แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - บทที่ 1196 กระโดดขึ้นมาทุบสมองแกให้เละ
…ในโกดังเก็บของ
ซย่าน่ายกเคียวดาบขึ้นเพื่อปัดกระสอบข้าวสารที่ขวางทางออกไป ทว่าเมื่อกระสอบข้าวสารเหล่านั้นร่วงกระแทกพื้นดัง “ปึงปังๆ” ติดต่อกันจนหมด สิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของเธอกลับเป็นผนังว่างเปล่าด้านหนึ่งเท่านั้น
“ไม่มีใครเลย?” ซย่าน่าขมวดคิ้วมุ่น จากนั้นก็หันไปถาม “เป็นยังไงบ้าง? มีใครเจออะไรบ้างไหม?”
“ไม่เจออะไรเลย…”
“ไม่เห็นมีใครอยู่เลยนะ…” เสียงตอบของซอมบี้หลี่ย่าหลินดังมาจากที่ใกล้ๆ ฟังจากเสียง พวกเธอเองก็คงสำรวจพื้นที่ในความรับผิดชอบของตัวเองเสร็จหมดแล้ว
“หนีไปแล้วงั้นเหรอ…เร็วเกินไปมั้ง…” ทันใดนั้น ประกายเยือกเย็นพาดผ่านดวงตาของซย่าน่า เธอรีบหันไปมองยังทิศทางที่หลิงม่ออยู่ “ใช่แล้ว…เจ้าบ้านั่น…มันต้องตั้งใจแน่ๆ!”
“ตั้งใจ? หมายความว่าไงน่ะ?” วูบ! เงาร่างเส้นหนึ่งพลันปรากฏตัวด้านหลังซย่าน่า หลี่ย่าหลินมองตามสายตาของซย่าน่าไปอย่างสงสัย ก่อนถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ
“ก็หมายความว่า…เสียงเมื่อกี้ คนคนนั้นตั้งใจทำให้มันดังขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่มันเข้ามา หรือจังหวะที่เสียงของมันดังขึ้นล้วนบังเอิญเกินไป ทำไมต้องเป็นตอนที่พวกเราเพิ่งเข้ามาด้วยล่ะ? ฉันว่ามันต้องตั้งใจถ่วงเวลาพวกเราไว้แน่ๆ อีกทั้งดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ เกรงว่าพลังของมันจะแข็งแกร่งกว่าที่ฉันคิดไว้มาก เพราะว่ามันไม่เพียงสามารถซ่อนลมปราณของตัวเองไว้ได้…แต่ยังสามารถซ่อนแหล่งกำเนิดเสียง…หรือแม้กระทั่งร่องรอยของตัวเองไว้ได้ด้วย…” ซย่าน่าบอก
สีหน้าของเธอตึงเครียดขึ้นมาทันที ประกายสังหารสะท้อนในแววตารางๆ “ตอนนี้ มันมุ่งหน้าไปหาพี่หลิงกับพี่เย่เลี่ยนแล้ว…แต่พวกเรากลับเสียเวลาอยู่ที่นี่…ตอนนี้” ซย่าน่าเงี่ยหูฟังเสียงกระแทกโครมคราม รวมถึงเสียงคำรามด้วยความเดือดดาลของพวกมู่เฉินกับเย่ไคที่ดังมาจากด้านนอก พลางพูดเสียงเครียดว่า “พวกเราถูกซอมบี้ล้อมไว้หมดแล้ว”
“มันแอบหนีไปต่อหน้าต่อตาพวกเราเลยงั้นเหรอ…” หลี่ย่าหลินอดไม่ได้ที่จะกวาดมองโดยรอบ ทว่าไม่นานเธอก็สูดจมูก แล้วถามว่า “ซย่าน่า เธอรู้สึกไหมว่าตรงนั้นมีกลิ่นแปลกๆ โชยออกมาอยู่ตลอดเลย? เมื่อกี้ฉันไม่ทันได้บอก…แต่ว่า…มันน่าดึงดูดมากจริงๆ…”
“อืม ฉันก็ได้กลิ่นเหมือนกัน” ซย่าน่าขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม “ทางนั้นต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ…” เธอครุ่นคิดแล้วเอ่ย “ต้องส่งใครไปซักคนแล้วล่ะ…”
“ฉันไปแล้วกัน” เฮยซืออาสา เห็นซย่าน่ามองมา เธอก็ทำปากจู๋พร้อมกับยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็เหลือบมองไปทางประตู บอกว่า “ถึงยังไงอยู่ที่นี่ฉันก็ใช้พลังไม่ได้อยู่ดี”
“มันก็จริง” ซย่าน่าพยักหน้าอย่างตระหนักได้ พวกเธอเปิดประตูห้องไม่ได้เด็ดขาด แต่เฮยซือกลับไม่สามารถใช้พลังได้เต็มที่หากจะให้เธอทำหน้าที่เฝ้าประตูเพียงอย่างเดียว แทนที่จะให้เธออยู่ที่นี่ สู้ให้เธอไปช่วยพวกหลิงม่อจะดีกว่า
“ถ้าอย่างนั้นฉันกับรุ่นพี่จะไปช่วยเฝ้าประตู ผู้ประกาศข่าวสวี่กับอวี๋ซือหรานรับผิดชอบเฝ้าระวังอยู่ข้างใน ไม่ว่าอย่างไรข้างในนี้ก็ยังมีศัตรูอยู่ ระวังไว้ก่อนดีที่สุด…” ซย่าน่าจัดแจงแบ่งหน้าที่
ทว่าในขณะที่ทุกคนกำลังแยกย้าย ดวงตาคู่หนึ่งกลับประกายขึ้นท่ามกลางความมืด…มันค่อยๆ ละสายตาออกจากพวกซย่าน่าช้าๆ…
“คิดถึง…จริงๆ เลยน้า…”
ขณะที่แสยะยิ้มเย็นชา มันถอยหลังไปหนึ่งก้าว และหายลับเข้าไปในเงามืดด้านหลัง…
“มนุษย์ แกมันขี้ขลาด! ถ้าหากแกไม่เล่นหลบอยู่บนนั้น ฉันคงกระชากเส้นเอ็นทั่วร่างของแกออกมาหมดแล้ว!” ซอมบี้เจ้าเมืองยังคงคำรามอย่างบ้าคลั่งอยู่ข้างล่าง บนร่างของมันมีบาดแผลเพิ่มขึ้นมาอีกไม่ต่ำว่าหลายสิบรอยแล้ว และเมื่อบาดแผลเหล่านี้ปรากฏเรื่อยๆ ความเร็วในการสมานตัวของพวกมันก็แลดูช้าลงอย่างเห็นได้ชัด…
‘มันไม่หนีไปอย่างที่คิดไว้จริงๆ ด้วย…’ หลิงม่อที่ห้อยตัวอยู่บนเพดานกลับคลี่ยิ้มบางๆ อย่างไม่สะทกสะท้าน ขอเพียงเจ้านี่ไม่หนี เรื่องก็จะง่ายขึ้นเยอะ…
‘โดยปกติแล้ว หากต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ไม่เป็นผลดีกับตัวเอง ซอมบี้เจ้าเมืองที่มีสติปัญญาค่อนข้างสูงแล้วน่าจะเลือกถอยออกไปก่อน ยิ่งถ้าเป็นซอมบี้ระดับเจ้าตัวนี้ด้วยแล้ว…แต่ท่าทางที่เหมือนต้องการฆ่าเราให้เร็วที่สุดเหมือนเมื่อกี้ เรากลับทายถูก…’ หลิงม่อคิดในใจ ‘เสียงนั้นสร้างความแตกตื่นให้มันได้อย่างรุนแรงจริงๆ…บางทีอาจไม่ใช่ลูกพี่ของมัน แต่อาจเป็นบางสิ่งที่มีพลังแข็งแกร่งกว่ามัน แต่ไม่ได้อยู่ฝ่ายเดียวกันกับมันก็เป็นได้…’
แต่ว่า สถานการณ์อย่างนี้สามารถเกิดขึ้นในซอมบี้ฝูงเดียวกันด้วยหรือ? ไม่น่าเป็นไปได้นี่นา…
‘ไม่…ต้องมีอะไรไม่ถูกต้องแน่ๆ มาถึงขนาดนี้แล้ว เราน่าจะเข้าใจว่าไม่สามารถคาดเดาโดยใช้หลักเหตุผลปกติได้แล้ว…เมื่อกี้เจ้านี่ยังคิดจะดึงเราไปเป็นพวกอยู่เลยไม่ใช่หรือ? ขนาดกับเรา มันยังทำใจก้าวข้ามความแตกต่างทางเผ่าพันธุ์ไปได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกเดียวกันซึ่งมีทัศนคติที่ต่างกันในบางเรื่องเลย…’
หลิงม่อไหวตัวกลางอากาศ หลบเลี่ยงซอมบี้เจ้าเมืองที่พยายามจะกระโดดขึ้นมาอย่างง่ายดาย พร้อมกับถือโอกาสโจมตีไปด้วยอีกหนึ่งครั้ง ในขณะที่สมองกลับกำลังครุ่นคิด ‘ดูจากตอนนี้ สถานการณ์อย่างนี้ยังถือว่าเป็นประโยชน์ต่อเราอยู่…แต่ว่า เจ้าของเสียงพูดนั้นกลับเป็นปัญหาใหญ่อีกเรื่อง จะว่าไป…เสียงนั้น…เหมือนจะเป็นเสียงผู้หญิง…ถ้าเดาไม่ผิดล่ะก็นะ’
“ย้ากกกกก! ฉันจะฉีกแกเป็นชิ้นๆ!” ซอมบี้เจ้าเมืองกระโดดสูงอีกครั้ง แต่ความเร็วในการกระโดดของมันช้ากว่าการเคลื่อนไหวของหลิงม่อไปหนึ่งจังหวะอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้กรงเล็บของมันจะเกี่ยวโดนเพดานแล้ว แต่ไม่รอให้มันคว้าไว้ได้แน่น มันก็ถูกหลิงม่อโจมตีจนร่วงลงพื้นไปอีกครั้ง
ทันทีที่ตกลงไปมันก็คำรามเดือดดาล และเตรียมตัวจะกระโดดขึ้นมาอีกครั้ง
หลิงม่อกลับเหลือบมองร่องรอยที่ซอมบี้เจ้าเมืองทิ้งไว้บนเพดาน รวมถึงรอยเท้าลึกๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากมันตกลงไป… ‘ช่างเป็นเรี่ยวแรงที่มหาศาลอะไรอย่างนี้…ถ้าหากเราไม่ขวางไว้ก่อน มันคงจะพุ่งชนจนหลังคาเป็นรูไปแล้ว…’ ทว่าหลังจากนึกกลัวได้ไม่นาน ดวงตาของหลิงม่อกลับเป็นประกายขึ้นมาทันที ‘ใช่แล้ว…วิธีนี้ไม่เลวเลยนี่…’
เขามองไปที่ซอมบี้เจ้าเมือง แล้วอยู่ๆ ก็ยื่นมือออกมา พร้อมกับกระดิกนิ้วเป็นนัยบอกว่า ‘ขึ้นมาสิ’
ซอมบี้เจ้าเมืองเข้าใจความหมายของท่าทางนั้นทันที…มันโมโหจนต้องคำรามเสียงดังลั่น “ย๊ากกกกกก!”
ขณะที่เสียงคำรามดังก้องไปทั่วโกดังจนหลิงม่อรู้สึกหูอื้อ เจ้าซอมบี้ตัวนี้ก็เริ่มขยับตัวแล้ว
กล้ามเนื้อทั่วตัวของมันเริ่มปูดขึ้นสูงกว่าเดิม ความเร็วและเรี่ยวแรงในการกระโดดก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมในพริบตา
“โครมครามๆๆ!”
หลิงม่อเองก็หุบยิ้ม และรีบปล่อยหนวดสัมผัสจำนวนมากออกไปด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
ชั่วขณะหนึ่ง ซอมบี้เจ้าเมืองเปรียบเสมือนเงารางๆ เส้นหนึ่งที่กระเด้งกระดอนขึ้นลงระหว่างเพดานกับพื้นดินอย่างต่อเนื่อง
ระหว่างที่มันกระโดดขึ้นลง เลือดสีแดงสดก็สาดกระจายจนเต็มพื้น กระทั่งกระเซ็นไปโดนผนังด้วย ขณะเดียวกันโกดังเก็บของทั้งห้องก็ถูกการเคลื่อนไหวของมันทำให้สั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไม่หยุด เสียงลมหายใจของมันที่เดิมทีแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน เวลานี้กลับแปรเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงและถี่กระชั้น ดวงตาทั้งคู่เริ่มแดงก่ำจนเหมือนจะมีเลือดไหลออกมา…
“ฉันจะฆ่าแก! ฆ่าแกซะ!”
หลิงม่อกลับเอาแต่หลบเลี่ยงการโจมตีจากมันอย่างใจเย็น…และคอยต้านรับไปด้วย…จนในที่สุด เมื่อซอมบี้เจ้าเมืองทิ้งตัวลงพื้นด้วยร่างกายอันโซเซ สายตาของหลิงม่อก็พลันเปลี่ยนไป
“โอกาสมาแล้ว!”
“เจ้ามนุษย์!” ซอมบี้เจ้าเมืองกระโดดขึ้นกลางอากาศอีกครั้ง
…………………………………………………..