจศพออีกครั้ง สายตาของเย่เลี่ยนที่จ้องเมล็ดพันธุ์ก็เริ่มร้อนรนขึ้นมาทันที…เธอครุ่นคิด แล้วอยู่ๆ ก็ยัดเมล็ดพันธุ์ใส่ปากทันที
“เดี๋ยว…เดี๋ยวก่อน! เด็กโง่ เธอจะทำอะไรน่ะ…”
“อื้อ!”
หลิงม่อมีหรือจะเร็วสู้การเคลื่อนไหวของซอมบี้ระดับสูงได้…เขาเพิ่งจะมองจุดประสงค์ของเย่เลี่ยนออก ริมฝีปากก็ถูกประกบปิดอย่างรวดเร็ว…
สัมผัสนุ่มนวลจากลิ้นของเย่เลี่ยน มาพร้อมกับของเหลวเย็นๆ ที่ไหลเข้าสู่ปากของหลิงม่อ…
ย่อยแล้ว? หลิงม่อเบิกตากว้าง เมล็ดพันธุ์แบบนั้นดูเหมือนไม่ได้ย่อยสลายง่ายขนาดนั้นเลยนี่…
หรือว่า…นี่เป็นสิ่งที่อยู่ข้างในมัน? เย่เลี่ยนกัดมันแตกงั้นหรือ?
หลิงม่ออยากถาม แต่เย่เลี่ยนกลับประกบริมฝีปากเขาไว้ โดยไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยเขา ทั้งสองต่างเบิกตากว้างในขณะที่จ้องตากัน และตอนนี้เองที่หลิงม่อมองเห็นบางสิ่งที่เปลี่ยนไปจากสายตาของเย่เลี่ยน…เสี้ยววินาทีเมื่อกี้ ราวกับว่าเธอได้สติขึ้นมาชั่วขณะ…
หลิงม่ออยากฉวยโอกาสนี้ถามอาการของเย่เลี่ยนมาก แต่ยัยเด็กโง่คนนี้กลับเพียงขยิบตาให้เขา…ซึ่งการกระทำขี้เล่นอย่างนี้ของเธอกลับทำให้หลิงม่ออุ่นใจขึ้นมาทันที เขาจึงกระชับอ้อมแขนกอดเธอแน่น…
ทว่าช่วงเวลาอย่างนี้กลับดำเนินไปได้ไม่นาน…ผ่านไปครู่หนึ่ง สายตาของเย่เลี่ยนก็กลับไปเหม่อลอยอีกครั้ง และค่อยๆ คลายแขนจากตัวเขา เธอถอยหลังไปสองก้าว และเลียเอาของเหลวที่ติดอยู่ตามริมฝีปากเข้าไปคล้ายยังกระหาย ส่วนหลิงม่อหลังจากอึ้งงันอยู่ครู่หนึ่ง ก็พลันเผยสีหน้าตกตะลึงออกมา
“เชี่ยแล้ว…”
เจ้าสิ่งนี้กำลังพวยพุ่งไปที่หัวใจเขา! หรือหากพูดให้ถูกก็คือ ของเหลวนั่นหลังจากที่ถูกเขาดูดกลืนลงไป มันก็ถูกย่อยสลายกลายเป็นไอร้อนไหลเวียนเข้าสู่เส้นเลือดของเขา จากนั้นก็พุ่งไปที่หัวใจ…ภายใต้การกระตุ้นจากกระแสไอร้อน อยู่ๆ หลิงม่อก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองเหมือนร่างดวงจิตเสี่ยวเฮย ที่หัวใจถูกแทนที่ด้วยเปลวไฟ …
“เหมือนมันจะหลุดออกมาให้ได้!” หลิงม่อยกมือกดหัวใจตัวเอง ทว่าพริบตาเดียว รอบกายเขากลับหลงเหลือเพียงเสียงเสียงเดียวเท่านั้น…
“ตึกตักๆๆๆ!” เสียงหัวใจของเขาที่เต้นรัวเร็วเหมือนกลอง ทำให้หลิงม่อตกตะลึงและมึนงงไปหมด…ขณะเดียวกัน ภาพตรงหน้าของเขาพลันปรากฏจุดสีแดงมากมายมหาศาลขึ้นมาอีกครั้ง…พวกมันเบียดเสียดและลอยล่องอยู่กลางอากาศ ไม่ขยับไปไหน…
‘นี่คือจุดแสงแห่งจิต?’ หลิงม่องงงัน
ขณะเดียวกัน ราวกับมีบางสิ่งมุดออกมาจากหัวใจของเขา…หลิงม่อสัมผัสได้ถึงขั้นตอนเหล่านี้ด้วยสัญชาตญาณทั้งสิ้น เขารับรู้ได้ว่าท่ามกลางจังหวะเต้นระรัว มีบางสิ่งเกิดขึ้นกับหัวใจของเขา…ราวกับเมล็ดพันธุ์ที่ฝังลึกในหัวใจเขากำลังแตกรากแตกใบอ่อน จากนั้นก็มีใบแท้สองใบงอกขึ้นมา และแตกแขนงกิ่งก้านสาขามากมายตามมา..กิ่งก้านสาขาเหล่านั้นห่อหุ้มรอบหัวใจของเขา และทิ่มแทงเข้าไปในเส้นเลือดของเขา…
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้วกว่าหลิงม่อจะได้สติกลับคืนมาจากสภาวะดังกล่าว เขาหอบหายใจหนักหน่วง พลางกวาดตามองรอบกายอย่างเหม่อลอย จากนั้นก็ยกข้อมือขึ้นดู…
‘หนึ่งนาที…ไม่สิ ไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำ?’ หลิงม่ออึ้งงัน…เมื่อกี้เขารู้สึกราวกับว่าเวลาได้ผ่านไปนานมากแล้ว และในช่วงนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนถูกเปลี่ยนถ่ายหัวใจดวงใหม่ แต่ไม่คิดว่าในโลกแห่งความเป็นจริง เวลากลับเพิ่งผ่านไปไม่นาน…
‘เกิดอะไรขึ้นกันแน่?’ เขาลูบคลำตามร่างกายตัวเอง และสำรวจบริเวณหัวใจอย่างละเอียด แต่กลับไม่พบว่ามีบาดแผลภายนอกแต่อย่างใด ซึ่งก็หมายความว่า…อย่างน้อยภายนอกเขาก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น…
‘แล้วมันคืออะไรล่ะ? เมล็ดพันธุ์ที่อยู่ในตัวเรา…งอกขึ้นมาแล้วงั้นหรือ?’
หลิงม่อใบหน้าตื่นตะลึง แต่สิ่งที่มากกว่าคือความสับสน…
หากอิงความรู้สึกเป็นหลัก…เมล็ดพันธุ์นั่นงอกขึ้นมาแล้วจริงๆ…หลังจากได้รับการกระตุ้น ปรสิตชนิดพิเศษที่อยู่ในตัวเขาก็ถูก “กระตุ้นให้เจริญเติบโต”…และสิ่งที่เขารับรู้ได้เมื่อครู่ในขณะที่เขาแทบจะไร้สติสัมปชัญญะ ก็คือขั้นตอนการเจริญเติบโตของเมล็ดพันธุ์นั่น และนั่นก็ทำให้เขาเห็นแจ้งว่าร่างปรสิตเข้าควบคุมร่างกายมนุษย์ได้เร็วขนาดไหน…และในขั้นตอนเหล่านี้ ร่างกายของมนุษย์ก็ไม่อาจต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย กรณีที่กรีดร้องอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสได้อย่างหัวหน้าทีมนิพพาน เดาว่าคงเป็นส่วนน้อยมาก…
แต่ยิ่งเป็นอย่างนี้ หลิงม่อก็ยิ่งรู้สึกขนลุกขนพอง แต่ว่าผลลัพธ์แบบนี้กลับต่างจากสิ่งที่เขากังวลมาโดยตลอดเลยนี่!
“มันต้องปรับโครงสร้างร่างกายของเราไม่ใช่หรือ? หรือไม่ก็ทำให้เราถูกควบคุม? ยัยราชินีแมงมุมบอกว่าเธอไม่สามารถกระตุ้นเมล็ดพันธุ์เมล็ดนี้ได้ด้วยตัวเอง แล้วตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันล่ะ?” หลิงม่อยืนอยู่ที่เดิมและพยายามสัมผัสถึงมันอีกครู่หนึ่ง…แต่ตอนนี้เขายังปกติดีทุกอย่างจริงๆ นี่นา! ไม่มีเส้นเลือดอะไรแทงทะลุออกมาจากร่างกาย ในสมองก็ไม่มีเสียงแปลกๆ ดังขึ้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะถูกลบความคิดเลย ถ้าหากจะให้บอกว่ามีตรงไหนที่ผิดปกติ…ก็คงจะเป็นหัวใจ…
บางทีอาจเป็นเพราะถูกปรสิตห่อหุ้ม หลิงม่อจึงรู้สึกเหมือนหัวใจของตัวเองเต้นอย่างมีพลังขึ้นมาก…และพอเขาพยายามสัมผัสถึงมัน ปรสิตที่อยู่ในตัวเขาก็ราวกับกำลังบีบตัว ไอร้อนที่ไหลเวียนเข้าสู่เส้นเลือดของเขาก็พลันขยับเคลื่อนตามไปด้วย…ทว่าความรู้สึกอย่างนี้ไม่เพียงไม่ได้แย่ ตรงกันข้าม มันกลับทำให้หลิงม่อรู้สึกว่าตัวเองมีพละกำลังมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน พูดได้เลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกได้ถึงพละกำลังที่ซ่อนเร้นอยู่ในร่างกายเขาอย่างแท้จริงเหมือนกับที่ซอมบี้รู้สึก และความรู้สึกนี้ เขาเคยรู้สึกถึงมันได้แค่เวลาที่ควบคุมซอมบี้เท่านั้น
‘แปลกเกินไปแล้ว…’
หลังจากที่การบีบตัวดำเนินไปจนเสร็จสิ้นหนึ่งรอบ เขายังสามารถมองเห็นจุดแสงดวงจิตที่อยู่รอบตัวแม้จะมีสติครบถ้วนได้อีกด้วย…อาจเห็นไม่มาก แต่ก็ชัดเจนไม่น้อย…
“ถ้าสูบฉีดเลือดให้มากพอ พลังจิตก็จะแข็งแกร่งขึ้น?” หลิงม่อไม่แน่ใจว่าตัวเองควรรู้สึกกับการเปลี่ยนแปลงแบบนี้อย่างไรดี…หากพูดในแง่พลังควบคุม ปรสิตตัวนี้แทบจะเปรียบได้กับแขนขาของเขา คิดจะขยับก็ขยับได้ ขอเพียงเขาเพ่งจิตก็ทำได้ทุกอย่าง เขาไม่รับรู้ถึงสติสัมปชัญญะใดๆ จากปรสิตตัวนี้เลยด้วยซ้ำ…เจ้าสิ่งนี้ไม่ต่างอะไรจากเจ้ามาสเตอร์บอลที่ยังไม่หลุดออกจากร่างของซอมบี้ กล่าวคือเป็นเพียงอวัยวะชิ้นหนึ่งภายในร่างกายเท่านั้น…
“นี่มัน…เหมือนเราได้ประโยชน์อย่างใหญ่หลวงจากเรื่องนี้เลยไม่ใช่เหรอ?”
……………………………….